อยากให้ลูกเป็นเด็กสองภาษา แต่มีข้ออ้างอีกแหล่ะค่ะลูกต่างวัยกัน ลูกยังไม่เก่งภาษาไทยเลย แม่อายอ่ะ พูดไม่เก่ง

สอนลูกไปเรื่อยเปื่อย ไม่มีหลักการอะไร หนังสือเด็กสองภาษาก็ซื้อมาอ่าน แต่ก็อ่านแล้วอ่านเลย

โชคดีปลายปีที่แล้ว ได้เข้า work shop เด็กสองภาษากับคุณบิ๊ก ที่ปราจีนบุรี วันที่ 18 ธ.ค 53 และเข้าไปเยี่ยมชม บล็อกของคุณแม่ท่านอื่นที่สอนลูกพูดภาษาอังกฤษได้ดีแล้ว

แรงบันดาลใจ และความกล้าในการสนทนาภาษาอังกฤษ ของคุณแม่กลับมาอีกครั้ง

เอาเลย เริ่มฝึกลูกเป็นเด็กสองภาษาตั้งแต่เย็นวันนั้น ในใจคิดว่าคงยาก เพราะลูกคนโต จะสิบขวบ คนเล็กจะสามขวบแล้ว

เอางัยเอากันแม่คนอื่นยังทำได้เลย แล้วฉานล่ะ ก็จะเป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่องอีกล่ะสิ (ถ้าลูกรู้คงเกาหัวแกร๊ก อิอิ)

 คุณแม่เลือกที่จะสอนเวลาใดเวลาหนึ่งที่สะดวกจะคุยกับลูก

ประมาณว่าถ้าคุยกันดีๆ เรื่องทั่วๆ ไป  ก็โหมดภาษาอังกฤษ ถ้าจะบ่นลูก ดุลูก โหมดภาษาไทยมาทันที อิอิ

งานนี้คุณพ่อมีส่วนช่วย ถ้าแม่ออกเสียงผิด หรือพูดประโยคผิด ก็จะคอยแก้ไขให้  

จากคำศัพท์ทั่วๆ ไป สี วันที่ ตัวเลข สัตว์ กิริยา และก็ประโยคคำสั่งง่ายๆ (ที่แม่พอจำได้ สมัยเรียน)

ลูกคนเล็กช่วงวัยนี้ลูกชอบถามว่าแม่นี่อะไร ก็ตอบเป็นศัพท์ภาษาอังกฤษลูกก็จำคำนั้นมาตลอด ง่ายหน่อย

แต่กับพี่พายยังติดที่ชอบถามว่าแปลว่าอะไร แม่ก็พยายามบอกไม่ต้องถามว่าแปลว่าอะไร ให้ดูท่าทางแม่ ดูสิ่งของที่แม่ชี้ 

แล้วจำตามนั้น (แนวข่มขู่ จะเลิกถามมั้ย อิอิ) แต่แปลกอ่ะ  กลายเป็นว่าถ้าพี่พายไม่ยอมสนทนาภาษาอังกฤษกับแม่

ถ้าแม่หันไปคุยภาษาอังกฤษกับน้องพี่พายก็จะคอยช่วยน้องพูด ตอนแทนน้อง (แม่ยิ้มในใจ หลงกลฉานแระ)

นั่นแหล่ะ กับพี่พายเค้าจะรู้เรื่องมากกว่า ตอบ Yes, No ได้ถ้าเค้าไม่ชอบ

แต่กับน้องพีค ฟังคำถามรู้เรื่อง ฟังคำสั่งออก ทำตามได้แต่  Yes, No นานๆ จะหลุดมาบ้าง ส่วนมากจะตอบภาษาแม่ตลอด  

 It's time to bed, it's time to get up, it's time to have breakfast, time is over, close-open the door, turn off the light.

turn off the tap, turn on the shower, don't forget zip up your trousers, flush the toilet, take off your cloth.

กับอีกคำสั่งง่ายๆ หลายประโยค ที่แม่ติดไว้ข้างฝา

คำตอบของลูก ก็ต้อง Ok, Mom สิค่ะ ใครจะสอนให้ตอบว่า Don't bother me ล่ะ อิอิ

ทั้งลูกคนโตคนเล็กฟังข้าใจและทำตามที่แม่สั่งได้ถูกต้อง เดือนกว่าๆ ได้แค่นี้ ถ้าเป็นปีล่ะจะดีกว่านี้ไหม กำลังใจแม่มาเพียบเลยค่ะ

พูดถึงกำลังใจมีวันหนึ่ง 

วันที่ 31 ม.ค 54 ที่ผ่านมาพาลูกพีคไปหาหมอ ตอนจะกลับจากคลีนิค

พี่คนจ่ายยา : น้องเอาวิตามินซีไหมค่ะ เอาสีอะไรดี สีม่วงไหมค่ะ

ลูกพีคตอบว่า   : No (แม่หันมามองขวับ)

พี่คนจ่ายยา : งั้นเอาสีอะไรดีค่ะ

ลูกพีคตอบว่า   : yellow

คุณแม่       :  Peak say Thank you.

ลูกพีค       : Thank you.

พี่คนจ่ายยา : เก่งจังเลยค่ะ เรียนโรงเรียนไหนเนี่ย

คุณแม่       : ยิ้ม

นอกจากคุณแม่จะได้ทริคในการจะสอนภาษาอังกฤษแนวธรรมชาติแล้ว ยังช่วยให้แม่มีแนวทางที่สอนภาษาไทยให้ลูกอ่านหนังสือให้คล่องอีกด้วย  ลูกพีคอ่าน พ่อ แม่ พีค พาย เสือ ช้าง แกะ เป็ด ไก่  และคำนามอีกหลายๆ คำ ได้แล้ว และแน่นอนวันนี้อ่านออกยี่สิบกว่าคำ

ต้องมาอีกเป็นร้อยแน่ อิอิ มันจะแปลกไหม ที่แม่ไม่สอน ก. ไก่  ABC แต่สอนให้อ่านเป็นคำๆ เลยเนี่ย ก็น่าคิดอยู่   

ส่วนพี่พายใช่เลย ต้องอ่านภาษาไทยให้คล่อง บัตรคำภาษาไทยเป็นร้อยรอเทอทุกเย็น อิอิ 

อ่ะ่น่ะ คุณแม่โอ๋ เคยเตือนว่า เข้มงวดกับลูกมากไปหรือป่าว ก็พยายามให้พอดีๆ เหมือนกันค่ะ แฮ่ๆ

ทุกวันก่อนลูกกลับจากโรงเรียน แม่นั่งทำการบ้านภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ไว้สอนลูก เน้นสนุก มีความสุข

ซึ่งหวังว่าลูกคงไม่เครียดเกินไป (แม่เปลี้ยนไป อิอิ)