Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2559
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
17 สิงหาคม 2559
 
All Blogs
 
แบกเป้ลุยเดี่ยวซกโชและซอรัคซาน ในวันหยุดยาวเกาหลี





สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาแบ่งปันประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวซอรัคซานจากกรุงโซลโดยรถบัสค่ะ เนื่องจากอาทิตย์ที่แล้วที่เกาหลีมีวันหยุดยาวคือวันประกาศอิสระภาพของเกาหลีจากญี่ปุ่น ทางที่ทำงานก็หยุดเสาร์ - จันทร์ นานๆ ได้หยุดยาวทั้งทีเลยมีความคิดอยากออกไปเที่ยวนอกกรุงโซลซะหน่อย เพราะปกติเคยเที่ยวแค่เฉพาะในกรุงโซลไม่ค่อยได้ออกไปเที่ยวนอกเมืองเท่าไหร่ เลือกสถานที่อยู่นานก็มาลงตัวที่ซอรัคซานเพราะเคยได้ยินคำล่ำลือมานานแล้วว่าสวยมากก ศึกษาข้อมูลการเดินทางเสร็จสรรพใช้เวลาในการเดินทาง 2.30 - 3 ชั่วโมงเอง สามารถเที่ยวได้แบบเช้าไปเย็นกลับด้วย  ได้ข้อมูลมาตามนั้นเราก็จัดการวางแพลนเดินทางเช้าตรู่วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม 2016 ออกจากบ้านตั้งแต่หกโมงเช้าเพื่อขึ้นรถไฟใต้ดินสาย 2 ไปลงที่สถานี  Gangbyeon เพื่อไปขึ้นรถบัสที่ Dong Seoul Bus Terminal สถานีที่จะต้องต่อรถบัสไปยังซกโชค่ะ

ถึงสถานีรถไฟใต้ดิน Gangbyeon แล้วเดินออกมาจากประตู 4  ก็จะเจอตึกแบบนี้เลยค่ะ ให้ตรงเข้าไปด้านในเลยจะมีที่ขายตั๋วรถบัสอยู่ วันที่ไปคนเยอะมากเรารีบตรงขึ้นไปยังชั้น 2 เพื่อซื้อตั๋วรถไฟด่วนปรากฎว่าตั๋วที่จะไปซกโชรอบเช้าและบ่ายหมดเกลี้ยงเลยเหลืออีกทีรอบหกโมงเย็น นี่คือความผิดพลาดครั้งที่ 1 ของเราที่ลืมคิดไปว่าควรจองตั๋วไว้ล่วงหน้าเพราะเป็นวันหยุดยาวใครๆ เขาก็ไปเที่ยวกัน สรุปเดินคอตกลงมาชั้นล่างยืนเคว้งอยู่พักนึง ได้มาแล้วอ่ะไม่อยากเสียเที่ยวยังไงก็้ต้องหาทางไปให้ได้คิดในใจขอให้ได้ไปเหอะเป็นตั๋วยืนก็ได้ ณ เวลานี้ยอมทุกอย่าง 555 ตัดสินใจเดินกลับขึ้นไปถามใหม่ พนักงานคนเดิมแจ้งลองถามที่ออฟฟิศข้างล่างดูว่ายังมีตั๋วหรือเปล่า สรุปพึ่งถึงบางอ้อ มีที่ขายตั๋วเพื่อไปซกโชสองที่สันนิษฐานว่าข้างบนน่าจะเป็นตั๋วแบบเอ็กเพรส ข้างล่างแบบธรรมดาหรือเปล่าหว่า ในที่สุดก็ได้ตั๋วมา 1 ใบ รถออกเวลา 7.30 น. ดีใจสุดๆ



หน้าตาของตั๋วที่ได้มา ขึ้นรถที่ชานชลา 4, 5


ภายในสถานีรถบัสจะมีร้านสะดวกซื้ออยู่นะคะ แนะนำให้ซื้อของกินเผื่อๆ ไว้เลยค่ะจะได้ไม่พลาดแบบเรา (เดี๋ยวบอกตอนหลังนะคะว่าทำไม)
รถบัสที่จะพาไปซกโชค่ะ มีเวลารถออกที่ด้านหน้าชัดเจนภายในรถสะอาด เบาะนั่งแอบแข็งนิดนึง แอบดูนาฬิกาเวลารถออกคือ 7.30 น.เป๊ะเลย ไม่เลทแม้แต่นาทีเดียว



พอรถขยับไปได้สักประมาณ 15 นาที ความหดหู่รอบสองบังเกิดขึ้นแล้วคะ เพราะหลังจากรถวิ่งปรื๊ดๆ ในช่วงแรกตอนนี้เต่าคลานยังเร็วกว่าอีก มองออกไปดูคือ รถติดมากกกกก (นี่แหละคะคือสาเหตุที่บอกให้ซื้อของกินมาเผื่อในตอนต้น) รถวิ่งได้ทีละนิดละหน่อยแบบนี้กว่า 5 ชั่วโมงเลยค่ะ กว่าจะถึงที่พักรถเราหิวทั้งข้าวและน้ำทรมานสุดๆ ตอนแรกคิดว่านั่งแค่สองชั่วโมงกว่าเเลยไม่ได้ซื้ออะไรติดตัวมาเลย พอถึงจุดพักรถคนขับบอกพัก 15 นาที เราไม่ได้ถ่ายรูปมาเลยเพราะต้องรีบไปต่อแถวเข้าห้องน้ำที่คิวยาวเยียด และรีบซื้อขนมมานั่งกินในรถสักพักรถก็ออก วิ่งปรู๊ดๆ 5 นาที เริ่มคลานอีกแล้ว เหอๆ เราเริ่มจะท้อแท้และกังวลว่ามันจะทันเที่ยวซอรัคซานมั้ยเนี่ย ห้าชั่วโมงกว่าแล้วยังไปไม่ถึงไหนเลย แล้วไม่รู้จะถึงเมื่อไหร่ เป็นผู้หญิงไปเที่ยวคนเดียวด้วย โรงแรมอะไรก็ไม่ได้จองไว้เริ่มเป็นห่วงอนาคตตัวเอง และโมโหตัวเองด้วยที่ไม่ได้ศึกษาข้อมูลอะไรมาเผื่อเลย ประมาณไปตายเอาดาบหน้า (ใครที่จะมาเที่ยวเกาหลีช่วงเทศกาลหรือวันหยุดควรเผื่อเวลาไว้ดีๆ นะคะจะได้ไม่พลาดเหมือนเรา)



และแล้วเวลาบ่ายสามกว่าๆ เราก็เข้าเขตซกโชค่ะ รูปนี้เป็นรูปที่ถ่ายจากในรถเป็นวิวชายหาดซกโชเริ่มจะรู้สึกดีขึ้นมานิดหลังจากที่นั่งห่อเหี่ยวในรถเป็นเวลาหลายชั่วโมง แอบมองไปข้างหลังรถจากทีบรรทุกคนมาเต็มคันเหลือเรากับสาวเกาหลีอีกคนลงเป็นสถานีสุดท้าย



สถานีรถบัสที่เราลงค่ะ Sokcho Intercity bus terminal พอลงจากรถเหลือบดูนาฬิกาเป็นเวลาเกือบๆ สี่โมงเย็นพอดี ทีนี่คิดหนักเลยเพราะต้องรอรถเมล์ไปซอรัคซานอีก และใช้เวลากว่าจะไปถึงประมาณ 30-40 นาที (หากรถไม่ติด) และเราก็เหนื่อยด้วยคิดว่านอนที่นี่สักคืนดีกว่าไม่กลัวเวลาไม่พอและไม่อยากนั่งรถบัสอีกเพราะเพลียร่างมาก จัดการเสริจหาโรงแรมที่พักแถวๆ นี้สักคืนดีกว่า ปรากฏว่าไม่มีห้องพักใดๆ แถบนี้ว่างเลย คอตกรอบสาม 555 ทำไงละทีนี้ไปต่อก็ไม่ได้กลับก็คงไม่ไหว เท่าที่นึกออกตอนนั้นก็มีชิมจิลบังนี่ละคร่าา ได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมานานว่านอนค้างคืนได้ แต่ไม่เคยคิดว่าจะได้ไปสัมผัส (ยังไงก็ดีกว่าไม่มีที่นอนล่ะเนาะ) ข้อดีของยุคสมัยนี้ดีอย่างนะคะทีมีอินเทอเนตอยากรู้ข้อมูลอะไรก็ถามพี่กูเกิ้ลอย่างเดียว สรุปเราหาที่นอนได้แล้ว เป็นชิมจิลบังค่อนข้างมีชื่อเสียงของแถวนี้อยู่ในเขตชายหาดซกโช แถวๆ อีมาร์ท ต้องนั่งรถเมล์ย้อนกลับไปประมาณ 10-15 นาที
ก่อนจะเข้าพักชิมจิลบังต้องหาทานข้าวทานอะไรให้เรียบร้อยก่อนนะคะเพราะเข้าไปแล้วออกไม่ได้ค่ะ ถ้าออกคือต้องเสียตังค์ใหม่ เราพอมีเวลาอยู่บ้างเลยเดินเล่นแถบชายหาดของซกโช แดดกำลังดีเลย ชายหาดที่นี่คึกคักมาก คนเยอะ หนุ่มสาวเกาหลีเขาแต่งตัวกันมิดชิดนะคะ ไม่ค่อยมีวันพีช ทูพีชให้เห็นเลย ส่วนมากจะเป็นเสื้อแขนยาวปิดถึงคอ กับกางเกงขาสั้น 

เมืองซกโชเราว่าเป็นเมืองที่ค่อนข้างมีสเน่ห์นะคะ เป็นเมืองเล็กๆ เงียบสงบริมชายหาดหากมาเที่ยวน่าร้อน น้ำทะเลของที่นี่ก็น่าเล่น ยอมรับว่าก่อนมาไม่ได้สนใจเลย เพราะกะมาแค่ซอรัคซาน พอได้เดินเล่นเมืองนี้แล้วรู้สึกชอบซะงั้น คราวหลังคงหาโอกาศกลับมาอีก แต่คงมาหลายวันกว่านี้สักหน่อยเที่ยวแบบไม่รีบเร่ง




เดินเล่นชมเมืองสักพักก็หาอะไรกินเพราะเริ่มรู้สึกหิวลืมไปว่ายังไม่ได้กินทั้งข้าวเช้า, กลางวัน, รวมมาทีเดียวตอนเย็นเลยละกัน เมนูมาลงตัวที่ 회 ฮเว หรือ ซาชิมิเกาหลีนั่นเองค่ะ ปลาที่เราสั่งเป็นเซต 40,000 วอน (แอบแพงอยู่นะ) ก่อนตัดสินใจสั่งขอให้ลูกเจ้าของร้านพาไปดูหน้าตาปลาก่อนว่าเป็นไง คือเราเคยไปเดินตลาดปลาโนรยางจินในโซลมาแล้วเจอปลาหน้าตาแปลกๆ เยอะ แอบหลอนอยู่อ่ะคะ 55 เลยขอพิสูจน์ให้ชัวร์ๆ ดีกว่าไม่อยากมีเซอไพร์ทีหลัง

เซ็ตที่เราสั่งเป็นปลาตัวแบนๆ หั่นออกมาแล้วหน้าตาเป็นแบบนี้ทานกับซอสเกาหลีพร้อมเครื่องเคียง มีซุปสาหร่ายให้ด้วยอร่อยค่ะ ได้เยอะมากเรากินไปประมาณ 3/4 แอบเสียดายอยู่นะ แต่กินเยอะๆ แล้วมันเลี่ยนยังไงไม่รู้



กินเสร็จแล้วก็ได้ฤกษ์เวลาเข้าชิมจิลบังพอดีเลยค่ะ อยู่ห่างจากร้านไปประมาณ 500 เมตร เชื่อ 해수피아 찜질방 จ่ายไปหมื่อวอน ได้ชุดเสื้อกางเกงและผ้าเช็ดตัวผืนเล็กมาสองผืนและอยู่ได้นานเท่าที่จะอยู่ค่ะ ในชิมจิลบังเขาจะมีล็อกเกอร์สำหรับใส่รองเท้าและล็อเกอร์ข้างในสำหรับเก็บของเราก็จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าตรงล็อกเกอร์นี่แหละค่ะ เปลี่ยนเสร็จแล้วก็ไปใช้บริการซาวน่า อ่างอาบน้ำร้อน และอาบน้ำ (ชิมชิลบังที่นี่ห้องอาบน้ำจะแยกชายหญิง เป็นห้องเปิดโล่งไม่มีฝาผนังใดๆ กั้นเลยค่ะ เพราะฉนั้นใครมาใช้บริการต้องเตรียมใจกันหน่อยนะคะ ส่วนเรารีบอาบรีบไปไม่มองใครทั้งนั้น 55) อาบเสร็จก็มาเลือกที่นอนได้ตามสบายตามภาพเลยค่ะ ตอนเรามาถึงยังไม่ค่อยมีคน แต่หลังจากนี้ไปสักพักที่แถวนี้ไม่ว่างเลยคะ แทบจะไม่มีที่ให้เดิน ข้อดีของการนอนชิมจิลบังคือ ถูกและมีเพื่อนเยอะ ส่วนข้อเสีย เสียงดังและที่นอนแข็งมากก ร้อนด้วยค่ะ




เราตื่นตั้งแต่ตี 5 ครึ่งเพื่อทำธุระให้เสร็จและไปหาอะไรกินรองท้องก่อนมุ่งหน้าไปตรงป้ายรถเมล์ฝั่งตรงข้ามเพื่อไปซอรัคซัน รอสักพักก็มีรถเมล์สาย 7 วิ่งมาพอดี ป้ายรถเมล์ตรงนี้มีทั้งสาย 7 และ 7-1 ผ่านนะคะ ทั้งสองคันไปซอรัคซานเหมือนกัน ค่าโดยสาร 1200 วอน ใช้เวลาประมาณ 30 - 40 นาที นั่งไปเรื่อยๆ จนถึงสถานีสุดท้าย เราไปแต่เช้ารถวิ่งสบายมากใช้เวลาแค่ 30 นาทีเอง แต่ตอนขากลับแอบมองดูฝั่งรถขาเข้า ติดยาวมากก ตัดสินใจถูกมากๆ ที่มาตั้งแต่เช้า



อันนี้เป็นรูปป้ายรถเมล์ขากลับที่ต้องมารอขึ้นรถกลับซกโช ป้ายเดิมกับตอนที่มาถึงเลย



ถึงซะทีสินะซอรัคซาน กับการเดินทางที่แสนยาวนานและเหนื่อยล้าเมื่อเห็นภาพภูเขาสวยๆ อยู่ตรงหน้า ความเหนื่อยมันก็หายไปเลยทันที รีบมุ่งตรงไปซื้อตั๋วเข้าอุทยานถ่ายรูปกับพี่หมีเจ้าถิ่นสองแชะ แล้วไปต่อที่เคเบิ้ลคาร์ที่อยู่ถัดไปจากพี่หมีด้านซ้ายมือเดินประมาณ 1 นาทีถึง ซื้อตั๋วเคเบิ้ลคาร์หมื่นวอนแบบไปกลับ แล้วเราก็เลือกยืนตรงริมๆ เพื่อถ่ายรูปวิวสวยๆ



พอถึงข้างบนแล้วก็ต้องเดินไปตามทางอีกประมาณ 5 - 10 นาทีเพื่อไปยังยอดเขาพีซอนแด

มาอยู่ตรงยอดเขาแล้วพึ่งรู้ตัวว่าเป็นโรคกลัวความสูง แรกๆ แอบขาสั่นเลยค่ะข้างบนลมพัดค่อนข้างแรง ใครที่จะมาแนะนำให้ใส่รองเท้าผ้าใบดีกว่านะคะ ส่วนเราพยามยามสลัดความกลัวด้วยการคว้าโทรศัพท์มาถ่ายรูปรัวๆ แต่ไม่กล้าไปยืนตรงริมผาเหมือนคนอื่น ได้แต่มองอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ อดหวาดเสียวแทนไม่ได้ แต่ต้องยอมรับว่าวิวบนยอดเขาซอรัคซานสวยจริงๆ มิเสียแรงที่ตั้งใจมา ถ้ายิ่งมาช่วงใบไม้เปลี่ยนสีนี่คงจะสวยมาก มีโอกาสคงต้องกลับมาอีกแน่นอนมาคราวหน้าคงต้องหาเพื่อนมาด้วยซะแล้ว เพราะมาคนเดียวไม่มีใครถ่ายรูปให้เลย น่าเสียดายมากเราใช้เวลาอยู่บนนี้ประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ลงไปข้างล่างเพื่อที่จะไปวัด ซินฮึงซา





เราขึ้นเคเบิ้ลคาร์ลงมาข้างล่างและเดินเลียบคลองน้ำที่มีหินขาวๆ สวยๆ ไปจนถึงทางเข้าวัด ได้บรรยากาศดีมาก


วัดซินฮึงซา วันนี้มีเทมเพิ้ลสเตย์หรือการจำศีลอยู่วัดด้วยนะคะบรรยากาศรอบวัดมีภูเขาล้อมรอบ อากาศดีค่ะแต่ฤดูหนาวที่นี่คงจะหนาวมาก




หลังจากออกจากวัดเราก็มุ่งหน้าขึ้นรถเมล์กลับซกโชค่ะ ลงที่ Sokcho intercity bus terminal เหมือนเดิมและนั่งรถต่อไปยังเมืองคังนึงเพื่อที่จะไปขึ้นรถไฟสายโรแมนติค แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะความผิดพลาดของตัวเองอีกแล้ว ที่ไม่จองไว้ล่วงหน้า เพราะไม่มีที่ว่างเลยค่ะ เราจึงต้องนั่งรถบัสจากคังนึงเข้าโซล และไปลงที่ Express bus terminal ตรงคังนัม ใช้เวลา 5 ชั่วโมงเพราะรถติดอีกเช่นเคยค่ะ  สำหรับใครที่มีแพลนเที่ยวเกาหลีทางที่ดีควรเลี่ยงการเที่ยวช่วงเทศกาลหรือวันหยุดต่างๆ ของที่นี่ดีกว่านะคะจะได้เที่ยวแบบสบายๆ ไม่ต้องกลัวรถติดและทำให้เสียแพลนการเที่ยวของวันนั้นค่ะ



Create Date : 17 สิงหาคม 2559
Last Update : 17 สิงหาคม 2559 9:13:28 น. 0 comments
Counter : 2111 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

monkey(thai)
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add monkey(thai)'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.