Bloggang.com : Metallurgist : Here Comes Metal: Incredible Metal Albums of the Year 2005 (Part II)

Here Comes Metal: Incredible Metal Albums of the Year 2005 (Part II)

Here Comes Metal: Incredible Metal Albums of the Year 2005 (Part II)

Dragon Force-Inhuman Rampage (Extreme melodic power metal)

Tracks List
1. Through the Fire and Flames (7:21)
2. Revolution Deathsquad (7:52)
3. Storming the Burning Fields (5:19)
4. Operation Ground and Pound (7:44)
5. Body Breakdown (6:58)
6. Cry for Eternity (8:12)
7. The Flame of Youth (6:41)
8. Trail of Broken Hearts (5:57)

เอ่อ.....จริง ๆ แล้วยังไม่ค่อยอยากพูดถึงอัลบั้มนี้เท่าไหร่ครับเนื่องจากว่าวันที่ผมเขียนบล็อกอยู่นี้ Inhuman Rampage ยังไม่ออกวางจำหน่ายเลยครับ พอเข้าไปตรวจดูเวปไซต์ของทางวงปรากฏว่ากว่าอัลบั้มจริง ๆ จะออกมาอย่างเป็นทางการก็วันที่ 9 มกราคม ปีหน้าโน่น แต่ให้ตายเถอะครับ แต่ด้วยการใช้วิชามารบางอย่างทำให้ผมได้ฟังอัลบั้มนี้ไม่รู้จะกี่รอบแล้วร่วม ๆ เดือนแล้วด้วยสิครับ เลยรู้สึกคันปากอยากเล่าซักหน่อย ก็เลยถือโอกาส ณ ที่นี้พูดถึงอัลบั้มนี้ล่วงหน้าหนึ่งเดือนละกันครับคิดเสียว่าเป็นอัลบั้มสุดยอดในปี 2005 ของผมละกันนะครับ

ผมเริ่มทำความรู้จักกับวงเพาเวอร์เมทัลจากอังกฤษก็เมื่อครั้งที่พวกเขามาเล่นคอนเสิร์ตในบ้านเราเมื่อสองปีก่อนโน่นแหละครับ สมัย Valley Of The Damn พวกเขาเรียกตัวเองว่า extreme power metal สำหรับ Inhuman Rampage อัลบั้มใหม่ของ Dragon Force ขอรับรองได้ครับว่าโคตรพ่อโคตรแม่สดสุดยอดจริง ๆ ทั้งแปดแทร็คคือเมทัลลมกรดที่เงี่ยหูฟังแทบไม่ทัน Herman Li กับ Sam Totman กีตาร์คู่สไตล์นีโอคลาสสิคแม่งลีดกันกระจายหูดับตับไหม้กันไป ท่อนริฟสับแหลกจนเนื้อโน๊ตแหลกละเอียดเพลงส่วนใหญ่ความยาวเกินห้านาทีกันทั้งนั้น ภาคดนตรีในทุก ๆ เพลงเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โซโล่เจ๋ง ๆ มีเป็นไร่ยาวสุดลุกหูลูกตา ฟังแล้วไม่เอียนครับช่างเหมาะสำหรับท่านที่ชื่นชอบกีตาร์แนวฮีโร่เป็นอย่างยิ่ง

เจ็ดเพลง ณ ที่นี้เป็นเพลงเร็วที่เน้นรายละเอียดทุกสัดส่วนทุกชิ้นของเครื่องดนตรีหมดทุกเพลงครับ อินโทรในแต่ละเพลงจะถูกเชื้อชวนด้วยสารพัดตัวโน๊ตที่เกิดจากนิ้วที่วิ่งไต่และบดขยี้ไปตามเส้นลวด ตัวอย่างเช่น Cry For Eternity (ความยาว 8:12 minutes) คือโปรเกสซีพเพาเวอร์เมทัลที่รายละเอียดเยอะมาก ๆ ครับ กีตาร์และคีย์บอร์ดผลัดกันรับส่งไปมาในท่อนแยกฟังแล้วทึ่งอึ้งเสียวกันไป (แต่อย่าคาดหวังว่าจะได้ยินเสียงคีย์บอร์ดที่หวือหวาอย่างฟัง Octavarium ของ Dream Theatre นะครับ) ผมเดาไม่ออกว่า ZP (vocal) จะเอาเวลาไปทำอะไรบนเวทีในช่วงโซโล่ยาวเหยียดในเพลงนี้ครับ แทร็คสุดท้าย Trail Of Broken Hearts คือเพลงบัลลาดไพเราะเพลงเดียวในอัลบั้ม ขึ้นอินโทรด้วยซาน์ดคีย์บอร์ด/เปียโนเหงาเศร้า เทมโปของเพลงนี้ทำให้ผมได้ผ่อนคลายหูขึ้นบ้าง ได้อารมณ์เย็น ๆ เบา ๆ คล้ายกำลังฟัง Goodbye to Romance หรือ Dreamer ของป๋า Ozzy ยังงัยยังงั้นครับ

นับได้ว่าเป็นอัลบั้มที่โคตรจะคุ้มค่าแน่นอนครับหากวางแผงเมื่อไหร่ผมก็คงไม่พลาดล่ะครับ ถือได้ว่าเป็นอีกคณะนึงที่สมาชิกทุกชีวิตคือนักดนตรีที่เปี่ยมฝีมือหาตัวจับยากครับพวกเขาเริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในระดับสากลมากขึ้นก็เพราะเหตุนี้แหละครับ ใครสนใจลองฟังเพลง Through the Fire and Flames ก็ลองแวะไปเยี่ยมชม/ฟังได้ด้วยตัวเองที่เวปไซต์ของทางวงได้นะครับ

EXODUS-Shovel Headed Kill Machine
(Thrash metal)

หากมีการจัดอับดับ Five kings of thrash metal หรือThe Big Five แล้วล่ะก็ Exodus ก็คงเป็นหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน การกลับคืนสู่รากเหง้าทางดนตรีของวงเจ้าพ่ออเมริกันแธรชเมทัลจากเบย์แอเรีย เมื่อปีที่แล้วกับอัลบั้ม Tempo Of The Damned คือหลักฐานชิ้นสำคัญที่ยืนยันได้ว่าพวกเขายังคงเป็นที่รักยิ่งของเหล่า Thrasher จากทุกมุมโลก สตูดิโออัลบั้มลำดับที่เจ็ด Shovel Headed Kill Machine คือการตอกย้ำความรวดเร็วและหนักกบาลตลอดชวงเวลาร่วม 56:56 นาที Raze แทร็คเปิดอัลบั้มที่ได้รสชาติแธรชของแท้ ๆ อันหอมหวน ขณะที่ท่อมโซโล่ในแทร็คถัดไป Deathamphetamine (8:30 นาที) อาจเป่าขี้เลื่อยในสมองของคุณให้กระจุยได้ สาวกเมทัลที่อยากสัมผัสอัลบั้ม Great Thrash Metal of the Year 2005 แล้วล่ะก็ แนะนำให้ไปห่อัลบั้มนี้มาฟังโดยด่วนครับ ไม่ผิดหวังแน่แท้

Nile - Annihilation Of The Wicked
(Death metal)

อัลบั้มใหม่กับมือกลองคนใหม่ George Kollias (Ex-Nightfall) พวกเขายังให้ความคำคัญกับท่อนริฟและโซโล่ที่ซับซ้อนผสมผสานซาวน์ดของ Eastern instrumental แบบอิยิปต์อยู่เช่นเคย แต่ขอโทษครับพวกเขาเป็นวงจาก South Carolina โน่น เหมือนเคยครับ Nile เป็นยังคงบรูตัลเดธที่ทีแบล็คกราวน์ดหนักหน่วงแต่เร็วจี๋กว่าวงในตระกูลเดียวกัน ณ ปัจจุบันนี้พวกเขาได้ผงาดขึ้นเป็นวงอเมริกันเดธเมทัลชั้นหัวแถวหาใครเทียบรัศมีค่อนข้างยากเลยทีเดียวไปแล้วครับ ผมได้มีโอกาสดูพวกเขาเล่นโชว์สด ๆ ร่วมชั่วโมงเศษ ๆ รับประกันความโหดชัวร์ ๆ พวกเขาเปี่ยมไปด้วย musicianship แต่ทำตัวเรียบง่ายติดดินยิ่งนัก ใครสนใจเดธเมทัลเจ๋ง ๆ ล่ะก็อัลบั้มนี้ของดีแน่นอนครับ ยิ่งตามเก็บอัลบั้มเก่า ๆ อันทรงคุณค่าของพวกเขาได้ก็ยิ่งดีครับ
Trivium – Ascendancy
(Metalcore)

ปีนี้นับเป็นปีที่ดนตรี NWOAHM (New Wave Of American Heavy Metal) หรือMetalcore มาแรงกันซะเหลือเกินจนเกร่อคล้าย ๆ กับยุคของนิวเมทัลอย่างงัยอย่างงั้น แต่โดยส่วนจัวแล้วผมชอบดรตรีประเภทนี้ว่ะ มันดูมีน้ำมีนวลและสาระมากกว่าพวกนิวเมทัลหรือแร๊ปเมทัลเมื่อซักสองสามปีก่อน ๆ อย่างไรก็ตามครับวงเมทัลคอร์ที่โดนใจกระผมมีเพียงไม่กี่วงแต่หนึ่งในนั้นก็คือ อัลบั้มนี้ครับ Ascendancy จากคณะ Trivium แห่งฟลอริดา กลายเป็นวงที่มีชื่อเสียงไปแล้วครับ เครื่องดนตรีทุกชิ้นทำงานประสานกันอย่างลงตัวโคตรโดยเฉพาะกีตาร์คู่ Matt Heafy อายุ 18 ปี (ร้องนำด้วย) กับ Corey Beaulieu คือจุดเด่นของอัลบั้มนี้เลยก็ว่าได้ครับ โดยภาครวมแล้ว Ascendancy อาจเข้าขั้นเป็นเมโลดิกเดธเมทัลชั้นเยี่ยมเลยก็ได้หากเพิ่มความโหดเข้าไปอีกซักนิด ทั้งภาคดนตรีและร้องนำครับ

Old Man’s Child - Vermin
(Black metal)

อัลบั้มเต็มลำดับที่หกของวงแบล็คเมทัลที่มีสายสัมพันธ์เดียวกับ Dimmu Borgir มีการเปลี่ยนแปลงสมาชิกกันอยู่เสมอทุกครั้งที่ทางวงออกอัลบั้มใหม่ว่าแต่ว่าใครเป็นใครก็ติดตามกันเอาเองครับขี้เกียจจะจำแล้ว รู้แต่ว่า Galder คือสมาชิกดั้งเดิมของวงแน่นอน (หนึ่งในสมาชิก Dimmu Borgir) พูดถึงภาคดนตรีดีกว่าครับ โดยรวมแล้วไม่แตกต่างอะไรกับดนตรีในแบบ Dimmu Borgir มากนักคือ เป็นแบล็คเมทัลที่เน้นโมโลดี้ ซาวน์ดคีย์บอร์ดรวมไปถึงภาคอคูสติกด้วย ดนตรีแบบ fast/raw black ไม่ใช่ประเด็นหลักของอัลบั้มนี้แน่นอน นอกจากนี้ยังได้กลิ่นไอของเมโลดิกเดธเมทัลอันหอมหวลตลบอบอวนอยู่ทั่วทั้งอัลบั้มเช่นกัน

Cathedral - The Garden Of Unearthly Delights
(Doom/stoner metal)

วงนี้คือวงขวัญใจของ Metallurgist มาร่วมกว่าสิบปี (ตั้งแต่ครั้งยังเป็น doom/death) สมัยก่อนผมตามเก็บเทป VMP ของวง English doom/stoner metal ที่เดินตามรอยทาง Black Sabbath วงนี้มาได้เกือบแทบทุกอัลบั้ม (ตอนนี้ไปอยู่ไหนกันบ้างก็ไม่รู้) ตามความคิดผมซาวน์ดของวงนี้มันโยกหัวได้สะใจดีแท้ ท่อนริฟท่อนโซโล่ไสตล์สโตเนอร์มันส์สะใจโก๋เท่ห์มาก ไซคลีเดริกฉาบบาง ๆ ชวนมึน ๆ เช่นเคย อัลบั้มนี้ Lee Dorrian (Ex-Naplam Death) ยังคงถือธงรบนำสมัครพรรคพวก ออกมาวาดลวดลายสุดแจ่มกันอีกครั้ง เปิดอัลบั้มโคตรเฮฟวี่ด้วยดนตรีก้าวร้าว Dearth AD 2005 ตามด้วย Tree OF Life And Death แะเพลงอื่น ๆ ที่ให้อารมณ์ต่อเนื่องกันไปตลอดทั้งอัลบั้ม เสียงร้องของ Dorrian ยังคงเอกลักษณ์เช่นเคย The Garden เป็น epic stoner ที่บรรเจิดยิ่งความยาว ร่วม 27 นาที อัลบั้มนี้ขอยกไว้เป็นของขึ้นหิ้งเลยจะดีกว่า

Opeth-Ghost Reveries
(Progressive doom/death metal)

ทุกอัลบั้มที่ Opeth สร้างสรรค์ขึ้นมานั้นดูเหมือนจะได้รับการให้ความสนใจวิพากษ์วิจารณ์อยู่เสมอ อัลบั้มมหากาพย์นี้ก็เช่นกัน มันคืองานที่เหล่าสวีดิชกลุ่มนี้แสดงให้เห็นว่าพวกเขายิ่งใหญ่ขนาดไหน จากวงเมทัลใต้ดินที่เล่นดนตรีในแแบเดธเมทัลจนณ ปัจจุบันพวกเขาได้พัฒนาไอเดียและฝีมือในงานดนตรีไปไกลกว่าจุดเริ่มนั้นเสียแล้ว ยิ่งการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Roadrunner Records ด้วยแล้ว ทำให้ชื่อของพวกเขาขจรไกลได้อย่างไม่ยากนักในขณะที่จุดยืนของพวกเขายังคงไม่เปลี่ยนแปลง ดนตรี progressive ที่คลุกเค้าผสมกับความหนักแน่นของดูม/เดธเมทัลมันโคตรจะคลาสสิคเหนือคำบรรยาย มันคืออัลบั้มที่ใครจะฟังก็ได้ไม่จำเป็นว่าคุณต้องเป็นพวกเมทัลเฮดก็ได้ ใครชอบ Pink Floyd หรือ King Crimson ก็สามารถ enjoy ได้ชัวร์ ๆ อัลบั้มนี้ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมมาก ๆ ครับ ให้ตายเหอะผมพูดอะไรไม่ออกครับสำหรับอัลบั้มนี้ตื้นตันใจแทนว่ะ

Children Of Bodom-Are You Dead Yet?
(Melodic death)

อัลบั้มที่เค้าว่ากันว่าดีที่สุดตั้งแต่พวกเขาดำรงชีวิตอยู่บนโลกของเมทัล วงฟินนิชวงนี้ยังคงเป็นวงเมโลดิกเมทัลที่เน้นความเร็วของตัวโน๊ตจากเครื่องดนตรีทุกชิ้น คีย์บอร์ดคือตัวชูโรงที่สำคัญมาตั้งแต่อัลบั้มแรก ๆ Alexi (ร้องนำ/กีตาร์) สุดหล่อยังคงเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของทางวง ชายผู้นี้มากไปด้วยฝีมือหาตัวจับยาก ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกีตาร์ฮีโร่ของวงการเมทัลเลยทีเดียวร้องด้วยโซโล่ด้วยเนียนโคตร ๆ อัลบั้มนี้ฟังเพลินดีแท้ ๆ ครับ เมื่อตั้งอกตั้งใจฟังให้ดีจะพบว่าดนตรีในอัลบั้มนี้ถูกปูพื้นด้วยอิทธิพลของเพาเวอร์ไปจนถึงแทรชเมทัลที่โชว์ลีลาเทคนิคกันอย่างเต็มที่น่าฟังมากครับ แนะนำมาเพราะคุ้มค่าเม็ดเงินของคุณแน่นอน

Roadrunner United – The All Star Sessions(Roadrunner metal style)

อัลบั้มรวมสุดยอดเมทัลเฮดจาก Roadrunner Records สังกัดค่ายเพลงเมทัลยักษ์ใหญ่ที่อายุอานามปาเข้าไป 25 ขวบแล้ว ด้วยโอกาสนี้เอง อัลบั้มนี้จึงเป็นสุดยอดของกำนัลแก่แฟน ๆ ชาวหูเหล็กที่ต้องการงานแบบคุณภาพที่ 18 แทร็ค (เพลงใหม่) นั้นอัดแน่นไปด้วยอณูเดือดแห่งดนตรีหนักกระโหลกที่สร้างสรรค์โดยเมทัลเฮด 56 ชีวิตจากวงดนตรี 44 วง จริง ๆ แล้วอัลบั้มชุดนี้ประกอบได้ด้วยนักดนตรี 4 กลุ่มใหญ่ ๆ ซึ่งแต่ละกลุ่มนั้นก็จะมีหัวหน้ากลุ่มหนึ่งคนซึ่งได้แก่
1.Robert Flynn (Machine Head, ex-Vio-Lence, ex-Forbidden Evil)
2.Dino Cazares (ex-Fear Factory, ex-Brujeria),
3.Joey Jordison (Slipknot, Murderdolls)
4.Matthew Heafy (Trivium, Capharnaum)

ในแต่ละกลุ่มนั้นก็จะเกณฑ์นักดนตรีดัง ๆ เจ๋ง ๆ มากหน้าหลายตาเข้ามาร่วมงานกัน ทำให้ดนตรีเมทัลในอัลบั้มนี้มีความหลากหลายมากครับ เรียกได้ว่า Roadrunner มีอะไรเด็ด ๆ ก็งัดเอาออกมาโชว์กันคนละนิดละหน่อยว่างั้นผสมผสานกันทุกแขนงไม่ว่าจะเป็น Black, death, doom, hardcore, metalcore, emo, thrash, heavy ในอัลบั้มนี้มีครบเต็มอิ่มทุกรสชาติแน่นนอนครับ
***รายชื่อศิลปินที่พอจะจำได้มีใครกันบ้างก็ดูกันเอาเองนะครับ

Howard Jones (Killswitch Engage)
Mark Hunter (Chimaira)
King Diamond (King Diamond, Mercyful Fate)
Max Cavalera (Soulfly, ex-Sepultura)
Corey Taylor (Slipknot, Stone Sour)
Dez Fafara (Devildriver, ex-Coal Chamber)
Kyle Thomas (Floodgate, ex-Exhorder)
Cristian Machado (Ill Nino)
Glen Benton (Deicide)
Dani Filth (Cradle Of Filth)
Matthew Heafy (Trivium)Keith Caputo (Life Of Agony)
Jesse David Leach (Seemless, ex-Killswitch Engage)
Tim Williams (Bloodsimple, ex-Vision Of Disorder)
Daryl Palumbo (Glassjaw, Head Automatic)
(Michale Graves (ex-Misfits)
Mikael Ǻkerfeldt (Opeth)
Josh Silver (Type O Negative)
Peter Steele (Type O Negative)etc..

Redemption - The Fullness Of Time(Progressive metal)

นี่คืออีกหนึ่งอัลบั้ม progressive (power) metal ที่สมควรได้รับการสนับสนุนให้เป็นอัลบั้มยอดเยี่ยมแห่งปี สำหรับอเมริกันวงนี้ครับ แม้ว่าอัลบั้มแรกเมื่อสองปีที่แล้วไม่ได้สร้างชื่อให้กับพวกเขาได้เท่าไหร่นักแต่อัลบั้มนี้กลับเกินความคาดหมายครับ มีการเปลี่ยนไลน์อัฟกันบ้างจนเกิดความลงตัว และอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มีกลิ่นไอของ Fate Warning อยู่ตรึมเช่นเคยเพราะมีสมาชิกของวงนี้ร่วมอยู่ด้วยอีกเช่นเคย นักร้องนำเองก้ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ Ray Alder นั่นเองอัลบั้มนี้เขารับตำแหน่งร้องนำอย่างเต็มตัวครับ พูดถึงดนตรีในอัลบั้มนี้เป็น prog.metal ที่ลงตัวมากครับทั้งเนื่อหาและภาคดนตรีที่มีท่อนริฟ/โซโล่เด็ด ๆ กับคีย์บอร์ดที่สร้างซาวน์ดอลังห์กาลได้อย่างพิถีพิถัน Threads แทร็คเปิดอัลบั้มด้วยลีลาท่อนริฟในแบบแธรช/เพาเวอร์สอดรับกับคีย์บอร์ดคือโพรเกสซีฟคุณภาพเยี่ยมครับ ยิ่งการมี Alder มาร่วมงานด้วยก็ไม่ต้องสารธยายแล้วล่ะครับ แทร็คต่อมา Parker’s Eyes กับ Scarred (หนักที่สุดในอัลบั้ม) นั้นเนื้อหาเกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์วันที่ 11 ก.ย.ส่วนเนื้อหาแบบ epic ก็หาฟังได้จาก Sapphire ความยาว 15:55 นาที ทุก ๆ เพลงที่เหลือนั้นต่างก็มีลักษณะเฉพาะในตัวให้คุณได้สัมผัสด้วยเองสำหรับคอโพรเกสซีฟครับ ตามที่ทางวงบอกไว้ล่ะครับว่าพวกเขาได้อิทธิพลมาจาก Kansas, Savatage, Iron Maiden, Fates Warning, Dream Theater, Rush และ Megadeth. ดังนั้นใครเป็นแฟน ๆ ของวงดังกล่าวเหล่านี้ก็สามารถเข้าถึงและมันส์สุด ๆ กับ The Fullness Of Time แน่นอนครับ

Hypocrisy-Virus (Death metal)

วงเดธเมทัลจากสวีเดนที่ยังคงสามารถยืนหยัดในฐานะวงดนตรีเดธเมทัลระดับพระกาฬ นับได้ว่าเป็นวงรุ่นบุกเบิกของประเทศนี้เลยก็ว่าได้แต่ซาวน์ดของ Hypocrisy นั้นหาใช่สวีดิชเดธเมทัลเพรียว ๆ ไม่ เพราะจวบจนอดีตจนถึงอัลบั้มปัจจุบันนี้พวกเขาทำดนตรีออกมาแบบผสมผสานกับอเมริกันโอสคูลเดธมทัลสุดเถื่อนแต่เปี่ยมไปด้วยเทคนิค Peter Tagtgren จ้าวแห่งโปรเจคในสายพันธ์เมทัล เขาคืออัจฉริยะและเจ้าพ่อแห่งวงการ Gothenburg Metal ตัวจริงเสียงจริง อัลบั้มนี้ยังคงคุณภาพเต็มเปี่ยมในทุก ๆ ด้านโดยเฉพาะซาวน์ดและการโปรดักชั่นที่โคตรจะเนียนด้วยวัตถุดิบทั้งหลายทั้งปวงจาก Abyss Studio นั่นเอง อัลบั้มนี้ยังคงเป็นเดธเมทัลที่เข้มข้นแฝงไปด้วยเมโลดี้ในแบบเมโลดิกเดธ/แธรชตลอดทั้งอัลบั้มภาคกลองนั้นได้ Horgh (ex-Immortal) มาช่วยกระหน่ำย้ำความดุเดือดเลือดพล่านได้ถึงใจหายห่วงแน่นอน Hypocrisy กลับมาอีกครั้งด้วยแนวทางดิมที่พวกเขายึดมั่นมาสิบกว่าปี และVirus ก็คือเดธเมทัลแท้ ๆ มาตรฐานตามหลักสากลอย่างไม่ต้องสงสัย

The Part III is coming up next!!!

Create Date : 28 พฤศจิกายน 2548

Last Update : 11 ธันวาคม 2548 23:04:31 น.

13 comments

Counter : 860 Pageviews.

อะโหยสุดยอด

ขอพูดถึงเเต่วงที่เคยฟังนะครับ วงที่ไม่เคยฟังก็ถือว่า
อ่านเปิดโลกทัศน์ของผมก็เเล้วกันครับ เยี่ยมเลยครับ

Dragonforce ผมมีทั้งสองอัลบั้มเลย เเต่อัลบั้มใหม่ที่อ่านนี้
อยากฟังจัง เห็นด้วยเลยว่าสองมือกีตาร์ อย่าง Lee กับ Sam
เนี่ยเเม่งสุดยอดเเห่งความบ้าพลัง มันเล่นไปได้ยังไงเร็ว
ปานนั้นมีคนว่าเร็วเเต่ไร้ความสวยงายด้วยนะครับ เเต่ผมไม่
สนใจอ่ะ ชอบฟัง คือเเนวเมทัลเนี่ยผมบ้า Power Metal
สุดๆเเล้วอ่ะครับ เฮ้อ สงสัยต้องมีการงัดวิชามารมาใช้บ้างเเร้ว

Exodus , Trivium กับ Cathedral ผมเคยฟังผ่านๆน่ะครับ บอกอะไร
ไม่ได้มากเหมือนกัน ส่วน Opeth ชุดนี้ผมได้มาเเล้วเเต่
ยังไม่ได้ฟังเป็นชิ้นเป็นอันเลยครับ Opeth นี่ผมชอบชุด
Still Life มากเลย เเต่ก่อนฟังบ่อยครับ เดี๋ยวนี้มันหาย
ไปเเล้วเสียดายจัง

Children Of Bodom นี่ก็ไม่ต้องพูดถึง ชอบ Alexi เหมือนกันครับ
จนต้องไปหา Synergy มาฟังควบคู่ด้วย เป็นบางเวลา อิอิ
ล่าสุดได้ฟัง COB เล่นคัฟเวอร์เพลง Britney Spear ด้วย
เลยตกใจเล็กน้อย ชุดนี้ได้วิชามารมาจากเพื่อนครับ ยังไม่ได้
ฟังเลย เดี๋ยวหลังจากอ่านรีวิวเเล้ว คงได้งัดขึ้นมาโยกหัวล่ะครับ

ที่เหลือเคยผ่านตาเเต่ไม่เคยฟังครับ เเล้วจะไปหามาฟัง
ตามที่เเนะนำนะครับ สุดยอดครับ วันนี้

โดย: Dark Secret

วันที่: 2 ธันวาคม 2548 เวลา:20:19:00 น.

TRIVIUM น่าสนใจครับ ฝีมือดี กล้า อายุน้อย...ชอบดนตรี แต่ติดที่เสียงร้อง ไม่อยากให้สำรอกเท่าไหร่

โดย: สาหร่าย. (แร้ไฟ

) วันที่: 2 ธันวาคม 2548 เวลา:23:02:19 น.

ฟังไปสามเองคับ Nile, COB, Roadrunner United สำหรับข่อยแล้วต้อง Nile ถ้าไม่ติด 1 ในสุดยอดอัลบั้มแห่งปีนี้คงต้องทวงถามกันหน่อยแระ ท่าน Metallurgist ไม่ทำให้นัทจุงผิดหวัง