Group Blog
 
 
มีนาคม 2552
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
19 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 

ลิเวอร์พูล

รา ฟาเอล เบนิเตชได้เข้ามาคุมทีมลิเวอร์พูลเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2004 ราฟาได้เซ็นสัญญา เป็นระยะเวลาสี่ปี กับสโมสรลิเวอร์พูล เขาเคยเป็น ผู้จัดการทีมบาเลนเซียมาก่อน นอกจากนั้นยังเคยคุมทีมใน ลา ลีกาถึงห้าทีม ราฟาลายมาเป็น ผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จที่สุด ของบาเลนเซีย หลังจากเพิ่งเข้าทำงานกับทีม ได้เพียงสามฤดูกาล และสามารถนำลิเวอร์พูลคว้าแชมป์รายการแชมป์เปี้ยนลีคได้ตั้งแต่ปีแรกที่เข้า มาทำงาน
การทำงานของ ราฟา นั้นแตกต่างจากกุนซือคนอื่นค่อนข้างมาก เขาชอบจะมีความคิดแบบแปลกๆที่เราไม่สามารถเข้าใจได้ แต่ก็เช่นเดียวกับกุนซือทุกคน การคุมทีมฟุตบอลทีมหนึ่งยอมต้องการประสพความสำเร็จ ราฟา ก็เช่นเดียวกัน เขามีความทะเยอทะยานอยากจากสร้างชื่อเสียงในวงการที่ขึ้นชื่อได้ว่ามีอิทธพล มากที่สุดในวงการหนึ่งของโลก ราฟา นั้นเป็นคนที่ชอบคิดอะไรสร้างสรรค์อยู่เสมอๆ ไม่หยุดที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับศาสตร์ด้านฟุตบอล ต้องการที่จะนำทีมไปอยู่ในจุดสูงสุด แรกเริ่มที่อยู่ในสเปน ราฟาพยายามสร้างชื่อให้ตัวเอง จนมาโด่งดังสุดๆ เมื่อได้คุมทีมบาเลนเซีย สมัยนั้นบาเลนเซียแข็งแกร่งมากทั้งใน เวทีลาลีกา และ เวทียุโรป หลังแน่น กลางปึ๊ก หน้าคม ขุนพลคู่ใจในยุคนั้นของราฟาคือ รูเบน บาราคา แต่หลังจากเมื่อปี 2004 ราฟาปีปัญหากับสโมสร จนต้องย้ายมาอยู่กับลิเวอร์พูล ทำไมกุนซือระดับเบนิเตชถึงย้ายมาอยู่ลิเวอร์พูล ทั้งๆที่ในเวลานั้นมีสโมสรมากมายพร้อมจะอ้าแขนพร้อมต้อนรับเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รีล มาดริด
เหตุหนึ่งที่สำคัญก็คือ ลิเวอร์พูลเป็นสโมสรใหญ่ที่ต้องการความสำเร็จอยู่ตลอดเวลา แต่ห่างหายจากความสำเร็จเป็นเวลานานแล้ว จึงตรงใจของราฟาที่ต้องการจะสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในวงการฟุตบอลแห่ง นี้ แน่นอนเงินไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเบนิเตช มิฉะนั้นเขาคงย้ายไปอยู่รีล มาดริดตั้งแต่ปีนั้นแล้ว ไม่ต้องเสียเวลามานั่งเรียนภาษา ทนสภาพอากาศหนาวเหน็บในประเทศอังกฤษให้เมื่อยตุ้มหรอก แต่เป็นเพราะราฟาเล็งเห็นถึงสปิริตและจิตวิญญาณของสโมสรแห่งนี้ จึงตอบรับแบบไม่มองทีมอื่นเลยทีเดียว

กุนซือในแบบฉบับ ++ ราฟา ++ คือ กุนซือที่กระหายในความสำเร็จและต้องการนำสโมสรที่ตัวเองคุมไปสู่จุดสูงสุด ที่จะไปได้ ไม่ใช่แค่ช่วงเวลาเพียงครั้งคราวแต่เป็นความสำเร็จในระยะเวลายาวนาน เพื่อให้เป็นที่จดจำในประวัติศาสตร์ เป็นตำนาน และไม่เป็นที่ลืมเลือนของคนรุ่นหลัง กุนซือแบบนี้ในปัจจุบันมีหลายคน ทั้งคนที่ประสบความสำเร็จไปแล้ว หรือกำลังเริ่มต้นสร้างชื่อเสียง

กุนซือแต่ละคนนั้นก็มีสไตล์การทำทีมเป็นของตัวเอง
- เวงเกอร์นั้นชอบสร้างระบบของทีมแบบเยาวชนเน้นนักเตะที่มีเบสิค และเทคนิคอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ทำให้นักเตะมีความคล่องตัว เซนส์บอลใกล้เคียงกัน ระบบทีมจึงดูไหลลื่นน่าดู
- เฟอร์กี้ชอบทำทีมในระบบเกมรุกโดยทำการบุกจากทางริมเส้น ซึ่งเอาสไตล์อังกฤษดั้งเดิมมาประยุกต์โดยการใช้การโยนหรือผ่านเข้ากลางเพื่อ กดดันคู่ต่อสู้ มีกองหลังที่แข็งแกร่งมาตลอดที่สำคัญคือ ผู้รักษาประตูที่เหนียวแน่น
- มูรินโญ่ มีสไตล์การทำทีมแบบเน้นเทคติก เกมแดนหลังและกลางเหนียวแน่น มีปีกที่มีความเร็วสูง มีการวางแผนและเทคนิคแก้เกมแบบนัดต่อนัด ซึ่งคล้ายๆกับสไตล์ของราฟา

เพราะฉะนั้นราฟาจึงอยู่ในข่ายกุนซือผู้ชอบการวางหมากและเน้นแทคติก มีการวางแผนในทุกๆเรื่องและละเอียดอ่อนในทุกจุดที่จะมีผลเกี่ยวกับทีมของเขา หลายครั้งที่เราอาจไม่เข้าใจการแก้เกม การเปลี่ยนตัว หรือ การกระทำบางอย่างของเขา นั่นเป็นเพราะเขามีจุดประสงค์ของเขาอยู่ในใจอยู่แล้ว และทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องที่ดีหากเรามองออก เช่น การโรเตชั่น ก็เป็นที่พิสูจน์กันไปแล้ว จนหลายๆทีมในตอนนี้เริ่มเอาแบบอย่างกันอย่างเอิกเริก


แผนที่ราฟาชอบใช้ที่สุดคงหนีไม่พ้น 4-2-3-1 กองหลัง 4 กลางหน้ากองหลัง 2ตัว
ริมเส้น 2 ข้าง มีจอมทัพ 1ตัว อยู่หลังกองหน้า ราฟาชอบที่จะใช้การวางแผนแบบนัดต่อนัดมากกว่า การจัดตัวหรือจัดแผนจึงเปลี่ยนแปลงทุกนัด แล้วแต่ว่าจะเจอคู่แข่งแบบไหน ความทะเยอยาน และกระหายความสำเร็จของราฟา ถูกถ่ายโอนไปสู่การเลือกนักเตะของเขา
นักเตะที่ราฟาชอบคือนักเตะที่มีวินัย เชื่อฟังในแทคติคของเขา มีสปิริตที่ดี สามารถเล่นได้ตามแผนของเขา ที่สำคัญคือต้องกระหายในความสำเร็จเช่นเดียวกับเขา เพราะฉะนั้นเราจึงไม่เห็นว่านักเตะที่ราฟาซื้อมาแต่ละคนจะมีความสามารถ เทคนิคที่ดีมากเกินไป เพราะนักเตะเหล่านี้อาจชอบโชว์จนทำให้ทีมเวิรค์ของทีมเสียไป แต่เลือกที่จะใช้นักเตะในแต่ละตำแหน่งได้ตรงตามความต้องการของเขาต่างหาก นักเตะคนแรกๆที่ราฟาดึงเข้ามาคือ อลองโซ่ ตอนอลองโซ่อยู่ในสเปนก็มีชื่อเสียงพอสมควรแต่ยังไม่ประสพความสำเร็จ ราฟาจึงดึงตัวเข้ามา เช่นเดียวกับตอเรส ซึงเป็นนักเตะซึ่งมีคาแรคเตอร์คล้ายกับราฟาเลยทีเดียว ถ้าตอเรสต้องการเงิน ก็คงย้ายไปเชลซี หรือทีมอื่นๆในตอนนั้นได้อย่างง่ายดาย แต่ทำไมจึงเลือกลิเวอร์พูล?


โอเว่นนั้นเลือกที่จะไปอยู่กับมาดริดโดยมีเหตุผลเรื่องอะไรก็สุดจะแล้วแต่ ราฟาจึงไม่ง้อ เจอราดด์เคยเกือบจะย้ายไปเชลซี เคยงัดข้อกับราฟาเรื่องตำแหน่งแต่สุดท้ายก็คิดได้ แต่ก็ยังมีหลายๆคนที่ราฟาดึงมาแล้วไปด้วยกันไม่ได้ แต่ราฟาก็เริ่มที่จะเรียนรู้ได้ดีในการเลือกนักเตะเหล่านั้น เหตุผลหนึ่งที่ราฟาต้องงัดข้อกับ2เจ้าของทีมดูโอมะกัน ในการต่อสัญญา คือสิทธิ์ขาดในการเลือกนักเตะ นั่นเป็นเพราะราฟาต้องการนักเตะที่มีคาแรคเตอร์เดียวกับเขา หาใช่การเข้าไปกุมอำนาจเบ็ดเสร็จในสโมสรไม่ เงินที่ได้มาจากความสำเร็จทั้งหมดก็เข้าสู่สโมสร ส่วนราฟาเองก็ได้เงินตามสัญญา การดรอปร้อบบี้ คีนจนต้องขายออกไป คือหนทางสุดท้ายที่ราฟาอยากจะบอกทุกคนว่าสิ่งที่เขาต้องการในสิ่งสุดท้ายนี้ คือการเลือกนักเตะที่เขาอยากได้ เพื่อนำความสำเร็จมาสู่สโมสร จุดแตกหักตรงจุดนี้จึงน่าสนใจมาก


สุดท้ายนี้สิ่งที่อยากจะบอกก็คือ ราฟานั้นเป็นกุนซือที่หาได้ยากยิ่งในฟุตบอลสมัยใหม่ เป็นกุนซือที่มีความรู้เรื่องฟุตบอลอย่างลึกซึ้ง เขาเป็นคนที่มีความทะเยอทะยาน ชอบไขว่คว้าหาความสำเร็จ เขาไม่หลงไหลในอำนาจเงินซึ่งเป็นสิ่งที่ยั่วยวนในสมัยนี้ เขาทำงานหนักและพร้อมที่จะรับแรงกดดันทุกอย่างแทนนักเตะ เขาพยายามหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับสโมสร หากเราเสียกุนซือแบบนี้ไปคงน่าเสียดายอย่างยิ่งเลยทีเดียว




 

Create Date : 19 มีนาคม 2552
1 comments
Last Update : 19 มีนาคม 2552 17:03:28 น.
Counter : 237 Pageviews.

 

กริตเตอร์ ลดโลกร้อน จากใจ COOL93

 

โดย: t-sakarin1968 19 มีนาคม 2552 18:01:43 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


หงส์มาร
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




*_*แค่คนธรรมดาๆคนนึงที่รักลิเวอร์พูลเป็นชีวิตจิตใจ...แล้วก้อรักประชาธิปไตยที่สุด....*_*
Friends' blogs
[Add หงส์มาร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.