คำขอบคุณจากใจ merveillesxx
โดย merveillesxx
ก่อนอื่นผมคงต้องขอ ขอบคุณ ทุกท่านที่ให้คะแนนเสียงโหวตกับเวบบล็อกของผมจนได้รางวัลยอดเยี่ยมสาขาบันเทิงสุดเจ๋ง (แหม พูดคำนี้ทีไร เขินทุกที ^^;;) จาก BlogGang Popular Award มาจนได้ ทั้งนี้ขอรวมถึงท่านที่คอยเข้ามาเยี่ยมชมอยู่เสมอ แม้ท่านจะไม่ได้ร่วมโหวต (เช่น เพราะไม่ได้เป็นสมาชิกของ PANTIP.COM) แต่ผมก็สัมผัสการมาเยือนของคุณได้ครับ (ทำเป็นพูดเว่อร์
ก็มันมี counter วัดจำนวนคนเข้าอยู่ข้างบนนี่หว่า)
ณ วินาทีที่เห็นชื่อแปลกๆ ยาวๆ (และอ่านยากด้วย) ของตัวเองอยู่บนหน้าแรกของ BlogGang.com ก็คงต้องสารภาพว่า ดีใจ ครับ เพราะจากนี้ไปเวบบล็อกของผมคงเป็นที่รู้จักมากขึ้น ความดีใจนี้เกิดขึ้นในฐานะ คนเขียน ครับ เพราะเมื่อผมเป็นคนเขียนแน่นอนว่าสิ่งที่ เขียน ออกไป ผมย่อมอยากให้มี คนอ่าน การที่มีคนอ่านงานของผมหรือการได้รับการตอบสนองต่องานชิ้นนั้นๆ ถือเป็นสิ่งล้ำค่าของผู้เขียนทีเดียว
ผู้อ่านท่านหนึ่งเคยบอกไว้ว่าคนชนิดพันธุ์อย่างผมนั้นควรนิยามว่า นักเขียนออนไลน์ ถ้าเป็นแต่ก่อนแต่กาลนั้นผมคงมิหาญกล้าเลื่อนระดับตัวเองจาก คนเขียน เป็น นักเขียน หรอกครับ แต่ ณ เวลานี้ วันที่มีเสียงตอบรับมากมายที่เป็นดั่งคำการันตีต่อชิ้นงาน ผมคงพูดได้เต็มปากแล้วว่าตัวเองเป็นนักเขียนออนไลน์คนหนึ่งในโลกไซเบอร์แห่งนี้
ถนนสายนักเขียน(ออนไลน์)ของผมคงเริ่มจากความคิดสั้นครับ
อ๊ะๆๆ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดไป ผมหมายถึงว่าในช่วงวัยรุ่น (อา..ผมก็เคยมีกับเค้าเหมือนกันนะ) ผมมักตะลอนไปดูคอนเสิร์ตบ่อยๆ ด้วยปรัชญาชีวิตแบบมั่วๆว่า ชีวิตมันสั้นนัก วงอะไรมาก็ไปดูซะ แล้วจะได้ไม่ต้องมาเสียใจทีหลัง ดูแล้วก็เอามาเล่าให้คนใน pantip.com ฟัง ไปๆมาๆก็เริ่มเขียนยาวขึ้น ยาวขึ้น ยาวขึ้นและยาวขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ตัดสินใจบันทึกความประทับใจจากคอนเสิร์ตแต่ละครั้งเอาไว้ เพราะไม่อยากให้มันเลือนหายสลายไปตามกาลเวลา แต่อยากบันทึกความทรงจำนั้นไว้ในรูปของตัวอักษร และการเขียนงานประเภท Live Report ก็มาถึง จุดสัมบูรณ์ ในรายงานคอนเสิร์ต B.Day ที่มีความยาวถึง 19 หน้า รายงานคอนเสิร์ตครั้งประวัติศาสตร์ที่ผมภูมิใจกับมันยิ่งนัก (แถมมันได้ขึ้นกระทู้หน้าหนึ่งเสียด้วย)
แต่ด้วยความเป็นคนที่ สำส่อนในการดูหนัง ฟังเพลง และเสพวรรณกรรม (แบบนี้ดีนะครับ ไม่ติดเอดส์แน่นอน)มือมันจึงอยู่ไม่สุข พาลไปเขียนถึงหนังและเพลงด้วย
ถ้าลองนึกตรึงตรองดูแล้วการดูหนังฟังเพลงของผมนั้นเปลี่ยนแปลงไปชนิดหน้ามือเป็นหลังเท้าก็คงเป็นเพราะ
เอ่อ เพราะ อกหัก ครับ (อย่าทำหน้าหยึ๋ยแบบนั้นสิครับ) ไม่เกินจริงเลยว่าการผิดหวังครั้งนั้นทำให้สรรพสิ่งแวดล้อมรอบตัวผมเปลี่ยนไป ผมมองเห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น ได้ยินสิ่งที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน และในที่สุดผมก็ร้องไห้เวลาดูหนังและฟังเพลงได้เสียที
ลองคิดดูแล้ว การเขียนของผมนั้นมักใช้ ความรู้สึก นำทางอยู่เสมอ ผมคงไม่สามารถเขียนถึงหนังที่เกลียดสุดหัวใจได้ และผมก็สามารถเขียนถึงหนังที่ประทับใจได้ไม่รู้จบ (เช่น All About Lily Chou-Chou ณ ปัจจุบันมันมีความยาวถึง 30 หน้าแล้วครับ -_-) ความรู้สึกนั้นเป็นมวลรวมของทั้ง ความสุข ความเศร้า ความเหงา และความอ่อนแอ
และเมื่อเร็วๆนี้นักวิจารณ์ท่านหนึ่งก็บอกว่าผมเป็น คนที่เขียนแบบมี passion ซึ่งมันก็ทำให้ผมรู้ถึงจุดยืนของตัวเองมากขึ้น รู้ตัวอะไรตัวเองกำลังทำอะไรหรือเขียนอะไรอยู่
ผมละเลงความรู้สึกของตัวเองอยู่ตามแหล่งต่างๆของโลกไซเบอร์อยู่หลายปี งานเขียนของผมนั้นเหมือนผีไม่มีศาลเจ้า เพราะฝากไว้เวบนู้นมั่งเวบนี้มั่ง (เช่น pantip.com และ bioscopemagazine.com) จนเมื่อทางพันทิปเปิดบริการ bloggang.com ผมก็ดีใจมาก เพราะในที่สุดบรรดาลูกกรอก-กุมารทองของผมจะได้มีบ้านอยู่เสียที (ฮา)
กล่าวตามจริงแล้ว เวบบล็อกของผมนั้นเป็นบล็อกแบบ (โคตรจะ)สามัญธรรมดา เพราะมันไร้ซึ่งการแต่งเติม ไร้ซึ่งการเจือสี ไม่มีศัพท์อักษรวิ่งเวียนวน คงต้องขอสารภาพเสียตรงนี้ว่าผมมันเป็นพวก โลว์เทค ครับ อย่างไรก็ตาม สิ่งหลักที่บล็อกของผมนำเสนอก็คืองานเขียนในเชิง บทความ อันเป็นสิ่งที่กรั่นกรองออกมาจาก มือ และ สมอง ของผม (อย่าแปลกใจไปหากใครเจอผมช่วงนี้แล้วรู้สึกว่าผมหงอกเยอะขึ้นและมือป้านๆแปนๆไป) ซึ่งโดยหลักแล้วบล็อกของผมมี 4 หมวดหลัก ดังนี้
1. MOVIE คือการบันทึกความทรงจำ ความประทับใจของผมต่อศิลปะแขนงที่เจ็ดอย่าง ภาพยนตร์ สำหรับผมแล้วหนังคือผู้มีบุญคุณต่อชีวิตผม เช่น ผมสอบตรงติดคณะเศรษฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ด้วยการเขียนเรื่องย่อของหนัง A Beautiful Mind ที่นำมาผสมปนเปกับเรื่องของอดัม สมิธและชีวิตจริงของผม ในการตอบข้อสอบส่วนเรียงความ
แล้วแบบนี้จะไม่ให้ผมรักหนังได้อย่างไร
2. MUSIC คือ การเขียนถึงดนตรีอันเป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณของผม แต่เนื่องด้วยไม่มีความรู้ในสายนี้มากนัก ผมจึงมุ่งเน้นเขียนไปทาง สัญศาสตร์ (การวิเคราะห์เชิงสัญลักษณ์) มากกว่า ตัวอย่างงานที่ผ่านมาคือการเขียนถึง มิวสิกวิดีโอของ Marilyn Manson และอัลบั้ม MY STORY ของอายูมิ ฮามาซากิ
3. CONCERT REVIEW อันเป็นจุดเริ่มต้นในการเริ่มชีวิตนักเขียนออนไลน์
4. สาระ คือการรวมบทความต่างๆที่น่าจะมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน ซึ่งโดยมากมักจะเป็นรายงานที่ทำส่งวิชาของคณะเศรษฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ (หรือวิชาของคณะอื่นๆ)
การเรียนในคณะนี้มีส่วนผลักดันศักยภาพในฐานะนักเขียนของผมเหลือเกิน (ข้อสอบเป็นตอบบรรยายทั้งหมด) คณะนี้สอนให้ผมรู้ว่าการมีความรู้อยู่ในหัวสมองอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือ การถ่ายทอด มันออกมา และเร็วๆนี้คาดว่าจะเปิดเพิ่มในหมวดของ BOOK (เขียนเกี่ยวกับหนังสือ) และหมวดเรื่องสั้นที่แต่งเองครับ
ตามจริงแล้ว ผมเคยมีความคิดว่าจะ เขียน ในซัมเมอร์นี้เป็นครั้งสุดท้าย เนื่องด้วยความหนักหน่วงทางด้านการเรียน (ผมกำลังจะขึ้นปี 3 ซึ่งเป็นปีที่เรียนหนักที่สุด) และความไม่แน่ใจ-ความสับสนในอนาคตของตัวเอง แต่เพื่อนผมคนหนึ่งก็ย้ำเตือนสติว่า ในเมื่อนายมีสิ่งนี้อยู่กับตัวแล้ว นายจะทิ้งมันไปทำไม (เอ่อ
ประโยคของจริงคงไม่ได้สุภาพขนาดนี้หรอกนะครับ) ประกอบกับการได้รับรางวัลในครั้งนี้ มันทำให้ผมคิดได้ว่าผมจะเขียนต่อไป เพราะแท้จริงแล้ว ความปรารถนา ที่อยากจะเขียนของผมยังมีมากมายเหลือล้น ผมมีเรื่องที่คิดอยากจะเขียนอีกเป็นพันเป็นล้าน
ดังนั้นผมคงต้องขอขอบคุณทุกคนอีกครั้งที่ช่วยให้ผมมีกำลังใจที่จะเขียนต่อไป
ผมโคจรอยู่ในเวบไซต์ PANTIP.COM มาเกือบ 6 ปีแล้ว บางเวลานั้นผมก็หลงลืมความหมายของมันไป แต่วันนี้ความหมายของมันกลับชัดเจนอีกครั้งแล้วครับ นั่นก็คือ สัมผัสแห่งมิตรภาพ A Touch of Friendship ผมกำลังสัมผัสถึงมันได้อย่างทั่วทุกพื้นที่ในโลกแห่งนี้
ด้วยมิตรภาพ merveillesxx
ขอขอบคุณ - คุณวินทร์ เลียววาริณ นักเขียนคนแรกที่ทำให้ผมรักการอ่าน - คุณไกรวุฒิ จุลพงศธร (Bioscope) สำหรับแรงบันดาลใจในการเขียนและคำแนะนำทรงคุณค่า - ฮารูกิ มูราคามิ และคุณนพดล เวชสวัสดิ์ สำหรับถ้อยคำกระแทกจิตใจที่มีอิทธิพลเหลือล้นต่อการเขียน - หว่องกาไว ผู้กำกับในดวงใจคนแรกที่ทำให้หลงทางอยู่ในโลกภาพยนตร์จนถึงทุกวันนี้ - คณะเศรษฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ที่ช่วยประสิทธิประสาทวิชาความรู้และศักยภาพของการเป็นมนุษย์ - พ่อ,แม่ และเพื่อนทุกคน - คนที่เข้ามาในชีวิต คนที่ทำให้รู้จักกับความรักและความเจ็บปวด
.และผู้อ่านทุกท่าน
Create Date : 25 มีนาคม 2548 |
|
46 comments |
Last Update : 26 มีนาคม 2548 2:18:58 น. |
Counter : 1269 Pageviews. |
|
|
|
ไม่ได้โหวตให้คุณ (จริงๆก็ไม่ได้ร่วมโหวตให้ใครเลย)
แต่อยากมาบอกว่าคุณเหมาะสมแล้วสำหรับรางวัลนี้
เป็นกำลังใจให้คุณผลิตงานดีๆต่อไปอีกนานๆ