Group Blog All Blog
|
บันทึกเดินทางไปเยี่ยมญาติที่ Scotland ตอนที่ 4 เพิ่งถ่ายรูปได้ไม่กี่รูป ตาเอียนกับน้อง มิค เริ่มบ่นหนาว ทนไม่ไหวให้รีบกลับไปที่สถานี King's Cross เถอะ เอาวะ ว่าไงก็ว่ากัน เราก็หนาวเหมือนกันนี่ จากนั้นก็เลยเดินกลับไปขึ้นรถที่สถานี Westminter ฝั่งตรงข้าม ตั้งใจว่าจะขึ้นรถสาย Circle แต่รอเท่าไหร่ก็ยังไม่โผล่มาซะที เลยตัดสินใจขึ้นสาย District ไปลงที่สถานี Tower Hill เพื่อจะต่อสาย Circle อีกที พอออกที่สถานี Tower Hill ปรากฎว่ามีประกาศว่าสาย Circle จะไม่ Service ที่ Tower Hill ทำไงล่ะทีนี้ ไหงปัญหามันมากจังวะวันนี้ แล้ว ก็นึกขึ้นมาได้ว่า วันนี้มัน วัน Good Friday นี่หว่า ( 21 March 2008 ) ก็ตัดสินใจขึ้นสาย District ต่อไปยัง Algate East แล้วต่อสาย Hamersmith & the city ไปยัง King's Cross St.Pancras อ่วมอรทัยพอดีกว่าจะมาภึง สถานี King's Cross กลับมาถึงสถานี ประมาณ บ่าย 2 รถไฟออก 4 โมง อีก 2 ชั่วโมงจะทำอะไรดีล่ะ ก็เดินออกไปหาที่นั่งซะหน่อย ขอบอกว่าอากาศหนาวมากและหนาวมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อหาที่นั่งบริเวณใกล้ Platform 8 ก็เอาของว่างที่เก็บมาจากบนเครื่องบินออกมากินกัน กินเสร็จเรียบร้อยก็ไม่รู้จะกินอะไรต่อ ก็เลยตัดสินใจไปเอากระเป๋าเดินทางที่ฝากไว้คืน เจ้าหนุ่มที่คอยหากระเป๋าที่ฝากไว้ หายไปพักนึงก็กลับมาได้กระเป๋ามาแค่ 1 ใบ ยังหาอีกใบไม่เจอกลับมาถามเราว่า กระเป๋าเหมือนกันรึเปล่า เราก็บอกว่าไม่ใช่อีกใบเป็นผ้าสีน้ำเงิน แล้วก็หายไปอีกพัก ก็กลับมาพร้อมกระเป๋าอีกใบ จ่ายค่าฝากไป 13 ปอนด์ แล้วก็ลากกระเป๋ากลับไปในสถานีอีกครั้ง พยายามหาที่นั่งบริเวณที่มองเห็นป้ายบอกเวลารถไฟออก จอที่แสดงเวลารถไฟออกจะเหมือนกับจอที่แสดงเวลาเครื่องบินที่สนามบินเลยล่ะ เช่นมีเวลา มี Platform บอกว่า on time หรือ Delay และบอกสถานะว่าตอนนีกำลังทำอะไรอยู่ เช่น Being Prepare หรือ On Boarding เราไม่มีอะไรทำเลยลากน้องมิคไปถ่ายรูป ( ถ่ายรูปได้ แต่ ห้ามใช้ Flash ) รอจนทนหนาวไม่ไหว ต้องเปิดกระเป๋าเดินทางเอา Jacket ออกมาใส่อีกตัว ส่วนน้องมิครอจนหลับคุดคู้ไปเลย หนาวจริง จนคางสั่นกึก ๆ เลยล่ะ ตาเอียนบอกว่า " I wont moaning about warm in Thailand anymore , Bloody cold here !!!" เห็นสภาพของพวกเราแล้วคงทำให้ผู้ชายที่นั่งข้าง ๆเราอดสงสารไม่ได้ เค้าลุกเดินหายไปสักพักก็กลับมาบอกตาเอียนว่า ให้พาพวกเราไปนั่งในห้องด้านโน้นซิ จะอุ่นกว่าเยอะ ตาเอียนเหลียวดูจอ เห็นว่าขบวนรถของเรา กำลังขึ้น Being Prepare ก็เลยได้แต่ขอบคุณ ที่เค้ามีน้ำใจ ประมาณ 15.40 น. จอก็บอก On Boarding ที่ Platform 2 เราก็เลยปลุกน้องมิค ซึ่งอารมย์เสียมาก เพราะเหนื่อยมาตลอดการเดินทาง แต่ก็ต้องบังคับให้เดินตามไปขึ้นรถไฟ บ่นเป็นหมีกินผึ้งไปตลอดทาง เราจองที่นั่งชั้น Standard ได้ที่นั่งใน Coach D รถไฟของเค้าดีมาก น่านั่ง สะอาด ปูพรมทั้งคัน มีที่วางกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ด้านนอก ก่อนเข้าห้องโดยสาร ส่วนกระเป๋าใบเล็ก ๆก็สามารถวางบนชั้นด้านบนได้เหมือนรถไฟไทย บางที่นั่งจะเป็น ที่นั่ง 4 ที่ ตรงกลางมีโต๊ะให้ทำกิจกรรม ต่าง ได้ อันนี้ที่นั่งด้านที่มีโต๊ะตรงกลาง  ด้านข้าง ๆทุกแถวที่นั่งจะมี รูปลั๊กไฟ สำหรับใช้กับ Laptops หรือ Charge Cellphone  บนที่นั่งจะมีกระดาษเสียบไว้สำหรับตั๋วที่ได้ทำการจองล่วงหน้า อย่างที่นั่งของพวกเราก็ " Reserve from London's King's Cross-Montrose อย่างนี้ค่ะ  น้องมิคขึ้นไปถึงกินขนมนิดหน่อยแล้วก็หลับต่อเลย  ส่วนเราหลับยังไงก็ไม่ลง เมื่อยไปหมดทั้งตัว เลยไปค้นยาในเป้ ได้ Tylenol มา 2 เม็ด กินร่วมกับ Actifed อีก 1เม็ด เผื่อจะคลายเมื่อยและหลับลงได้บ้าง แต่ยามันก็ออกฤทธิ์ไม่ได้ดังใจ อยากนอนยาวเป็นที่สุด แต่ก็เต็มทุกที่นั่ง พอมาถึง สถานี York เด็กหนุ่ม ที่นั่งข้างตาเอียนก็ลง เรายังรู้สึกเมื่อยมาก ๆ หันไปมองที่นั่งด้านหลัง เห็นที่ว่าง 2 ที่ เลยไปแอบอ่านที่ป้าย London King's Cross - Doncaster กรี๊ด!!! ดีใจ๊ ดีใจ ก้อ สถานี Doncaster มันผ่านมาแล้วนี่ อิอิ ได้โอกาสนอนยาวแล้วเรา นอนไปเรื่อยๆ พอรถจอดที่สถานีก็ลุกขึ้นมาครั้งนึง เผื่อจะมีคนขึ้นมานั่งตรงที่ว่าง ( โชคดีรถจอดไม่กี่สถานี และก็ไม่มีใครขึ้นมาเอาที่นั่งเลยตลอดสาย 55 คนเรามันก็ต้องมีโชคบ้างละว้า ) พอรถวิ่งมาถึงสถานี Arbroath อีกสถานีเดียวก็ถึง Montrose ก็ลุกขึ้นเตรียมตัว หายเมื่อยไปเลยล่ะ ส่วนน้องมิคยังคงง่วงมากเช่นเดิม ตกจากที่นั่งลงไปบนพื้น 2-3 ครั้ง ทำท่าจะนอนต่อบนพื้นแต่เรากับตาเอียนผลัดกันไปยกขึ้นมาซะก่อน ถึง Montrose ตรงเวลาเป๊ะ Anne & Martin มารอรับอยู่ที่สถานีแล้ว ลมแรงมาก Martin มาช่วยขนกระเป๋า เพราะต้องเอาขึ้นสะพานไปอีกด้านนึง จากนั้นก็บึ่งกลับบ้าน ที่ Craigo ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงบ้าน มาถึงบ้าน Anne ทำ Sandwiches ให้กิน แล้วก็อาบน้ำอาบท่า จัดเก็บกระเป๋าเตรียมเข้านอน Anne เตรียมห้องนอนไว้ให้น้องมิคต่างหากด้วย แต่เจ้าตัวไปนอนได้แค่ครึ่งคืนแล้วก็วิ่งมาเคาะประตูห้องป้า ไม่ยอมนอนเลย มาเบียดลุงกับป้าทุกคืน ห้องนอนน้องมิคที่ Anne เตรียมไว้ให้  ตอนเช้าน้องมิคตื่นก่อนใครๆ แต่ ตาเอียนยังไม่ให้ลงไปข้างล่างเพราะกลัวทำเสียงดัง รบกวน Anne & Martin จนกระทั่งได้ยินเสียง Anne ตื่นนอน ก็บอกให้น้องมิคลงไปข้างล่างได้ มิคหายไปแป๊บนึง ก็วิ่งขึ้นมาบอกว่า " ป้า หิมะตกล่ะ " อิอิ เราก็ตื่นเต้นนะไม่ใช่น้องมิคคนเดียว เปิดม่านออกไปดู เป็นอย่างนี้เลยค่ะ  Anne บอกว่าจะเข้า Montrose ไปหารองเท้าบูทให้น้องมิคก่อนแล้วค่อยไปเล่นหิมะข้างนอก Anne หายไปประมาณ 1 ชั่วโมง ก็กลับมาพร้อมกับเสื้อกันหนาวสำหรับน้องมิคอีก 4-5 ตัว กางเกง 2 ตัว รองเท้าบูท 1 คู่ แล้วก็จัดการแต่งตัว ใส่หมวกให้น้อง มิค แล้วปล่อยให้ออกไปเล่นข้างนอก สนุกน่าดูเลยล่ะเค้าน่ะ รถของ Anne & Martin สีแดงทั้งคู่ < นี่รถ Martin  นี่รถ Anne  สวนหลังบ้าน ต้นแอปเปิ้ล 2 ต้น    
ตามมาเล่นหิมะด้วยคนค่ะ
 โดย: บ้านอุ่นรัก
 วันที่: 19 มิถุนายน 2551 เวลา:14:56:59 น.Montrose, Aberdeen หรือเปล่าคะ สงสัยว่าคงมาตอนหน้าหนาว ตอนนี้อากาศที่นี่ดีกว่าก่อนนิดหนึ่ง ดอกไม้เยอะและต้นไม้เขียวขจีเลยค่ะ
โดย: ลูกแมง
วันที่: 19 มิถุนายน 2551 เวลา:20:45:14 น.โอว หิมะ อยากไปเล่นมั่งคับ
 โดย: traveller 360 (chalawanman
) วันที่: 19 มิถุนายน 2551 เวลา:22:06:18 น.Montrose ,Angus ค่ะ คุณลูกแมง อยู่ตรงกลางระหว่าง Dundee กับ Aberdeen เลยค่ะ
ไปตอน spring ค่ะ 21 March-11 April 2008 นี่เองค่ะ แต่ฟลุค หิมะตกพอดี แถมหนาวน่าดูเลย ก็เลยใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในบ้านหน้าเตาผิง โดย: mearns (mearnss
) วันที่: 20 มิถุนายน 2551 เวลา:8:45:38 น.คุณ traveller 360 (chalawanman ) ตามน้อง มิค ไปปเล่นก่อนซิคะ
โดย: mearns (mearnss
) วันที่: 20 มิถุนายน 2551 เวลา:9:29:14 น.น้องมิคและคุณโชคดีนะค่ะที่มาเจอช่วงหิมะตกในวันเทศกาลฮีทเตอร์ เราก็ตื่นเต้นกับหิมะในปีนี้เช่นกันค่ะ
โดย: กวนฐานฮวา ณ อเบอร์ดีน
วันที่: 6 กรกฎาคม 2551 เวลา:22:57:16 น. |
mearnss
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] เป็นเภสัชกร ที่อยากทำงานบริษัทท่องเที่ยว เค้าจะรับมั้ยนี่ ท่องเที่ยวกับอ่านหนังสือเป็นสิ่งที่โปรดที่สุดของข้าพเจ้า
Friends Blog
Link MY VIP Friend   |
||||||||||||
