ข้าคือ Sa'kyo
Group Blog
 
 
กันยายน 2549
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
27 กันยายน 2549
 
All Blogs
 

~~รักป่วน ๆ ของก๊วนเด็กแสบ~~ ตอนที่ 6

"......อ่านแล้วไม่เม้นต์ไม่ว่า ก็แค่ไม่อัพแค่นั้นเอง....."



Pirk talk....

ผมนอนพลิกซ้ายพลิกขวาไปมา รอบที่พันห้าร้อยสามสิบแล้วมั้ง (เวอร์) ผมใม่ได้กลับไปนอนที่ห้องตั้งแต่คืนวันเสาร์แล้วและวันจันทร์ก็ขาดเรียน วันนี้ก็มาสถิตที่ห้องไอ้ต้นซะอย่างงั้น

“ไอ้พริก!!! แกจะมานอนเบียดเบียนพวกฉันอีกกี่คืนวะ ห้องก็มีไม่กลับไปนอนวะ”

หุบปากไปซะไอ้ต้น.... ผมก็ได้แต่ว่ามันในใจแหละครับถ้าเกิดพูดขึ้นมาจริง ๆ เดี๋ยวมันไม่ให้ค้างที่ห้องอีก ขี้เกียจหาห้องนอนอ่ะ

“ทะเลาะกับไอ้เหมี่ยวอีกอะสิแก”

ไอ้ต้นยังคงถามต่อเรื่อย ๆ เล่นบทเงียบครับขี้เกียจตอบ

“ฉันถามจริงเถอะแกกับไอ้เหมี่ยวเป็นอะไรกันวะ ดูมันแปลก ๆ”

ไอ้ต้น...ไอ้เวรฉันอุตส่าห์ไม่คิดถึงคนชื่อนี้แล้วนะโว้ย เอ่ยมาทำไมวะ

“แปลกยังไง?” ผมถามกลับไอ้ต้นไป

“ถ้าฉันบอกห้ามกระทำการทำร้ายร่างกายฉันนะ” ไอ้ต้นเอ่ยอย่างหวาดระแวง

“ถ้าแกไม่บอกจะโดนเดี๋ยวนี้เลย”

ระยะที่ไอ้ต้นนั่งตอนนี้อยู่ในรัศมี Teen ผมพอดีเลย มันสังเกตมั้ยนะ

“ก็มันเหมือน....เหมือนตอนที่ฉันกับหนิงงอนกันอะดิ”

พลั๊ก.....!!!!!

โครม....!!!!!!

โอ้ย.....!!!!! ตามด้วย

“ไอ้เวร!!ไหนว่าไม่ทำฉันไง”

“ฉันพูดตอนไหน?” กลับขึ้นไปอ่านข้างบนสิ ไม่เห็นมี

“ไอ้เลว!!!”

ด่าเข้าไป ผมยักคิ้วให้ แล้วหันกลับมานอนท่าเดิม จริงอย่างที่ไอ้ต้นพูดเหรอ? ผมกับไอ้เหมี่ยวเป็นอย่างงั้นเหรอ? ไอ้ที่ผมหนีมานอนที่นี่เพราะอย่างนี้หรือเปล่า? เพราะหลีกเลี่ยงที่จะอยู่กับมันสองต่อสองเหรอ?

ก็สมควรนี่ครับมันทำตัวแปลก ๆ นี่ อยู่ ๆ ก็เป็นสาวซะขนาดนั้น ผมเป็นคนนะครับ ไม่ใช่อนุสาวรีย์จะได้ไม่รู้สึกอะไร ตอนนี้มันน่ารักขนาดไหนมันจะรู้ตัวหรือเปล่า? แถมผมยังใจสั่น ๆ เวลาอยู่ใกล้ ๆ มันอีก แล้ววันนั้นก็ดันจูบกันอีก ให้ตายแค่คิดใจยังเต้นได้ขนาดนี้เลย ผมจะบ้าตาย ไอ้เหมี่ยวมันเป็นอะไรของมันนะ? แล้วตอนนี้ผมเป็นอะไรเนี๊ยะ?

“ว่าไง? ไอ้ต้นเป็นอะไรวะ?ทำหน้าเหมือนไปกินขี้ที่ไหนมา”

ไอ้พัฒเดินเข้าห้องมา คำถามมันช่างภิรมย์หูจริง ๆ

“ไอ้พริก มีคนมาหาแก”

ไอ้พัฒไม่รอฟังคำตอบจากไอ้ต้นก็หันมาบอกผม ผมจึงหันไปที่ประตู ขนมที่คว้าจากถุงที่ไอ้พัฒส่งให้ตอนเข้าห้องมาหลุดออกมาจากปากของผม สายตามคม ๆ ของไอ้เหมี่ยวกำลังเฉือนเนื้อผมออกทีละนิด ๆ มันยืนอยู่ที่หน้าประตูไม่ยอมเดินเข้ามา มันต้องดูออกแน่เลยว่าผมหลบหน้ามันอยู่

“ยื่นเป็นเสาวรีย์ไงวะเหมี่ยว ไม่เข้ามารึไง”

ไอ้ต้นปากแกหาเรื่องดูหน้าไอ้เหมี่ยวซะก่อนเดี๋ยวนรกได้ลงกลางหัวแกหรอก และเหมือนไอ้ต้นจะสำนึกได้

“ฉันว่าฉันไม่น่าพูดว่ะ” ไอ้ต้นหันไปหาไอ้พัฒ

“เพิ่งรู้เหรอ”

ไอ้พัฒย้ำ ผมได้แต่เงียบ ไม่กล้าสบตามันอะครับ รู้สึกผิดไงไม่รู้ที่ไม่ได้บอกมันเรื่องมาค้างที่นี่

“เข้ามาก่อนสิเหมี่ยว”

ผมเอ่ยหลังจากรวบรวมความกล้าจากทั่วจักรวาลมารวมกัน แต่สายตาของไอ้เหมี่ยวไม่ทำให้ผมมั่นใจเลยว่าผมจะไม่โดนมันกระทืบ

“ถ้าไม่อยากอยู่ร่วมชายคากับเค้า ก็บอกมาตรง ๆ จะไม่โผล่มาให้เห็นหน้าเลยนะพริก”

เสียงที่ลอดผ่านริมฝีปากที่เม้มจนแทบเป็นเส้นตรงนั้น แม้จะไม่ดัง เรียกได้ว่าแทบกระซิบเลยแต่ผมก็ได้ยินชัดทุกคำ สายตาตัดพ้อของมันทำให้ผมอึ้ง แล้วมันก็สะบัดหน้าหนีไปเลย ผมนิ่งอยู่กับที่ ผมทำมันโกรธอีกแล้ว

“ไม่ตามไปคุยกันเหรอ”

ไอ้พัฒเอ่ยเรียบ ๆ ผมรู้สึกตัวก็เด้งออกจากที่นอนวิ่งตามไอ้เหมี่ยวไป

“เอ้ย................รองเท้า”

เสียงไอ้ต้นไล่หลังมา ใครจะสนละ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมต้องแคร์ไอ้เพื่อนคนนี้หนักหนา ยิ่งพักนี้รู้สึกจะใส่ใจกับมันเกินความจำเป็นเสียแล้ว ไม่อยากให้มันโกรธหรือตีตัวออกห่างจากผมเลย ให้ตายเหอะ?

ผมวิ่งเท้าเปล่าตามมันมาจนถึงห้อง ไอ้นี้วิ่งเร็วฉิบ เจ็บเท้านะโว้ย!!!

“เฮ้ย !!! เหมี่ยวเปิดประตูหน่อยดิ”

ผมทั้งตะโกนทั้งเคาะประตู แต่ เงียบ นั่นคือคำตอบสุดท้าย เหอะ ๆ เอาแล้วไง

“เปิดประตูสิวะ ไอ้เวร เปิด” ผมตะโกนแหกปากหน้าห้องอยู่อย่างงั้นแหละ

“เจ็บมือนะโว้ย!!!”

“กุญแจก็มีไขเองดิ”

โอ้......เสียงสวรรค์ อย่างที่ไอ้เหมี่ยวบอกผมมีกุญแจนี้แล้วทำไมต้องมาเคาะให้เจ็บมือด้วยเนี๊ยะ ไอ้โง่พริกเอ้ย!!!

ทันทีที่ไขประตูเข้าไปในห้อง อีกข้อของความเปลี่ยนแปลงของไอ้เหมี่ยวคือ มันขี้ใจน้อยสุด ๆ ตอนนี้มันคงโกรธผมมาก ไม่หันมามองผมเลย แล้วมันทำอะไรกับกระเป๋าเสื้อผ้าวะนั่น

“แกทำอะไรนะ เหมี่ยว???”

“กินข้าวอยู่” น่ารักมากเพื่อนคำตอบของแก ฉันรักแกจริง ๆ ให้บ้าตายเหอะ

“แกทำอะไร???”

ผมถามและเดินเข้าไปใกล้ ๆ พอจะเดาออกแล้วครับ ผมกระชากกระเป๋าเสื้อของมันออกมาโยนไปอีกทาง ไอ้เหมี่ยวหันมามองผมตางี้แทบถลน จะรอดมั้ยหว่า!!!

“..........”

-_______-;; ผมไม่กล้าพูดอะไร ไอ้เหมี่ยวเอี้ยวตัวเดินผ่านผมไปหยิบกระเป๋าอีก ผมก็กระชากหนีอีก มันก็ตามมาเอาอีก ผมก็หนีอีก ไป ๆ มา ๆ กลายเป็นว่าผมวิ่งหนีไอ้เหมี่ยวไปทั่วห้องนั่นแหละ

“เอาคืนมานะพริก”

“ไม่มีทาง” คืน แกก็หนีจากฉันดิเรื่องอะไรฉันจะให้

“เอามานะ”

“เรื่องอะไร คืนให้แกก็หนีฉันดิวะ เรื่องอะไรจะยอม” ผมยังวิ่งหนีมันต่อ

“ก็พริกหนีเค้าก่อนนี่ ถ้าลำบากใจก็อย่ามาอยู่ด้วยกันสิ ถ้ารู้อย่างนี้วันนั้นไม่จูบหรอก” ผมหยุดกึก หันมาจ้องหน้ามัน

“แกว่าอะไรนะ”

“หูหนวกเหรอไง ?” หยอกย้อนนะแก

“เออ....” ผมตอบด้วยเสียงสะบัด ๆ

“ถ้าลำบากใจก็ไม่ต้องอยู่ด้วยกัน วันนั้นขอโทษละกันที่จูบไป ลืม ๆ มันซะ”

อึ้งครับอึ้งมันบอกให้ลืมเรื่องที่จูบกัน ไอ้....ไอ้เลว แกรู้มั้ยว่าฉันน่ะ ฉัน.....ฉัน ไอ้เวรเอ้ย!!

ผมเดินย่างสามขุมเข้าไปหามันแล้วกระชากมันเข้ามาหาตัว และไม่รอช้าจูบมันเข้าซะเต็มรักเลยล่ะสั่งสอนซะบ้างทำคนอื่นใจเต้นนะมันเป็นยังไง แล้วทีนี้จะพูดว่าลืมมันซะได้อีกมั้ยไอ้เพื่อนบ้า ( รู้สึกพวกแกสองคนจะทำเกินคำว่าเพื่อนไปแล้วนะ : ซา’เคียว )

ผมถอนริมฝีปากออกจากไอ้เหมี่ยวและจ้องมันลึกลงไปในดวงตากลมโตของมันที่ตอนนี้จ้องผมไม่กระพริบ ผมผละออกจากตัวมันนิดหน่อย

“ขอโทษทีนะที่จูบ ลืมมันซะไม่มีอะไรสำคัญหรอก”

เป็นไงล่ะเจอคำพูดแบบนี้

ผมหลับตาปี๋เมื่อเห็นสีหน้าไอ้เหมี่ยว ผมต้องถูกมันชกแน่ ๆ

5...4...3...2.....1......0......ชก

เงียบ........

“ >____
“ >____o ” หน้าผม

“ O__O!!!!!!” หน้าผม

“>O


ตกใจอย่างแรง....................ไอ้เหมียวร้องไห้

ตาย ๆๆๆๆ ไอ้เหมี่ยวร้องไห้ ผมทำอะไรไม่ถูก สายตามันดูจะเจ็บปวดมากเหลือเกิน ผมทำอะไรไปเนี๊ยะ??

“พอใจแล้วใช่มั้ย? สะใจแล้วใช่มั้ย ? พริกหลบหน้าเค้าก่อนนี่น่า แล้วทำไมมาทำกับเค้าอย่างนี้????”

ไอ้เหมี่ยวพูดด้วยน้ำเสียงสะอื้น แล้วมันก็หันหลังเดินตรงไปที่ประตู ผมรีบไปคว้าตัวมันไว้ มันสลัดผมเต็มแรงแต่ผมไม่ปล่อย และคว้าตัวมันมากอดไว้จนแน่น มันดิ้นอยู่ในอ้อมแขนผม เสียงร้องไห้มันดังอยู่ใกล้หูของผม น้ำตามันไหลพราก ๆ เลย ผมชักใจไม่ดีแล้ว

“ปล่อย” เสียงสะอืนของมันทำผมใจหวิว ๆ ไปเลย

“ไม่”

“ปล่อยนะ ฮือ ๆ .....” เสียงมันร้องไห้หนักขึ้น ผมจูบขมับมันเบา ๆ

“ขอโทษนะ จะไม่ทำอีกแล้วนะ อย่าร้องเลย”

ผมกระซิบเบา ๆ ข้าง ๆ หูไอ้เหมี่ยว ผมเป็นอะไรไปนะถ้าเป็นเมื่อก่อนคงต่อยมันอุตลุดไปแล้ว แต่ตอนนี้แค่มันร้องไห้ผมก็เจ็บขนาดนี้



ผมยืนกอดมันอยู่อย่างนั้นแหละผ่านไปนานแค่ไหนก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าไอ้เหมี่ยวหลับไปแล้ว เชื่อมันเลยร้องไห้จนหลับแถมหลับได้ทั้ง ๆ ที่ยืนอยู่ ผมยิ้มบาง ๆ มันน่ามั้ยเนี๊ยะ ไอ้บ้า!!! แล้วผมก็ค่อย ๆ พยุงไอ้เพื่อนตัวดีไปนอนที่เตียง

“ไอ้บ้า...คนเป็นห่วงรู้มั่งป่าว”

ผมจับจมูกรั้น ๆ เบา ๆ โอ้ย!!ทำไมไอ้นี้มันน่ารักอย่างนี้วะ

ผมมองหน้าไอ้เหมี่ยวเพลิน ๆ ผมยาว ๆ ของมันนี้สวยไม่ใช่เล่นเลย เดี๋ยวนี้เค้าต่อผมกันได้เนียนขนาดนี้เลยเหรอ ผมจับผมไอ้เหมี่ยวมาดม หอมอะ ^______^ ถ้าตอนนี้ใครมาเห็นต้องว่าผมบ้าแน่ ๆ เล่นนั่งยิ้มให้คนหลับอยู่ได้ ไม่รู้สิ ผมอาจจะบ้าไปแล้วก็ได้







Chompoo talk......

“อืม ......”

ฉันขยับด้วยอย่างเกียจคร้าน ก่อนจะลืมตาตื่นขึ้นมา ทำไมเช้านี้มันขี้เกียจอย่างนี้นะ ฉันรู้สึกเหมือนมีใครมานอนกอดฉันอย่างนั้นแหละ

ฉันก็พลิกตัวมาอีกด้านหนึ่ง ความสงสัยถูกเฉลย พริกนั่นเองที่นอนกอดฉันอยู่ อ๊าย.....หน้าพริกอยู่ใกล้แค่นี้เองไม่ถึง 2 นิ้ว ทำไมพริกหน้าตาดีจังเลยน้า.......ดูสิ หน้าใสกิ๊กเชียวแถมขาวด้วย คิ้ว ตาที่หลับพริ้มนั่น เข้ากันจังยิ่งตอนที่ลืมตาอีก สายตาคม ๆ นั้นมองแล้วจะละลาย จมูกก็โด่ง ปากบาง ๆ สีอ่อน ๆ นั้นอีก ไม่อยากจะคิดเลยว่าฉันจะเคยจูบมาแล้ว โอ้ย!!!! เขิน

“เป็นไง? ฉันหล่อมั้ย?”

จู่ ๆ เสียงพริกก็ดังขึ้น เค้ารู้ด้วย ทำไงดีอ่ะ แล้วพริกก็ลืมตาขึ้นมามองฉันแล้วก็ยิ้มให้ฉัน อย่ายิ้มอย่างนี้ได้มั้ยฉันจะละลาย

“ตะ....ตะ ตื่นนานแล้วเหรอ” เป็นคำถามที่โง่ที่สุด

“ก็นานพอจะรู้ว่ามีคนมาจ้อง”

ฉันบอกว่าอย่ายิ้ม ฉันจะละลาย ฉันอายอะค่ะที่พริกรู้ว่าฉันมองอยู่เลยรีบหันหลังให้ ส่วนพริกก็รีบขยับตัวตามมาคร่อมตัวฉันไว้ แล้วมากระซิบข้าง ๆ หูฉัน

“อรุณสวัสดิ์”

ฉันได้แต่พยักหน้าแล้วก็หลับตา หน้ามันร้อนไปหมด เลยไม่รู้ว่าพริกยิ้มให้กับอาการที่ฉันทำอยู่

“ไปอาบน้ำก่อนนะ”

แล้วพริกก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ ส่วนฉันก็ยังคงนอนหน้าแดงอยู่อย่างนั้นแหละ แต่ก็ต้องหับขวับไปทางประตูเมื่อได้ยินเสียงพริกเรียก

“อะไรเหรอ??”

ฉันหันไป พริกชะโงกหน้าออกจากห้องน้ำมา แล้วฉันก็ต้องหน้าแดงมาอีกรอบเมื่อได้ยินประโยคต่อมาของพริก

“อาบน้ำด้วยกันมั้ย?”

พริกยักคิ้วยิ้มที่มุมปากน้อย ๆ นายกำลังทำให้ฉันละลายเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วในเช้านี้เนี๊ยะ

“ล้อเล่นน่า บ้าป่าว คิดลึกอยู่อะดิ ไอ้ลามก”

ฉันคว้าหมอนมาปาใส่พริก แต่ช้าไปแล้วพริกปิดประตูแล้ว ตาบ้า!!! ฉันได้แค่เอาหน้าซุกหมอนอีกใบ คิดถึงเรื่องเมื่อคืน

เมื่อคืนนี้พริกตามมาง้อฉันเรื่องที่หลบหน้าฉันไปเพราะเรื่องที่จูบกันในห้องพัฒกับต้นแล้วพริกก็จูบฉันอีกเมื่อคืน แถมยังพูดจนฉันน้ำตาไหลเลยละ ก็แหม!!! พูดซะอย่างงั้น คนอ่อนแออย่างฉันก็น้อยใจเป็นธรรมดาแหละ ก็ฉันไม่ใช่มะเหมี่ยวนี่

พูดถึงมะเหมี่ยวฉันต้องทำยังไงต่อไปดีละ รู้สึกว่าฉันจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพริกกับเหมี่ยวยุ่งยากมากขึ้นเกินกว่าเพื่อนกันซะแล้ว ฉันไม่รู้ว่าพริกคิดยังไงกับฉันตอนนี้ แต่ถ้ามันมากกว่าเพื่อนธรรมดาละก็ วันที่เหมี่ยวกลับมาล่ะก็ยุ่งแน่ ๆ

ฉันคิดได้แค่นี้ก็ต้องสะดุ้งเมื่อเสียงมือถือเครื่องจิ๋วของฉันมันส่งเสียงดัง ความจริงมันไม่ใช่ของฉันสักหน่อย ของมะเหมี่ยวต่างหาก คิดแล้วก็เหนื่อยใจ ก่อนจะกดรับและกรอกเสียงใส่มือถือ

“ฮัลโหล”

(มอร์นิ่งค่ะ มะเหมี่ยวหวานของพี่) แม่ยกอีกคนของมะเหมี่ยว เฮ้อ....ฉัน

“ว่าไงฮะ พี่แจน โทรมาปลุกแต่เช้าเลย” ทำไม่ฉันต้องมาพูดครับ พูดฮะ ด้วยนะเนี๊ยะ

(ก็โทรมาปลุกคนดีของพี่นะสิ ไม่ได้เจอกันตั้งนานนี่น่า ปิดเทอมเหมี่ยวก็กลับบ้าน ไม่คิดถึงพี่เลยเหรอคะ น่าน้อยใจ) เฮ้ย......ต้องง้อสินะ ใช่ ตอนนี้เราเป็นมะเหมี่ยวนี่ไม่ใช่ชมพู่

“อย่าเพิ่งงอนสิครับ ใครว่าไม่คิดถึงละครับ คิดถึงพี่แจนมากมายเลยครับ อย่างอนนะครับคนดี”

มะเหมี่ยวง้อฉันแบบนี้บ่อย ๆ คงใช้ได้ผลอยู่มั้ง

(ปากหวานจริง ๆ เลยนะมะเหมี่ยวหวานของพี่ ปากหวานกับสาว ๆ เยอะแยะเลยสิ พี่ไม่ยอมนะ) เพิ่งกับป้าครั้งแรกเลยละค่ะ

“ไม่หรอกครับ เหมี่ยวก็หวานกับพี่คนเดียวนั่นแหละ พี่แจนเดี๋ยวเหมี่ยวโทรกลับนะครับ ขออาบน้ำก่อน เพื่อนมันอาบเสร็จแล้วอะ แล้วคุยกันใหม่นะครับ ครับ คิดถึงครับ”

แล้วฉันก็กดวางไป ความจริงฉันเห็นพริกมายื่นอยู่ที่ตู้เสื้อผ้าน่ะค่ะ ฉันไม่อยากให้พริกได้ยินการสนทนาแบบนี้เท่าไหร่นักหรอกค่ะ ฉันลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำ แต่ก่อนที่จะก้าวเข้าไปในห้องน้ำ

“สาวโทรมาหาแต่เช้าเชียวนะ”

เสียงพริกทำให้ฉันยิ้มแหย ๆ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร และพริกก็ไม่ได้หันมามองฉันด้วย ฉันจึงเดินเข้าห้องน้ำไป

ปัง!!!! ฉันว่าฉันไม่ได้ปิดประตูเสียงดังนะ แต่ไอ้เสียงที่ดังนั่นมันมาจากไหนอะ? ช่างเหอะอาบน้ำดีกว่า ฉันใช่เวลาสักพักก่อนที่จะออกมาแต่งตัวในห้องนอน

“อ้าว ไปไหนแล้วอ่ะ? ไม่รอกันเลย”

ฉันออกห้องน้ำมาก็เจอแต่ความว่างเปล่าในห้อง ตาบ้า ผีเข้าหรือไงก็ไม่รู้ อยู่ ๆ ก็มาทิ้งกันอย่างนี้ เดี๋ยวเหอะ เจอกันที่วิทยาลัยก่อน จะเฉ่งให้คว่ำเลย ฉันได้แต่ฮึดฮัดก่อนที่จะแต่งตัวออกจากห้องไป







Ton talk........

เช้าที่แสนสดใสของผม นายต้น ตระกานคนนี้ ตอนนี้มันกำลังมืดมัว เมื่อกี้ฟ้ามันยังสว่าง ๆ อยู่เลยแต่ทำไมมันกับมืดมัวทันทีที่ไอ้เวรพริกมานั่งกับผมนะ

“ยังคุยกับไอ้เหมี่ยวไม่รู้เรื่องเหรอวะ”

ไอ้พัฒถามไอ้พริก และมันก็เล่นบทเงียบอีกเช่นเคย มันเป็นแบบนี้แหละครับเวลา จอยบ่รม รมบ่จอย และยังไม่ทันขาดคำไอ้พัฒ ไอ้พริกซบหน้าลงกับเก้าอี้ มันกำลังจะไปเฝ้าพระพรหมครับ

ผมหันมาพยักเพยิดกับไอ้พัฒเมื่อเห็นไอ้เหมี่ยวเดินเข้าห้องมา มันใส่วิกมาอีกแล้ว รู้สึกนอกจากพวกผมสามคนและยัยหนิงจะไม่มีใครรู้เลยว่ามันไปต่อผมมาแล้ว ไอ้เหมี่ยวตรงดิ่งมาหาไอ้พริก และ

“นี่ คุยกันหน่อยดิ”

ไอ้เหมี่ยวสะกิดไอ้พริก แต่นิ่ง ไอ้พริกกลับเฉย ไอ้เหมี่ยวก็สะกิดและเรียกอีก จนไอ้พริกมันรำคาญลุกเดินหนีออกจากห้องเรียนไป ไอ้เหมี่ยวเดินตาม

“คุยกันก่อนสิ”

ไอ้เหมี่ยวจับแขนไอ้พริกไว้ แต่ไอ้พริกก็สะบัดแขนเดินหนีอีก

“ฉันว่างานนี้โดดเรียนอีกแหงม ๆ”

ไอ้พัฒเอ่ยขึ้น เห็นด้วยกับมัน เพราะตอนนี้ไอ้พริกกับไอ้เหมี่ยวเดินกันไปไกลแล้ว

“เอาไงไอ้ต้น” ไอ้พัฒถามผม

“ถามได้ ไปสิวะ ง่วง หาที่นอนดีกว่า” ผมกับไอ้พัฒลุกเดินตามไปด้วย

“ไปไหนกันวะ”

เสียงไอ้ไอย์ถามผม ผมไม่ตอบเพียงแค่ยักไหล่แค่นั้นเป็นอันรู้กันครับพวกไอ้ไอย์ก็พากันเดินตามออกมาอีกกลุ่ม เป็นอันว่าวันนี้โดดยกห้องครับ


ตอนนี้เห็นไอ้พริกกับไอ้เหมี่ยวเดินคุยกันไปที่หน้าวิทยาลัยแล้ว และมีรถคันหนึ่งแล่นมาเทียบกับไอ้สองคนนั้น ผมจำรถคันนั้นได้และรู้จักเจ้าของรถอย่างดี

พี่แจนแม่ยกไอ้เหมี่ยวอีกคนหนึ่งและเพื่อนพี่แจนอีกคนหนึ่ง เจ๊แกอายุมากแล้วครับแก่กว่าพวกผมสิบกว่าปีแล้วครับ แต่เจ๊แกยังปิ๊งนะครับ แถมยังชอบเด็กอีกด้วยเข้าทางไอ้เหมี่ยวมันล่ะ ผมเดินเข้าไปใกล้เรื่อย ๆ เห็นสีหน้าไอ้พริกแล้วอยากหัวเราะดัง ๆ ครับ

“แกดูหน้าไอ้พริกดิ”

ไอ้พัฒสะกิดแขนผมเบา ๆ ก่อนมันจะขำออกมา ผมก็ขำด้วยสิครับ ก็ตอนนี้นะไอ้พริกทำหน้ายังกับหึงแฟนตัวเองยังงั้นแหละ แต่ไม่รู้ว่าไอ้พริกจะรู้ตัวหรือเปล่า แต่เอ๊ะ!!เดี๋ยวนั่น

“ไอ้ต้นนั้นมันยัยบีเด็กไอ้เหมี่ยวนี่ วู้!!!รถไฟชนกัน”

ฉันรู้แล้วไอ้ไอย์ไม่ต้องบอกฉัน ผมรีบเร่งฝีเท้าตรงไปหาไอ้เหมี่ยว ไม่ใช่ไปช่วยครับ แต่จะไปสมน้ำหน้า

“ฉันว่าไม่ใช่รถไฟสองขบวนว่ะ นั่นอีก”

ไอ้พัฒพยักเพยิดทำให้ผมต้องมองตามสายตามันไป 5555 อาจารย์ส้ม อาจารย์ช่างสถาปัตยกรรมกิ๊กมันอีกคน งานนี้มันหยอดน้ำเกลือแน่ ๆ

พวกรีบเร่งฝีเท้าเข้าไปหา แต่ดูเหมือนจะช้าไปซะแล้วบรรดาสาว ๆ ของไอ้เหมี่ยวเริ่มทึ้งไอ้เหมี่ยวน้องบีกับอาจารย์ส้มเกิดการเขม่นอย่างรุ่นแรงจนตบกันซะงั้น ไอ้เหมี่ยวทำหน้าเหมือนกับผีหลอก ส่วนไอ้พริกเอามือกุมขมับ และเหมือนโชคจะเข้าข้างเจ๊แจนกับเพื่อน เจ๊แกจึงให้เพื่อนเธอดึงตัวไอ้เหมี่ยวขึ้นรถแต่ไอ้พริกคว้าตัวไอ้เหมี่ยวไว้ได้ และไอ้พริกก็เจอเดช Teen พิฆาตของเพื่อนเจ๊แจนเข้า พอดีว่าพวกผมวิ่งไปรับไว้ทัน ไม่งั้นได้กระเด็นหมดหล่อแน่

“เฮ้ย!!! จะเอาไอ้เหมี่ยวไปไหน”

ไอ้พริกร้องตาม มันคงจอดรถมาบอกแกนะนั้นว่าจะไปไหน ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจอาจารย์ส้มกับน้องบีที่ยังตบกันอุดตลุดอยู่

“เอาไงดี” ไอ้พริกหันมาถาม

“จะเอาไงเล่า ไม่เป็นไรหรอกไอ้เหมี่ยวคงชอบแหละไปกับสาวตั้งสองคนอ่ะ ดีออกฉันอิจฉา”

ผมพูดออกไป แต่ดูเหมือนจะไม่เข้าหูเพื่อนรักผมสักเท่าไหร่

“ดีกับผีนะสิ ไอ้มี๊สทอมช่างอิเล็กเคยเป็นแฟนเก่าเจ๊แจนแล้วแกรู้มั้ยไอ้มี๊สต้องนอนโรงพยาบาลเป็นอาทิตย์เลยล่ะ”

“ทำไมวะ เจ๊แกให้ไอ้มี๊สโหมงานหนักเหรอเล่นกันจนหมดแรงเลยเหรอ”

ไอ้พัฒพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะ แต่ผมชักจะไม่ขำตามแล้วสิเมื่อเห็นหน้าไอ้พริกตอนนี้

“เจ๊แจนเป็นพวกรักซาดิสซ์ ชอบความรุนแรง เรื่องนี้ไอ้เหมี่ยวยังไม่รู้”

“แล้วแกรู้ได้ไง” ผมถามเร็วปรือ

“ไอ้มี๊สเป็นญาติฉัน แล้วแกพอจะรู้ชะตากรรมไอ้เหมี่ยวหรือยัง”

“>O
พวกผมเงียบทันทีส่วนอีกสองสาวก็หยุดตบกันเช่นกัน ไอ้พริกกดมือถือหาไอ้เหมี่ยว

“แกอยู่ไหน? ฉันถามว่าแกอยู่ไหน? ไม่รู้ ไอ้บ้าแกก็ถามEสองตัวนั่นเด้!! ที่ไหนนะ? บ้านเจ๊แจนเหรอ? อยู่แถวไหน แกกลับมาเดี๋ยวนี้เลยนะ ฮัลโหล ๆ ๆ ……..เลวเอ้ย! ตัดสาย”

เสียงไอ้พริกคุยกับไอ้เหมี่ยว เมื่อได้ยินมันบอกว่าไอ้เหมี่ยวตัดสาย ผมก็รีบต่อสายไอ้เหมี่ยวอีกแรง

“ปิดเครื่องไปแล้ว เอาไงดี”

ผมถามไอ้พริก ตอนนี้หน้ามันเหมือนจะฆ่าใครสักคนเลยล่ะ พอจะเข้าใจครับมันสองคนสนิทกันมาก ใครกำลังแย่อีกคนก็ต้องพยายามช่วยเต็มที่แหละ

“แกไปเอารถฉันที่หอมาที่นี้เดี๋ยวฉันจะเข้าไปหาไอ้มี๊ส วันนี้มันคงจะมาเรียนอยู่แล้วมาเจอกันที่นี้”

แล้วไอ้พริกก็วิ่งกลับเข้าไปในวิทยาลัยอีกครั้ง ส่วนพวกผมก็รีบวิ่งไปที่หอ ดีนะที่พวกผมอยู่หอใกล้ ๆ วิทยาลัยไม่งั้นหืดขึ้นคอแน่ ๆ







Pad talk......

โอ้ย!!!!.......เหนื่อยโว้ย!!!! ผมได้แต่ร่ำร้องอยู่ในใจแหละครับ ตอนนี้ผมนั่งอยู่ในรถของไอ้พริก แอร์เย็นเฉียบเลยเหอ ๆ และตอนนี้เรามาจอดรอไอ้พริกที่หน้าวิทยาลัย ไม่นานไอ้พริกก็วิ่งกึ่งลากทอมมาคนหนึ่ง เดาว่านั้นคือไอ้มี๊สญาติของมัน

“ไอ้ต้นไปนั่งข้างหลัง เดี๋ยวฉันขับ ไอ้พัฒแกด้วย ไอ้มี๊สมานั่งข้างหน้ามาบอกทาง”

พวกผมรีบจรลี ระเห็จมานั่งข้างหลังเบียดไอ้ไอย์กับไอ้ยักษ์เพื่อนในกลุ่ม แล้วรถก็พุ่งไปในทิศทางที่ไอ้มี๊สบอก

“ว้ากกกกกก......”

พวกผมสี่คนรวมไอ้มี๊สอีกเป็นห้า แหกปากออกมาพร้อมกัน นี่ผมนั่งรถหรือจรวจครับนี่ โอ้แม่เจ้า!!!~ เหยียบไปเท่าไหร่วะนั่น

“ยูเทิร์นข้างหน้านะเพ่พริก”

ไอ้มี๊สยังคงบอกทางเรื่อย ๆ แต่สังเกตดูว่ามันนั่งจนตัวแข็งเลยล่ะ อย่าว่าแต่มันเลยพวกผมที่นั่งข้างหลังเกรงจนฉี่แทบราดแล้ว

“อ้ากกกกก....”

พวกผมแหกปากอีกรอบเมื่อไอ้พริกหักพวงมาลัยกลับรถอย่างกะทันหันเสียงบีบแตรรถที่ตามมาด้านหลังดังสนั่น ก็มันดันหักเลี้ยวโดยไม่เปิดไฟเลี้ยวแถมยังไม่ได้อยู่ในเลนน์ที่ควรจะเลี้ยวด้วย เรื่องของเรื่องปาดหน้าแหละครับ

และตอนนี้ไอ้พริกก็บีบแตรซะเองเมื่อรถติดไฟแดง 5555 ประสาทจะแดก รถติดตอนจะไปช่วยคน เจริญ !!! เหมี่ยวเอ้ย!! เดี๋ยวฉันเป็นเจ้าภาพงานศพของแกละกันเพื่อนรัก อย่ามาหลอกฉันเลย (มันยังไม่ตายอย่ารีบแช่ง)

“ห่าเอ้ย......ทำไมไม่ไปวะเขียวแล้วโว้ย”

ไอ้พริกแหกปากไล่พร้อม ๆ กับบีบแตรไล่รถคันหน้า ก่อนที่รถของผมจะบินผ่านไฟแดงไป ต้องบอกว่าบินครับเพราะเร็วมาก 555 แล้วผมหัวเราะทำไมวะเนี๊ยะ

“เข้าซอยหน้าครับ”

ไอ้มี๊สแกหัดบอกมันเร็ว ๆ หน่อยได้มั้ย เพราะบอกที่ไรไอ้พริกต้องหักเลี้ยวไม่งั้นก็เบรคแบบกะทันหันทุกที ครั้งนี้ก็เช่นกัน ก่อนที่รถจะแล่นไปตามทางเรื่อย ๆ

“คอนโดข้างหน้าครับพี่”

ไอ้มี๊สบอกแล้วไอ้พริกก็ขับรถพุ่งเข้าไปโดยที่ไม่สนใจยามที่โบกรถให้จอดเพื่อแลกบัตรเลย เสียงนกหวีดของยามตามตูดพวกผมมา

“อยู่ชั้น9ครับ”

ไอ้พริกวิ่งดิ่งเข้าลิฟต์ไปเลยล่ะ

“พวกแกเข้าไปก่อนเดี๋ยวกูจัดการยามก่อน”

ไอ้ไอย์ตะโกนขึ้น พวกเลยวิ่งมาขึ้นลิฟต์อย่างสบายใจ ผมไม่อยากหันไปมองหน้าไอ้พริกตอนนี้เลย พนันได้เลยว่ายัยเจ๊ 2 คนนั้นแหลกคามือมันแน่

“ทางนี้ครับ”

ไอ้มี๊สวิ่งนำไปก่อนที่มันจะถอดเสื้อเทคนิคออกเหลือแต่เสื้อยืดสีขาว

“พวกพี่ยืนห่างประตูก่อนครับ ข้างในมีรูมองครับ เดี๋ยวมันสงสัย”

ฉลาดมากไอ้มี๊ส แล้วมันก็กดออดหน้าห้องถี่ ๆ

“น้ำหวานเอง มาหาพี่แจน”

ไอ้มี๊สโกหกชื่อ ตอบเสียงที่ถามผ่านประตูออกมาก่อนที่ประตูจะค่อย ๆ เปิดออกนิด ๆ

โครม.......!!!

Teen ครับ Teen Teen ไอ้พริกถีบประตูที่แง้มน้อย ๆ นั้นอ้าออกทันทีร่างของผู้หญิงหน้าสวยคนนั้นกระเด็นไปเลยหละ เกือบ 2 ชั่วโมงที่ตามมาไม่รู้สภาพไอ้เหมี่ยวจะเป็นยังไงบ้าง? ไม่ต้องรอให้ใครมาตอบครับเพราะสายตาของผมมันเห็นคำตอบหมดแล้ว

ร่างบางของไอ้เหมี่ยวนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง สองมือของมันถูกมัดไพล่หลังไว้ เสื้อเทคนิคและเสื้อยืดของมันถูกถอดมากองข้าง ๆ ตัว ไอ้เหมี่ยวไม่ยักกะรัดหน้าอกแฮะ เห็นชั้นในที่ถูกปลดตะขอแต่ยังไม่ได้ดึงออกจากร่าง คงดึงยากหน่อยมั้งก็ตัวมันทับไว้อยู่นี่

ไม่ใช่เวลามาพูดว่าถอดยากถอดง่ายครับเพราะหลังขาว ๆ ของไอ้เหมี่ยวมีแต่รอยแผลเหมือนถูกแส้ฝาดเลยอ่ะ เลือดไหลออกมาเต็มไปหมด ใบหน้าสวยหวานของมันมีแต่รอยตบ มีรอยแตกที่หัว ที่มุมปากมีเลือดไหลออกมาซิบ ๆ ไอ้เหมี่ยวค่อย ๆ ลืมตาขึ้น น้ำตาที่ไหลออกมาทำให้พวกผมสงสารจับจิต มันขยับปากพูดด้วยเสียงอันเบา อ่านจากปากแล้วก็คือ

“พริก....ช่วยด้วย........เค้าเจ็บ” แล้วมันก็หมดสติไป

“ฉันจะฆ่าแก Eเลว”

เสียงไอ้พริกดังขึ้นพร้อมกับร่างของมันที่พุ่งไปหาเจ๊แจน ซึ่งตอนนี้เจ๊แกยืนจังก้าอยู่บนเตียงที่ไอ้เหมี่ยวนอนอยู่

ให้ตายเถอะเจ๊แกโหดสุด ๆ ในมือเจ๊แกมีแส้เส้นยาว ที่พวกรสนิยมซาดิสซ์ชอบเอามาฟาดกันอยู่ แถมอีกข้างก็มีเทียนอีกเล่มหนึ่ง ครบสูตรซาดิสซ์

เมื่อเห็นว่าไอ้พริกพุ่งเข้าใส่ เจ๊แกก็ฝาดแส้ใส่ไอ้พริก ไอ้พริกใช่แขนกันไว้แล้วใช้อีกมือจับแส้ไว้ เสียงแส้กระทบกับแขนไอ้พริกดัง เพี๊ยะ!!! เล่นเอาผมสะดุ้ง ไอ้พริกดึงแส้ที่คว้าได้เข้าหาตัวทำให้เจ๊แจนเซเข้ามาหามัน เข้าทางสิครับ เป็นไงบ้างลูกถีบไอ้พริกจุกมั้ยเจ๊ ??

ร่างของเจ๊แจนทรุดฮวบลงกับพื้น ไอ้พริกตรงเข้าไปคร่อมตัวไว้แล้วกระหน่ำหมัดใส่ไม่ยั้ง สมน้ำหน้ามัน ส่วนเพื่อนเจ๊แจนนั้นตอนนี้ถูกไอ้ต้นไอ้ยักษ์จับไว้ ไอ้มี๊สดูท่าจะโกรธเรื่องที่เคยถูกทำไว้เหมือนกัน เลยขอเอาคืนที่นี้ซะเลย

“เฮ้ย!!! นั้นผู้หญิงนะโว้ย!!!” ผมตะโกนเตือนมัน ก่อนที่มันจะตอบกลับมาว่า


“แล้วมันเป็นแม่กับเมียแกหรือเปล่าวะ แหกตาดูสภาพเพื่อนเราสิวะ”

เออว่ะ.....ไม่ใช่แม่ฉันนี้ แล้วผมก็บรรลุความเป็นมารตามเพื่อนครับ ผมวิ่งปรู๊ดไปทางไอ้พริก

“พริก....แกดูไอ้เหมี่ยวเดี๋ยวฉันเก็บเจ๊โหดนี้เอง”

ไอ้พริกผละไปหาไอ้เหมี่ยวทันที และทันทีที่ไอ้พริกหันหลังให้ ยัยเจ๊แจนก็หยิบแส้ใกล้ ๆ มาฝาดใส่ไอ้พริก เสียงแห่งความเจ็บของไอ้พริกดังขึ้น

“ฆ่ามันซะไอ้พัฒ”

เล่นถึงตายเลยเหรอ แต่ผมก็ต้องถีบเจ๊แจนเมื่อเห็นว่าเธอทำท่าจะสะบัดแส้ใส่ไอ้พริกอีก

พลั๊ก......

ความจริงผมไม่ใช่พวกใช้กำลังกับผู้หญิงนะครับ แต่คราวนี้ขออนุญาตนะครับผมเกลียดมันจริง ๆ แล้วผมก็ประเคนหมัดใส่คุณเธอต่อ ไม่งั้นผมต้องถูกเจ๊แกเล่นแน่ ๆ ส่วนไอ้พริกนั้นมันถอดเสื้อเทคนิคออกคลุมร่าง ไอ้เหมี่ยวไว้ แล้วมันก็อุ้มร่างที่ไร้สติของไอ้เหมี่ยวออกไป

“ไม่เป็นไรแล้วนะเหมี่ยว ปลอดภัยแล้ว แกกำลังจะไปหาหมอ ทนไว้นะ แป๊บเดียว” เสียงไอ้พริกพร่ำบอกไอ้เหมี่ยว

“ไอ้พัฒ ไปได้แล้ว”

เสียงไอ้ต้นเรียกผม ผมจึงวิ่งตามพวกมันออกไป ไม่สนใจว่ายัยโหดสองคนนั้นจะตายหรือเปล่า ช่างมันเถอะสมควรแล้ว

ตอนนี้พวกผมยืนเบียดกันอยู่ในลิฟต์ ร่างโชกเลือดของไอ้เหมี่ยวอยู่ในอ้อมกอดของไอ้พริก ตอนนี้หน้าหวาน ๆ ของมันดูไม่ได้เลย มีรอยช้ำเต็มไปหมด ไอ้พริกยังคงพร่ำพูดกรอกหูไอ้เหมี่ยวอยู่ตลอดพลางกับจูบหน้าผากไอ้เหมี่ยวเบา ๆ ตกลงมันห่วงไอ้เหมี่ยวในฐานะเพื่อนหรือฐานะอะไรกันแน่วะ แต่ช่างเถอะขอให้ไอ้เหมี่ยวรอดก่อนเถอะ ดูแล้วอาการน่าเป็นห่วง







Mameiw talk......

เฮือก!!!!

เพล้ง .........

“อะไรวะ?”

ผมสบถเบา ๆ เมื่อทำแก้วน้ำหล่นแตก และรู้สึกเสียวตรงหน้าอก มับเจ็บแปลบ ๆ เลยทีเดียว จะเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่านะ ชมพู่สบายดีหรือเปล่านะ?

“เก็บดิ จอยไม่เห็นหรือว่ามันหล่นแตกแล้ว” ผมหันไปสั่งยัยจอย เบ๊ประจำกาย

“ทำไมฉัน.....”

“เธอเป็นเบ๊ของฉัน”

ผมตอบทั้ง ๆ ที่จอยถามยังไม่ทันจบด้วยซ้ำ จอยก้มลงเก็บเศษแก้วที่กระจายเต็มพื้นโรงอาหารท่ามกลางสายตานับร้อยคู่ แต่ผมไม่สนใจ สมน้ำหน้าใครบอกให้คิดมาทำร้ายชมพู่น้องรักของฉันต้องอับอายแบบนี้แหละ แล้วผมก็ล่วงมือถือออกจากกระเป๋ากระโปรงกดหาเบอร์ตัวเองที่ชมพู่ใช้อยู่

“ขอโทษค่ะไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้” ลองใหม่สิ

“ขอโทษค่ะไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”

ปิดเครื่องทำไมวะ เบอร์ไอ้พริก แล้วผมก็กดเบอร์ไอ้พริกอีกเบอร์ แต่สิ่งที่ได้ยินคือ

“โอ้!!! เจ้าหนี้พอทีไม่ต้องมาแหย่ ตอนนี้กำลังแย่ ทวงทุกวันมันก็ไม่ดี.......” และ

“เฮ้ยยยย!!!! ใครโทรมาครับ โทรมาทำไมครับ..........”

-_____-!! โทรหาเตี่ยแกมั้งไอ้เวร และ

“เธออยู่ที่ไหนยังสบายใจดีหรือเปล่า ในวันนี้ที่มันไม่เหมือนเก่า มีใครบ้างมั้ยคอยห่วงใย”

เออ!!!เพลงนี้ค่อยเข้าหูหน่อย ว่าแต่ทำไมแกไม่รับวะ? ไอ้เลวพริก ผมชักหงุดหงิดที่ไอ้เพื่อนรักไม่รับสาย จะโทรหาไอ้พัฒกับไอ้ต้น ก็ดันจำเบอร์ไม่ได้ เซ็ง!!! เดี๋ยวค่อยหาอีกรอบละกัน หิวขอกินข้าวก่อน

“นี่ฉันขอชิมแกงของเธอมั้งสิยัยเบ๊”

“ไม่” ยัยจอยทำท่าจะยกหนี

“เธอเป็นเบ๊ฉันน่ะ ตามใจฉันสิ อ่ะฉันเอาไอ้นี้แลกก็ได้” ผมตักแครอทให้จอย

“ฉันไม่กินแครอท”

“เรื่องของเธอสิ”

ผมกำลังจะตักแกงของจอย แต่ไอ้มือถือดันสั่นเตือนซะก่อนเลยต้องรับก่อน ไอ้พริก ไอ้เพื่อนเลวตะกี้ฉันโทรหาไม่รับทีฉันกินดันเจือกโทรมา ไอ้เวร

(ฮัลโหล หวัดดีครับ) เก๊กเสียงเชียวนะเมิง

“สวัสดีค่ะ” ผมดัดเสียงอย่างมีจริตตอบกลับไป

(เมื่อกี้คุณโทรมาเบอร์นี้มั้ยครับคือเบอร์ของคุณมันโชว์ในเครื่องผมอะครับ” ถูกต้องฉันโทรหาแกเอง

“อ๋อ ใช่ค่ะ พอดีว่า.....แป๊บนะคะ”

ผมเหลือบเห็นสายตาอยากรู้อยากเห็นของจอยและพวกของขิงก็เลยลุกออกจากโต๊ะอาหารไป

“ฉันชื่อชมพู่ค่ะ เป็นญาติผู้น้องของพี่เหมี่ยวนะคะ อยากคุยกับพี่เค้าแต่ติดต่อไม่ได้ พอดีว่าพี่เหมี่ยวเคยให้เบอร์พี่ไว้น่ะค่ะ ฉันเลยลองโทรหา ว่าแต่พี่เหมี่ยวอยู่มั้ยคะ? ชมพู่อยากคุยด้วยน่ะค่ะ”

ผมร่ายซะยาวเลย แต่เสียงไอ้พริกกลับอึกอัก ไม่เป็นปกติเท่าไหร่

“ว่าไงคะพี่เหมี่ยวอยู่มั้ยคะ? มีธุระจะคุยด้วย”

(อยู่ครับ แต่ยังคุยไม่ได้)

เสียงอ้อมแอ้มของไอ้พริกทำให้ผมหงุดหงิด อะไรของมันวะ

“ขอสายมะเหมี่ยวค่ะ”

ผมกรอกเสียงแข็ง ๆ ลงไปเมื่ออารมณ์เริ่มหงุดหงิด

(ตอนนี้เหมี่ยวคุยไม่ได้ครับ)

“ทำไม??” ฉันอารมณ์เสียแล้วนะโว้ย

(เอ่อ.....คือ) ต้องเกิดเรื่องแน่ ๆ

“มะเหมี่ยวเป็นอะไร???”

เสียงผมเกือบจะเป็นตะคอก ใจเริ่มไม่ดีเมื่อคิดว่าน้องสาวที่รักเป็นอะไร

(คือ......) ไอ้พริกทำให้ผมโมโห

“ฉันถามว่าพี่ฉันเป็นอะไร???”

ดูเหมือนเสียงเย็น ๆ ของผมจำทำให้ไอ้พริกเลิกติดอ่าง มันบอกว่าชมพู่เป็นอะไร เหมือนมีคนเอามีดมาแทงกลางหน้าอกเลยทีเดียว พวกเวรพวกนั้นต้องตายสถานเดียว

“ตอนนี้พี่เหมี่ยวอยู่ที่ไหน??”

(โรงพยายบาล.......) ผมกดวางโทรศัพท์ แล้วกดเบอร์โทรอีกเบอร์หนึ่งทันที เมื่อรู้ว่าชมพู่อยู่ที่โรงพยาบาลอะไร

“เจ๊เจี๊ยบเหรอ นี่เหมี่ยวนะ เออน่า ยืมไอ้พู่มันใช่น่ะ มีเรื่องให้ช่วยหน่อย........”

ผมบอกสิ่งที่ต้องการให้พี่เจี๊ยบหาให้ จากนั้นก็กลับไปนั่งกินข้าวต่อ ผมไม่รู้หรอกว่าผมทำหน้ายังไง แต่ที่แน่ ๆ ไม่แจ่มเท่าไหร่แน่เพราะทั้ง ขิง น้อยหนา และยัยเบ๊ไม่กล้าสบตาเลยแหละ แต่ใครจะสนล่ะ ตอนนี้ที่ผมสนใจก็คือ เมื่อไหร่จะเลิกเรียนเท่านั้น ผมจะไปส่งของขวัญที่แสนวิเศษให้กับยัยเจ๊แจนและเพื่อนของมันด้วยตัวของผมเองเลยล่ะ รับรองมันจะคิดถึงผมไปจนวันตายเลยทีเดียว...................



"......อย่าลืมเม้นต์กันนะจ๊ะ....."


<ตอนที่ 5ตอนที่ 7>




 

Create Date : 27 กันยายน 2549
0 comments
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2550 23:10:07 น.
Counter : 1171 Pageviews.


samurai_KYO
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"ข้าคือ...มิบุ ซา'เคียว"

Friends' blogs
[Add samurai_KYO's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.