21 ตค 56 เก็บมาเล่า - Sounkyo Hokkaido
วันนี้ตั้งใจเขียนบันทึกฮอกไกโดตอนสุดท้าย เขียนอีกเขียนเยอะเดี๋ยวคนอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นกันหมด จริงๆแล้วเมืองไทยน่าเที่ยวและน่าอยู่มากกว่าที่ไหนในโลก ( ถ้าจะช่วยแก้ปัญหาความปลอดภัยแก่ชีวิตและทรัพย์สินเพิ่มอีกบ้างค่ะ ) วันนี้ตอนท้ายจะติดเรทสักหน่อยค่ะ เมืองโซอุนเกียว " Sounkyo" คือตำแหน่งที่อยากไปชมมากที่สุด เพราะเป็นสถานที่แรกของญี่ปุ่นที่จะเริ่มเห็นใบไม้เปลี่ยนสี ก่อนที่จะกระจายไปภูมิภาคต่างๆของประเทศ ละแวกนี้มีบ่อน้ำแร่ร้อนธรรมชาติหลายแห่งเมื่อมองจากระยะไกลจะพบเป็นเทือกเขาที่มีหมอกปกคลุมสวยงาม เดาว่าเป็นอากาศร้อนปะทะกับมวลอากาศเย็น เมื่อเข้าใกล้บริเวณนั้นจะเริ่มเห็นใบไม้เปลี่ยนสีมากขึ้นเรื่อยๆ คนญี่ปุ่นช่างคิดประดิษฐ์ และมีรายละเอียด ลูกศรสีแดงบนถนนเราเดาว่า ไว้เป็นแนวขอบถนนเมื่อเวลาหิมะลงจัดจนไม่เห็นแนวถนน ในย่านนี้มีรร.และที่พักหลายแห่ง เพราะอยู่ใกล้สถานีกระเช้าขึ้นยอดเขา ชาวญี่ปุ่นดูแลป่าไว้เป็นป่าที่สมบูรณ์สวยงาม สำหรับเราการได้นั่งเล่นและเดินเล่นในอุทยานแห่งชาติ Daisetsu ก็คุ้มค่าเหนื่อยสำหรับทริปนี้แล้ว..ชอบมากๆ ชาวญี่ปุ่นหลายคณะเดินผ่านสะพานนี้ขึ้นไปยังอุทยานพร้อมอาวุธหนักอุปกรณ์ถ่ายภาพและถ่ายภาพยนตร์ คงเป็นช่วงเวลาเริ่มแรกของฤดูใบไม้ร่วงที่หลายคณะอยากบันทึกภาพ ภาพถ่ายของเรากี่ภาพก็คงถ่ายทอดความสวยงามและความน่ารืนรมย์ของบริเวณนั้นได้ไม่เหมือน ความสวยงามของบริเวณนี้ ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากหลายแห่ง มีเคบินและกระเช้าลอยฟ้าเพื่อขึ้นไปชมทิวทัศน์บริเวณยอดเขา ผู้คนแน่นขนัดในเคบินเที่ยวลง 101 คนเต็มแน่นจนกระดิกตัวไม่ไหว ทำให้เราสงสัยว่าทำไมคนถึงมากมายขนาดนี้ ก็ใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่นก็ไม่เห็นจะมีอะไรน่าแปลก ผู้มาเที่ยวชมที่นี่คงต้องมีสิ่งที่อยู่ในใจมากกว่าการมาชมใบไม้เปลี่ยนสีละมัง คนที่น่าประทับใจมากที่สุดคือชายสูงอายุเป็นอัมพฤกษ์ซีกซ้าย คุณลุงใส่เสื้อกันหนาวตัวยาวเดินตะแคงขึ้นเขาสูงมาเพียงลำพัง ดูจากลักษณะแล้วเราเดาว่าทีมที่เคยมากับคุณลุงคงล้มหายตายจากไปหมดเหลือคุณลุงเดินขึ้นเขามาเพียงลำพัง ความภาคภูมิใจและชื่นชมในธรรมชาติของคนญีปุ่นถูกปลูกฝังมาอย่างดี ไม่มีใครพยายามเก็บสิ่งใดกลับไปแม้แต่เศษใบไม้สีสวยๆที่ร่วงหล่นลงพื้น เพราะเขาทราบว่าภาพเหล่านี้คือสิ่งที่ต้องทิ้งไว้ให้คนอื่นได้ชื่นชมต้วย
เขียนถึงเรื่องออนเซนสักหน่อยตามที่โฆษณาไว้ค่ะ ตามปกติแล้วการออนเซนรวมสำหรับเราแล้วไม่ค่อยถนัดสักเท่าไหร่ และถ้าไปกับคณะทัวร์ไทยแล้วไม่เคยลงสักครั้ง แต่วันนี้มีแต่คนต่างชาติ เป็นไงก็เป็นกัน เมื่อผลักเข้าไปในห้องแรกเป็นห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า สาวทุกวัยจะค่อยบรรจงถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้นในห้องนี้ แล้วเดินผ่อนคลายแบบปกติ ไปยังอีกห้องส่วนอาบน้ำสระผมให้สะอาด แต่ละคนนั่งบนเก้าอี้ตัวเล็กๆค่อยๆอาบน้ำถูร่างกาย ส่วนที่กลับจากแช่น้ำร้อนมาแล้วก็มายังห้องนี้อาบน้ำชำระร่างกายอีกครั้งอย่างใจเย็นและผ่อนคลาย บ้างก็กลับมายังห้องแรกนั่งเป่าแต่งทรงผม ดูแล้วเป็นการผ่อนคลายความตึงเครียดส่วนตัว ไม่มีใครคิดถึงเรื่องสรีระร่างกายหรือสนใจไปดูอะไรของใคร ( เราแอบๆดูบ้างเพราะไม่ค่อยชิน นานๆมาที คนญีปุ่นส่วนใหญ่ซูบซีดผอมบาง น้อยมากที่จะเห็นคนญี่ปุ่นอ้วน คงด้วยลักษณะของอาหารเมื่อเทียบไปแล้วไม่อุดมสมบูรณ์เท่าเมืองไทย หรือปัจจัยอื่นๆประกอบด้วยก็ไม่ทราบ หลายๆคนไม่สามารถทนแช่ในน้ำร้อนได้ ได้เพียงใช้ขาแช่น้ำ นั่งใช้ผ้าคลุมศีรษะท้าอากาศหนาวเย็นซะงั้น ส่วนใหญ่ลงแช่ได้แค่ชั่วอึดใจก็ขึ้นจากน้ำ ดูเหมือนความเพลิดเพลินจะอยู่ที่ห้องอาบน้ำสระผมเป็นหลักค่ะ (ทำไมไม่กลับไปสระที่ห้องพักก็ไม่ทราบ ) ส่วนเราก็ไม่ได้ทำตามคำแนะนำที่ให้เอาผ้าขนหนูเล็กปิดหน้าเอาไว้แล้วรีบเดินลงน้ำเพราะกลัวหกคะเมนพื้นเปียกน้ำลื่นๆ ใช้เพียงผ้าขนหนูเล็กปิดด้านหน้าของร่างกายให้ดูคล้ายไม่ได้ตั้งใจปิด คนอื่นจะได้ไม่รู้สึกอะไร ทำหน้าตาให้คล้ายคนญี่ปุ่น แล้วรีบเดินลงน้ำเลย แช่น้ำอุ่นสบายกลางอากาศเย็น ขัดถูร่างกาย น้ำแร่นี้เป็นน้ำลื่นๆข้อดีคือสามารถรักษาโรคผิวหนังบางชนิดได้ และช่วยขจัดรอยดำที่ผิวหนังบางส่วนไปได้ค่ะ
Create Date : 21 ตุลาคม 2556 |
Last Update : 21 ตุลาคม 2556 20:26:10 น. |
|
1 comments
|
Counter : 2168 Pageviews. |
|
|
ได้แต่อ่าน ภาพไม่ขึ้น แปะไว้ก่อน
ไว้กลับมาดูใหม่
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
mcayenne94 Travel Blog ดู Blog
พอจะออกไปภาพก็ขึ้นพอดี สวยจัง