แต่ทันทีที่ค่าย Panda Records (ที่อยู่คู่วงการเพลงอินดี้มาแสนนาน) ปล่อยศิลปินหลุดโลกอย่าง Red Twenty ออกมา ทุกอย่างก็ดูมีความหวังทันที นี่คือวงแห่งการทำลายล้างโดยแท้จริง โดยเฉพาะการแสดงสดกับการฟาดตะบองไปทั่วเวที การกรีดร้องไม่เป็นภาษามนุษย์ และการแอ็คท่าทุกกระเบียดนิ้ว ทำให้ Red Twenty กลายเป็นวงที่ถูกคนหมั่นไส้มากที่สุดไปโดยปริยาย
ตั้งแต่ Suede หายไปจากสารระบบทางเสียงเพลง โลกดนตรีก็ขาดแคลนเสียงผู้ชายแหลมๆ ชวนขาดใจอย่างสิ้นเชิง แต่ที่พอทดแทนและฝากความหวังได้ก็คือ Matthew Ballamy แห่งวง Muse นี่แหละ เพราะถ้ายังจำได้เมื่อสามปีก่อนเพลง Time is Running Out นั้นทำให้เราแทบจะหลั่งอะดรีนาลีน
Muse กลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ด้วยเพลงเปิดตัวเปรี้ยวแตกอย่าง Supermassive Black Hole แถมเมื่อฟังอัลบั้มเต็มเราก็แทบจะหงายหลังล้มตึง เพราะ Black Holes & Revelation คือการเดินทางที่ทยานออกไปหลายล้านปีแสง ทั้งจากเสียงอิเล็กทรอนิกไม่บันยะบันยังในครึ่งแรก และการทวีความหนักขั้นบ้าระห่ำในครึ่งหลัง ยิ่งฟังไป Muse ก็ยิ่งกำลังดูดกลืนพวกเราไปในหลุมดำ
เนื้อหาของ Black Holes & Revelation คือการตอบสนองต่อโลกยุค post 9/11 อย่างเต็มตัว Take a Bow เพลงเปิดอัลบั้มคือการด่า โทนี่ แบลร์ และจอร์จ ดับเบิลยู บุช อย่างซึ่งๆ หน้า และที่จริงแล้วทุกเพลงในอัลบั้มล้วนซ่อนปริศนา สัญลักษณ์ คำบอกใบ้ ไปสู่เรื่องการเมืองและความเน่าเฟะในโลกยุคสงครามก่อการร้าย
การฟัง Black Holes & Revelation จึงเหมือนการอ่าน A Brief History of Time ของสตีเฟน ฮอว์กิ้นส์ คือ ซับซ้อน อลหม่าน ยุ่งเหยิง แต่ประเทืองปัญญา
เพลงแรกอย่าง This Is Love คือการประกาศกร้าวว่านี่ไม่ใช่แค่อัลบั้ม J-pop โหลๆ อีกต่อไปแล้ว Ultra Blue ที่ให้ความตื่นเต้นและความน่าแปลกใจต่อผู้ฟังทุกจังหวะจะโคน ทั้งเสียงโปรแกรมมิ่งล้ำสมัย, เสียง flute, สไตล์การร้องแบบเพลงในโบสถ์ ไปจนถึงทำนองเพลงแบบ world music และนี่ยังไม่รวมมิวสิกวิดีโอระดับมาสเตอร์พีซอย่าง Passion และ Keep Tryin ที่เธอทำร่วมกับสามีสุดหล่อของเธออีกนะ
Utada อาจไม่ได้มีโปรดักชั่นคอนเสิร์ตอลังการแบบ Ayumi Hamasaki หรือหน้าอกภูเขาไฟอย่าง Kumi Koda แต่สิ่งที่เธอมีเหนือคนอื่นก็คือ เธอไม่เคยหยุดวิ่ง
วงมหัศจรรย์ที่ไม่ของ้อเสียงกีต้าร์กลับด้วยเพลงเปิดตัวอย่าง Is It Any Wonder? ที่จังหวะคึกคักผิดปกติ จนพาให้คนฟังได้สงสัยกันว่า Keane จะมาไม้ไหน หรือ Keane จะเปลี่ยนไปแล้ว
แม้ Under the Iron Sea จะไม่ได้แตกต่างจากอัลบั้มชุดแรก อย่างชนิดพลิกฝ่ามือ แต่เราก็สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ใครที่ชอบหาว่า Hopes & Fears เป็นอัลบั้มที่เลี่ยนเกินไปคงสบายใจขึ้นบ้าง เพราะ Under the Iron Sea มีจังหวะที่หนักขึ้น มีเพลงหม่นๆ อย่าง Atlantic เพลงสุดเศร้าอย่าง A Bad Dream แต่ก็ยังมีเพลงทำนองสวยๆ อย่าง Crystal Ball
ถึงหนังเรื่อง The Lake House จะยังคงดักดานเอาเพลง Somewhere Only We Know ไปใช้โปรโมทหนัง แต่ Keane ก้าวผ่านจุดนั้นไปแล้ว พัฒนาการเหล่านี้บวกกับคอนเสิร์ตสุดแสนประทับใจเมื่อกลางปี (ที่มีคนดูแค่สามพันคน!) ทำให้เรายังคงต้องหลงรักวงนี้ต่อไป
เวลาที่เพื่อนถามผมว่าโพสต์โมเดิร์นคืออะไร ผมมักจะตอบด้วยคำตอบ 2 ข้อ นั่นก็คือ หนังเรื่อง The Matrix และอัลบั้ม Kid A ของ Radiohead
อย่างที่เขาชอบพูดกัน นับจาก Kid A ไป Radiohead เป็นวงที่หลุดโลกไปแล้ว (ความจริงคือ พวกเขา อยู่เหนือโลก) แม้ Hail to the Thief จะดูประนีประนอมกับคนฟังมากขึ้น แต่เราก็รู้สึกได้ว่าคนอย่าง Thom Yorke นั้นสามารถข้ามไปไกลกว่านี้ได้
และก็ตามที่คาด สมองอันซับซ้อนของเขาไม่อาจถูกกักขังไว้ได้ อัลบั้มเดี่ยวจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่อย่าเพิ่งวิตกจริตไปว่า Radiohead จะสิ้นอายุขัย เพราะเสียงเปียโนเพราะๆ ใน The Eraser ก็มาจาก Jonny Greenwood ส่วนเพลงที่เหลือก็เปรียบดั่งหนังเรื่อง Being John Malkovich แต่เปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น Being Thom Yorke เพราะเรากำลังล่องเรือไปตามรอยหยักสมองของผู้ชายคนนี้
คุณค่าของ The Eraser นั้นอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ยากพอๆ กับนิยามของโพสต์โมเดิร์น แต่ผมขอหยิบยืมคำพูดของตัวเองที่ชื่นชม Billy Corgan ไว้เมื่อปีที่แล้ว มาใช้ตรงนี้อีกครั้ง
หลังจากสิ้นสลายของวง Junji เดินทางเส้นเดี่ยวด้วยชื่อว่า Halation เขายังคงเป็นคนที่หลงรักในเสียงสังเคราะห์ Down to the Wire (2005) คืออัลบั้มเดี่ยวชุดแรกของเขา สุ้มเสียงของมันสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ไกลโพ้นของเขาได้เป็นอย่างดี แต่ทว่ามันเป็นการทดลองที่ยังไม่สมบูรณ์ ความเป็นหนึ่งเดียวยังไม่ถูกบรรจุรหัสอย่างถูกต้อง เพลงแต่ละเพลงดูเหมือนแตกแยกออกเป็นเสี่ยงๆ
3. Nouvelle Vague - Bande a Part พูดถึง Nouvelle Vague ทีไร ก็อดตีอกชกหัวตัวเองไม่ได้ ด้วยเหตุที่ว่า ตอนวงสุดโปรดมาแสดงคอนเสิร์ตที่สวนสันติชัยปราการ ช่วงงานเทศกาลฝรั่งเศส (มั้ง) ข้าพเจ้ากลับไม่ทราบข่าว และอดดูไปโดยปริยาย ฮือๆๆๆๆ
อย่างไรก็ดี ก็ไม่ได้ทำให้ความชอบต่ออัลบั้ม Bande a Part ลดลงแม้แต่น้อย เพราะมันเป็นอัลบั้มคัฟเวอร์เพลงยุค 70's - 80's ให้กลายร่างมาเป็นเพลงแนว Bossa-Novas ที่เก๋ไก๋เสียจริงๆ
ส่วนอัลบั้มอื่นๆ ที่ชอบแต่จัดอันดับไม่ถูกก็เช่น Justin Timberlake - Futuresex/Lovesounds, Damien Ricce - 9, David Gray - Slow Motion, John Mayer - Continuum, Keane - Under the Iron Sea, The Ordinary Boys - How To Get Everything You Ever Wanted In Ten Easy Steps, Girly Berry - Reality, เอ็ม อรรถพล - The Second , บี้ - Love Scenes (เอ๊ะ ทำไมอัลบั้มหลังๆ มันไม่ค่อยเข้าพวกหว่า ฮ่าๆ)
โดย: it ซียู IP: 125.24.241.220 3 มกราคม 2550 13:30:27 น.
ขอให้รางวัลบ้าง อิอิ
Unit Music Awards 2006
ALBUM OF THE YEAR Scissor Sisters : Ta-Dah
SONG OF THE YEAR ไอซ์ ศรัณยู - คนใจง่าย
MUSIC VIDEO OF THE YEAR Basement Jaxx - Take Me Back to Your House The Pussycat Dolls - Buttons (ให้คะแนนเท่ากัน)
GUILTY PLEASURE OF THE YEAR บี้ เดอะสตาร์ - I Need Somebody Love
เพลงน่าเบื่อแห่งปี 2006 จีน/พัดชา/เพชร - เปลืองค่าโทร (จริงๆ รวมถึงทุกเพลงในอัลบั้ม Love To Share ด้วย เหอๆ)
แหะๆ หนูยังไม่ได้ดู The Lake House เลยค่ะ รู้สึกว่า พี่ขี้หนู และป้าแซนดร้า ดูโทร้มมมม โทรม
song of the year เป็นเพลง Love Love นี่พูดจริงๆ นะ ตอนแรกจะให้เพลง Land of Thousand Words อ่ะ แต่คิดไปแล้วเพลง Love Love มีอิทธิพลต่อชีวิตมากกว่าน้า แบบว่าเซ็ทเป็นริงโทร, คอลลิ่งเมโลดี้, ร้องคาราโอเกะไม่ต่ำกว่า 5 รอบ อะไรประมาณนี้แหละ
โดย: Joe IP: 58.8.194.21 3 มกราคม 2550 17:39:38 น.
ไชโยให้ฮิกกี้ จุ๊บๆ แม้ ULTRA BLUE จะไม่ใช่ที่สุดของเธอแต่มันก็ยังแสดงได้ดีว่าเธอไม่เคยหยุดพัฒนาเลย ดู UTADA UNITED 2006 รึยังเอ่ย ผมโหลดมาดูทั้งคอนเสิร์ตเพราะว่าอดใจไม่ไหว ถ้าอยากลอบดูเป็นเพลงๆ ขอแนะนำ You Make Me Want To Be A Man ครับ มันโยกร็อคส์ส์ส์ ได้ใจสุดๆ เสียดายที่คุณเมอไม่ได้ซื้อญารินดากับจอห์น เมเยอร์ ไม่งั้นติด 10 อันดับนี้ชัวร์ 555+
1. Private Fears in Public Places , Alain Resnais The Sun , Alexandre Sokourov
3. The Host , Bong Joon-ho
4. Lady Chatterley , Pascale Ferran
5. Un couple parfait , Nabuhiro Suwa
6. Ces rencontres avec eux (The Meeting) , Daniele Huilet และ Jean-Marie Straub Lady in the Water , M. Night Shyamalan Capote , Bennet Miller
9. The Departed , Martin Scorsese
10. Flags of our Fathers , Clint Eastwood The New World , Terrence Malick
อันดับจากผู้อ่าน
1. Lady Chatterley , Pascale Ferran 2. The Departed , Martin Scorsese 3. Private Fears in Public Places , Alain Resnais 4. Volver , Pedro Almodovar 5. The Sun , Alexandre Sokourov 6. Miami Vice , Michael Mann 7. Marie-Antoinette , Sofia Coppola 8. Flandres , Bruno Dumont 9. The Caiman , Nanni Moretti 10. Dans Paris , Christophe Honore
ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบ "ด้วยความหวังและความกลัว" (Hopes and Fear) มากกว่า "จมใต้ทะเลเหล็ก" คงเพราะยึดติดซาวน์นุ่ม ๆ ของมันไปแล้ว และ Somewhere Only We Know ก็เป็นเพลงที่ใกล้กับชีวิตผมอยู่กลาย ๆ (แต่ไม่เคยดู The Lake House ได้ข่าวว่าเรื่องนี้เอา Pink Moon ของ Nick Drake สุดโปรดของผมไปใช้ด้วย)
อันดับอัลบั้มจัดไปแล้วใน Blog ผมเอง ลองตอบพวกนี้เล่น ๆ ดูดีกว่า
SONG OF THE YEAR - Tetragrammaton / The Mars Volta
MUSIC VIDEO(s) OF THE YEAR - Hate Me ของ Blue October //www.youtube.com/watch?v=CoHb7b1L1I4
- After the Garden ของ Neil Young //www.youtube.com/v/57PzfwhjYFw
GUILTY PLEASURE OF THE YEAR (ความรู้สึกผิดที่น่าพึงพอใจ/ความพึงพอใจที่ทำให้รู้สึกผิด) - ไม่ได้รู้สึกผิดอะไรมาก แต่ฟังวง The Black Mages ที่เอาเพลงใน Final Fantasy มาทำเป็น Metal แล้วคิดถึงตแนที่ติด FF7 ในเครื่องเพลย์ฯ งอมแงม
ตามมาจากห้องเฉลิมกรุงครับ แบบว่า ชอบ Ultra Blue เหมือนกันเลยครับ
ของผม มีไม่ถึง 10 น่ะครับ ตามนี้เลย
1. Undiscovered - James Morrison 2. Alright Still - Lily Allen 3. The High Road - Jojo (อันนี้รักนักร้องสุดหัวใจ) 4. Back 2 Basics - Christina Aguilera 5. Continuum - John Mayer 6. Corinne Bailey Rae 7. The Truth About Love - Lemar 8. Ost. Step Up
เล่นด้วยคนน้า... . . ALBUMS OF THE YEAR 1. Ice - ไอซ์ ศรัณยู 2. Futuresex/Lovesounds - Justin Timberlake 3. Back to Basics - Christina Aguilera 4. Sleepless Society 2 - รวมศิลปิน 5. Dream Team - AF1 & AF2 6. B-Day - Beyonce 7. Beautiful Ride - ปาล์มมี่ 8. To Be Continued - อ๊อฟ ปองศักดิ์ 9. OST. Brokeback Mountain - Various Artists 10. Sotsugyo Time ~Bokurano Hajimari~ - WaT
SINGLE OF THE YEAR Boku no Kimochi - WaT
SONGS OF THE YEAR Pop - ไปน่ารักไกลๆหน่อย (Dan-Beam) Rock - อย่าร้อนตัว (เอ็ม อรรถพล) R&B - Unfaithful (Rihanna) Hiphop - Promiscuous (Nelly Furtado feat. Timbaland)
SOUNDTRACKS OF THE YEAR Song (Film) - 'แช่แวบ (ไม่อยากเป็นพระ)' by แดน วรเวช [OST. แสบสนิท ศิษย์ส่ายหน้า] Song (TV Series) - 'She Is' by Alex & Clazziquai [OST. My Name is Kim Sam-soon] Album - OST. Brokeback Mountain
VIDEO OF THE YEAR Rising Sun - Dong Bang Shin Gi
ARTISTS OF THE YEAR Male - Justin Timberlake Female - Palmy Duo/Group - Dan-Beam Breakthrough - WaT . . ชักเหนื่อยแระ พอก่อนดีกว่า แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 50 17:19:07
คอนเสิร์ต The Beat สุดยอดมากๆ แต่ขอให้ Dream Theater ละกันนะ
จากคุณ : merveillesxx - [ 3 ม.ค. 50 19:53:02 ]
ความคิดเห็นที่ 35
My best favorite albums of 2006
- อพาร์ตเมนต์คุณป้า : Romantic Comedy - Paradox : X - Red Twenty : Red Twenty - มาโนช พุฒตาล : ชีวิตที่เจ็บปวดของคนป่วย
จากคุณ : เจ้าชายแห่งทะเล - [ 3 ม.ค. 50 20:19:52 ]
ความคิดเห็นที่ 36
ผมด้วยๆๆ
Album of the year
10 Fat code iii 9 Murning Surfer Common people 8 Slot Machine Mutation 7 Rhythm and Boyd Eleventh 6 Save da last piece 5 ParaDox X 4 Keane : Under the iron sea 3 Cake : the missing pieces 2 Sleeper one different part 2 1 Slur Booooooooooooooooooo!!!
ให้ Big Ass Begins รางวัลชมเชย อิอิ
เพลงเเห่งปี
กลับ save da last piece จำ sleeper one โรคจิต Slur Is it any wonder Keane
จากคุณ : Yoz_Friday - [ 3 ม.ค. 50 22:09:21 ]
ความคิดเห็นที่ 37
กลับมามั่ง มาจัดด้วยคนครับ
1. Sleeper 1 : Difference Part 2 2. Supersub : Start 3. ตรัย : บุคคลที่ 3 4. Morningsurfers : Common People << ฟังไปฟังมาชอบแฮะ หลังจากตอนแรกบ่นไปเยอะ
ปีนี้ที่ซื้อมาเข้าท่าๆมีน้อยแฮะ จัดไปแค่4อันดับพอ Big Ass ,Dox ชุดใหม่ก็ไม่ค่อยชอบ(ฟังclashแล้วยังชอบมากกว่า) Slurนี่ฟังไม่รู้เรื่องเลย(แต่รู้สึกมันส์มากๆ) อพาร์ตเม้นอยู่ในลิสต์ที่จะซื้ออยู่ อัศจรรย์นี่กะลังลังเลอยู่เพราะฟังGooseแล้วมึน ดูจากคอมเม้นต์แล้วท่าทางจะมึนอีกแน่
ปล. เสียดาย ไม่มี Christina Aguilera อ่ะครับ...ของเขาออกจะดีจริง...
จากคุณ : PB ลูกพ่อ Kahn - [ 4 ม.ค. 50 16:11:24 ]
ความคิดเห็นที่ 42
อัลบั้มแห่งปีของ จขกท. Love Love โห ผมไม่เคยฟังสักเพลง ได้เห็นสองสาวแต่งตัวยั่วยวนและเป็นตัวอย่างเลวแก่เยาวชนแล้วอนิจจัง ไปลงนรกซะเถิด เกิดมาเพื่อทำให้วัฒนธรรมไทยวิบัติ
10 อันดับของผมนะคับอันนี้จะหนักไปทาง emo screamo post hardcore เพราะฟังแต่แนวนี้อ่ะคับแหะๆ 1. A Static Lullaby อัลบั้ม A Static Lullaby 2. Incubus อัลบั้ม Light Grenades 3. Protest The Hero อัลบั้ม Kezia 4. Saosin อัลบั้ม Saosin 5. Spitalfield อัลบั้ม Better Than Knowing Where You Are 6. Norma Jean อัลบั้ม Redeemer 7. Underoath อัลบั้ม Define The Great Line 8. Senses Fail อัลบั้ม Still Searching 9. Moneen อัลบั้ม The Red Tree 10. The Sleeping อัลบั้ม Questions and Answers
จากคุณ : Poohonfire - [ 4 ม.ค. 50 23:45:04 ]
ความคิดเห็นที่ 46
เพิ่มเติม MER MUSIC AWARDS แบบฮาๆ
เพลงคาราโอเกะแห่งปี ไอซ์ ศรัณยู: คนใจง่าย
มิวสิกวิดีโอไทยแห่งปี เอ็มวีทุกตัวของวง So Cool
ท่าเต้นแห่งปี เอ็มวีเพลง I Need Somebody Love ของบี้ เดอะสตาร์
ขอขอบคุณ พี่แนน ที่ไรท์ Euphoria และ Halation ให้
สักวันเราคงได้ไปญี่ปุ่นด้วยกัน (ฮ่า ฮ่า ฮ่า)
สำหรับบล็อก TOP10 หนัง จะตามมาเร็วๆ นี้
สวัสดีปีใหม่อีกครั้ง - แฮปปี้ นิวเคลียร์!
ปล. ชีวิตของข้าพเจ้าได้เปลี่ยนไปอีกครั้งแล้ว เพราะหนังเรื่อง Su-ki-da
อ่าน //www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5013060/A5013060.html