Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2549
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
6 พฤษภาคม 2549
 
All Blogs
 
OPETH LIVE IN SYDNEY 25/04/2006

These following passages contain only fucking low quality photos and some stupid sentences. Please do not consider them as the parts of an official review. Definitely, it is just an experience of someone who got fucked up in this fucking incredible metal gig. Enjoy!!



OPETH LIVE IN SYDNEY
25/04/06


สวีเดนคือต้นกำเนิดของวงดนตรีเมทัลจำนวนนับไม่ถ้วนที่ได้รับการให้เกียรติยกย่องในระดับสากลในฐานะของวงเมทัลที่ยิ่งใหญ่ซึ่งสร้างผลงานชิ้นยอดออกมาอันเป็นการเสริมฐานรากให้เข้มแข็งและพร้อมกับเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนชาวเมทัลนับร้อยพันล้านชีวิตทั่วโลกได้จดจำ และ ณ วินาทีนี้คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าในบรรดาวงสวีดิชเมทัลที่เป็นเจ้าแห่งมวลชนอีกวงหนึ่งนั้นก็คือ Opeth ผู้ยิ่งใหญ่นั่นเอง ร่วมสิบปีนับตั้งแต่พวกเขาออกอัลบั้มแรก อย่างเป็นทางการ Orchid ในปี 1995 กับทาง Candlelight จนกระทั่งอัลบั้มปัจจุบัน Ghost Riveries (2005) กับสังกัดยักษ์ใหญ่อย่าง Roadrunner Records ดนตรีของพวกเขาพัฒนาก้าวหน้าไปอยู่เสมอพร้อมไปกับแฟนเพลงที่นับวันยิ่งจะมีมากขึ้นตาม จากวง Scandinavian black/death metal เข้าสู่ progressive doom/death ที่ยังคงไว้ซึ่งรากเหง้าทางดนตรีโพรเกสซีฟ และฮาร์ดร็อคอย่าง Deep Purple, Rainbow, Pink Floyd และ King Crimson ด้วยรายละเอียดของดนตรีที่อลังการ ซับซ้อน หลากหลาย เมโลดี้ที่งดงามเป็นกระตั๊ก ๆ ที่แฝงอยู่ในความมืดหม่นตามแบบฉบับของ Opeth Sound และความยาวยืดของเพลงในแต่ละเพลงที่ถูกบอกเล่าไว้ด้วยเนื้อหาเชิงปรัชญารวมไปถึงด้านมืดของทั้งสามโลก








ปัจจุบัน Opeth กำลังทัวร์อย่างบ้าคลั่งไปทั่วเกือบทุก ๆ มุมโลกที่ที่แฟนเพลงกำลังรอคอยพวกเขาอยู่ อัลบั้มชุดล่าสุดนี้อยู่กับสังกัดใหญ่คงน่าจะมีส่วนผลักดันให้พวกเขามีความเพียบพร้อมมากขึ้นครับ Sydney Australia อยู่ในตารางทางเดินผ่านของทางวงด้วยครับเมื่อวันอังคารที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา สถานที่นั้นจัดขึ้นที่ The Big Top เวทีอินดอร์ขนาดยักษ์ในสวนสนุกแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า Lunar Park ในเขต North Sydney นั่งรถไฟลุยเดี่ยวแบบไร้ญาติมิตรเพื่อนฝูงออกจากในเมืองไปเพียงห้านาทีก้ถึงครับ คืนวันนั้นเป็นคืนที่โคตรจะหนาวเหน็บแถมฝนเสือกมาตกอีกดีที่ไม่หนักมากครับ ด้วยความที่กลัวว่าจะไปถึงช้าแล้วเสื้อทัวร์ของทางวงขายหมดเกลี้ยงก็เลยไปก่อนหน้าเวลาถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่งประมาณว่าจะไปเต็ดเตร่ก่อนครับ ปรากฏว่าพอไปถึงหน้าทางเข้าผมกลับต้องไปยืนต่อแถวแทนซึ่งหางแถวก็ประมาณ 150 เมตรได้มั๊งครับ เลยต้องยืนทนหนาวร่วม ๆ ชั่วโมงนั่นแหละครับกว่าจะได้เข้าไปในตัว venue ตอนนั้นวง The Eternal กำลัง เริ่มเล่นพอดีครับ วงนี้เป็นวง doom metal ชื่อดังของพวกอออสซี่เค้าครับ ผมเคยดูพวกเขาโชว์หลายครั้งครับวงนี้ ดนตรีดีออกไปทาง My Dying Bride กับ Paradise Lost ครับ การแสดงหนึ่งชั่วโมงนั้นไม่น่าตื่นตาตื่นใจเท่าไหร่ครับแต่ผมก็ตั้งใจดูอย่างใจจดจ่อจนจบครับ เพราะชอบพวกเขาและชอบ doom metal มานานแล้ว คนดูร่วม ๆ สามพันคนนั้นมีทุกเพศทุกวัยครับตั้งแต่เด็ก ๆ จนถึงคุณลุงคุณบป้า มีมากันทุกแนวทั้งเมทัลพันธ์โหดชุดดำ (ผมไปด้วยแนวนี้ครับ) ไปจนถึงพวกคนทำงานในออฟฟิทครับ นาน ๆ ทีผมจะเจอคอนเสิร์ตเมทัลที่มีผู้คนหลากหลายสไตล์มาดูครับ เท่าที่จำได้ก็มีในงานของ Nightwish, Anthrax, Metallica, Angra แล้วก็Children Of Bodom ครับ



Opeth ใช้เวลาเช็คซาวน์ดไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็ออกมาวาดลวดลายกันแล้วครับ ผมซึ่งเริ่มกรึ่ม ๆ ด้วยฤทธิ์เบียร์สองสามป๋องที่เพิ่งซัดไปก็รีบวิ่งไปแถวหน้าของเวทีเลยครับแต่ได้มุมขวาอ่ะเพราะมันโล่งสุดแล้ว สมาชิกทุกคนขึ้นเวทีพร้อมด้วยเพลงเปิด “Ghost Of Perdition” ซึ่งดึงฝูงชนได้เพียงในเพลงแรกที่มีความยาวสิบนาทีเศษ สมาชิกบนเวทีประกอบด้วย นักร้องนำ/กีตาร์ และหัวหน้าวง Mikael Åkerfeldt ซึ่งมาด้วยเครื่ององค์ทรงแต่งแบบสบาย ๆ กับเสื้อยืดวง Darkthrone นอกนั้นก็มี Peter Lindgren (กีตาร์) Martin Mendez (เบส) Per Wiberg (มือคีย์บอร์ดอย่างเป็นทางการคนแรกของวง) ส่วนมือกลองนั้น ได้ Devastator (Martin Axenrot) จากวง Witchery และBloodbath มาช่วยตีแทน Martin Lopez ระหว่าง world tour ด้วยเหตุผลด้านสุขภาพครับ (แม่งโม้ป่าวไม่รู้)



คืนนี้นอกจากทางวงจะเล่นโชว์ด้วยเพลง ที่โคตรยาวทุก ๆ เพลง อย่างเช่น Grand Conjuration (10 นาทีกว่าเหมือนกัน) จากอัลบั้มล่าสุดแล้ว พวกเขายังงัดเอาเพลงเก่า ๆ ตั้งแต่สมัยอัลบั้มยุคแรก ๆ มาเอาใจแฟน ๆ ครับ อย่างเช่น My Arms Your Hearse, White Cutler, The Leper Affinity และเอาใจขาเดธ/แบล็คทั้งหลายด้วย Under The Weeping Moon จากอัลบั้มแรก Orchid คนดูบ้านดีเดือดกันพอสมควรแต่ไม่รุนแรงกันมากนักเพราะดนตรีของ Opeth ไม่ค่อยเหมาะกับพวกบ้า mosh เท่าไหร่ครับ นอกจากนี้ยังได้กลิ่นควันอันหอมหวลรัญจวนจากวัชพืชพันลำที่สาวน้องแต่งตัวแบบพวกก็อธดูดปึ๊ด ๆ ๆ ทำเอาคนรอบข้างน้ำยายไหย๋ จริง ๆ แล้วผิดกฏหมายของที่นี่เค้าครับ อย่าว่าแต่ยาเสพติดเลยครับ การดูดแค่บุหรี่ในงานคอนเสิร์ตก็ถือว่าผิดกฏหมายแล้ว แถมพวก crowd surfing หรือ stage driving ก็ใช่ว่าจะถูกนะครับ แต่เรื่องอย่างนี้มันคุมกันค่อนข้างยากครับ เลยมีให้เห็นอยู่ตลอดเกือบทุก ๆ คอนเสิร์ตเมทัล แต่สุดด้ายก็ไม่เห็นเคยมีอะไรร้ายแรงซักทีครับ







เจ้า Mike นักร้องนำนั้นเอ็นเตอร์เทนคนดูอยู่ตลอดเลยครับ แต่จะออกไปทางฮาขำ ๆ มากกว่าครับมุขของพี่แกออกแนวกวนตีนคนดูสุด ๆ แถมหรอกด่าคนดูและออกแนวกาม ๆ หน่อยครับ ทำให้สีสันของโชว์เมทัลแบบเครียด ๆ กลายเป็นโชว์ที่มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้มากเลยทีเดียว มุขกวนตีนของ Mikale มีอยู่หลายช่วงครับ อย่างเช่น ช่วงนึงแกถามพวกคนดูที่นั่งบนอัศจรรย์ว่า How are your seats, are they comfortable?" คนดูบนนั้นตะโกนกลับมาว่า "YES!" พี่แกกลับอำว่า "I touched my cock to every single seat before the show." เหอ ๆๆ ฟังแล้วเสียวก้นแทน หรือมีอยู่ช่วงนึงแกสอนคนดูให้พูดภาษาสวีเดนแล้วให้พวกเราพูดตามผมก็ไม่รู้หรอกว่ามันออกเสียงยังงัยพูดตามไม่ทันคนอื่นเค้า แต่หลังจากนั้นบัก Mike กลับเฉลยคำแปลว่า "I am hungry for meatballs" and then "I suck my own cock." ยังงัยก็เอาไปแปลเป็นไทยกันเองอีกทีนะครับ หึ ๆๆ







ตอน encore นั้นเสียงคนดูกระหึ่มทั่ว venue เลยครับบนอัศจรรย์ก็พร้อมใจกันกระทืบเท้าเป็นจังหวะจนรู้สึกได้ถึงความสั่นสะเทือนครับ พวกเขากลับออกมาจากหลังเวทีด้วยเพลงคัฟเว่อร์ Soldier Of Fortune ของ Deep Purple ครับ ในสไตล์ของ Opeth กลาย ๆ เสียงร้องในเพลงนี้ของ Mike นุ่มนวลมากครับเพราะพริ้งจริง ๆ เป็นช่วงที่คนดูเคลิ้มที่สุดเลยก็ว่าได้ ก่อนที่ทางวงจะต่อด้วยเพลงหนัก ๆ อย่าง Deliverance ให้โยกหัวกันเป็นช่วงสุดท้ายครับ รวมเวลาร่วมสองชั่วโมงกว่า ๆ ซึ่งก็ถือว่าคุ้มค่ากับบัตรที่ราคาแพงเชี่ย ๆ ครับ ($AU60) ผมกลับบ้านแบบไม่ได้เสื้อทัวร์กลับไปครับเพราะราคาค่อนข้างแพงแต่ดูไม่เก๋าเท่าที่ควร เลยได้ซีดีอัลบั้มใหม่ของ The Eternal มาแทนครับคอนเสิร์ตนี้ทำให้ผมกระเป๋าฉีกครับพรุ่งนี้ (26 พ.ค.) ผมต้องไปดูคอนเสิร์ตของ Hatebreed อีกเลยหักห้ามใจไม่ให้ซื้ออะไรกลับมาอีก ได้รูปถ่ายแบบมัว ๆ ซัว ๆ เพราะมือสั่นแถมกล้องห่วยด้วยก็เพียงพอแก่ความทรงจำละครับ จบแล้ว...font>










Create Date : 06 พฤษภาคม 2549
Last Update : 7 พฤษภาคม 2549 14:36:42 น. 5 comments
Counter : 877 Pageviews.

 
ชอบวงนี้เหมือนกันครับ เมื่อไหร่จะมีใครใจถึงจัดมาเล่นที่เมืองไทยบ้างน้อ


โดย: blueframe IP: 61.7.129.2 วันที่: 7 พฤษภาคม 2549 เวลา:11:21:14 น.  

 
ไมเฮียMetallugist ถึงไปออซบ่อยจังเลยคับ
คราวก่อนยังเห็นไปดูดิโอฬารอยู่เลย


โดย: saak12 IP: 203.209.38.21 วันที่: 8 พฤษภาคม 2549 เวลา:12:45:56 น.  

 
เอ่อ ยังสุดยอด เหมือนเดิม นะครับทั่น

สุดยอดจริงๆ บอร์ด ประมาณนี้ แล้ว วงสวิง หวดกีตาร์ของทั่น จะประมาณไหน น้อ



โดย: หงา คารูวาน IP: 61.90.223.34 วันที่: 15 พฤษภาคม 2549 เวลา:13:24:59 น.  

 
วง Opeth นอกจากจะทำเพลงกันได้เยี่ยมเเล้ว รูปลักษณ์ภายนอกสมาชิกในวงก็เท่ห์เหลือกินครับ เคยดู MV พวกนี้มันเท่ห์กันจริงๆเเหะ

บรรยายบรรยากาศได้สนุกดีครับ เห็นภาพเเล้ว อยากเข้าไปร่วมในบรรยากาศด้วยเลย ผมฟัง Opeth อยู่สองสามชุด เเต่จำชื่อเพลงไม่ค่อยได้เเล้วครับ อัลบั้มชุดใหม่นี่ก็ชอบครับ

เเหม มุขตลก Rate X จัง ฮาดีครับ โดยเฉพาะอันท้าย


โดย: Dark Secret วันที่: 17 พฤษภาคม 2549 เวลา:16:57:39 น.  

 
ฝากเนื้อฝากตัวและหัวจัย ด้วยนะงับ แฟนเพลงใหม่งับ


โดย: แฟนเพลงใหม่ งับ IP: 222.123.106.2 วันที่: 26 มกราคม 2551 เวลา:20:47:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Metallurgist
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





Friends' blogs
[Add Metallurgist's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.