BEIJING ปักกิ่ง







 

Trip ปักกิ่ง
9 – 16 มีนาคม 2553
ผู้ร่วมเดินทาง me-o ----หมู (สามี)------ต้นสน (ลูกชาย วัย 9 ปี 4เ ดือน)


#blog นี้เป็นการกู้ blog โดยลงใหม่#

9 มีนาคม 2553

ออกเดินทาง จาก เชียงราย ไป ดอนเมือง กรุงเทพฯ เดินทางกับ ต้นสน
ไม่ได้มาสนามบินนาน สนามบินที่เชียงราย เปลี่ยนโฉม ร้านค้าเยอะขึ้น
เดินทางโดย สายการบิน ONE-TO-GO เที่ยวบิน OX 8117
เครื่องออก 17.10 น. ถึง กรุงเทพฯ 18.30 น.
ราคา บัตรโดยสาร 3500 บาท
หมู มารับที่ สนามบิน แล้วไปกิน ข้าวเย็น มื้อเย็นนี้ เรากิน อาหารเวียดนามกัน




10 มีนาคม 2553

ตื่นตี 5 เพื่อเดินทางไป สนามบิน สุวรรณภูมิ ไปพบกับ group tour 7.45 น.
ผ่าน ต.ม. ครั้งนี้ ใช้เวลาไม่นาน
แต่พอผ่าน ต.ม. มา การตรวจค้นร่างกาย ยิบ ย่อย มาก
ต้องถอด รองเท้า เสื้อแขนยาว เข็มขัด เข้าผ่าน เครื่อง X-RAY หมด
ครั้งนี้มีเวลา เหลือเฟือใช้ shop เต็มที่ 2 ชั่วโมงกว่า
มาคราวนี้ ใน Duty free มี shop ของ Kiehl’s ด้วย ได้ซื้อ ลิปมัน ด้วย
เครื่องสำอาง และ น้ำหอม ครั้งนี้ ไม่ได้ซื้อเยอะ
เพราะ ของเก่า ยังมีเหลือเยอะอยู่
มีเวลา เยอะ เลยไปนั่งกิน แซนวิช กับ กาแฟ ก่อนขึ้นเครื่อง



เดินทางด้วย สายการบินไทย TG 614 ออกเดินทาง 10.10 น.

บนเครื่อง มี น้ำ หลายอย่าง ให้บริการ
และ มีอาหาร เที่ยง มี ข้าว ไก่มะนาว และ สปาเก็ตตี้ ให้เลือก
อาหารเที่ยง ไม่ อร่อย
สลัดกุ้ง และ ขนมหวาน ก็ยังไม่อร่อยเลย น่าเศร้า



เครื่องบินถึง ปักกิ่ง 16.45 น. (เวลา เมืองจีน เร็วกว่า เมืองไทย 1 ชั่วโมง)
ผ่าน ต.ม. ปักกิ่ง เสร็จ 17.30 น.



ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ปิดหมดแล้ว
ไกด์ เลย พาไปกินข้าวเย็น
อาหารเย็น นั่งโต๊ะ ละ 8 คน กรุ๊ป นี้ เดินทาง 23 คน
อาหารจีน ที่ ปักกิ่ง จะค่อนข้าง เค็ม และ มัน
ส่วน ซุป จะ จืด สนิทไม่มีรส
กับข้าวเยอะ พอกินได้

1 ทุ่ม ดูโชว์ กายกรรม ปักกิ่ง ต่อ
การแสดงมีหลาก หลาย
จุดเด่น จะเป็น มอเตอร์ไซด์ ไต่ถัง ถังเดียว 5 คัน
ดูโชว์เสร็จ ออกมา นักแสดง เอา แผ่น DVD บันทึกการแสดงมาขาย
ก็ได้ซื้อไว้ แผ่นละ 50 หยวน


อัตราแลกเปลี่ยน ที่ สุวรรณภูมิ ขณะเดินทาง 1 หยวน = 5.30 บาท
แต่เงินหยวน แลกจาก แม่สาย เตรียมไว้แล้ว 10000 บาท แลกได้ 2050 หยวน

อุณหภูมิ ที่ ปักกิ่ง อยู่ที่ 7 องศา ไกด์ บอกว่าอุ่นขึ้น เมื่อวาน ยังติดลบอยู่

ไกด์ ท้องถิ่น ชื่อ คุณ ชิง ชิง ไกด์ ไทย ชื่อ คุณ เอ๋

เข้าพัก ที่ โรงแรม Pullman West Wangda Hotel
ที่โรงแรม นี้ ปลั๊กไฟ เยอะมาก ไม่ต้องเตรียมปลั๊ก ไปเพิ่มก็ได้
ที่ ปักกิ่ง ปลั๊กใช้ เป็นแบบ สามขา แบน
แต่ที่โรงแรม มี เต้าเสียบแบบ ที่ ใช้ เมืองไทย บนเต้าเสียบ สามขา ดีมากเลย
แล้ว ในห้อง ยังมี กาต้มน้ำร้อน ให้ด้วย
จะได้ดื่มน้ำ อุ่น แก้หนาว
ในห้องมี ฮีทเตอร์ ตั้ง ไว้ที่ 24 องศา

วันนี้ เข้านอน 11.00 น.






11 มีนาคม 2553

นัดของทุกวัน ก็คือ ตื่น 6 โมง กินข้าว 7 โมง ล้อหมุน 8 โมง
อาหารเช้าทุกวัน กิน บุฟเฟ่ต์ ที่โรงแรม
อาหารค่อนข้าง หลากหลาย และ อร่อย
สมแล้วที่เป็นโรงแรม ห้าดาว
อุณหภูมิวันนี้ 9 องศา



เช้า ไปจตุรัสเทียนอันเหมิน Tian’an men Square
เทียนอันเหมิน แปลว่า สงบดังอยู่ในสวรรค์
จตุรัสเทียนอันเหมิน เป็น ลานซีเมนต์กว้างใหญ่ถึง 275 ไร่
ตั้งอยู่ด้านหน้าพระราชวังต้องห้าม
ใช้เป็นที่ประกอบพิธีใหญ่และงานชุมนุมสำคัญของประเทศ
ขณะที่ไป ก็มีการประชุมใหญ่ ของประเทศจีน
ซึ่งจะมีการประชุมทุกๆ 6 เดือน
ทำให้มีการตรวจค้น ค่อนข้างเข้มงวดและ
ให้ได้เดิน ชมได้ บางจุด ไม่ให้เข้าใกล้ ที่ประชุม
สถานที่ประชุมมีการปักธงชาติจีน ไว้ที่หลังคา
เมื่อเหมาเจอตุง ประกาศสถาปนาประเทศ เป็น สาธารณรัฐประชาชนจีนก็กระทำที่นี่



เดินต่อไปที่ พระราชวังต้องห้าม Forbidden City
สร้าง ในสมัยจักรพรรดิหย่งเล่อ แห่งราชวงค์หมิง ค.ศ. 1406-1420
และก่อสร้างเพิ่มเติมโดยรัชกาลต่อๆมา

ประตูเข้าวังทางทิศใต้ ด้านเทียนอันเหมิน เรียกว่า ประตู หวู่เหมิน เป็นด้านหน้า
พื้นที่ภายในวังกว้างถึง 720000 ตารางเมตร ประกอบด้วยอาคารมากมาย
มุงด้วยกระเบื้องสีเหลือง ซึ่งเป็น สีของกษัตริย์
มีห้องต่างๆ กว่า 9000 ห้อง
วังแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ พระราชวัง ชั้นนอก และ พระราชวัง ชั้นใน

พระราชวัง ยิ่งใหญ่ งดงาม ตระการตา เป็นบุญตายิ่งนัก ที่ ได้มาชม
เดินไปชมไป แม้จะไกล แต่ก็ไม่รู้สึกเหนื่อย อาจเพราะอากาศที่หนาวมากนั่นเอง



ขึ้นรถบัส ต่อ ไปขึ้นสามล้อ ชมเมืองเก่า หูถัง
จุดนี้จะเป็นการอนุรักษ์ บ้านเก่าแบบดั้งเดิมของชาวจีน ที่เหลืออยู่ในปักกิ่ง
ซึ่ง รัฐบาลจีนสงวนไว้เป็นแหล่งท่องเที่ยว
คนปักกิ่งจะภูมิใจมาก ถ้า มีบ้านในแถบนี้ ซึ่งราคาแพงมาก
และที่ดินสามาถ เป็นมรดกตกทอดไปยังลูกหลานได้
ก่อนไปชมเมืองเก่าหูถัง ก็วาดภาพไว้โทรมกว่านี้
แต่ ในภาพที่เห็นก็มีความงดงามแบบโบราณแต่ไม่ทรุดโทรม ดู คลาสสิกนะ



กลางวัน ไปกินเป็ดปักกิ่ง ร้านฉวนจื้อเต๋า ร้านต้นตำหรับ ที่เปิดมายาวกว่า 100 ปี
บ.ทัวร์ บอกว่าเป็นร้านที่แพงและมีชื่อเสียงที่สุดของปักกิ่ง
ที่นี่ กรุ๊ปทัวร์ เรามา 23 คน
ทางร้านอาหารให้นั่ง 2 โต๊ะ ร้านบอกว่าถ้ามาไม่ถึง 24 คน นั่ง 2 โต๊ะ
ไกด์พยายามต่อรอง ให้เป็น 3 โต๊ะ ทางร้านก็บอกไม่ได้อย่างเดียว
อาหารก็เยอะ เต็มโต๊ะ
เป็ดที่นี่ไม่ได้กินเฉพาะหนังเหมือนที่เมืองไทย
เขาหั่น ทั้งเนื้อและหนัง เหมือนกินเป็ดย่าง
แล้วหนังเป็ดที่นี่ มี มันเยอะด้วย
ตอนแล่เป็ด พ่อครัว มาแล่ต่อหน้าโต๊ะที่เรานั่งด้วย
เป็ด 1 ตัว แล่ได้ 2 จาน เป็ด อร่อย นุ่ม ไม่เหม็น
แต่น้ำจิ้ม จะเป็นน้ำจิ้มเค็ม ไม่ใช่ น้ำจิ้มหวาน กินเลยรสแปลกๆ



บ่ายไป วัดลามะ หรือ พระราชวังหย่งเหอกง

เดิมเป็นตำหนักของ องค์ชายสี่ ใน เรื่องศึกสายเลือด ที่เคยดูสมัยเด็กๆ
เมื่อครองราชย์ ทรงพระนามว่า หย่งเจิ้นฮ่องเต้ แห่งราชวงค์ชิง
องค์ชาย สิบสี่ ที่โดนแย่งราชสมบัติไป ก็ ต้องมาบวช ในวัดแห่งนี้
ภายหลังดัดแปลงเป็นวัดที่จำพรรษาของ พระสงฆ์ จากทิเบต และ มองโกล

ที่นี่ จุดเด่น อยู่ที่ พระพุทธรูปยืนที่แกะสลักจากไม้จันทน์หอมต้นเดียว สูง 50 ฟุต
เส้นผ่าศูนย์กลาง 8 เมตร
ใช้เวลาลากไม้ จากทิเบต มา ปักกิ่ง 10 ปี
ประดิษฐานอยู่ในศาลาหมื่นสุข หรือ หว่านฟูเก่อ
ที่วัดห้ามถ่ายรูปพระ ถ่ายอาคารได้




ไปต่อที่ หอบูชาฟ้าเทียนถาน
ตั้งอยู่ใจกลางเมืองปักกิ่ง เยื้องตะวันออกเฉียงใต้ เขตฉงเหวิน
สร้างเมื่อ ค.ศ. 1420
เป็นสถานที่ประกอบพิธีไหว้ฟ้าเพื่อขอให้ลมฝนราบรื่น
ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ ของสมัยราชวงค์หมิงและชิง
มีกำแพงล้อมรอบ
ด้านเหนือมีลักษณะกลม ทางใต้เป็นสี่เหลี่ยม
หมายถึง ฟ้ากลม พื้นดินสี่เหลี่ยม ตามความเข้าใจของคนโบราณ
เนื้อที่ 2.7 ตารางกิโลเมตร ใหญ่กว่า พระราชวังถึง 2 เท่าตัว
ภายในประกอบด้วย หวานชิวแท่นประกอบพิธี หวางฉุงหยี่
สถานที่ตั้งป้ายเทพเจ้า หิน 3 เสียง และกำแพงสะท้อนเสียง
ฉีเหนี่ยนเตี้ยน หอประกอบพิธีไหว้ฟ้า
สิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 ตั้งอยู่บนเส้นแกนเดียวกัน
ที่นี่ สิ่งก่อสร้าง จะดูเป็นทรงกลม และ หลังคาเป็นสีฟ้า
สีฟ้าเป็นตัวแทน ของ สวรรค์
หอบูชาฟ้าเทียนถาน เป็น สัญญลักษณ์ ของ ปักกิ่ง




ช่วงเย็น ไปเดินถนนคนเดิน ถนนหวังฝูจิ่ง
เป็นถนนคนเดินที่นีชื่อเสียงที่สุดของปักกิ่ง
มีสินค้า และ อาหารแปลกๆเสียบไม้ให้ดูมากมาย

แปลกแค่ไหน ดูรูปนะ








ไปกินข้าวเย็น ที่ ร้านอาหาร แล้วกลับโรงแรม
หมูกับต้นสน ยังไปเดินต่อ ที่ คาร์ฟู ที่อยู่ข้างโรงแรมต่อ
ไปซื้อส้ม และเบียร์กระป๋องมากิน
เบียร์ที่นี่ ถูกมาก กระป๋องละ 2 หยวน

วันนี้เดินเยอะมาก
ช่วงเดิน หอบูชาฟ้าเทียนถาน สะดุดขาตัวเองล้มด้วย
เพราะปลายเท้ารู้สึกชา อาจมาจาก อากาศที่หนาว และเดินเยอะด้วย
แต่หลับสนิทมากคืนนี้ เพราะเหนื่อย




12 มีนาคม 2553

นัดตามเดิม 6 โมง ตื่น 7 โมง กินข้าว 8 โมง ล้อหมุน
อุณหภูมิ วันนี้ 11 องศา อุ่นขึ้น
น้ำแข็งหน้าโรงแรมละลายเกือบหมดแล้ว
เช้า สนามกีฬา รังนก สนามกีฬาโอลิมปิค
ใช้ในพิธีเปิดการแข่งขันกีลา โอลิมปิค
วันที่ 8 เดือน 8 พ.ศ. 2008
เป็นสนามกีฬาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจีน จุผู้ชมได้กว่า 90,000 คน
เป็นสนามกีฬาที่ทันสมัย มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
โดยโครงสร้างรูปแบบรังนก
ออกแบบ โดย สถาปนิก จาก สวิตเซอร์แลนด์
Mr.Jaques Herzog & Mr.Pierre de Meuron
โดย ใช้แนวคิดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด ใช้ตาข่ายเหล็กห่อหุ้ม
เป็น โครงสร้าง ซึ่ง แสง และ อากาศ สามารถลอดผ่านได้ ทำให้ประหยัดพลังงานได้ถึง 50%
หลังคาเป็นวัสดุโปร่งแสง แสงส่องลงมาได้
ใต้หลังคา เป็นที่รวม ของ แผงรับพลังงาน จากดวงอาทิตย์ ซึ่งสามารถนำเอาพลังงานมาใช้ได้





ส้วมที่นี่ ทันสมัยมาก ไม่มีที่กดน้ำ
เปิด ประตูออก น้ำจะกดเอง เพราะคนจีนไม่ชอบกดน้ำ
ขณะที่ไปชมสนามกีฬาแห่งนี้ มีลานน้ำแข็งกลางสนาม
ใช้เล่นสเก็ตน้ำแข็ง หรือ สกี ก็ไม่ทราบ
รถกำลังปรับพื้นที่เอาน้ำแข็งออก เพราะ หมดฤดู

ก่อนกลับได้ซื้อของที่ระลึก จากในสนามกีฬา
เป็นรูปภาพสามมิติ สนามกีฬารังนก กับ ไพ่ รูปหอฟ้าเทียนถาน


รูปของที่ระลึกที่ซื้อมา




 

 




ไปร้านนวดเท้า กดจุด เหมือนศูนย์แพทย์ของนักกีฬา
ได้แช่เท้าด้วยสมุนไพร นวดเท้า แล้ว พบหมอแมะ
 

 
หมอจีน ตรวจ หมู บอกว่าเป็นโรคตับ
จะใช้กำลังภายในรักษา ช่วยรักษาให้
แล้วได้พา เราสองคน ไปที่ ห้องทำงานส่วนตัวของหมอ
มีล่าม ต้นสนนั่งรอในห้องนวดเท้า
การใช้กำลังภายในรักษา
me-oได้ เห็นประกายไฟ
เป็นสายเกลียวสีฟ้าออกจาก นิ้วมือของหมอ
มายังพุงของหมู บริเวณที่เป็นตับ ครั้งหนึ่ง
และ เห็นประกายไฟ
ออกจาก ฝ่ามือ อีกสองครั้ง
มือของหมอไม่ได้แตะที่พุง ห่างประมาณ 1 นิ้ว
amazing มาก
หลังจากกำลังภายในเสร็จ
หมอแนะให้กินยา 3 ชุด แต่ หมู ขอต่อรอง เหลือ 2 ชุด
แบบทรัพย์จาง
จ่ายเงินรูดบัตร 4800 หยวน (คิด 4.93 บาท ต่อ 1 หยวน)

แล้วก็ขอให้หมอตรวจme-oดูบ้าง
หมอบอกว่า สุขภาพค่อนข้างดี
ตอนนี้ มีปํญหาเกี่ยวกับ
การหายใจส่วนกลาง และ ฮอร์โมน
แนะนำให้กินยาบำรุง
ช่วยให้เลือดลมเดินดี ผิวพรรณดี
เป็นยา ตังกุย หมอแนะให้กิน 3 เดือน
เราก็ตกลงซื้อมา รูดบัตรไป 4800 หยวน

การกินยาจีน ห้ามกิน ชา กาแฟ หัวไชเท้า

ตรวจเสร็จไป นวดเท้าต่อให้เสร็จ
ช่วยเด็ก ที่นวดเท้า (ที่นี่ไม่ให้ทิปเด็ก)
ด้วยการซื้อ น้ำยาชะมด ทาแก้ปวด แก้เมื่อย
วิธีใช้ น้ำมันใส่ในมือประคบ พอร้อน ตบ ตบ น้ำยาลงไป
น้ำยา ขวดละ 200 หยวน ซื้อมา 3 ขวด





ออกจากร้านยา ไปกิน บุฟเฟต์ อาหารเกาหลี
แบบเปลี่ยนรสชาติ
เข้าไปทีแรกเขาให้เราไปนั่งรวมในห้องเดียว หลังร้าน
ห้องมันเก่ามากเลย
me-o รีบโวย ต่อรอง กับไกด์
ขอนั่งแยกเป็นครอบครัว โต๊ะใครโต๊ะมัน
พอเราพูดคนอื่นก็รีบสนับสนุนเลย
ใช่ว่าเรื่องมากนะ
แต่การกินอาหารแบบย่างๆ แล้ว
กินรวมนี่ การเกรงใจกันมันเยอะ
แล้วยังไง มันก็บุฟเฟต์ ตักเองอยู่แล้ว นั่งหลายๆโต๊ะ คงไม่เป็นไร
เหมือนกินหมูกะทะ แต่เนื้อดีกว่า
อาหารอย่างอื่น นอกจากย่างๆแล้ว
ก็มี หลากหลายให้เลือกชิม
แต่ ไม่ใช่คอหนังเกาหลี เลยไม่รู้ว่าเขากินอะไร อร่อย
พอถึง บ่ายสองโมง ก็เริ่มมีการประกาศ ว่า รีบๆกิน จะเก็บร้านแล้ว
กินมื้อนี้ก็ดีนะ ตัดความเลี่ยน อาหารจีนไป



บ่ายไป พระราชวังฤดูร้อน อี้เหอหยวน
วังแห่งนี้ พระนางชูสีไทเฮา ได้ให้ บูรณะขึ้นมา เพื่อประทับในฤดูร้อน
วังแห่งนี้ อยู่ห่างจากกรุงปักกิ่ง ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 10 k.m.
ที่นี่ ได้ใช้เป็นที่คุมขังฮ่องเต้ ในสมัย พระนางชูสีไทเฮา
จักรพรรดิเฉินหลง สร้างถวาย พระมารดา เมื่อค.ศ. 1750
มาชมทะเลสาบคุนหมิง ที่ถูกขุดขึ้นมาโดยแรงงานนับแสน
ดินที่ขุดเอาไปถมทำภูเขาจำลอง
(ภูเขาชื่อ ว่านโซวซัน หมายถึง อายุยืน)

ที่นี่จะมีระเบียงไม้ให้เดินยาวไป พร้อมชมสวน
ตอนที่ไป ไม่มี ดอกไม้ ถ้ามีดอกก็จะสวยกว่านี้
ชมเรือหินอ่อน วึ่ง เป็นที่จิบน้ำชา ของพระนางชูสีไทเฮา

พระราชวังฤดูร้อน อี้เหอหยวน
ถูกปล้นและเผา ทำลาย มา 2 ครั้ง โดย ชาวต่างชาติ
สมบัติมากมายที่สะสมมาหลายรัชกาล
ถูกขนออกนอกประเทศ
เหลือเพียงวิหารแห่งเดียวที่ทำด้วยโลหะ



ไปร้านไข่มุกน้ำจืด ของรัฐบาลจีน
ที่นี่ มีการจำหน่ายสินค้า
ครีมไข่มุก ผงไข่มุก เครื่องประดัยที่ทำจากไข่มุก
ได้ซื้อครีมไข่มุกมา ซื้อ 1 โหล
แถม 8 ขวด แถม ผงไข่มุก 20 กล่อง แถม แหวน 2 วง
ค่าใช้จ่าย 1800 หยวน
ซื้อเสร็จ พนักงานขายมาชวน ซื้อ ต่อ
โดยให้เพิ่ม ซื้อ 1 โหล แถม 1 โหล
แถมผงไข่มุก 30 กล่อง แต่ก็ไม่ได้ซื้อเพิ่มแล้ว
เพราะไม่เคยใช้ ไม่แน่ใจว่าจะใช้ดี
กลับมาที่เชียงราย ก็เอามาเป็นของฝาก
ผู้ช่วยในร้าน 3 คน แล้วก็เริ่มใช้เลย
พบว่าใช้แล้วดีมากๆเลย รู้สึกหน้าเด้ง
เสียดายที่ไม่ได้ซื้อเพิ่ม
ส่านผสม ของ ครีมไข่มุก
ก็จะมี มุก เจลว่านหางจระเข้
คอลลาเจนจากใยไหม และเปลวทอง

หอยมุก เลี้ยงใน ทะเลสาบคุนหมิง ที่พระราชวังฤดุร้อน
หอย 1 ตัว มีเม็ดมุก ได้ 30-50 เม็ด แล้วแต่อายุ ของหอย
หอยที่อายุน้อย เอาไปทำครีมไข่มุก หอยอายุมาก เอาไปทำเครื่องประดับ



ต่อด้วยร้านผ้าไหม ของรัฐบาลจีน
มีการสาธิตการ สาวไหม การรวมใยไหม 8 ใย มารวม เป็น เส้นไหม 1 เส้น
ไหมที่นี่จะนุ่ม กว่า ไหม ที่เมืองไทย
มีการสาธิต การทำผ้าห่ม จากรังไหมแฝด
ร้านผ้าไหม ไม่ได้ซื้ออะไร
เพราะ ได้ซื้อ ผ้าห่ม และปลอกผ้านวมไหม ไปแล้ว
เมื่อครั้งไป เฉินตู เมื่อหลายปีก่อน
ห่มแล้วร้อนมาก ซื้อมาไม่ค่อยได้ใช้
ทางร้านบอกว่าคงซื้อหนาไป
ที่นี่ มีแบบ 1 ก.ก. ซึ่งไม่หนามาก
แต่ก็ยังไม่ซื้อ
ถ้าไปเมืองจีนครั้งหน้า ไม่แน่ อาจซื้อมาอีก


ข้าวเย็นที่ร้านอาหาร อาหาร พิเศษ วันนี้ หมูหัน
อาหาร ที่ร้านนี้ อร่อยกว่าที่อื่น
กลับโรงแรม 3 ทุ่ม



13 มีนาคม 2553

นัดตามเดิม 6 โมง ตื่น 7 โมง กินข้าว 8 โมง ล้อหมุน

กำแพงเมืองจีน สัญลักษณ์ ของ เมืองจีน
ออกเดินทางไปกำแพงเมืองจีน ใช้เวลา 1.30 ช.ม. จากโรงแรม
แต่ จะแวะร้านหยกก่อน1 ช.ม. ถึง ร้านหยกของรัฐบาล
หยกที่นี่ จะมีสีเขียวอ่อนมาก สลับสีเขียวเข้มเป็นลาย สีจะจืดๆ
ไม่เหมือนหยกพม่า ที่ ซื้อขายกัน แถวเชียงราย
ตัวเองเลยรู้สึกว่ามันไม่สวยและเราก็มีเม็ดสวยๆติดนิ้วไปแล้ว
แต่คนจีน เขา บอกว่า หยกเมืองจีน ดี กว่า ที่พม่า
หยกที่เมืองจีนใส่ไปนานๆ สีจะเข้มขึ้น ได้ด้วย
ตามสุขภาพขของคนที่ใส่ ไกด์บอก แปลกดี
แล้วไกด์ก็แนะนำว่า ถ้าจะซื้อ กำไลใส่
ให้เลือกซื้อ ที่ ราคา 2000 หยวนขึ้นไป จึงจะสวย
ก็มี ป้า ในกรุ๊ปเขาซื้อกำไล ด้วย
พอขึ้นรถ เขามาอวดเลย ว่าแขนป้าสวยขึ้นไหม
เราต้องตอบว่า สวยค่ะ
ต้องอายุขนาดคุณป้า ถึงชอบหยก ป้าหัวเราะชอบใจ บอกว่าใช่
ที่นี่เขามีวิธีแนะนำดูหยกจริง หยกปลอมด้วย แต่ไม่ได้ฟัง
เพราะถ้าจะซื้อขาย จริง เชื่อในใบเซอร์ มากกว่า


นั่งรถไปต่ออีก 30 นาที ถึงกำแพงเมืองจีน
ไปที่ด่านสุดท้าย ด่านปาต้าหลิ่ง
กำแพงเมืองจีน หรือกำแพงหมื่นลี้ (6700 ก.ม.)
เป็น สัญลักษณ์ ของ ประเทศจีน
เริ่มต้นจากทะเลสาบโป๋ไห่ ทอดผ่านแผ่นดิน 9 มณฑล
ไปสิ้นสุดที่ ทะเลทรายมณฑลกานสู
ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ของกรุงปักกิ่ง
สร้างในสมัย จิ๋นซีฮ่องเต้
ด่านปาต้าหลิ่ง นี้เป็นด่านที่กำแพงเมืองจีนมีสภาพสมบูรณ์ที่สุด
ความสมบูรณ์ของกำแพง เกิดจากบูรณะของรัฐบาล ให้ดูดี
เพื่อเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว
เราขึ้นกระเช้า ไปชมกำแพงเมืองจีน ไม่ได้เดินขึ้น
อุณหภูมิประมาณ 2-3 องศา
ขึ้นไปเดินระยะ ไกล้ ไกล้ ถ่ายรูป tour ให้เวลาประมาณ 1.30 ช.ม.
หน้าชา หนาวมาก น้ำมูกใสๆย้อยเลย
คนเดินที่กำแพงเมืองจีน เยอะมาก
ด้านล่างที่จอดรถ มีของขาย แต่ก็ไม่ได้ซื้ออะไร
มีอูฐ ขนยาวด้วย



เที่ยงไปกินสุกี้ มองโกล จะมีหม้อไฟให้คนละหม้อเล็ก
มีเนื้อแพะ เนื้อหมู เนื้อไก่ สามอย่างนี้เติมได้
แล้วก็มี กุ้ง ปลา ลูกชิ้น ผัก 4 อย่าง
น้ำจิ้มเป็นถั่ว ผสม น้ำมันงา เค็มๆไม่อร่อย
Tour ได้เตรียม น้ำจิ้มสุกี้จากเมืองไทยไปด้วย
มีพริกขี้หนูซอย มีกระเทียม มีน้ำมะนาว ให้เพิ่ม เลยกินอร่อยอีกมื้อ
พวกเนื้อไม่ได้เติมไม่อั้นนะ เติมได้
แต่ ทางร้านอาหาร จะประมาณว่า จำนวนคนเท่านี้
เตรียมเนื้อให้เท่านี้ เติม หมดแล้วหมดเลย ไม่มีให้เพิ่ม


บ่ายไปชมพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง
ที่นี่จะมีหุ่นขี้ผึ้งจำลอง กษัตริย์ ทั้ง 16 พระองค์ ของราชวงค์หมิง
เอากล้องเข้าไปถ่ายรูปต้องเสียเงินเพิ่ม 10 หยวน
มาที่นี่ me-oได้ถ่ายรูปเป็นฮองเฮา ต้นสน ถ่ายเป็น องค์ชาย
รูปใส่เป็นอัลบั้ม สวยดี
ถ่ายมา สองคน 6 รูป ใบละ 25 หยวน
เดินตามไกด์ฟังประวัติศาสตร์ สมัยราชวงค์หมิงไป จำไม่ค่อยได้



ไปร้านบัวหิมะ หรือ เป่าฟู่หลิง
บัวหิมะ ราคา กระปุก ละ 250 หยวน
บัวหิมะนี่ดีมาก เลย ควรมีไว้ติดบ้าน เก็บในตู้เย็น
ต้นสนก่อนไปเมืองจีน 1 สัปดาห์ เป็นลมพิษ
กินสเตียรอยด์ 3 วันยังไม่หาย ฉีด adrenalin ก็ไม่หาย
แต่ ทาบัวหิมะ 1 ช.ม. ยุบ
มาครั้งนี้ไม่ได้ซื้อ ที่บ้านยังมีเหลืออยู่
ซื้อกอเอี๊ยะ มา กระปุก ละ 200 หยวน
เหมาะกับme-oมาก แก้ปวดเมื่อย จากการทำงาน
ที่นี่ มีการส่องกล้องจุลทรรศน์ กำลังขยายสูง 40 เท่า
ดูการไหลเวียน ของเส้นเลือดเราได้ด้วย
ได้ลองส่องดู me-o ก็ปกติเลือดไหลเวียนดี
หมู มีเส้นเลือดอุดตันด้วย
ต้นสน เห็นไม่ชัด เส้นเลือดของเด็ก จะสั้นๆ




ไปชิมชาต่อ
ชาที่ให้ชิม จะมี 4 อย่าง
ชาหิมะ ชาจะมีสีขาว ใส รสจะขม ดื่มไปสักพักจะหวาน
ชาผู่เอ่อ ชาชนิดนี้จะเก็บได้นาน
ชาอู่หลง เป็นชาที่หอม
ชาแบบนี้ ที่เชียงรายก็ปลูกกันเยอะ มาดื่มชาเชียราย ดีกว่านะ
ชามะลิ เป็นชาตัวแทนของปักกิ่ง


ที่เมืองจีนยังนิยม ดื่ม ชาแดง และ ชาดำ กันอยู่
แต่แนะนำให้มาดื่มชาเขียวที่เชียงราย จะติดใจกว่า คอชาฟันธง


มื้อเย็น ไป กินบุฟเฟต์ นานาชาติ ที่โรงแรม Royal Grand International
คนขับรถวนหาอยู่พักหนึ่ง เพราะไม่เคยมา
อาหารเยอะหลากหลาย มีอาหารญี่ปุ่น ข้าวปั้น พิชซ่า ติ่มซำ หอย กุ้ง ปู
เป็ดย่าง หูฉลาม แมงทอด มีอาหารเยอะมาก
มีเบียร์ และ ไวน์ ด้วย ดื่มฟรี



ออกจากบุฟเฟต์ เราก็แวะเซเว่นข้างโรงแรมที่ไปกิน
ซื้อ ขนม เนื้อซองๆ เหล้าดองท้อ
กลับถึงโรงแรม 3 ทุ่ม เตรียมเก็บกระเป๋า ต้องเช็คเอ้าท์ พรุ่งนี้เช้า


14 มีนาคม 2553

ตื่น 5.45 น. กิน 6.45 น. ล้อหมุน 7.45 น.

ตื่นมาหิมะตก ตกหนักด้วย
แต่อุณหภูมิ ไม่ติดลบ หอใกล้ถึงพื้นจะกลายเป็นฝน
คนปักกิ่งเรียก หิมะ ผสม ฝน
ต้นสนตื่นเต้นน่าดู เป็นครั้งแรกที่เห็นหิมะ
และบ่นอยากเห็นหิมะตก ตั้งแต่ที่ซื้อทัวร์นี้
สมใจอยากเลย หลายคนที่มาพึ่งเคยเห็นหิมะเป็นครั้งแรก ดีใจกันใหญ่



เช้านี้ไปที่กรมศาสนา เป็นตำแหน่ง ฮวงจุ้ย ท้องมังกร
สถานที่นี้ รับกรุ๊ปทัวร์ แค่ วันละ 8 กรุ๊ป
ไกด์ 1 คน พากรุ๊ปเข้าไปได้ ปีละ 2 group
ไปบูชา ปีเซี๊ยะ ไปช่วยที่บ้าน ให้กิจการดี
ปีเซี๊ยะ ที่นี่ปลุกเสกโดย พระลามะ จาก ทิเบต
จะมีการทำพิธี ทุก วันที่ 8 , 18 และวันที่ฝนตก
วันที่เราไป ก็ มีการทำพิธีเพราะ ฝนตก ถือว่าโชคดีมาก


ปีเซี๊ยะ จะมีสีต่างกันแต่ละสีก็จะมีความหมาย
สีเขียว = สุขภาพ
สีดำ = นักเสี่ยงโชค
สีขาว = ข้าราชการ เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง
สีเหลือง = ความรู้ เหมาะกับ ครู นักเรียน
สีน้ำตาล = ธุรกิจ SME
ลายเสือดาว ขาวดำ ขาวเขียว เขียวอ่อนเขียวแก่ = สมหวังทุกอย่าง


เราก็ได้บูชา ปีเซี๊ยะ มาที่นี่ซื้อ ตัวใหญ่แถมตัวเล็ก 3880 หยวน
(สีดำลายเสือดาว 1 ตัว ของme-o และ สีน้ำตาลลายเหลือง 1 ตัว ของ หมู)
และบูชา ปีเซี๊ยะ ตัวเล็ก สีเหลือง ห้อยคอให้ต้นสน 180 หยวน
และปีเซี๊ยะ สีเขียว ที่ ถักเป็นกำไล แขน มา 1 ตัว 480 หยวน

การเบิกเนตร ปีเซี๊ยะ ต้องทำโดยเจ้าของ
เอาปีเซี๊ยะ มาใส่ขัน ใส่ น้ำฝน น้ำบาดาล ให้ท่วมหัว แช่ 8 นาที
ยกมาดูเจ้าของ ใช้ผ้าขาวเช็ด ห้ามเช็ด ตา จมูก ปาก
แล้วคุยด้วย ว่า มาอยู่ด้วยกัน ช่วยกัน ทำงาน หาเงินเข้าบ้าน
นำไปวางให้ตรงที่ประตูหน้าบ้าน หรือ หน้าต่าง(ถ้าอยู่คอนโด) ที่เห็นถนน



ไป shopping ต่อที่ตลาดรัสเซีย

ที่นี่เวลาต่อรองราคา
ไกด์แนะว่า ถ้าแม่ค้าเรียกมา 100 หยวน ให้ ต่อ เหลือ 20 หยวน

ต้นสน ได้ รองเท้าสเก็ต ราคา 120 หยวน
me-oได้ รองเท้าบู๊ต ราคา 100 หยวน
ตอนรองรองเท้า แม่ค้ามีวิธีตุกติก ได้ ดีมาก ลองแล้วเราบอกว่าใหญ่ไป
เพราะ ปกติใส่รองเท้าผ้าใบ no.39 แม่ค้าเอา no. 42 มาให้ลอง เราบอกว่าใหญ่
เขาเลยแอบไปเอาที่รองในรองเท้า ใส่เข้าไป ไม่ให้เราเห็น
แล้วดึง เบอร์ออก มาให้ลองใหม่ เราก็ว่าใหญ่ไป พอพลิกดู ใต้รองเท้า เบอร์ติด อยู่ no.42
แต่แม่ค้าเอามือ ปิดเบอร์ไม่ให้เราเห็น พอเรายืนยันว่าใหญ่ไป เขาก็เอาแบบอื่นมาให้เราเลือก
สนุกดี ซื้อของที่นี่ ได้ลุ้น ของขายที่นี่ ไม่ใช่ของเกรดดี ตาดีได้ ตาร้ายเสีย

บรรยากาศเหมือนเดินห้าง แบบ มาบุญครองเลย แล้วแม่ค้าที่นี่ ก็เป็น หนุ่มสาว รุ่นใหม่ สามารถพูดภาษาอังกฤษ กันได้บ้าง
แต่ถ้า ต่อรองราคา กด เครื่องคิดเลข อย่างเดียว
ต่อแล้วเดินหนี เขาจะมาดึงและยื้อไว้ และจะได้ในที่สุด



กินข้าวเที่ยง มื้อนี้อาหารพิเศษ หอยเป่าฮื้อ
มานั่งก็ถูก บ๋อยยกกับข้าวมาราดใส่เสื้อกันหนาวตัวนอก เราเลย เรียก บ๋อยมาเช็ดให้เลย
ดีนะจะกลับแล้ว ถ้าเป็นวันแรก คงต้องซื้อเสื้อใหม่เลย

เสร็จไปสนามบิน เกือบ บ่ายสามโมง จัดกระเป๋ากัน แล้วก็โหลดกระเป๋า


ไกด์ ได้เอา ขนมที่เราสั่ง ซื้อจากไกด์
เป็นมันเทศ ปรุงรส ซองละ 10 หยวน 30 ซอง
หมู สั่งหลายอย่าง มี แอปเปิลอบกรอบ เกาลัก บ้วย
ซองละ 10 หยวน 30 ซอง



ลาไกด์จีน คุณชิง ชิง ที่นี่
นั่งรถไฟไป ขึ้นเครื่องบินอีกที


ใน Duty free ที่สนามบิน ปักกิ่ง ก็ได้ซื้อเหล้า มาอีกสองอย่าง
ขวดแรกเหล้าในกระบอกไม้ไผ่ ไม่เคยดื่มแต่บรรจุภัณฑ์สวย ชอบ
เมื่อได้ชิม ตอนกลับมาที่เชียงรายแล้ว เหล้านี้เหมาะกับคนที่ชอบรสเข้ม ขณะดื่มมีกินไม้ไผ่หอม
ปนออกมา ถ้าเทียบ คงเหมือน เหล้าลุงแจ็ค Jack Denial

อีกขวด เหล้าลูกท้อ เหมือนที่ซื้อใน เซเว่น พอดีมีคนในกรุ๊ปบอกว่าอร่อย
เมื่อได้ชิม ตอนกลับมาที่เชียงรายแล้ว เหล้านี้เหมาะกับคนที่ชอบรสนุ่ม หอมกลิ่นลูกท้อ
แต่ที่ผาเปิด มีเขียนว่า OSAKA JAPAN
นึกไปแล้วเหมือนที่เคย ดื่ม ในร้านอาหารที่ญี่ปุ่นในเชียงราย แต่ที่เคยเห็นขวดเป็นกล่องกระดาษคล้ายกล่องนม และมีรูปลูกท้อติด เหมือนกัน

เหล้าครั้งนี้ รสไม่ดีเท่าที่คราวไปเฉินตู ที่ซื้อจากร้านอาหาร ที่เขาทำขายเอง
คอสุราฟันธง



ซื้อขนมเปี๊ยะ สองกล่อง ไว้ฝากอาปา
ขนมที่ถนนคนเดิน น่ากินกว่า แต่ไม่ได้ซื้อ น่าเสียดาย
แต่ก็ไม่รู้อร่อยหรือเปล่า
ขนมเปี๊ยะใน duty free ที่สนามบิน ปักกิ่งซื้อมา กิน ไม่อร่อยเท่าไหร่
แต่สวยและมีหลายใส้ดี เหมาะเป็นของฝาก ญาติผู้ใหญ่

กลับโดย TG 615 เครื่องพร้อมออก 17.15 น.
แต่ติดคิว และหิมะ เลยออกช้า
สายการบินไทย เสริฟ น้ำ ทันที ดีมาก แก้กระหาย
และ แก้หงุดหงิด ในการรอ
บนเครื่องมีอาหาร ข้าว ไก่เปรี้ยวหวาน และ ข้าว หมูอบ
อาหารครั้งนี้ อร่อยกว่า ขามา



ถึงเมืองไทย 21.45 น. หมู ปวดท้อง มาก รอหมูเข้าห้องน้ำ ค่อยผ่านต.ม.
เอากระเป๋า ไกด์ เอ๋ เอากระเป๋า ลง รอ พวกเรา สามคนสุดท้าย ลาไกด์ ที่นี่


แล้วนั่งแท็กซี่กลับ บ้านหมู ถึง บ้านเกือบห้าทุ่ม




15 มีนาคม 2553

ตื่นสายหน่อย 8.30 น.
10.30 น. ไปกินก้วยเตี๋ยวที่ คาร์ฟู ใกล้บ้าน กิน เย็นตาโฟ บะหมี่น้ำ
แวะสระผม
ต้นสน อยู่ กรุงเทพต่อกับหมู ขากลับเดินทางคนเดียว
14.00 น. ไปดอนเมือง ขึ้นเครื่องกลับเชียงราย
ชั่งกระเป๋า 27 ก.ก. น้ำหนักเกิน 7 ก.ก. เสียเงินค่าน้ำหนักเพิ่ม 420 บาท
แวะกิน เกี้ยวกุ้งน้ำ กับ กาแฟเย็น
ซื้อ Burger king กลับบ้านมากินเป็นมื้อเช้า

สายการบิน ONE-TO-GO เที่ยวบินที่ OX8116 ราคาตั๋ว 1550 บาท
ออกจากดอนเมือง 15.20 น. ถึง เชียงราย 16.40 น.

มื้อเย็นแวะกิน อาหาร ปักษ์ใต้ ร้านต้นไม้ ก่อนเข้าบ้าน



สรุป TRIP ปักกิ่ง
จุดเด่น
1 เรื่องอาหาร มีอาหารพิเศษ
เป็ดปักกิ่ง หมูหัน เป๋าฮื้อ มีบุฟเฟต์เกาหลี บุฟเฟต์นานาชาติ
2 ไกด์ ท้องถิ่น คล่องแคล่ว ให้คำแนะนำที่ดีมาก
มีความรู้เรื่องประวัติต่างๆดี พูดไทยชัด
3 ไกด์ ไทย น่ารัก คอยเก็บตก คนที่อยู่รั้งท้าย
และ อธิบายเรื่องที่ไม่ได้ยินจากไกด์ท้องถิ่น ไม่แย่งซีนกัน
4 โรงแรม เป็น โรงแรม 5 ดาว แม้ห้องจะไม่กว้างมาก
แต่ ก็สะอาด และอาหารเช้าดีอร่อย
5 สถานที่ท่องเที่ยว แต่ละแห่ง ยิ่งใหญ่ ถือว่าเป็นบุญตาที่ได้มาชม

จุดด้อย
มีเรื่องเดียว การเข้าชมร้านรัฐบาล
ซึ่งถือว่าเป็นการบังคับ ต้องให้ไกด์ท้องถิ่น พาไปชม
ที่หนึ่งต้องให้ใช้เวลาชม ไม่ต่ำกว่า 50 นาที ไม่งั้น ไกด์ท้องถิ่น ถูกตัดแต้ม
ถ้าเราสนใจในสินค้า ก็เพลิน ฟังไป ซื้อไป
ถ้าเราไม่สนใจ ก็ต้องรอ คนอื่นๆ ในกรุ๊ป ค่อนข้างนาน น่าเบื่อ
แต่ก็ถือว่าไปเปิดหูเปิดตา


จุดสะกิด
ไกด์จีน บอกว่า คนไทย มีนิสัยติดตัวมา สี่ อย่าง



 
ช้อป ขอช้อปตั้งแต่วันแรกที่มาถึง
ฉี่ ต้องเข้าห้องน้ำทุกที่ ที่แวะ ทั้งขาเข้า และ ขาออก
แชะ ถ่ายรูป ตะบี้ตะบันถ่ายมันเข้าไป ไม่เว้นแม้แต่ห้องส้วม
ช้า นัดแล้วต้องเลท

 


Create Date : 27 มีนาคม 2553
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2564 14:30:25 น. 10 comments
Counter : 8894 Pageviews.

 
ขอบคุณที่มาแชร์ประสบการณ์ และคำแนะนำที่มีประโยชน์ ผมว่าจะพาแฟน ไปเที่ยวบ้างครับ


โดย: OxyMan วันที่: 29 มีนาคม 2553 เวลา:21:47:14 น.  

 
จะไปปักกิ่งวันที่11เม.ย. อากาศจะหนาวมากไหมคะ ในแก๊งค์มีแต่เด็ก สตรี และคนชราที่แข็งแรงมากอีก 1 คนค่ะ


โดย: ป้า IP: 119.46.88.1 วันที่: 1 เมษายน 2553 เวลา:12:17:48 น.  

 
อากาศปีนี้แปรปรวน
ปกติเมษาก็ไม่หนาวมากแล้วนะคะ
แต่ก็ยังเย็นอยู่
ต้องคอยเช็คในเวปอุณหภูมิโลก ช่วงใกล้ๆไปค่ะ
เที่ยวให้สนุกนะคะ


โดย: me-o วันที่: 1 เมษายน 2553 เวลา:21:32:12 น.  

 
สวัสดีคะ พอดีไอซ์เพิ่งกลับมาจากปักกิ่งเมื่อคืนนี้เอง อากาศก็ยังหนาวอยู่คะ คือไอซ์อยากทราบว่ายาที่ซื้อมาตอนที่หมอแมะให้ทานแล้วเป็นยังไงบ้างคะ พอดีคุณแม่ซื้อมาเยอะเหมือนกัน กลัวไม่ได้ผล จะเสียตังค์ฟรี แอบงง อิอิ ยังไงช่วยเมล์กลับด้วยนะคะ ice_i_@hotmail.com ขอบคุณคะ


โดย: ไอซ์ IP: 118.172.161.88 วันที่: 4 เมษายน 2553 เวลา:23:05:05 น.  

 
ยาที่ซื้อมาทานดีไหมครับ ผมอาการหนักต้องใช้กำลังภายในขับสารพิษที่ตับ และให้เลือดหมุนเวียนคล่องทั้งร่างกาย ตอนรับพลังรักษาเหมือนกระแสไฟวิ่งเข้าไปในร่างกาย ดีใจมากที่อ่านblogนี้แล้วทราบว่ามีกระแสไฟออกมาจริง หมอให้ผมทานยารักษาตับและไต ทานยาสลับกัน กว่ายาหมดใช้เวลา 1 ปี หมดค่ายาไป 57,600 หยวน เกือบสามแสนบาท เพิ่งทานยาได้สิบวันครับ ไม่ทราบว่ายามีสเตียรอยด์ไหมครับ ผมทานแล้วมีผลข้างเคียงคือเรอ(ลมในท้องเยอะ)แล้วคุณหมูทานแล้วเป็นไงมั่งครับ


โดย: jo IP: 118.174.24.66 วันที่: 24 มิถุนายน 2553 เวลา:15:13:13 น.  

 
มาตอบเรื่องยาจีนนะคะ
ส่วนตัวของ me-o เองยาที่ได้มา
เป็นยาบำรุงไม่ใช่ยารักษาโรคเพราะไม่ได้เป็นโรคอะไร
กินยาก็หน้าไม่บวม ตัวไม่บวม
น่าจะยืนยันได้ว่าไม่มีสเตียรอยด์

กินแล้วเป็นอย่างไร
ก็กินแล้วรู้สึกว่าหน้าอกโตขึ้น ในยกทรงเบอร์เดิมแบบล้นเต้า


ส่วนของคุณหมู
ตัวเขาเองเคยตรวจ อุลต้าร์ซาวน์ในช่องท้อง
พบว่า มีก้อนคล้ายก้อนเลือดเกาะตับ ก่อนไปเมืองจีน
แต่แพทย์บอกว่าไม่เป็นโรค ไม่ต้องรักษา
อันนี้เลยยืนยันได้ว่า
การตรวจโรคที่เมืองจีนโดยการแมะ น่าเชื่อถือ

ส่วนการกินยาไม่มีผลข้างเคียงใดๆ
หน้าไม่บวม ตัวไม่บวม
ก็ไม่น่าจะมีสเตียรอยด์

ส่วนจะหายหรือไม่บอกไม่ได้
เพราะยังไม่ได้ไปตรวจ อุลต้าร์ซาวน์ซ้ำค่ะ

และก่อนกินยา ตัวคุณหมูเองก็ไม่ได้มีอาการเจ็บ
หรือไม่สบายแต่อย่างไรค่ะ


โดย: me-o วันที่: 23 กรกฎาคม 2553 เวลา:16:58:18 น.  

 
พอดีกำลังหาทัวร์ไปปักกิ่งค่ะ เห็นบล้อกของคุณน่าสนุกมากเลย ไม่ทราบว่าใช้บริษัททัวร์อาไรค่ะ ดูบริการดี๊ดี ช่วยแนะนำด้วยค่ะ


โดย: apple IP: 182.53.60.219 วันที่: 2 มีนาคม 2554 เวลา:15:43:42 น.  

 
พอดีกำลังหาทัวร์ไปปักกิ่งค่ะ เห็นบล้อกของคุณน่าสนุกมากเลย ไม่ทราบว่าใช้บริษัททัวร์อาไรค่ะ ดูบริการดี๊ดี ช่วยแนะนำด้วยค่ะ Email: pomme102@hotmail.com
ขอบคุณค่ะ



โดย: apple IP: 182.53.60.219 วันที่: 2 มีนาคม 2554 เวลา:15:49:01 น.  

 
ทัวร์ที่ไปด้วย คือ maritime ค่ะ


โดย: me-o วันที่: 5 มีนาคม 2554 เวลา:21:06:42 น.  

 
ชอบมากเที่ยวปักกิ่งช่วงนี้อากาศหนาวมากหิมะตกด้วยจ้า


โดย: limingxin วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:22:41:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

me-o
Location :
เชียงราย Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




สวัสดีค่ะ

me-o เป็นคนรักแมวค่ะ
เคยเลี้ยงไว้ มากสุด12 ตัว
ปี 2563 เหลือ 4 ตัว
เลี้ยงมาพร้อมกับลูกชายวัย 19 ปี
มีลูกคนเดียว กลัวไม่เหนื่อย เลยมีแมวเยอะ555
แมวเลี้ยงมาก่อนมีลูกชาย
ปี 2559 แมวที่เลี้ยงมาเริ่มหดหาย เป็นลิวคีเมีย

ปี 2560 บ้านมีสมาชิกใหม่ บีเกิ้ล 1 ตัว
ประตูบ้านพังไป 3 บาน และอื่นๆที่นับไม่ถ้วน

ชอบท่องเที่ยว ไปที่ต่างๆ
แล้วแต่เวลาจะอำนวย

สนใจการถ่ายรูป
รูปที่ลงในBlogจะถ่ายเอง
ใช้กล้อง โอลิมปัส E-410 ---> omd em5
คาดหวังไว้ว่า
รูปถ่ายจะสวยสุดยอดสักวัน
แต่ รูปจะสวยสุดยอด ต้องอาศัยการแต่งรูปช่วยเท่านั้น
ยังต้องเรียนรู้จะฝึกฝน เรื่อง โฟโต้ช้อป อีกเยอะ
แต่ผ่านมาหลายปีก็ยังแต่งรูปไม่เป็นสักที

ปี 2556 เปลี่ยนมาใช้
กล้อง โอลิมปัส OM-D E-M5
เพราะ E-410 เริ่มพัง สายแพที่เลนส์ขาด
ซ่อมแล้ว ก็ยังใช้งานไม่ปกติ

OM-D E-M5 เข้ามาเป็นกล้องตัวเก่ง เที่ยวไปทั่ว แทนที่

กลาง ปี 2556 เริ่มทำ blog เรื่องความงาม
เขียนเล่าประสบการณ์
ในส่วนนี้ รูปที่ถ่ายในสถานที่เสริมความงาม
จะเป็นกล้องจากแทปเล็ท ซัมซุง note8
ก็รู้ว่าไม่ถนัดเรื่องด้านนี้ เพราะ...
ข้อมูลประกอบเป็นเหตุผลและอารมณ์เยอะเกิน
เลยเลิกทำ

ธ.ค. 60 เริ่มลง blog ร้านอาหาร
รูปใน blog จะใช้มือถือ oppo f1 ---> oppo f11 pro
เพราะง่ายในการใช้งาน
ทีแรกตั้งใจจะไม่ทำส่วนนี้
แต่เห็นคนนอก พื้นที่ ยังทำเยอะกว่าคนที่กินประจำอีก
อยากแนะนำร้านดี อร่อยคุ้มราคาบ้าง

การนำรูปไปใช้ ในwebอื่นๆ
ให้แปะ link ได้นะคะ
ไม่อนุญาตให้ เอารูปใน blog ไปใช้ในweb อื่นๆ

ไม่อนุญาต ให้เอารูปใน blog
ไปตีพิมพ์ในหนังสือ หรือ นำไปทำแผนที่ หรือ ทำ ใบปลิวโฆษณา

สวัสดีค่ะ ยังเขียนblogอยู่ แต่นานๆมาที คิดถึง BlogGang

New Comments
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
27 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add me-o's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.