ข้าคือ Sa'kyo
Group Blog
 
 
มกราคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
26 มกราคม 2550
 
All Blogs
 
~Secret Love~ ตอนที่ 1


“ไหม.....ทำอะไรอยู่วะ?”

ร่างสูงของปิรัญที่ก้าวเข้ามาในห้องรับแขก ก่อนจะหย่อนกายลงนั่งที่โซฟาตัวนุ่มที่มุมห้อง คนถูกถามหันมามองผู้มาเยือน ปิรัญไม่ได้สนใจว่า เพื่อนของตนจะมองตนหรือไม่ เขาหยิบหนังสือนิตยสารที่ว่างอยู่ที่โต๊ะกระจกเตี้ย ๆ ตรงหน้าขึ้นมาเปิดดู

มัลลิกา.....ถอดแว่นตาทรงเก๋ออกจากใบหน้า แล้ววางลงที่หน้าโน้ตบุคที่ตนใช้ทำงานอยู่ สายตาคมกริบมองสำรวจร่างของปิรัญอย่างถี่ถ้วน

“แกตัดผมใหม่???”

เสียงเรียบ ๆ ของมัลลิกาถามกลับปิรัญ เพิกเฉยต่อการตอบคำถามของปิรัญ คนถูกถามเพียงแค่เอียงหน้ามาทางมัลลิกา และพยักหน้า แต่สายตายังจดจ้องอยู่ที่นิตยสาร

“ใช่!!! ยัยรินบ่นใส่บ่อยเกินว่ะ ไม่ไหว...”

มัลลิกาเลิกคิ้วขึ้นก่อนที่จะเหยียดยิ้มสุดเก๋ให้ระบายบนใบหน้า

“ตกลงนั่นน้องหรือแม่วะรัญ....ฉันว่ารินคงลืมไปมั้งว่าเกิดทีหลังแก”

“ฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละ ว่าแต่คุณนักร้องคนนี้ดังไม่หยุดฉุดไม่อยู่แล้วนะเนี๊ยะ”

ปิรัญชูรูปในนิตยสารพร้อมกับชี้นิ้วให้มัลลิกาดู มัลลิกาเพียงแค่ยักคิ้ว และกระตุกยิ้มเท่านั้น ไม่ได้แสดงอะไรไปมากกว่านั้น

“สวยดีนะ ทำไมสาว ๆ ที่เข้ามาในชีวิตฉันไม่สวยอย่างนี้บ้างนะ แต่ละคน”

“แต่ละคนก็น้อง ๆ นางงามทั้งนั้นนี่ ยังไม่สวยถูกใจท่านปิรัญ สาวหล่อไฮโซอีกหรือไง”

มัลลิกาเอ่ยดักทางเพื่อนของตนไว้ ก่อนที่ปิรัญจะพล่ามอะไรไปมากกว่านั้น

“สักเรื่องได้หรือเปล่าไอ้ไหมที่แกจะไม่ดักทางฉันเนี๊ยะ”

มัลลิกายักไหล่ใส่ปิรัญ หันหน้าเข้าสู่จอคอมตัวเองต่อ

“เฮ!! ไอ้ไหม ตอนนี้แกลาพักร้อนอยู่นะ ยังจะทำงานอีกเหรอไงวะ เห็นแล้วเครียดแทน”

“แกก็อย่ามองสิวะไอ้นี่ ว่าแต่แกเถอะงานออกแบบร้านอาหารของคุณดาราดังไปถึงไหนละ”

หลังจากที่ตอกกลับปิรัญแล้ว มัลลิกาก็ย้อนถามปิรัญ เรื่องงานออกแบบที่เพื่อนของเธอรับจากบริษัทมา

“ยังไม่ถึงไหน ยังไม่ได้ดูสัญญาอะไรเลย โดนเลื่อนนัดดูสถานที่มาสองครั้งแล้ว คุณเธอ แม่ดาราดังคนนั้น ติดงานที่ฝรั่งเศส ไอ้คนเศษฝรั่งอย่างฉันเลยต้องรออยู่นี่แหละ”

“ชื่ออะไรนะ?”

ปิรัญเลิกคิ้วขึ้น ก่อนที่เขาจะลุกไปที่ตู้เย็นขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่มัลลิกานั่งอยู่ เขายังไม่ตอบคำถามของมัลลิกา แต่กลับสอดสายตามองหาเครื่องดื่มในตู้เย็นเครื่องเล็กนั้น

“ไอรดา ประดิษกุล ดารานักแสดงเจ้าบทบาท นางร้ายอันดับหนึ่งของเมืองไทย และนางแบบสุดเซ็กซี่แห่งปี แกมีแต่เบียร์เหรอไงวะไหม”

“แกเห็นมันมีไวด์ตั้งอยู่หรือเปล่าล่ะ...ถามมาได้”

มัลลิกาตอบเพื่อนกวน ๆ แล้วก็เลิกสนใจปิรัญที่บ่นอุบอิบอยู่คนเดียว หันมาสนใจดูงานของตัวเองต่อ

“ไอ้ไหม แกไม่คิดจะไปเที่ยวที่ไหนบ้างเหรอวะ? อยู่แต่ที่นี่”

“ไป แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้”

“แล้วตอนไหนละที่แกจะไปน่ะ”

“ถามทำไมวะ”

มัลลิกาหันหน้ามามองปิรัญที่จ้องมองเธอจากด้านหลัง ก่อนที่ปิรัญจะหลบสายตาของมัลลิกา ซึ่งนั้นก็พอที่จะทำให้มัลลิกาสามารถเดาได้แล้วว่าเพื่อนของเขามีเรื่องอะไรมาแน่ ๆ

“มีเรื่องอะไรมา?”

ปิรัญหันไปสบตากับมัลลิกาที่จ้องมองเขาอยู่ สายตาของมัลลิกาเตรียมจะกรีดร่างของเขาเต็มที่ หากเขาพูดว่า ไม่มีอะไร

“ฉันเพิ่งเลิกกับเกรทน่ะ ช็อกนิด ๆ เหมือนกัน แถมยังดูแล้วมีเรื่องต่ออีกยาวนะ เลยว่าจะมาอยู่กับแกสักพัก”

“แล้วงานล่ะ”

“ไม่มีปัญหาอะไรหรอก ตอนนี้เคลียร์หมดแล้ว เหลือแต่งานของคุณดารานั่นแหละ”

“งั้นก็ไม่มีปัญหา ดีเหมือนกัน แกมาอยู่ที่นี่ ฉันจะไปเที่ยวได้สบายใจหน่อย”

ปิรัญมองเพื่อนอย่างสงสัย ทุกทีที่เขามีเรื่องทำนองนี้ มัลลิกาต้องบ่น หรือเอ็ดใส่เขาทุกที แต่ก็ยอมให้พักพิงด้วย ยามมีปัญหา

แต่ครั้งนี้กลับต่างจากทุกที มัลลิกาไม่ถามอะไรมาก แถมยังทำท่าจะยกบ้านหลังเล็ก ๆ นี่ให้เขาอยู่ชั่วขณะเสียอีก

“ฉันจะไปเที่ยวหัวหินสัก 2 อาทิตย์นะ แกมาก็ดีอยู่บ้าทนฉันด้วย ฉันจะได้ไม่ต้องห่วงบ้าน”

มัลลิกาเอ่ยขึ้นเฉลยความสงสัยของปิรัญ

“ไปกับใครวะ แกคงไม่อยากไปทะเลคนเดียวหรอกมั้ง”

“เดี๋ยวแกก็รู้”

“อย่าบอกฉันนะว่าแกจะไปวันนี้”

“เที่ยงนี้ด้วย”

มัลลิกาตอบเพื่อนก่อนที่จะปิดโน้ตบุคลง แล้วเก็บมันใส่กระเป๋า มัลลิกาลุกเดินเข้าไปในห้องที่กั้นด้วยกระจกใสเพ้นส์ลายดอกไม้ดอกเล็ก ๆ เต็มผนังกระจกที่มองทะลุเข้าไปถึงด้านใน

มัลลิกายืนหันหน้าเข้ากับผนังห้อง หากมองในมุมที่ปิรัญนั่งอยู่นั้นเหมือนกับมัลลิกายืนส่องกระจกบานใหญ่ที่ติดผนังอยู่ หากมัลลิกาไม่ใช้มือสวยเลื่อนกระจกนั้นออก แล้วก้าวหายเข้าไปหลังกระจกบานใหญ่นั้น ซึ่งปิรัญรู้ดีว่าหลังกระจกบานใหญ่นั้น คือห้องน้ำ และห้องแต่งตัวของมัลลิกา

มัลลิกาเป็นคนออกแบบบ้านหลังนี้เอง บ้านหลังนี้คือความฝันของมัลลิกา ความฝันที่จะมีบ้านที่ตัวเองออกแบบเอง ความฝันนั้นเป็นจริงแล้ว

บ้านหลังเล็ก ๆ อยู่บนเนินดินปูหญ้า ระเบียงหน้าบ้านสำหรับดูทิวทัศน์ของสวนที่จัดแต่งตามสไตร์ของมัลลิกา

เมื่อก้าวผ่านประตูเข้ามา สิ่งแรกที่เห็นคือพื้นไม้ปาเก้ยกสูงจากพื้นประมาณครึ่งฟุต จากนั้นคือพื้นโล่งประมาณ 1 เมตร แล้วจึงมาเป็นชุดโซฟารับแขกที่ปิรัญนั่งอยู่ ตรงข้ามกับเขามีโทรทัศน์จอแบนดีไซน์หรู ถูกติดอยู่บนผนังห้อง มีชุดเครื่องเสียงตั้งอยู่ด้านล่าง โดยมีตู้เย็นขนาดเล็กที่ปิรัญเพิ่งไปหยิบเบียร์ออกมาจิบตั้งอยู่ข้าง ๆ

โต๊ะทำงานตัวยาวโค้งเป็นรูปครึ่งตัวยู ทำจากกระจกอย่างดี ถูกตั้งห่างจากตู้เย็นประมาณ 1 เมตร บนโต๊ะกระจกมีคอมพิวเตอร์ตั้งอยู่ และมีโน้ตบุค ที่มัลลิกาเพิ่งเก็บใส่กระเป๋าวางไว้ มีกองเอกสารที่จัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ

เลยจากตรงนั้นไปอีกไม่เกิน 2 เมตรก็คือทางเดินไประเบียงหลังบ้าน และเป็นห้องกระจกใส ซึ่งในนั้นก็จะเป็นห้องนอนและมีส่วนที่แยกออกไปเป็นห้องแต่งตัว ห้องน้ำ

บ้านของมัลลิกา มีหน้าต่างเยอะมาก ทำให้ดูสว่าง และโล่งสบายเสมอ ปิรัญค่อนข้างชอบบ้านของมัลลิกา โดยเฉพาะระเบียงหลังบ้านที่มัลลิกาออกแบบไว้อย่างเก๋ไก๋สำหรับพวกเขาที่จะมานั่งดื่มกัน

แต่ก็พูดเหมือนจะมีคนมาดื่มกันบ่อย พูดให้ถูกคือมีแค่เขากับมัลลิกาเท่านั้นที่จะมานั่งดื่มกัน มัลลิกาไม่ชอบให้ใครมาที่นี่ นอกจากปิรัญแล้ว เพื่อนคนอื่น ๆ คงไม่เคยมีใครมาที่บ้านหลังนี้เลยกระมัง

ยิ่งสาว ๆ ที่มัลลิกาหว่านเสน่ห์ทิ้งไว้ยาวเป็นหางว่าว ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ไม่เคยมีใครได้ย่างกลายเข้ามาที่บ้านหลังนี้แน่นอน

“เฮ้ย!!! รัญ แกจะมาค้างที่นี่วันนี้เลยหรือเปล่าวะ?”

“อืม...”

ปิรัญตอบคำถามของมัลลิกาสั้น ๆ เขาหันไปมองมัลลิกาที่เดินออกมาจากห้องกระจก มัลลิกาที่อยู่ในชุด เสื้อยืดสีขาวพอดีตัว และกางเกงยีนส์ตัวเก๋ ดูทะมัดทะแมง หิวกระเป๋เสื้อผ้าขนาดย่อม ๆ มาด้วย

ผมยาวสลวยของมัลลิกาถูกรวบไว้ ก่อนที่เจ้าตัวจะวางกระเป๋าบนพื้นตรงหน้าของปิรัญ

“แกจะไปกับใครวะไหม”

มัลลิกานั่งลงกับโซฟาตัวถัดจากปิรัญ เธอไม่ตอบ เพียงแค่ยิ้ม อาการนี้ปิรัญหมั่นไส้นักแล

“เดี๋ยวแกก็รู้”

“ก็นึกอยู่แล้ว.....ว่าแกต้องพูดอย่างนี้”

ปิรัญยิ้มกวน ๆ และส่ายหน้าช้า ๆ แต่ก่อนที่ทั้งสองจะพูดอะไรอีก เสียงรถที่แล่นเข้ามาจอดภายในบริเวณบ้านของมัลลิกาก็ทำให้ทั้งสองหันไปสนใจกับผู้ที่กำลังจะก้าวเข้ามาในบ้านหลังนี้

~ใครกันนะที่เจ้าไหมกำลังรออยู่~

เสียงเคาะประตูดังขึ้น สองที ก่อนที่ประตูจะเปิดอ้าออก และร่างของผู้ที่ก้าวเข้ามาภายในบ้านของมัลลิกาก็ทำให้ปิรัญตาค้าง

ดวงหน้าสวยมีเครื่องสำอางแต่งแต้มบาง ๆ ดวงตาหวานซึ้งที่จ้องมองมาทางมัลลิกา ในแววตานั้นแฝงไว้หลายความรู้สึก หนึ่งในนั้นที่ปิรัญจับได้คือความห่วงหาที่ปิดไม่มิด

ริมฝีปากที่เคลือบด้วยลิปกลอสแวววาวแย้มยิ้มส่งมาให้มัลลิกาอย่างเปิดเผย ก่อนที่เธอจะหันมาส่งยิ้มให้กับปิรัญ พร้อมกับก้มศีรษะทักทายปิรัญไปในตัว เรือนผมยาวสวยของเธอเลื่อนหลุดจากไหล่ ปิรัญเผลอมองตามอย่างลืมตัว

“อะแฮ้ม!!!~ มองพอแล้วมั้งรัญ” เสียงเรียบ ๆ ของมัลลิกาทำให้ปิรัญได้สติกลับมาอีกครั้ง เขาหันมามองมัลลิกาก่อนจะยิ้มเก้อ ๆ ให้กับแขกที่เพิ่งมาถึง

มัลลิกาลุกขึ้นเดินไปหาสาวสวย ก่อนจะผายมือเชื้อเชิญให้เธอมานั่งตรงที่ที่ตนลุกออกมา

“รัญ นี่ คุณศรัญรัตน์ นักร้องที่แกเพิ่งชมว่าดังกระฉ่อนเมื่อกี้นี่แหละ”

นี่คือเหตุผลที่ปิรัญอึ้งมากมายเสียเหลือเกิน เมื่อเห็นสาวสวยตรงหน้า เพราะเธอคือคนเดียวกับนักร้องในนิตยสารที่เขาเพิ่งเปิดอ่านเมื่อสักครู่

“ส่วนนี่ไอ้คนที่นั่งหน้าหื่นอยู่นี่ คือปิรัญเพื่อนไหมคะ พี่หม่อน”

“สวัสดีค่ะ เรียกใบหม่อนก็ได้ค่ะ” เสียงหวาน ๆ เจือแจ้วทักทายปิรัญอย่างเป็นกันเอง

“สวัสดีค่ะ ปิรัญค่ะ เรียก รัญ เฉย ๆ ก็ได้ค่ะ”

ปิรัญแนะนำตัว และส่งยิ้มให้กับศรัญรัตน์ ซึ่งสิ่งที่เขาได้ตอบแทนมาก็คือ รอยยิ้มหวานจากศรัญรัตน์นั่นเอง

“หืม.....พี่หม่อนไม่ได้มาคนเดียวนี่คะ ใครมาด้วยน่ะ” เสียงของมัลลิกาเอ่ยขึ้น ศรัญรัตน์หันไปหามัลลิกา ก่อนจะยิ้มอย่างเสียไม่ได้ให้กับมัลลิกา

“นั่นแหละค่ะ คือสาเหตุที่ทำให้พี่มาหาไหมเร็วกว่าที่นัดไว้”

มัลลิกาเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น ศรัญรัตน์รู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันที เมื่อเจอสายตาเป็นคำถามของมัลลิกา

“คนที่ยืนอยู่ข้างนอกนั่นคือเพื่อนพี่เองค่ะตัวไหม ชื่อ ไอรดา พอดีว่า....”

“ไปเชิญเข้ามาข้างในน่าจะดีกว่านะคะ”

มัลลิกาเอ่ยขัดขึ้น พร้อม ๆ กับลุกขึ้นเดินออกไปนอกตัวบ้าน ศรัญรัตน์ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

เธอจะทำอย่างไรดีหนอ.... ไอรดาคือเพื่อนสนิทของเธอที่ตอนนี้กำลังต้องการความช่วยเหลือ ส่วนมัลลิกาก็เป็นคนที่ขึ้นชื่อเรื่อง เป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงมาก ๆ แล้วถ้าเธอจะขอให้ไอรดามาพักอาศัยอยู่ที่บ้านของมัลลิกาที่เธอหวงแหนเหลือเกิน มัลลิกาจะยอมหรือ.....

“เชิญข้างในค่ะ”

เสียงของมัลลิกาเชื้อเชิญ ไอรดาเข้ามาในบ้าน ทำให้ศรัญรัตน์หยุดคิดถึงปัญหาที่กำลังจะเกิดในอีกไม่กี่นาทีต่อจากนี้ และเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าของมัลลิกาและไอรดา ที่กำลังย่างกลายเข้ามาในบ้านของมัลลิกา

ปิรัญที่ยังไม่หายงุนงงกับเรื่อง ที่อยู่ ๆ ก็มีนักร้องดังอย่างศรัญรัตน์มาหาเพื่อนรักของเขาถึงบ้าน ก็กลับมางงอีกรอบ เมื่อเห็นคนที่ก้าวเข้ามาในบ้านของมัลลิกาอีกคน

ร่างของดาราเจ้าบทบาท และว่าที่ลูกค้าของเขาอย่าง ไอรดา ประดิษกุล โผล่มาเพิ่มอีกคน ปิรัญรู้สึกว่ากำลังเกิดเหตุการณ์ร่วมคนมีชื่อเสียงในวงการบันเทิงที่บ้านของมัลลิกาอย่างนั้นแหละ

มัลลิกานั่งลงที่ข้างกายของปิรัญ ทั้งคู่นั่งอยู่ระหว่างศรัญรัตน์และไอรดา เกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะก่อนที่ศรัญรัตน์จะเอ่ยแนะนำเพื่อนของตนเองกับเจ้าบ้านทั้งสอง

“ดา...นี่ ตัวไหม มัลลิกา เจ้าของบ้าน แล้วก็คุณ รัญ ปิรัญ เพื่อนของตัวไหมนะ”

ไอรดาโค้งทักทายคนทั้งสองพร้อมกับรอยยิ้ม

“ตัวไหม คุณปิรัญคะ นี่ยัยดา ไอรดา เพื่อนสนิทของใบหม่อนเองคะ”

ทั้งมัลลิกาและปิรัญยิ้มทักทายสาวสวยตรงหน้า

“พี่หม่อนพอจะบอกไหมได้หรือยังคะ ว่ามีเรื่องอะไรกัน”

เสียงเรียบเฉยของมัลลิกาเอ่ยขึ้น ศรัญรัตน์มองหน้ามัลลิกา ก่อนจะเบือนหน้าไปสบตากับไอรดา

“ให้ดาเล่าเองดีกว่าค่ะ”

ทั้งหมดหันมาจ้องมองที่ไอรดา เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ผ่อนมันออกมาช้า ๆ เพื่อเรียกความมั่นใจให้กับตัวเอง เพราะกิติศัพท์ของมัลลิกาที่ศรัญรัตน์เล่าให้ฟังทำให้เธอหวาดหวั่น ยิ่งมาสัมผัสด้วยตนเองแล้วยิ่งทำให้เธอเสียกำลังใจดื้อ ๆ

ไอรดามั่นใจว่า ถ้าเรื่องของเธอไม่หนักหนาสาหัสละก็......เธอคงไม่ได้รับความช่วยเหลือจากมัลลิกาเป็นแน่

“ดาเพิ่งไปเดินแบบที่ปารีสมาน่ะค่ะ แล้วก็เพิ่งจะเดินทางกลับมาได้ไม่ถึงอาทิตย์ค่ะ พอดีช่วงที่ดาอยู่ที่โน้น บังเอิญเจอกับคุณอนุวัฒน์ คุณมัลลิกากับคุณปิรัญน่าจะรู้จักนะคะ”

“อืม .......บังเอิญดิฉันไม่ชอบดูละครนะคะ เลยไม่รู้จัก”

มัลลิกาพูดพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ซึ่งนั่นก็พอจะทำให้ไอรดารู้ว่า มันเป็นรอยยิ้มตามมารยาทเท่านั้น

“เอ่อ...ก็คงบังเอิญอีกเช่นกันนะ บังเอิญว่า ผม เอ้ย!!! ฉันไม่นิยมจำชื่อมนุษย์โลกเพศชายที่ไม่จำเป็นสำหรับชีวิตด้วยสิคะ”

ปิรัญพูดด้วยถ้อยคำที่ฟังดูแล้วยียวนกวนประสาท แต่ตอนนี้ ประโยคคำพูดของปิรัญกลับช่วยให้เธอไม่รู้สึกอึดอัดกับความเย็นชาของมัลลิกาลงได้บ้าง

ศรัญรัตน์รู้สึกอึดอัดแทนไอรดา เมื่อเพื่อนรักของเธอกำลังเผชิญป้อมปราการที่มัลลิกา และปิรัญสร้างขึ้น

“คุณอนุวัตน์เป็นดาราที่กำลังมาแรงมากช่วงนี้ค่ะ เขาได้รับการจับตามมองจากหลาย ๆ สื่อ เราบังเอิญเจอกันที่ปารีสค่ะ แล้วที่นี้.....”

“บังเอิญว่ามีคนอยากให้การบังเอิญเจอกันระหว่างคุณกับคุณสุภาพบุรุษคนนั้นเป็นเรื่องไม่บังเอิญ ข่าวนี้จึงออกมาหน้าตาอย่างนี้ หรือเปล่าคะ?”

ปิรัญดันรูปในหน้าซุบซิบในนิตรสาร ที่เขาดูเมื่อหลายนาทีก่อนมาที่กลางโต๊ะ มัลลิกาแค่หลุบสายตาดูเนื้อข่าวผ่าน ๆ ก่อนจะเบนสายตามามองหน้าไอรดา

“ทำไมไม่แถลงข่าวละคะ?”

มัลลิกาเอ่ยถามไอรดา เธอถึงกับถอนหายใจออกมา ความเครียดปรากฏให้เห็นบนใบหน้าสวยนั้น

“วันมะรื่นทางดาเองจะจัดแถลงข่าวค่ะ แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เรื่องนั้น ดาไม่แคร์เรื่องข่าวค่ะ เพราะเดี๋ยวก็เงียบกันไปเอง”

“มีปัญหาอื่นอีกหรือคะ”

ปิรัญเป็นคนถามขึ้น ไอรดาพยักหน้า ก่อนที่เธอจะล้วงซองกระดาษออกจากกระเป๋าของเธอออกมาวางบนนิตยสารบนโต๊ะ

“นี่คือรูปสภาพบ้านของดาหลังจากที่ข่าวนี้ออกมา และนี่คือแผลที่ดาได้จากคนที่พยายามผลักดาให้ถูกรถชน วันที่เพิ่งกลับจากปารีสค่ะ”

มัลลิกาจ้องแผลที่เป็นทางยาวที่แขนของไอรดา เมื่อเธอถอดเสื้อแขนยาวออกจากตัว มีรอยช้ำอยู่หลายที่ ส่วนปิรัญที่เปิดดูรูปในซองกระดาษสีน้ำตาลนั้นก็ถึงกับอ้าปากค้าง

“ไอ้ไหม......ไม่ธรรมดาเลยนะเนี๊ยะ”

ปิรัญพูดกับมัลลิกา ซึ่งเธอก็หันมาพินิจรูปที่ปิรัญส่งให้ดู สภาพบ้านเดี่ยวสุดหรูของไอรดาดูแทบไม่ได้ ตามกำแพงบ้านมีทั้งสีน้ำมันสีต่าง ๆ ป้ายเต็มไปหมด มีรอยขีดเขียนด่าทอสารพัด หากมองดี ๆ ตัวบ้านสีขาวสะอาดก็มีสภาพไม่ต่างกัน กระจกหน้าต่างมีรอยถูกของแข็งปาใส่จนแตกกกระจาย

ที่หนักสุดจนมัลลิกาไม่อยากจะดูคงเป็นภาพของซากสัตว์ ไม่ว่าจะแมว สุนัข หนู มีเลือดอาบวางกองอยู่หน้าบ้านหลังสวยนั้น

“ดาแจ้งความแล้วนะคะ แต่ทุกอย่างก็เงียบหาย”

ไอรดาพูดขึ้น เธอเอาเสื้อแขนยาวมาสวมใส่

“เป็นอย่างนี้มากี่วันแล้ว....” มัลลิกาเอ่ยถาม

“วันแรกที่ดากลับมาถึงเมืองไทยค่ะ พอถึงบ้านก็เจอกับสภาพนั้นแล้ว เจอทุกวัน ช่วงก่อนหน้าที่จะตามใบหม่อนมาที่นี่ ดาไปอยู่กับใบหม่อนค่ะ แต่ว่า......”

“ซากศพลูกหมาเพิ่งอยู่หน้าบ้านของพี่เมื่อเช้าค่ะ นั่นหมายความว่า คนที่ทำรู้ว่า ดาอยู่ที่ไหนกับใคร เลยตามรังควานต่อ ตำรวจก็ไม่ทำอะไรเลยค่ะตัวไหม พี่ไม่รู้จะไปให้ใครช่วยแล้วค่ะ พี่เลยคิดว่า ที่นี่...ตัวไหมอาจจะช่วยได้”

“คงเป็นผู้มีอิทธิพลที่สั่งทำอย่างนี้ คงไม่ชอบที่คุณใกล้ชิดกับคุณพระเอกอะไรนั่น”

ปิรัญเอ่ยสรุปสั้น ๆ ถึงสาเหตุสภาพบ้านของไอรดา ทุกคนพยักหน้า

“ผู้หญิงที่คบอยู่กับคุณอนุวัฒน์ตอนนี้ เป็นลูกสาวของนักการเมืองนะคะ” ไอรดาเอ่ยถึงข้อมูลบางอย่างที่เธอพอจะรู้จากวงการข่าวมาบ้าง

“ตัวไหมคะ คือจะว่าอะไรไหมคะถ้าพี่จะขอให้ตัวไหมอนุญาตให้ดาพักอยู่ที่นี่สักระยะหนึ่งนะคะ พี่คิดว่าที่นี่ ปลอดภัยสำหรับยัยดาที่สุดแล้ว” ศรัญรัตน์เอ่ยขึ้น ถึงสาเหตุที่เธออยากจะรบกวนมัลลิกา

“คือดาคงรบกวนไม่นานหรอกค่ะ แค่ช่วงที่เกิดเรื่องยุ่ง ๆ นี้เท่านั้นแหละค่ะ คือตอนนี้ดายังติดงานที่กรุงเทพอยู่ เลยยังไปไหนไม่ได้ ถ้าเสร็จงานแล้ว ดาคงจะไปพักที่ต่างจังหวัดสักระยะนะคะ”

ทุกคนเงียบ เพราะต่างรู้ว่ามัลลิกาคือผู้ตัดสินใจทุกอย่าง ใบหน้าที่เรียบเฉยของมัลลิกาทำให้ทุก ๆ คนคิดไปต่าง ๆ นานา เพราะเดาความคิดของมัลลิกาไม่ออก

“ถ้าคุณดาไม่ขัดข้องที่จะต้องอยู่ร่วมกับเจ้ารัญ ดิฉันก็ไม่มีปัญหาค่ะ อาจจะต้องแย่งเตียงนอนกันนิดหน่อยนะคะ”

“และแน่นอน ฉันไม่เสียสละที่นอนนุ่ม ๆ ของเจ้าไหมง่าย ๆ หรอกนะคุณดา งานนี้ใครเร็วใครได้ค่ะ”

ปิรัญเอ่ยสำทับมัลลิกา ทั้งสองสาวตรงหน้า ยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ

“ขอบคุณมากค่ะคุณมัลลิกา”

“เรียกว่าไหมก็ได้ค่ะ คุณดา”

“ค่ะ”

“ที่นี้เราก็เดินทางกันได้แล้วมั้งค่ะพี่หม่อน เดี๋ยวจะถึงที่โน้นช้านะคะ”

มัลลิกาหันไปถามศรัญรัตน์ที่นั่งยิ้มให้กับเธออยู่

“ได้ค่ะ คุณรัญคะ ฝากดูแลยัยดาสักระยะนะคะ”

“ได้คะ เดินทางปลอดภัยนะคะ”

“ค่ะ” ศรัญรัตน์รับคำปิรัญง่าย ๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเมื่อมัลลิกาลุกขึ้นยืนพร้อมกับหิ้วกระเป๋าเดินทางพร้อมกับกระเป๋าโน้ตบุครอ

“ดูแลตัวเองนะดา แล้วจะเที่ยวเผื่อ”

“จ้ะ”

ทั้งศรัญรัตน์และมัลลิกา เดินออกมานอกตัวบ้าน โดยมีปิรัญและไอรดาเดินมาส่งที่รถ

“นี่กระเป๋าของคุณดาค่ะ”

มัลลิกาพูดพร้อมกับส่งกระเป๋าเสื้อผ้าของไอรดาที่ศรัญรัตน์หิ้วออกจากท้ายรถมาให้ ไอรดารับกระเป๋ามาวางไว้ที่ข้างกาย

“เที่ยวให้สนุกนะ”

ทั้งศรัญรัตน์และมัลลิกาพยักหน้าเป็นคำตอบให้กับปิรัญ ก่อนจะขึ้นรถไปโดยมีศรัญรัตน์เป็นคนขับ

“หวังว่าบ้านฉันคงไม่พังนะไอ้รัญ”

“ฮ่า ๆ ถ้าแกไม่มีของฝากกลับมานะ”

“ไปละ...ดูบ้านด้วย”

“โอเค...”

แล้วกระจกรถของศรัญรัตน์ก็เลื่อนปิด พร้อม ๆ กับที่รถของเธอเลื่อนออกรั้วบ้านของมัลลิกา

“เอาละทีนี้เรามาคุยเรื่องของเราก่อนดีกว่า.....”

“เรื่องของเรา????”

ไอรดาทวนคำพูดของปิรัญงง ๆ ปิรัญพยักหน้ายิ้ม ๆ ให้กับอาการนั้นของสาวสวยตรงหน้า

“บอกแล้วใช่มั้ยว่า จะไม่ยอมเสียที่นอนของเจ้าไหมเด็ดขาด เรามาตกลงกันดีกว่าว่าใครจะได้นอนที่เตียงนั้น”

“คุณไม่คิดจะสละให้สุภาพสตรีหรือคะ คุณสุภาพทอม” ปิรัญเลิกคิ้วกับสรรพนามที่ไอรดาเรียกเขา “สุภาพทอม”

“รู้ด้วยว่าเป็นทอม”

“เห็นก็รู้แล้วล่ะคะคุณ....”

“งั้นก็คงไม่ต้องคะ ขา แล้วสินะ แต่เรื่องเตียงยังไงก็ยอมไม่ได้จริง ๆ ”

“แล้วจะให้ทำยังไงละ”

ไอรดากอดอกมองร่างสูงของปิรัญ เธอคิดว่าเธอเป็นคนที่สูงแล้วนะ แต่ดูท่าปิรัญจะสูงกว่าเธอซะอีก เพราะเธอต้องช้อนตาขึ้นมองเขาตลอด ตั้งแต่ยืนคุยกันมา

“ง่ายนิดเดียว.... จากตรงนี้ ใครวิ่งไปถึงเตียงเจ้าไหมก่อนชนะ เอาละ 1....2....3....เริ่ม”

ไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายตอบตกลงปิรัญก็สาวเท้าออกวิ่ง ตรงไปยังตัวบ้าน โดยไม่ฟังเสียงโวยวายของไอรดาเลย

“อีตาบ้า!!! พูดแล้วก็วิ่งไปอย่างนั้นใครจะวิ่งทันเล่า ฉันยังมีกระเป๋าอีกนะ โอ้ย!! นี่ฉันต้องนอนพื้นหรอไงเนี๊ยะ?”

“ก็มัวแต่ยืนบ่นเป็นยายแก่อยู่นั่น ก็สมควรที่จะนอนพื้นแล้วแม่คุณ” ปิรัญโผล่หน้าออกมาตะโกนกลับ

ภาพที่ปิรัญเห็นตอนนี้ก็คือ ดาราคนสวยกำลังยืนเท้าสะเอว ส่งสายตาเขียวปั๊ดมาให้เขา ก่อนที่เธอจะกระทืบเท้าอย่างขัดใจ......แล้วหิ้วกระเป๋าเข้ามาในตัวบ้าน พร้อมทั้งบ่นอุบอยู่คนเดียว

“ตาบ้า.....”









งืมมม.......ฮ้าย~~

มีเรื่องมาแปะให้อ่านกันค่ะ......แต่บอกไว้ก่อนนะเรื่องนี้ อาคาริไม่ใช่คนเขียนค่ะ

คือคนพิเศษของอัคจังเป็นคนเขียน แต่ไม่รู้ทำไมไม่เอาลงเอง เลยแอบเอาลงให้อ่านกัน

หุหุ.......

ติชมกันได้นะคะ....จะให้สนุก ลองทายดูมั้ยค่ะ ว่าใครเป็นคนเขียนเรื่องนี้ เขาคนนี้ เคยเอาเรื่องลงที่บอร์ดนี้ แล้วก็ฮ๊อตติดบอร์ดซะด้วย.......

ลองทายกันสนุก ๆ นะคะ


~Mibu Akari~




"......อย่าลืมเม้นต์กันนะจ๊ะ....."


ตอนที่ 2 >



Create Date : 26 มกราคม 2550
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2550 17:23:34 น. 0 comments
Counter : 545 Pageviews.

samurai_KYO
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"ข้าคือ...มิบุ ซา'เคียว"

Friends' blogs
[Add samurai_KYO's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.