6 เดือน : กลับไปเที่ยวเมืองไทยกันลูก
ขอโทษนะลูกที่หม่าหม๊า ไม่ได้มาอัพ Blog ตอน หกเดือนเลย ขอสารภาพหล่ะกัน อุ๊ย! เขิลจัง
.ก็เป็นเพราะช่วงนี้.... หม๊า ติดละคร นำ้เน่า เกาหลี อย่างหนักหน่วงอ่ะลูก ว่างเป็นไม่ได้ เกาะขอบ youtube ตลอด อิ อิ แต่พอคิดได้ว่า ช่วงเดือนที่ผ่านมา มันมีอะไรน่าจดจำเยอะมาก เพราะเรากลับไปเมืองไทยกันมา ดังนั้น หม๊าเลยต้อง จำใจพักจาก ละคร มาสู่ โลกแห่งความจริง (เว่อร์ซะ) เมื่อ กลางเดือนมีนา ที่ผ่านมา ซึ่งหนูก็อายุได้ หกเดือน พอดิบพอดี เราไปเที่ยวเมืองไทยกันมา เป็นการเดินทางไกลครั้งแรกของหนู ใช้เวลาเดินทางร่วม 18 ชั่วโมง รวมต่อเครื่องที่ญี่ปุ่นด้วย 2 ชั่วโมง ฟังดูโหดนะ ที่ต้องเดินทางกับเด็กเล็กนานๆอย่างนี้ แต่กลับไม่ยากอย่างที่คิดแฮะ เพราะ หนูน่ารักมาก ไม่งอแงเลย ประทับใจหม๊ากับป๊ามั่กๆ เอาไปเลย เต็ม 10 ลูกรัก
ก่อนจะเข้าสู่เรื่องราว อันแสนสนุก ที่เมืองไทย หม๊าขอเล่าแทรก เรื่องที่เรากลับมาถึงที่ฮาวายให้ฟังก่อนนะ หุ หุ แบบว่ามันอดใจไม่ไหวอ่ะลูก เรื่องไปเมืองไทย ไหนๆมันก็เลยผ่านมาแล้ว แต่เรื่องที่เกิดขึ้นช่วงนี้มันสดๆอ่ะ อยากเล่า คือตอนที่เรากลับมาถึงเนี้ย แน่นอน อาการ jetlack ก็มาพร้อมๆกับเราด้วย (บินไปเมืองไทยไม่เป็นนะ) ป๊ากับหม๊าก็เป็น อยู่ 2-3 วัน แต่หนูนี่สิ เป็นไปอาทิตย์กว่าๆ คือ กลางวัน หลับสลบไสล ต้องคอยปลุกมากินนม และต้องเอาผ้าชุบนำ้มาเช็ดหน้าไว้ เป็นอย่างงี้ตลอดกลางวัน และหนูก็จะไปตื่นอย่างสมบูรณ์โน้นเลย ตอน ตี สอง ความทรมานก็จะมาเยือนทันที เพราะเป็นเวลาที่ป๊ากับหม๊า ง่วง สุดๆแล้ว
.ทำยังไงหนู ก็ไม่ยอมนอน ปล่อยให้เล่นคนเดียวก็เอา แต่ส่งเสียงดังรบกวนมากขอบอก ทั้งกระทืบที่นอน (นึกภาพตามนะ หนูนอนหงายอยู่และยกขา ตีที่นอนตลอดเวลา)หรือไม่ก็ทำเสียง กืกๆ กาๆ ตลอด จะไปหลับอีกที ก็โน่น ตีสี่จะตีห้า เล่นเอาป๊า สะรึมสะลือ ไปทำงานกันเลยทีเดียว พอหนูเริ่มจะหายดี ก็ต้องไปฉีด วัคซีนกันอีก คราวนี้ โหดมาก เพราะโดน ไปตั้ง ห้าเข็ม (3 เข็มแรก เป็นวัคซีนปกติ ส่วน 2 เข็มหลังเป็นวัคซีน กันไข้หวัด) หม๊าตกใจมาก ดีนะที่ป๊าไปด้วย แต่หนูนี่อึด!! มากเลยลูก เพราะร้องจี๊ดเดียว ตอนดึงเข็มออกเท่านั้น ฉีดครบห้าเข็ม หน้าหนูแดงแป๊ดเลยลูก แต่ป๊าอุ้มปลอบใจ ก็หยุดร้องแล้ว พอตกกลางคืน หม๊ากะว่าหนู คงจะเป็นไข้ตัวร้อน มีอาการซึมอะไร ประมาณนั้น เตรียมพร้อมทุกอย่าง แต่ปล่าว เลยลูก ร่าเริงมาก ดีดสุดๆเหมือนเดิม แต่มีตัวอุ่นๆนิดหน่อย ตามประสาเด็กฉีดวัคซีนมา ขนาดให้ยา ไทลินอลเด็กไปแล้ว หนูยังไม่มีอาการง่วงเลยลูก โหย!! ถึก จริงๆลูกแม่ ได้เชื้อใครมาเนี้ย
โอเค จบแล้ว เรื่องที่อยากจะแทรก ต่อไปก็เข้าเรื่องที่อยากจะเล่าจริงๆ เริ่มจาก วันที่ 10 มีนาคม 2010 วันที่เราจะเดินทางกลับเมืองไทย จริงๆเวลาขึ้นเครื่อง คือ 12.30 pm. แต่เราต้องรีบเตรียมตัว ออกจากบ้านกันเร็วหน่อย เพราะการเดินทางกับเด็กเล็ก อะไรไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นได้ เช่น หนูอาจจะอ้วก หรือ ขรี้แตกกระจาย เป็นต้น แต่ หนูเหรอ ระดับลูกแม่แล้ว เรื่องแบบนี้ ไม่มีให้เสียประวัติเน๊อะ เรามาถึงสนามบิน HONOLULU เกือบๆ 10 โมงเช้า มาก่อนหน้า กรุ๊ปทัวร์ นิ๊ดเดียว ดีจริงๆไม่งั้น คงต้องต่อแถวยาวเหยียดแน่ๆ แต่แล้วเรื่องวุ่นๆก็เกิดขึ้นจนได้ เนื่องจากกระเป๋า น้ำหนักเกิน เรามีกันมา สี่ใบ ใบเล็กสอง ใบใหญ่สอง คือเจ้าใบใหญ่เกิน ใบเล็กไม่เกิน ก็เลย ต้องถ่ายของไปมา ให้มันได้ ก็วุ่นวายน่าดู ของที่หม่าหม๊า จัดแยกมาอย่างดี ป๊างี้ รื้อขึ้นมาหมดเลย จับอันนั้น ยัดอันนี้ กว่าจะได้ ก็เล่นเอาป๊า เหงื่อออกกีบ อิ อิ พอ check in เสร็จ ก็ต้องเดินไปรอที่หน้า Gate ก็เดินไกลเหลือเก๊ิน จนหมดแรง ดีนะที่หม๊า เตรียมห่อข้าวมาด้วย (ของกินที่นั่น อย่าหวังว่าจะได้เงินชั้น) เป็น ผัดกระเพรา คนละกล่อง กับ ป๊า (พี่แดง และ พี่เจง เจ้าของร้าน แพรไทย จัดให้) ทำมาให้ตั้งแต่เมื่อวานเย็น กินกันเหลือ เลยได้ห่อมากินอีกที หุ หุ เลือกที่นั้งกินก็ดีเหลือเกิน ตรงหัวมุมทางเดินเป๊ะ ชนิดว่า ใครเดินมา กลิ่นจะเตะจมูกกันสุดๆ เอาให้รู้กันไปเลยว่าชั้นเป็นคนไทย ชอบกินอาหารไทยมากคร้าาาา และก็ขำมากๆคือ ขณะที่กำลังก้มหน้าก้มตากินอยู่นั้น ก็มีกลุ่ม แฮร์โฮสเตส (ไทย) เดินมา พร้อมกับพูดกันในกลุ่มว่า อุ๊ย! ได้กลิ่นเหมือนผัดกระเพราเลย ดีนะ ที่เค้าไม่มองหาต้นตอ เพราะถ้ามอง ก็คงเจอ อิ อิ ได้เวลาขึ้นเครื่อง เป็นเวลาที่หม๊า ตื่นเต้นสุดๆ เพราะกังวลกับหนูสารพัด กลัวหนูจะเจ็บหู กลัวหนูจะร้องไห้ กลัวคนเค้ารำคาญ
.. แต่เนื่องจาก หม๊าเตรียมตัวมาอย่างดี หนูก็เลย ล่ันล้า มากมาย โดยเริ่มจาก เอา ear plug มาอุดหูหนูไว้ (แต่จริงๆไม่ต้องก็ได้) และกะจังหวะดีๆ ว่าเครื่องจะขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า (สังเกตุจาก แฮรโฮสเตท ถ้าเค้านั่ง ประจำที่เมื่อไหร่ อีกไม่นานเครื่องจะ Take off) ก็เอานมให้หนูดูดทันที หรือ จะให้จากขวดก็ได้ แต่จังหวะนั้น หม๊ากลัวหนูไม่ยอมดูดขวด เลยให้ดูดนมหม๊าแทน ใจหม๊าก็ตุ้มๆต่อม ๆ จะร้องมั้ยหว่า จะได้ผลมั้ยหว่า
ว้าว สุดท้าย ก็ได้ผลจริงๆลูก หนูไม่ร้องสักแอะ พอกินนมเสร็จ เครื่องก็เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว หนูก็เริ่งร่า ทันที มองโน่น มองนี่ ตลอด พอบินไปสักพัก แฮร์ฯ เค้าก็มา กาง Bassinet ให้หนู หนูก็เข้าไปนั้งเล่น ในนั้น หม๊าก็แอบดีใจว่า คงสบายแล้วตรู..ไม่ต้องอุ้มให้เมื่อยตุ้ม
แต่ที่ไหนได้่ตอนนอนนี่สิ ไม่ยอมนอนในนั้นเลย นอนได้ ห้านาที ก็ร้องแล้ว ไม่ไหวเลย ทำไมหล่ะลูก เจ้า Bassinet นี้ เค้าไม่ได้ให้ฟรี นะย่ะ ป๊าต้องเสียเงิน 20% ของค่าตั๋วเชียวนะ จะมานั่งแต่บนตักหม๊าได้งัย ใช้ให้มันคุ้มๆหน่อยเด๊ะ เพ่!!! เดินทางคราวนี้เราเลือกมากับสายการบิน JAJ ซึ่่งก็ประทับใจมาก แต่กะว่า คราวหน้าจะไม่มาด้วยแล้ว อ้าว!! ทำไม่หล่ะ
ก็เพราะบริการก็ดีลูก แต่เครื่องบินลำมันเล็กไปหน่อย อาหารก็ไม่อร่อย (อัันนี้สำคัญมาก) ตอนขาไปเมืองไทยหน่ะไม่เท่าไหร่หรอก เพราะลำก็ใหญ่ดี แต่ขากลับอ่ะดิ ปวดขามากๆเลย ขนาดเราก็ตัวเล็กกันแล้วนะ แล้วนี่ พวกฝรั่งมังค่า มิต้องเก็บคอ งอเข่า เป็นกุ้งเลยเหรอ กว่าจะถึงจุดหมาย เฮ้อ!!! วันนี้พอ แค่นี้ก่อนนะลูก ขอตัวไปดู เกาหลีต่อหล่ะ หุ หุ เอาไว้มาต่อคราวหน้ามาต่อใหม่นะ หม๊าจะมาเล่าให้ฟังว่า หนูมีความสุขขนาดไหนที่ได้กลับไปเที่ยวเมืองไทย ซาราเฮโย
รักลูกนะ จุ๊บๆ
Create Date : 24 เมษายน 2553 |
|
17 comments |
Last Update : 24 เมษายน 2553 5:22:52 น. |
Counter : 1412 Pageviews. |
|
|
|
ไว้เด่วเจอกันใหม่ อิอิ