ลากขา...ตะลุยฮ่องกง...ตอนที่ 4 Lost
หลังจากที่รอดชีวิตจากการลงจาก The Peak แล้ว พอลงมาถึงพื้นดินด้านล่าง ใจจริงแล้วก็ว่าจะไปลงที่ Exchange Square แถวสถานี Hong Kong แล้วนั่งรถรางย้อนกลับมาเที่ยวต่อ พอเอาเข้าจริง พอรถจอดเห็นคนลงเยอะ เราก็เข้าใจไปเองว่าคงถึงแล้ว แต่พอลงไป อ้าว! ไม่ใช่นี่หว่า เลยต้องกลางแผนที่งมอยู่พักนึง ก็ถึงรู้ว่าเรามาหลงอยู่ที่ย่าน Wan Chai นี่เอง ก็จะคิดว่าจะทำอะไรต่อ ท้องก็หิวเกินกว่าที่จะทำอะไรต่อ เลยต้องเดินหาร้านฝากท้องหน่อย ตอนแรกคิดว่าคงหาของกินได้ไม่ยาก เพราะร้านอาหารริมถนนก็เยอะ แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า ทุกร้านเมนูมันเป็นภาษาจีนหมด แถมไม่มีรูปอีกต่างหาก แล้วจะสั่งมันยังไงละเนี่ย เดินไปเดินมาก็ตัดใจเดินเข้าไปร้ายนึงแบบงง ที่นั่งในร้านเต็มแต่ที่นี่เค้านั่งแบ่งโต๊ะกันเป็นเรื่องธรรมดา พนักงานในร้านก็พาเรามานั่งแบ่งกับพี่แว่นคนนึง พนักงานก็พ่นภาษาจีนใส่เราเต็มที่คงกะว่าเราอ่ะ คนฮ่องกงแน่ๆ แต่หารู้ไม่ว่าเราฟังไม่กระดิกหูเลย เราเลยถามพี่แว่นที่เราไปนั่งแบ่งโต๊ะกับเค้า ให้เค้าช่วยเราสั่งอาหารหน่อย (เป็นภาษาอังกฤษนะ) เค้าก็ดี อธิบายเราใหญ่เลย สรุปเราได้กินบะหมี่เนื้อ ก็อร่อยดี เนื้อตุ๋นเปื่อยได้ที่ น้ำซุปก็เยี่ยมตามสไตล์อาหารฮ่องกง นั่งคุยไปมาก็เลยรู้ว่าพี่คนนี้เค้าเคยมาเที่ยวเมืองไทยเหมือนกัน แถมก่อนไปยังอวยพรให้เราเที่ยวให้สนุกอีก แหม! เป็นคนดีจัง หลังจากเติมพลังเต็มท้องแล้ว เราก็ออกเดินทางต่อขึ้นรถรางไปดู Mid-Level บันไดเลื่อนที่ยาวที่สุดในโลก ค่ารถรางก็แค่ 2 เหรียญตลอดสาย เรานั่งรถรางชมวิวจากสถานี Wan Chai มาลงที่สถานี Central ระหว่างทางก็เห็นตึกต่างๆ ประดับไฟสวยงามบางตึกสามารถเปลี่ยนสีไฟได้ตลอดเวลา เดินจากสถานี Central มาตามถนน Des Voeux Road เรื่อยๆก็จะเจอกับทางขึ้นไปยังบันไดเลื่อน แต่ตรงนี้ต้องสังเกตดีๆ เพราะจะมีทางเดินอยู่บนหัวเราเป็นจุดสังเกตอีกจุดนึง บันไดเลื่อนนี้ จะมีเวลาขึ้นลงต่างกัน ถ้าช่วงเช้าบันไดเลื่อนจะเลื่อน down hill ลงมา แต่ช่วง 10 โมงถึงเที่ยงคืนจะเป็น up hill ถ้าขึ้นไปตามบัดไดเลื่อนเรื่อยๆ ก็จะไปย่าน Soho ได้ แต่พอขึ้นมาได้ซักพัก เหลือบเห็นนาฬิกาว่าเกือบ 4 ทุ่มแล้วเลยตัดสินใจกลับดีกว่า เพราะพรุ่งนี้เราต้องออกเดินทางแต่เช้า เลยเดินย้อนกลับ ขากลับจะขึ้น MTR กลับก็ธรรมดาเกินไป เลยตัดสินใจว่าจะนั่งเรือกลับมาฝั่งเกาลูน เดินย้อนกลับมาทางสถานี Central จะมีสะพานลอยเชื่อมยาวจนไปถึงท่าเรือ ระหว่างทางเราก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เหลือบไปเห็นพี่แว่นที่นั่งกินข้าวด้วยกันด้วย ดวงสมพงษ์กันจริงๆ แต่เข้าไปทักไม่ทัน แกเดินหนีไปก่อน ค่าเรือเฟอรี่ข้ามฟากก็ไม่แพงครับ ตกประมาณ 2 เหรียญ แค่นี้เราก็ได้นั่งชม บรรยากาศของเกาะฮ่องกงยามค่ำคืนได้เต็มที่แล้ว ถึงแม้ว่าจะดึกแล้วแต่ ฮ่องกงยามค่ำคืนก็ยังสว่างไสวอยู่ตลอด หลังจากข้ามเรือเฟอรี่มาแล้ว เราก็เดินไปขึ้น MTR สถานี Tsim Sha Tsui แล้วเติมเงินลงในบัตร AE ให้พร้อมกับการเดินในวันพรุ่งนี้ จากนั้นก็กลับโรงแรม แล้วก็ขึ้นเตียงนอน แค่วันแรกความเมื่อยล้าก็เริ่มมาเยือนแล้ว ไม่รู้ว่าวันต่อๆไปจะเมื่อยขนาดไหนเนี่ย....