Group Blog
ข่าวจาก Old technician
อุปกรณ์การแพทย์
เรื่องราวดี ๆ จากพระไตรปิฎก
<<
กรกฏาคม 2551
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
28 กรกฏาคม 2551
เที่ยววัดที่มีชื่อเป็นมงคลนาม "มั่นคง-ยั่งยืน" วัดเชียงมั่น.. วัดเชียงยืน..
All Blogs
เที่ยววัดพระธาตุลำปางหลวง
เที่ยวดอยอินทนนท์ 9 กพ 2556
เที่ยวลำปางภาค 2 วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม
เที่ยวลำปางภาค 1 วัดเจดีย์ซาว
วัดหางดงในค่ำคืนของวันพุทธชยันตี 2600 ปีแห่งการตรัสรู้
เที่ยววัดพระธาตุหริภุญชัย พระธาตุประจำตัวผู้เกิดปีระกา
งานไม้ดอกไม้ประดับ เชียงใหม่ 2555
บ้านสวย ๆ ท้องฟ้าใส ๆ
เปลี่ยนชีวิตจากชาวหอพัก ไปเป็นชาวบ้านเสียที
ดอกทิวลิปจากสวนเฉลิมพระเกียรติ์ เชียงใหม่
โคมไฟยี่เป็ง เชียงใหม่... 9 พย 2553
บันทึกการเดินทาง... จากเชียงใหม่ เที่ยวไกลถึงแดนใต้..
เที่ยวเมืองแพร่ คุ้มเจ้าหลวงแพร่องค์สุดท้าย
บันทึกการเดินทาง.. เชียงใหม่ไปเที่ยวหาดใหญ่..
จากบ้านทรงล้านนา.. ไป ๆ มา ๆ ไปรู้เรื่องเส้นใยไหม..
วันสงกรานต์...ไปเที่ยววัดต้นเกว๋น.. เชียงใหม่
พาตัวออกจากเรื่องร้อนใจ พาน้องไปวัด 3 วัด
วัดโลกโมฬี เชียงใหม่...
เที่ยววัดชัยศรีภูมิ เชียงใหม่
พาเที่ยววัดเกตการาม เชียงใหม่ นมัสการพระธาตุประจำผู้เกิดปีจอ
เที่ยววัดปันเสา จ.เชียงใหม่
ไปวัดกู่เต้า ตามรอย (ลูก) พระเจ้าบุเรงนอง
ดอกไม้สวย ๆ จากเชียงใหม่ ในวันที่ฟ้าไม่เป็นใจ..
เที่ยววัดที่มีชื่อเป็นมงคลนาม "มั่นคง-ยั่งยืน" วัดเชียงมั่น.. วัดเชียงยืน..
เที่ยววัดในเชียงใหม่รอบที่ 4... วัดพระสิงห์..
เที่ยววัดในเชียงใหม่ ภาค 3... วัดเจ็ดยอด
พาเที่ยววัดในเชียงใหม่ วันนี้ไปวัดเจดีย์หลวงกับวัดพันเตา
พาเที่ยววัดสวนดอก เชียงใหม่
เชียงใหม่เริ่มหนาวแล้ว..
ดอกไม้ให้คุณ...
เรื่องเล่าจากวันวาน
อัพเดตข้อมูลในบล็อก
เริ่มสร้างบล็อกของตัวเองเป็นครั้งแรก
เที่ยววัดที่มีชื่อเป็นมงคลนาม "มั่นคง-ยั่งยืน" วัดเชียงมั่น.. วัดเชียงยืน..
วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส อากาศดี จะพาไปชมวัดอันมีชื่อเป็นมงคลนาม 2 วัดนะครับ วัดแรกคือ วัดเชียงมั่นครับ
วัดนี้เป็นวัดแห่งแรกในเชียงใหม่ เนื่องจากพญามังราย ปฐมกษัตริย์แห่งล้านนาไทย ได้นำไพร่พลเข้ามาตั้งที่บริเวณแห่งนี้ ก่อนที่พระองค์จะทรงสร้างนครพิงค์เชียงใหม่ บริเวณนี้เรียกว่า "เวียงเหล็ก" หมายถึงความแข็งแรงมั่นคง กระทั่งราวปี พ.ศ.1839 เดือนวิสาขะ ขึ้น 8 ค่ำ ตรงกับวันพฤหัสบดี ปีวอก ตรีศก พญามังรายพร้อมด้วยพญางำเมืองแห่งเมืองพะเยาและพ่อขุนรามคำแหงแห่งกรุงสุโขทัย ได้ทรงสร้างพระเจดีย์ขึ้นตรงที่ราชมณเฑียรหอประทับของพระองค์ แล้วทรงขนานนามว่า "วัดเชียงมั่น" ให้เป็นพระอารามแห่งแรกของเมืองเชียงใหม่
ภาพวิหารวัดเชียงมั่นครับ...
ภาพวิหารวัดเชียงมั่น อีกมุมหนึ่งครับ..
ภายในวิหารวัดเชียงมั่น จะมีธรรมมาสน์อยู่ภายใน และมีภาพเขียนประดับฝาวิหาร ด้วยสีแดงและสีทองอย่างสวยงาม บรรยายเรื่องราวกำเนิดราชวงค์มังราย การสร้างเวียงกุมกาม การสร้างเมืองเชียงใหม่ และเรื่องราวอื่น ๆ อีกครับ
ภาพธรรมมาสน์ในวิหารวัดเชียงมั่น อีกมุมหนึ่ง..
พระประธานในวิหารวัดเชียงมั่นครับ...
ทางด้านขวาของวิหารวัดเชียงมั่น จะเป็นวิหารจุตรมุขที่เก็บรักษาพระพุทธรูปล้ำค่าของล้านนาครับ...
ภายในวิหารจตุรมุข จะมีมณฑปที่ประดิษฐานพระพุทธรูปล้ำค่าของล้านนา 2 องค์ คือพระเสตังคมณี (พระแก้วขาว) และพระพุทธรูปศิลาปางปราบช้างนาฬาคีรี...
พระเสตังคมณี หรือพระแก้วขาว เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย แกะสลักจากผลึกหินสี ขาวขุ่น ขนาดหน้าตักกว้าง 4 นิ้ว สูง 6 นิ้ว ศิลปทวาราวดี สร้างขึ้นระหว่าง พ.ศ. 1100 - 1600 เดิมอยู่ที่เมืองละโว้ (ลพบุรี)...
แล้วพระนางจามเทวีนำมาประดิษฐานที่เมืองหริภุญชัย (ลำพูน) เมื่อ พ.ศ.1204
ต่อมา พญามังรายตีเมืองหริภุญชัยได้ในปี พ.ศ.1824 จึงนำมาประดิษฐานไว้ที่วัดเชียงมั่น ในปี พ.ศ.1839... สำหรับฐานพระพุทธรูปนั้นสร้างเมื่อ พ.ศ.2471...
แล้วในสมัยพระไชยเชษฐาได้มาครองเมืองเชียงใหม่อยู่ระยะสั้น ๆ ภายหลังได้ทรงกลับไปครองล้านช้าง ได้นำพระแก้วมรกตจากเมืองเชียงใหม่ ไปล้านช้าง (ประเทศลาว) ในครั้งนั้นและได้นำพระเสตังคมณีองค์นี้ไปด้วย
เมื่อเวลาล่วงมาถึงยุคกรุงธนบุรี พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ครั้งยังดำรงตำแหน่งเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ได้ยกกองทัพไปตีเวียงจันทร์ และนำพระแก้วมรกตมาและพระเสตังคมณีองค์นี้กลับมาจากล้านช้างด้วย ได้นำพระแก้วมรกตไปประดิษฐานไว้ที่กรุงเทพ ส่วนพระเสตังคมณีให้นำกลับมาที่วัดเชียงมั่นตามเดิม...
พระพุทธรูปศิลาปางปราบช้างนาฬาคีรี เป็นพระพุทธรูปแกะสลักด้วยหิน ฝีมือช่างปาละของอินเดีย เชื่อว่าพระเถระชาวสิงหล 4 รูป ได้นำพระศิลาพร้อมด้วยพระบรมสารีธาตุริกธาตุของพระพุทธเจ้า มามอบให้พญามังรายที่เวียงกุมกามเมื่อ พ.ศ.1833 ภายหลังจึงนำมาประดิษฐานไว้ที่วัดเชียงมั่น คู่กับพระพุทธเสตังคมณี
พุทธลักษณะของพระศิลา คือ ประทับยืนเยื้องพระองค์บนฐานบัวภายใต้ซุ้ม พระหัตถ์ขวาทอดลงเหนือหัวช้างซึ่งหมอบอยู่ พระหัตถ์ซ้ายยกในท่าประทานอภัยหรือแสดงธรรม พระอานนท์ยืนถือบาตรอยู่ด้านซ้าย..
พระพุทธรูปทั้ง 2 องค์ประดิษฐานในมณฑป มีลูกกรงกั้นหลายชั้น เพื่อป้องกันมิจจาชีพ...
ด้านหลังของวิหารวัดเชียงมั่น เป็นที่ตั้งของพระเจดีย์ซึ่งสร้างขึ้นตรงบริเวณที่เคยเป็นที่ประทับของพญามังรายขณะสร้างเมืองเชียงใหม่ ราวปี 1839..
ต่อมาได้มีการซ่อมแซม เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2014 โดยพระเจ้าติโลกราชโปรดให้ซ่อมด้วยศิลาแลง จากลักษณะของส่วนยอดแสดงว่าคงจะซ่อมใหม่ ซึ่งอาจเป็นการซ่อมเมื่อ ประมาณปี พ.ศ. 2114 โดยพญาแสนหลวง สำหรับลวดลายประดับ และจรนำเรือนธาตุนั้น น่าจะมีการปรับเปลี่ยนเมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ 25 นี้เอง..
ลักษณะของเจดีย์ เป็นเจดีย์สี่เหลี่ยมผสมทรงกลม ทรงสูง (ทรงปราสาท)ประกอบ ด้วยเรือนธาตุและซุ้มจรนำ ตรงฐานเจดีย์ทำเป็นรูปช้างล้อม 16 เชือก สันนิษฐานว่าสร้างเลียนแบบเจดีย์ช้างล้อมของพ่อขุนรามคำแหงมหาราชที่เมืองศรีสัชนาลัย...
อุโบสถทรงล้านนาของวัดเชียงมั่น เป็นพระอุโบสถที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมล้านนาอีกแห่งหนึ่ง และเป็นที่ตั้งของศิลาจารึกวัดเชียงมั่นซึ่งมีข้อความกล่าวถึงการสร้างเมืองเชียงใหม่โดยพญามังราย อีกด้วยครับ...
ศิลาจารึกวัดเชียงมั่นพุทธศักราช 2124 เป็นแผ่นหินทราย ขนาดกว้างประมาณ 60 เซนติเมตร สูง 1 เมตร จารึกเป็นภาษาล้านนา (ฝักขาม) คืออักษรสุโขทัยแปลง กล่าวถึงประวัติความเป็นมาของเมืองเชียงใหม่และการสร้างวัดเชียงมั่น...
ภาพหอไตร วัดเชียงมั่นครับ...
ต่อไปเราจะเที่ยววัดเชียงยืนกันนะครับ..
.
วัดเชียงยืนตั้งอยู่ที่ด้านนอกของแนวคูเมืองและกำแพงเมืองเก่าของเชียงใหม่ ที่เลขที่ 140 ถ.หน้าสนามกีฬา ต.ศรีภูมิ
วัดนี้สร้างเมื่อใดไม่มีหลักฐานปรากฏชัด สันนิษฐานว่าในสมัยพญามังราย พระองค์ได้สร้างวัดคู่เมืองเชียงใหม่เป็นแห่งแรก คือ วัดเชียงมั่น อันมีความหมายว่า มั่นคง ต่อมาจึงสร้างวัดเชียงยืน ตามความหมายว่า ยั่งยืน ด้วยจะมีพระราชประสงค์ที่ว่าวัดเชียงมั่นตั้งอยู่เขตพระนครด้านใน เมื่อประตูเมืองปิดอาณาประชาราษฎร์ของพระองค์ที่อยู่นอกกำแพงเมืองจะได้อาศัยวัดเชียงยืน เพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอาจเป็นได้..
นอกจากนี้แล้ววัดนี้ยังตั้งอยู่ในตำแหน่งเดชเมืองเชียงใหม่ ตามคัมภีร์มหาทักษาล้านนาอีกด้วยครับ...
ภาพหน้าแหนบวิหารวัดเชียงยืน เป็นไม้แกะสลักรูปนกยูงประดับด้วยกระจกสี... นกยูงเป็นสัญลักษณ์ของชนชั้นสูงของล้านนาในสมัยก่อนครับ..
วัดเชียงยืน มีชื่อปรากฏอยู่ในตำนานชินกาลบาลีปกรณ์ ได้กล่าวถึงรัชกาลพระเมืองแก้ว กษัตริย์ล้านนา รัชกาลที่ 11 แห่งราชวงศ์มังรายว่า พระองค์พร้อมด้วยพระเทวีราชมารดา ทรงอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุบรรจุ พระสถูปเจดีย์ใหญ่วัดฑีฆชีววัสสาราม (ฑีฆายวิสาราม) เมื่อวันพุธ ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 3 ปีมะโรง จุลศักราช 882 (พ.ศ.2061)...
ลืมบอกไปว่าวัดเชียงยืนมีชื่อเรียก 3 ชื่อคือ..วัดเชียงยืน, วัดฑีฆชีวะวัสสาราม และ วัดฑีฆายวิสาราม หรือฑีฆาชีวิตสาราม...
เจดีย์วัดเชียงยืนครับ...
ลักษณะเจดีย์รูปทรงแปดเหลี่ยมอันสื่อความหมายถึง เดชบารมีแผ่ไปในทิศทั้งแปด ด้านหน้าประดิษฐานพระเจ้าทันใจ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่สร้างเสร็จภายในหนึ่งวัน... ด้านซ้ายขวามีเสาไม้ขนาดใหญ่อยู่ทั้ง 2 ด้าน...
เสาไม้ทางด้านซ้ายมือ แกะสลักเป็นรูปสัตว์ตามปีนักษัตร 12 ปีของชาวล้านนา..
สังเกตว่าในปีที่ 12 ล่างสุด ของภาคกลางจะเป็นปีกุน (หมู)
แต่ของชาวล้านนาจะเป็นปี "ไก๊" (ช้าง)..
ส่วนเสาไม้ทางด้านขวา จะแกะสลักเป็นรูปพระธาตุประจำปีเกิด 12 ปีเช่นกัน..
เจดีย์วัดเชียงยืน เดิมเป็นเจดีย์ทรงระฆัง ต่อมารูปแบบได้เปลี่ยนไปตามการบูรณะ โดยเฉพาะส่วนฐานที่ขยายใหญ่มากซึ่งคล้ายศิลปกรรมแบบพม่ารุ่นหลัง องค์เจดีย์ประดับด้วยดอกไม้สีทองโดยทั่วไป...
มีรูปปั้นสิงห์ตัวใหญ่ 1 ตัว ตัวเล็ก 2 ตัว ประดับอยู่ที่มุมฐานเจดีย์ทั้ง 4 ทิศ...
สถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในวัดเชียงยืน ก็คือพระอุโบสถรูปแปดเหลี่ยม เป็นรูปแบบศิลปะพม่า... พระอุโบสถแห่งนี้จะอยู่แยกออกมาไกลจากตัววิหารและเจดีย์ โดยจะมีอาคารเรียนกั้นอยู่ระหว่างกลาง..
พระอุโบสถแปดเหลี่ยม มองผ่านประตูเข้าไป น่าเสียดายว่า บริเวณรอบ ๆ ขาดการดูแลรักษา เลยไม่สวยงามเท่าที่ควร...
ขอจบการทัวร์วัดเชียงมั่น วัดเชียงยืน แต่เพียงเท่านี้นะครับ ขอความมั่นคง-ยั่งยืน ในชีวิตการทำงานและครอบครัว จงมีแด่เพื่อน ๆ ทุกท่านนะครับ
Create Date : 28 กรกฎาคม 2551
Last Update : 28 กรกฎาคม 2551 10:27:03 น.
9 comments
Counter : 6105 Pageviews.
Share
Tweet
สวยมากค่ะ
โดย:
superss
วันที่: 28 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:58:02 น.
ชอบไปทัวร์วัด ทำบุญไหว้พระค่ะ วันหลังพาไปทัวร์อีกนะคะ....
โดย:
VICT
วันที่: 28 กรกฎาคม 2551 เวลา:13:25:47 น.
ตามมาเที่ยววัดด้วยคน
และขอบคุรสำหรับคำอวยพรคับ
ไป ชม.มาหลายรอบไม่เคยไปวัดนี้ซักที
สวยจิงๆ
โดย:
chalawanman
วันที่: 28 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:51:11 น.
มาเยือนครับ
โดย: พริกดิบ 's blog (
พริกดิบ
) วันที่: 3 สิงหาคม 2551 เวลา:20:30:31 น.
วัดนี้ก็สวยพอไช้นะครับ
โดย: เด็กดี ไม่มีวันโข่ง IP: 202.143.143.133 วันที่: 15 สิงหาคม 2551 เวลา:13:17:27 น.
ถ่ายรูปได้สวยมาก และข้อมุลก็ดีด้วย ได้ความรู้
โดย: เก๊ก IP: 124.120.48.93 วันที่: 3 กันยายน 2551 เวลา:23:36:36 น.
ขออนุญาตนำรูปไปใช้นะคะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
โดย: เด็กดอยหลงกรุง IP: 125.24.141.237 วันที่: 9 กันยายน 2551 เวลา:0:36:17 น.
วัดนี้ผมได้ไปมาแล้ว
ไปอย่างบังเอิญมากๆ
แต่ผมขอบอกได้เลยว่าวัดนี้เงียบสงบและสวยงามมากๆ
(ข้าวเหนียวหมูปิ้งงาขาวหน้าวัดอร่อยมากๆ)
โดย: BEER IP: 192.168.10.101, 58.9.77.169 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2552 เวลา:2:27:18 น.
เป็นคนเชี่ยงใหม่แต่ไม่มีเวลาไปเที่ยวสวยมาก
โดย: ชลดา IP: 110.77.234.43 วันที่: 30 มีนาคม 2554 เวลา:14:41:51 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
old technician
Location :
เชียงใหม่ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add old technician's blog to your web]
Links
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.