พอถ่ายรูปเสร็จปุ๊บ ก็ขอบคุณพี่แขก แต่แกไม่ยอมไป แล้วก็เริ่มพูดว่า เนี่ยไอพายูมาถึงที่แล้ว Please give me something, I’m a poor man นั่นนนนนนนนนนน กูว่าแล้วว่าต้องมีอะไรแอบแฝง ณ จุดนั้นเซ็งชิบเป๋ง อีห่า กูไม่ได้ขอมึงซะหน่อย อยู่ดีๆ มายุ่งกับกูเอง สลัดเท่าไรก็ไม่หลุด กูโง่เองสินะ ที่เผลอไว้ใจเพื่อนมนุษย์ไปชั่วแวบ จากนั้นพี่แขกยังดราม่าต่อด้วยประโยค Please give something for my children เอ้า เอาเข้าไป คราวนี้อ้างลูกเลยทีเดียว นี่ถ้ายังปล่อยให้ยืดยาว กูล่ะกลัวมันจะอ้างแม่ อ้างอาม่า อากง อะไรต่ออีก
โอเค หมดครึ่งแรกของวัน เป็นการเที่ยวตามสถานที่ ‘โคตรแมส’ ล้วนๆ ซึ่งพบว่า...ปัญญาอ่อนสิ้นดี 5555 แถมยังร้อนโคตร จนขอสรุปความว่าเป็น City Walk in Hell แต่ก็นั่นแหละ มาให้รู้ว่ามันเป็นยังไง คราวหน้าจะได้ไม่ต้องมาอีก (ย้ำเป็นรอบที่สาม) ว่าแล้วก็กลับไปสู่โหมดอินดี้ในแบบเราๆ ดีกว่า นั่นคือไปยัง National Museum of Singapore
จบจาก National Museum แวะกินข้าวหน้าเป็ด (ซึ่งอร่อยสู้บ้านเราไม่ได้...อีกแล้ว) แล้วกลับขึ้นโรงแรม นอนชาร์จพลังเล็กน้อย ตอนนี้อาการไข้ก็หายไป ฝนก็หยุดตกแล้ว เป็นสัญญาณอันดีว่ากูคงเอาชีวิตรอดจากคอนเสิร์ต New Order คืนนี้ไปได้
เนื่องจากเมื่อวานสามารถไปยืนอยู่แถวหน้าสุดในงาน Garbage ได้ งาน New Order วันนี้จึงมีดำริว่าไปอยู่แถวหน้าสุดอีกดีกว่า สามารถทำได้ไม่ยาก เพราะนี่ไม่ใช่คอนเสิร์ตเกาหลีที่จะมีแฟนคลับติ่งหูมาต่อแถวกันตั้งแต่ตีสามตีสี่ ตามกำหนดบอกว่าประตูจะเปิด 18.30 ก็เลยไปถึงที่ Fort Canning Park ประมาณ 18.15
พอไปถึงก็มีแฟนๆ มาต่อแถวกันประมาณนึง หลายคนก็ไปซื้อเสื้อ official กันมาแล้ว (พี่ผู้ชายในรูปกำลังเปลี่ยนไปใส่เสื้อ New Order) แต่ลองพิจารณาดู ลายมันไม่สวยเท่าไร แถมตั้ง 40 เหรียญ หลังจากเมื่อวานพลาดไปกับเสื้อ Garbage วันนี้กูขอไม่หลงไปตามกระแสมวลชนแล้วกัน
คอนเสิร์ตวันนี้ต่างจาก Garbage เมื่อวาน ด้วยความที่เป็นเพลงอิเล็กทรอนิก ก็เลยมีความหวือหวาเยอะหน่อย ทั้งจอวิชวล และไลท์ติ้งที่เข้มข้นกว่า ส่วนสมาชิกวง New Order ถึงจะอายุเลขห้านำกันแล้ว ก็ยังฟิตกันอยู่ เบอร์นาร์ด ซัมเมอร์ ก็ดูอารมณ์ดี มีการพูดเล่นหยอกล้อกับคนดูด้วย
มาพีคอีกที ตอนเพลง Here to Stay (อยู่ในซาวด์แทร็กเรื่อง 24 Hour Party People) เป็นเพลงโปรดของ New Order สำหรับเรา คือคอนเสิร์ตของทัวร์นี้ ส่วนใหญ่ setlist มันก็จะซ้ำๆ เดิมๆ มีเปลี่ยนแค่ 2-3 เพลงในแต่ละงาน และไอ้ Here to Stay นี่แหละ ที่เป็นเพลงเล่นบ้างไม่เล่นบ้าง พอพี่แกจัดมาให้ ก็ดีใจจริงๆ อาห์ ปลื้มมมม
พอช่วงอังกอร์ เบอร์นาร์ดก็แหย่คนดูเล่นว่า “วันนี้พวกเราไม่เล่นเพลง Love Will Tear Us Apart หรอกนะ” (ฮา) แต่เอาเข้าจริง ตอนท้ายนี่เป็นช่วงวง Joy Division โดยแท้จริงเลย เพราะเล่นเพลง Transmission และต่อด้วย Love Will Tear Us Apart มีการขึ้นกราฟฟิกเป็นรวมสมาชิกสี่คนของวง Joy Division แถมมีขึ้นโคว้ทปิดงานว่า Forever Joy Division (อืม ซึ่งก็สมควรนะ พวกมึงหากินของเก่ากับวงนี้เยอะเหลือเกิน 555) ตัวเราเองก็ไม่ได้ชอบเพลงของ Joy Division มากนัก แต่เจอมุกนี้เข้าไปก็นับว่าขลังจนขนลุกทีเดียว ถือเป็นการปิดงานที่สวยงาม
ช่วงเวลาแห่ง Joy Division
คอนเสิร์ตเลิกแล้ว
เดินกลับโรงแรมด้วยความอิ่มอกอิ่มใจ ไม่เสียแรงที่อุตส่าห์บากหน้า (และละลายเงิน) ข้ามน้ำข้ามทะเลมาดูคอนเสิร์ตนี้ ถือว่าดีใจมากๆ ที่ได้ดู เพราะวงอย่าง New Order นี่ไม่รู้ชาตินี้จะได้ดูอีกหรือเปล่า