Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2549
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
4 มิถุนายน 2549
 
All Blogs
 
แล้วชีวิตก็ถึงจุดเปลี่ยนอีกครา

เช้าวันพุธที่ 31 พค.49

"ตุ๊ด ตุด ตู้ด ...."
"หวัดดีครับ น้าจ๋อยเหรอครับ ผมนิ้งนะครับ"
"อ้าว! นิ้ง มีไร?"
"ผมว่าผจะกลับไปทำงานน่ะครับ ได้ไหมครับ?"
"ได้ซิ"
"'งั้นเดี๋ยวเที่ยงๆผมเข้าไปคุยนะครับ น้าจ๋อยอยู่ไหมครับ?"
"วันนี้พี่อยู่ทั้งวัน เข้ามาได้เลย"
"เดี๋ยวเที่ยงผมเข้าไปครับ ขอบคุณครับ"


และแล้ววันจันทร์นี้ก็ถึงจุดเปลี่ยนของชีวิตอีกครั้ง



ไม่รู้เป็นเหตุบังเอิญหรือว่าความตั้งใจของข้าพเจ้า ตั้งแต่เรียนจบมา พอเริ่มทำงานเท่าที่จำได้ความได้ว่า พอถึงช่วงฟุตบอลโลกเมื่อไหร่ ตัวข้าพเจ้าเองมักจะได้เปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตเกือบทุกครั้ง

เริ่มตั้งแต่โน่นเลย จำได้ว่าทีม อิตาลี่ ยุค เปาโล รอชซี่ ได้ครองถ้วย ปีนั้นก็ได้ขึ้นมาเรียน ที่กรุงเทพ นับว่าเป็นจุดเริ่มของการผจญภัยในเมืองหลวง ตอนขึ้นมาอายุก็ 13 ปี เท่านั้น แถมมาอยู่คนเดียวด้วย (ชอบมาก)

ถัดมาอีก 4 ปี จบ ปวช.มาหลายเดือนแล้ว กลับมาอยู่บ้านที่ ตจว. ช่วงนั้น จำได้ว่าเป็น ยุคของ หัตถ์เทพเจ้า อาร์เจนตินา ได้ถ้วยผมก็ได้งานทำเหมือนกัน (พ่อเป็นคนฝากให้) ยังจำได้ว่าไปทำงานวันรุ่งขึ้นยังเมาขี้ตาอยู่เลย ก็กว่าบอลจะแข่งเสร็จก็เกือบสว่างแล้ว แถมงานที่ได้ไปทำก็เป็น นายช่าง survey ถนนของนักการเมืองท้องถิ่น คิดดูว่าต้องเดินส่องกล้องกลางแดด เป็น สิบๆกิโล.. แล้วคืนก่อนเริ่มงานก็นอนน้อยด้วย (มัวแต่ดูบอลนัดชิง) งานนายช่าง survey นี่ทำได้ปีกว่าๆ ก็เบื่อ เลยหาเรื่องกลับขึ้นมาอยู่ กทม. (หลงแสงสี) ตอนลาออกให้เหตุผลกับ บ.ว่า จะขึ้นมาเรียนต่อ แต่ไม่ได้บอกพ่อกับแม่ ว่าลาออกจากงานแล้ว พอตอนเช้า แม่เห็นไม่ไปทำงาน แม่ก็ถาม แต่โกหกแม่ไปว่า "ช่วงนี้ฝนตก .ใครเค้าทำกันถนน" โกหกอยู่ได้ไม่ถึง อาทิตย์ ที่บ้านก้รู้ เลยโดนสวดซ่ะจนอยู่บ้านไม่ได้ ก็เลยขึ้นมา กทม.

ย้อนกลับไป 8 ปีก่อน ยุค ฝรั่งเศส ครองถ้วยพร้อมทั้งฉลองวันชาติ ด้วยการเอาชนะ บราซิล ได้ คืนนั้นจำได้แม่นยำเลย เพราะว่าช่วงนั้นได้ทำงานอยู่ที่ บ.ในเครือ Team Group ช่วงนั้นริเริ่มที่จะเป็นคนรับแทงพนันบอลด้วย โดยส่งให้กับเพื่อนอีกต่อหนึ่ง ช่วงก่อนบอลนัดชิงจะแตะกัน 2 วัน ก็มี โทรศัพท์จากที่บ้านโทรมาบอกว่า "เฮ้ย! นิ้ง มรึงกลับมาที่บ้านหน่อยซิ นิ นอนอยู่ที่โรงพยาบาลว่ะ" ( นิ เป็นนามที่ผมใช้เรียกแม่ผม ติดมาจากพี่เลี้ยงตอนเด็กๆ เค้าเป็น อิสลาม เค้าชอบเรียกแม่ผมว่า นานิ ซึ่งแปลว่า น้าสาวหรือพี่สาว ) ผมได้ข่าวก็ลางานกลับบ้าน ไปถึงบ้านก็ดิ่งไปโรงพยาบาลที่แม่นอนก่อนเลย แม่นอนนิ่งไม่รู้สึกตัวบนเตียง ถามอาการหมอๆก็ตอบไม่ค่อยเคลียร์ ก็เลยหาย้ายแม่เข้าไปยังโรงพยาบาลในตัวจังหวัด ให้รถโรงพยาบาลมารับ ผมนั่งไปกับรถพยาบาล ระหว่างทางแม่ก็ชัก ดีว่าถึงโรงพยาบาลพอดี หมอก็จัดการเอาแม่เข้าห้อง แล้วบอกกับผมว่า "คนไข้คงจะช็อกน่ะ แต่คงไม่เป็นไรแล้ว" หมอก็แนะนำว่าให้ผมกลับไปบ้านดีกว่า (เพราะผมอยู่ตัวอำเภอ ซึ่งห่างจากโรงพยาบาลหลายสิบกิโล) ไว้มีอะไรหมอจะโทรแจ้งทางมือถือ ผมก็เบาใจ

เย็นวันนั้นผมผมก็รับแทงบอลทางโทรศัพท์มือถือ จากลูกค้าในกรุงเทพเหมือนเช่นเคย จำได้ว่าวันนั้นลูกค้าอยู่ฝั่ง บราซิล ทั้งนั้น ยอดแทงรวมๆแล้วก็ 7หมื่นกว่า ค่ำๆก็ยังไม่ส่งยอดแทงไปให้เพื่อน กะว่าเดี๋ยวค่อยส่ง แล้วก้มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ปลายสายเป็นเสียงมาจากโรงพยาบาล แจ้งมาว่า คนไข้หัวใจหยุดเต้น ตอนนี้หมอกำลังช่วยปั๊มหัวใจอยู่ ผมได้ยินก็รีบบึ่งไปโรงพยาบาล ไปถึงหมอก็ออกมาจากห้อง icu บอกให้ฟังถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมก็ขอเข้าไปดูแม่ผม ตอนนั้นดูแล้วก็ต้องบอกเลยว่า ต้องทำใจ ผมก็ไม่ได้กลับบ้าน แต่ผมได้เปิดห้องที่โรงพยาบาลนอนกะไว้ว่าเผื่อมีอะไรฉุกเฉินก็จะไม่ต้องเทียวไปเทียวมา เข้าห้องได้ผมก็หลับ... ตื่นอีกทีก็เพราะมีเพื่อนโทรศัพท์มาปลุกให้ดุฟุตบอลโลกนัดชิง ผมก็ดูอยู่ในห้องที่โรงพยาบาลน่านแหละ โดยที่ลืมสนิทเลยว่า ยังมียอดที่เค้าแทงทีม บราซิลมาตั้ง 7หมื่นกว่า อยู่ในมือ โดยที่ยังไม่ได้ส่งให้กับเจ้ามือ "ซวยแล้วซิตรู บอลก็แข่งแล้วด้วย ใครมันจะรับวะ" ผมก็เลยเก็บไว้เอง เพราะให้ใครๆก็ไม่รับ แมต์นั้นมีแต่คนแทงบราซิล ผมดูบอลไปก็กังวลไป ไหนจะแม่ที่นอนอยู่ icu ไหนจะเงินที่เค้าแทงบอลมา ตอนที่ อิตาลี่ ยิงนำ บราซิล ผมได้ยินเสียงโห่ร้องจากร้านค้าหน้าโรงพยาบาลดังเข้ามาในห้องที่ผมอยู่เลย แต่ผมไม่มีอารมณ์ดีใจเลย ทั้งๆที่ถ้า อิตาลี่ ชนะผมได้เงินมาใช้ตั้ง 7หมื่น ในที่สุดบอลจบผมก็ได้เงินมาใช้ อิตาลี่รับถ้วยเสร็จ ผมก็ปิดไฟนอน

ซักตี 4 กว่าก็ต้องตื่นด้วยเสียงเคาะประตู 3 ครั้ง ทุกคนที่นอนอยู่ในห้อง ทั้ง พ่อ/พี่/น้องผมได้ยินกันหมด ผมนอนอยู่ใกล้ประตู ก็ลุกขึ้นไปเปิดประตูปรากฎว่า ว่างเปล่าไม่มีใครเลย ผมปิดประตูแล้วก็อดคิดไม่ได้ เลยพูดกลับคนในครอบครัวไปว่า "สงสัย นิ มาบอกลาแล้วล่ะวะ" ทุกคนก็ได้แต่เงียบ ไม่พูดอะไร แล้วก็ปิดไฟนอนต่อ อีกซัก 20 นาที ก็มีเสียงเคาะประตูอีก พอเปิดประตูไปก็เหมือนเดิมอีก เราทุกคนก็ได้ยินเหมือนกันหมด ก็ได้แต่นั่งมองหน้ากัน แล้วก็ปิดไฟนอนต่อ มารู้สึกอีกทีก็ตอน 7โมง มีพยาบาลเอาของกินมาให้ ผมก็ถามเค้าว่าก่อนหน้านี้มีใครมาเคาะเรียกอะไรที่ห้องหรือเปล่า พยาบาลบอกว่าไม่น่าจะมีนะ เพราะเวลานั้นคงไม่มีใครมาเคาะหรอก และนี่เธอก็เป็นเที่ยวแรกที่เอาของกินมาให้ตามห้อง...

รุ่งวัน ห้อง icu เปิด ผมก็เข้าไปดูอาการแม่ผม ทุกอย่างยังไม่ดีขึ้น หมอเจ้าของคนไข้มาผมก็ถามหมอ ว่าเป็นยังไงบ้าง หมอก็บอกตามควมจริงว่า%เหลือน้อย ในที่สุดตอนสายวันๆนั้นแม่ผมก็จากไป จริงๆแล้วผมว่าแม่ผมน่าจะจากไปตั้งแต่คืนนั้นแล้วด้วย

จัดงานศพแม่ผมเสร็จผมก็ขึ้นมาลาออกจากงาน แล้วก็เริ่มทำอาชีพ รับแทงฟุตบอลอย่างเป็นจริงเป็นจัง (มีเงินให้ตั้งตัวตั้ง 7หมื่น) โดยเปิดเป็นร้านขายกาแฟ ไว้เป็นที่รับแทงและให้ลูกค้านั่งดูบอลกัน แต่ผมไม่ได้เป็นเจ้ามือเองหรอกนะ แค่ส่งกินค่าน้ำก็เหลือเยอะแล้ว ผมทำอยู่ ปีกว่าๆ เก็บเงินได้ซื้อมอเตอร์ไซค์คันหนึ่ง



เจ้านี่แหละครับ มันชื่อว่า "ฮาเลย์ เดวิดเจียง" ค่าตัวก็ 3แสน พอดิบพอดี


ระหว่างนั้นผมก็ไปรับทำเป็น นายช่าง survey ถนนกับเจ้านายที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นคนเก่าด้วย วันไหนถ้ามีงาน survey ถนน ผมก็ไปทำให้ โดยได้ค่าจ้างเป็นงานๆไป แต่ที่สำคัญผมเป็นคนของนักการเมืองท้องถิ่น มีอะไรก็ยังมีคนช่วยเคลียร์ให้ โดยเฉพาะเจ้า "ฮาเลย์ เดวิดเจียง" ผมซึ่งมันไม่มีทะเบียน (ค่าทำทะเบียนเกือบแสน) เลยโดน ตร.เล่นงานบ่อยมาก แต่ก็มีคนจัดการได้ทุกครั้ง

ช่วงนั้น อู้ฟู้ มาก ขับเจ้า เดวิดเจียง ไปซ่าถึงหาดใหญ่ ก็ไปจีบสาวน่านแหละ วันดีคืนดี สาวเจ้าก็คงจะเบื่อกับการใช้ชีวิตของผม ก็เลยบอกว่าให้ผมไปทำตัวให้ดีใหม่ หัดทำงานให้เหมือนคนอื่นเค้าบ้าง ... ผมก็เลยมึนไปพักใหญ่ แล้วยังมาโดน ตร.เรียกเข้าไปคุยเรื่องผมทำโต๊ะบอลอีก็ เพราะว่าลูกค้าที่เป็นเด็ก นร. ชอบมาแทง บอลชุด กับผมน่ะซิ ครับ บอลชุด ที่ว่านี่ มีเงินน้อยๆก็แทงได้ (20 บาท) ค่าขนมเด็กๆก็มาอยู่ที่พวกผมหมด จนผู้ปกครองเริ่มร้องเรียน จึงเป็นเหตุให้ร้านกาแฟผมโดนค้น แต่ผมก็รอดมาได้เหมือนทุกครั้ง ...

ในที่สุดผมก็ตัดสินใจยกร้านและลูกค้าทั้งหมดให้เพื่อนผมที่เป็นหุ้นส่วนทำต่อ เจ้า เดวิดเจียง ผมก็ขายถูกไปให้พรรคพวก (เพราะ กทม. คงไม่มีใครช่วยเคลียร์ให้แน่) แล้วผมก็ขึ้นมา กทม. อีกครั้ง ตอนนั้นยังจำได้ว่า ฟุตบอลโลกกำลังเตะกันอยู่เลย วันที่ผมขึ้นมา กทม. ผมจำได้ว่า แมต์นั้น (เมื่อ 4 ปีก่อน) ทีม เกาหลี เล่นกับ ทีมอิตาลี่ ในเวลา 90 นาที ผลเสมอกัน

แล้วผมก็ได้ทำงานเกี่ยวกับหมู่บ้านจัดสรรญ ทำอยู่ได้ 3 ปีกว่า (ถึงได้มี ไอ้โหด , ไอ้ไข่นุ้ย) ก็เป็นที่รู้ๆกันของเพื่อนใน blog ว่าต้องมีอันต้องออกมาแสวงหาอาชีพใหม่ (เป็นพ่อค้าผ้า) แต่ต้องยอมรับว่า ไม่รุ่งครับ อย่างว่าประสบการณ์น้อยมาก ก็เลยไม่ได้ดั่งที่คาดคิดไว้ จนในที่สุดก็หยิบโทรศัพท์ แล้วก็....

"ตุ๊ด ตุด ตู้ด ...."
"หวัดดีครับ น้าจ๋อยเหรอครับ ผมนิ้งนะครับ"
"อ้าว! นิ้ง มีไร?"
"ผมว่าผจะกลับไปทำงานน่ะครับ ได้ไหมครับ?"
"ได้ซิ"
"'งั้นเดี๋ยวเที่ยงๆผมเข้าไปคุยนะครับ น้าจ๋อยอยู่ออฟฟิตไหมครับ?"
"วันนี้พี่อยู่ทั้งวัน เข้ามาได้เลย"
"เดี๋ยวเที่ยงผมเข้าไปครับ ขอบคุณครับ"

ครับ... วันจันทร์ผมกลับไปเริ่มงานที่เก่าครับ
ยอมปวดหัวอย่างเก่า แต่สิ้นเดือนมีเงินใช้แน่นอนครับ


ปล.ทิฐิมันกินไม่ได้จริงๆครับท่าน


Create Date : 04 มิถุนายน 2549
Last Update : 4 มิถุนายน 2549 20:37:34 น. 22 comments
Counter : 1545 Pageviews.

 
เป็นกำลังใจให้


โดย: Zantha วันที่: 4 มิถุนายน 2549 เวลา:10:32:36 น.  

 
ชีวิตมีสีสันมากเลยพี่เมิร์ฟ

ลองมาสารพัด....

มาอ่านละรู้สึกว่า

ชีวิตเราจืดชืดจัง

แต่ก็นะ...ไม่คิดมากหรอก

เกิดมาได้ยี่สิบปีเอง น้อยกว่าเฮียเมิร์ฟตั้งหลายรอบ

ฮ่าๆๆๆ พูดเล่นนนน

ปล. กลับไปทำงานรอบนี้อย่าขี้งอนอีกน้า


โดย: PADAPA--DOO วันที่: 4 มิถุนายน 2549 เวลา:11:56:47 น.  

 
ถือว่าประสบการณ์ชีวิตเพียบเลยค่ะคุณ merf ...


โดย: JewNid วันที่: 4 มิถุนายน 2549 เวลา:14:29:05 น.  

 
เชิญชมภาพอีกแล้วจ้า


โดย: โสมรัศมี วันที่: 4 มิถุนายน 2549 เวลา:17:56:22 น.  

 
ใช้ชีวิตได้คุ้มมากเลยคุณเมิร์ฟ
ประสบการณ์ชีวิตเยอะมาก
ดีใจด้วย ที่จะกลับไปทำงานประจำอีกครั้งค่ะ
เข้าทำงานตอนจะมีบอลโลก
มีแผนอะไรรึเปล่าคะ อิอิ


โดย: มณี IP: 130.101.31.16 วันที่: 4 มิถุนายน 2549 เวลา:19:01:23 น.  

 
สู้ๆๆๆ น๊า


โดย: Porkaew_Pen (ปากกา_ปอแก้ว ) วันที่: 4 มิถุนายน 2549 เวลา:20:48:06 น.  

 
เราก็เฝ้ารอจุดเปลี่ยนของชีวิตเช่นกัน ลุ้นๆๆๆๆ


โดย: tzippy วันที่: 4 มิถุนายน 2549 เวลา:20:58:49 น.  

 
มาทักทายก่อน เเล้วจะมาอ่านใหม่นะคร้าบ


โดย: Dark Secret วันที่: 5 มิถุนายน 2549 เวลา:1:34:35 น.  

 
คุณนี่ ประสบการงานเพรียบจริงๆ ขอให้โชคดีน๊า

ดีแล้วล่ะ ทำงานที่มีเงินเดือนแน่นอน

นึกหนุกๆ ก้เล่นขายของ หาลำไพ่ หนุกดี

เรายังนึกหนุกๆเลย

แต่ไม่เห็นมีใครติดต่อเรามาเลยแม้แต่รายเดียว

เราว่าจะจะหนุกกะสินค้าตัวใหม่ และเปิดเผยการติดต่อที่ง่ายกว่าคราวที่แล้ว (ซึ่งเราไม่ชอบเปิด แต่คิดว่าเปิด น่าจะมีคนติดต่อดีกว่า ให้ติดต่อทางอีแม๊วอย่างเดียว)


โดย: โสมรัศมี วันที่: 5 มิถุนายน 2549 เวลา:12:57:50 น.  

 
เหตุการณ์ผกผันตามบอลโลกจริงๆ อิอิ
ผมเชียร์อิตาลี่ เเต่ไม่ได้ดูปีที่ เปาโล รอซซี่ พาอิตาลี่ได้เเชมป์ครับ

เรื่องงานเป็นกำไรดีครับ ได้ทำอะไรหลายๆอย่าง ผมว่าไม่น่าเสียใจ ประสบการณ์หาไม่ได้ง่ายๆ เเต่เรื่องรับพนันบอลเนี่ย ค่อนข้างลำบากนะครับ มันไม่ยืดเลย เพื่อนผมเคยทำ มันม้วนเสื่อหนีเเทบไม่ทัน จะโดนกระทืบอยู่ร่อมร่อ ซวยจริงๆ เสี่ยงมากๆด้วย

ฮาเลย์ เดวิดเจียง เท่ห์มากๆ ไม่น่าขายไปเลยเสียดายเเทนครับ

ขอให้ราบรื่นนะครับ กลับไปทำงานที่เก่า เงินเป็นปัจจัยหลัก ก็ต้องสู้เพื่อปากท้องต่อไปครับ


โดย: Dark Secret วันที่: 5 มิถุนายน 2549 เวลา:14:08:20 น.  

 
อิตาลี สู้ๆๆ


โดย: BaLL182 (BaLL182 ) วันที่: 5 มิถุนายน 2549 เวลา:14:58:54 น.  

 

นี่แหละคนเหล็กตัวจริง ผ่านแดด ผ่านฝน ผ่านตำรวจ ผ่านปัญหามาสารพัด แต่ก็ยังไม่บุบ เพียงแต่ยังไม่รวย

คราวนี้ ถ้าคิดว่าอาชีพสร้างบ้าน สร้างถนน Merfชอบ ได้เงินมากจนพอใจ และคงมีให้ทำไปเรื่อยๆ merfก็เริ่มศึกษาลู่ทางการทำธุรกิจไปด้วย ขณะเป็นลูกจ้างเขา (เพราะหากไม่เริ่มตั้งแต่วัยขนาดนี้ มันจะถือว่าช้า ไปแล้ว)

การเริ่มต้นทำธุรกิจ (ครั้งแรก) ยังไม่ต้องทำเต็มระบบอย่างน้าจ๋อย เพราะน้าจ๋อยมีประสบการณ์ มีเงิน มีลูกค้า มีบารมี

merfต้องเริ่ม แบบรับจัดหาวัสดุ สิ่งของ ที่น้าจ๋อยต้องการรับซื้อ เพื่อมาสร้างบ้าน สร้างถนน แต่ในประเทศไทย น้าจ๋อย ไม่ได้มีคนเดียว

Merf สนใจจะรับจัดหาวัสดุ สิ่งของอย่างใด ก็เริ่มหาข้อมูลเชิงลึก เกี่ยววัสดุ สิ่งของชนิดนี้ เอาแบบรู้หมด รู้ครบ รู้อย่างมืออาชีพ ใครถามต้องตอบได้ ก็ทำไปเรื่อยๆขณะที่มีเงินเดือนกับน้าจ๋อยนี่แหละ

เรื่องรู้จักลูกค้า(ที่เขาจะมาเป็นลูกค้าของเรา ก็ทำความรู้จักให้ดีขึ้น จำนวนมากขึ้น ทำไปเรื่อยๆ)

ธุรกิจนี้ ไม่ได้เนรคุณ เพราะไม่ได้เป็นคู่แข่งน้าจ๋อย แต่จะกลับไปคัดเลือกสิ่งที่ดี ราคาสมเหตุผล มาให้น้าจ๋อย ทันเวลาด้วยซ้ำ

ที่เขียนมายาว เพราะการทำธุรกิจแบบSupply Chains มีคนรวยไปเยอะ

การเริ่มก็เริ่มจากเงินน้อย ค่อยๆเรียนรู้จากน้าจ๋อย (ซึ่งเป็นระบบใหญ่) ก็จะพอรู้ว่าน้าจ๋อยจะต้องการซื้ออะไร คุณภาพขนาดใด ราคาที่ควรเป็น ควรจะสักเท่าไร

แล้วบริษัทแบบน้าจ๋อย ก็มีอยู่ทั่วไป แถบในจังหวัดใกล้เคียงก็มี

อนาคต ขอให้merf เป็นเจ้าพ่อ ด้านจัดหาวัตถุดิบ สิ่งของให้กับบริษัทก่อสร้างบ้าน สร้างถนน สร้างโรงงาน ฯลฯ ระดับบริษัทใหญ่ๆด้วย

และMerf อย่าหวนกลับ ธุรกิจการพนัน และธุรกิจที่ตนเองไม่ชอบนะครับ


โดย: yyswim วันที่: 5 มิถุนายน 2549 เวลา:15:33:27 น.  

 
ไม่มีความทรงจำเป็นพิเศษกับบอลโลกแฮะ
นอกจากว่าดูครั้งแรกตอน ป.6 อิตาลีแพ้จุดโทษ บราซิล
แล้วเลยไม่สามารถย้ายไปเชียร์ทีมอื่นได้
ต้องรอให้อิตาลีเป็นแชมป์ ไม่ก็บอลไทยไปบอลโลก

เบื่อชีวิตพ่อค้าแล้วเหรอคะ?


โดย: rebel วันที่: 5 มิถุนายน 2549 เวลา:21:12:24 น.  

 
ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลากหลายเลย แต่ชีวิตก็คือชีวิตที่ต้องมีทุกด้านและต้องผ่านไปให้ได้ ดีจังที่คุณนิ้งเป็นคนตัดได้ไม่ยึดติดทำให้ชีวิตไม่เครียด ถ้าเป็นคนยึดติดเปลี่ยนแปลงชีวิตแต่ละครั้งเป็นเรื่องใหญ่ล่ะตายเลย เพราะบอลโลกจะมีการแข่งขันไปอีกนานเป็นแน่


โดย: อ้วนดำปื๊ดปื๊อ วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:7:30:59 น.  

 
คห..แม่บัดดี้เรียบๆซึ้งๆเห็นชีวิตค่ะ ..ใช่เลยสำคัญที่ว่าเราต้องผ่านไปให้ได้ไม่ว่าจะด้านไหน ยินดีด้วยนะคะ อ่านแรกๆก็ลุ้นค่ะ คุณโชคดีที่ผ่านความผาดโผนมาได้ ชีวิตไม่ง่ายเลย ..คุณผกผันตามบอลจริงๆด้วย ทุกๆช่วงกี่ปีของเราก็จะมีการเปลี่ยนแปลง บางครั้งเราก็อยากอยู่แบบเดิมๆ แต่ก็ฝืนไม่ได้ โลกไม่สงบแต่เราสงบใจเราได้ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ..เห็นด้วยทิฐินั้นอาจไม่ใช่ทางฉลาดในบางเรื่องนะคะ บางทีเราทิฐิกับคนที่ปราถนาดีต่อเราค่ะ พี่ป่ามืดก็ทำมาสารพัดอาชีพค่ะ ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ไม่ได้ชอบเลย แต่เป็นอาชีพที่เลี้ยงชีพได้ค่ะ และทำให้มีเวลานั่งเล่นบล๊อคนี่ด้วยค่ะ


โดย: ป่ามืด วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:14:09:43 น.  

 
สู้ต่อไปค่ะคุณเมอฟี่ ชีวิตคนเราก็งี้แหละ ขึ้นๆลงๆ แต่ซักวันมันต้องเป็นวันของเราแน่นอนค่ะ ให้กำลังใจนะคะ


โดย: tiny (tiny ) วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:20:44:17 น.  

 
ยังไม่ได้อ่านรายละเอียดนะ คุณ merf
ขอตอบตามที่ได้อ่านบทสนทนาคร่าวๆ และเดาเอาจากเรื่องของแผงขายผ้าที่คุณ merf เอามาเล่าบ่อยว่า
ชีวิตคนเราก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ แหละเนาะ
เหมือนเวลาเราขับรถไปโดยไม่มีแผนที่อยู่ในมือ
ก็ต้องลองเข้าซอก เข้าซอย หาทางไปให้ถึงจุดหมายเอาเอง
บางซอยเข้าไป เป็นทางลัด
บางซอยเข้าไปเ เป็นทางตัน
ต้องถอยรถออกมา เพื่อหาทางใหม่ไป
ถ้ายังหาทางใหม่ไปไม่ได้
ก็ต้องอาศัยทางที่เราคุ้นเคย เดินหน้าไปก่อนพลางๆ
... เพราะชีวิตของเราหยุดเดินหน้าไม่ได้นี่นา

เดี๋ยวเย็นๆ จะมาอ่านรายละเอียดนะคะ
เป็นกำลังใจให้เด้อ


โดย: ซีบวก วันที่: 7 มิถุนายน 2549 เวลา:8:04:35 น.  

 
I can't remember details of my past ka.

I still remember when you quit your job last time.
Now you are going back to where you came from.
Hope you have an even better life naka.

Now you know what you want to do the most.
Just go for it


โดย: mungkood วันที่: 8 มิถุนายน 2549 เวลา:0:19:48 น.  

 
....เจนนี่คนไม่จ๋วย แต่เร้าจายยยย มาแย้วจ้า....

....เจนนี่แวะมาทักทายและขอบคุณมากน่ะคะ ที่แวะไปทักทายเจนนี่ที่บล็อค ไม่ได้แวะมาหลายวัน คงไม่ว่ากันน่ะคะ วันนี้เจนนี่เอาความคิดถึงมาฝากค่ะ ฮิฮิ....

....ว่างๆก็แวะไปเที่ยวกับเจนนี่อีกน่ะคะ แล้วเจนนี่จะแวะมาใหม่ค่ะ....

....ขอให้วันนี้และวันต่อๆไปเป็นวันดีๆของคุณน่ะคะ.....


โดย: สาวอิตาลี วันที่: 8 มิถุนายน 2549 เวลา:12:39:36 น.  

 
เข้ามาเยี่ยม เริ่มงานที่ใหม่บ้างหรือยังครับ?


โดย: yyswim วันที่: 8 มิถุนายน 2549 เวลา:15:10:00 น.  

 
ก็อย่างว่าคนเรามันต้องดิ้นรนเพื่อให้อยู่รอดนะคุณเมิร์ฟ อย่างน้อยการกลับไปอีกครั้งของคุณก็จะทำให้คุณแกร่งกว่าเดิมแหละ ปัญหาเดิมๆไม่น่าจะทำให้ปวดหัวได้มากมายแล้ว

ตัดสินในแล้วก็สู้ๆนะครับ


โดย: นายเบียร์ วันที่: 9 มิถุนายน 2549 เวลา:23:04:52 น.  

 


มาแวะเยี่ยม


โดย: PADAPA--DOO วันที่: 11 มิถุนายน 2549 เวลา:9:05:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

merf1970
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [?]




Friends' blogs
[Add merf1970's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.