มีนาคม 2555

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
27
28
29
30
31
 
รีวิว คาร์นิทีน part 1






Smiley คาร์นิทีน (Carnitine) มีสูตรโครงสร้างเป็น 3-hydroxy-5-trimethylammonium butyrate ซึ่ง เป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่ง ที่ตับผลิตขึ้นมาจาก กรดอะมิโนไลซีน + กรดอะมิโนเมทไธโอนีน นั่นเอง โดยที่คาร์นิทีนเป็นสารอาหารที่ละลายน้ำได้ เหมือนกับวิตามิน บี หรือ ซี ครับ(เป็นสารอาหารที่คล้ายวิตามิน) การที่ตับจะสร้างคาร์นิทีนได้ ตับต้องใช้ตัวเร่งปฎิกิริยาเพื่อให้มันเกิดขึ้นง่ายและเร็ว นั่นก็คือ ไนอาซิน วิตามินบี 6 ซี และธาตุเหล็กเล็กน้อย

Smiley คาร์นิทีน มี 2 รูปแบบก็คือ แอล-คาร์นิทีน ซึ่งเป็นสารที่ได้จากธรรมชาติ และ ดี-คาร์นิทีน ซึ่งเป็นสารที่ได้จากการสังเคราะห์ คาร์นิทีนที่ควรกินก็คือ แอล-คาร์นิทีน ส่วน ดี-คาร์นิทีน นั้นไม่ควรกิน เนื่องจาก ดี-คาร์นิทีนนั้น มีฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง หากกินมากเกิน 2 กรัม อาจทำให้ปวดท้อง คลื่นไส้ และ ท้องเสีย เป็นต้น ผู้ที่ใช้ดีคาร์นิทีน ติตต่อกันเป็นระยะเวลานาน ควรตรวจระดับยาในเลือด และปัสสาวะด้วย แม้จะยังไม่พบผลเสียระยะยาวก็ตาม

Smiley คาร์นิทีน จะกระจายทั่วไปในเซลล์ โดยเฉพาะเซลล์กล้ามเนื้อ เรามักพบคาร์นิทีนมาก ในเนื้อแดง (พวกวัว ควาย) และเครื่องในสัตว์ (นักมังสวิรัติ หรือพวกที่ไม่กินเครื่องใน หรือพวกที่ไม่กินเนื้อสัตว์ใหญ่ คนเหล่านี้มักขาด คาร์นิทีน จึงควรได้รับคาร์นิทีนเสริม) และสันนิฐานว่า มันมีหน้าที่นำไขมันที่แทรกอยู่ในกล้ามเนื้อ ไปเผาในไมโตคอนเดรีย ครับ หน้าที่หลักอีกอย่างหนึ่งของคาร์นิทีน ก็คือ มันจะให้พลังงานกับกล้ามเนื้อหัวใจและกล้ามเนื้อลาย

Smiley คาร์นิทีน ได้ชื่อว่าเป็น Heart tonic (น้ำอมฤตของหัวใจ) หรือ อีกชื่อหนึ่งที่มันได้รับก็คือ ยาอายุวัฒนะ ครับ หน้าที่หลักของคาร์นิทีนก็คือ การเผาผาญไขมันในกล้ามเนื้อ ทั้งคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ โดยเฉพาะไขมันในกล้ามเนื้อหัวใจ และในเซลล์ตับ (เนื่องจากพี่น้องที่กินเหล้าบ่อย หรือ อ้วนมากๆ หรือ มีไขมันในเลือดสูง หรือ ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน หรือการสังเคราะห์ไขมันที่ตับผิดปกติ หรือตับอักเสบจากไวรัส หรือ การขาดสารอาหาร เหล่านี้ทำให้เกิดไขมันพอกตับคือ ไขมันสะสมในตับนะครับ ไม่ใช่ไขมันมันไปฉาบบนตับ ที่แย่ยิ่งกว่านั้นไขมันพวกนี้ไม่สามารถที่จะสลายไปได้ โดยการออกกำลังกาย เป็นเหตุให้เกิดโรคต่างๆตามมามากมาย เช่น มะเร็งตับ ตับแข็ง เป็นต้น) ดังนั้น คาร์นิทีนจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสริมที่จะไป สลายไขมันในตับและไขมันในกล้ามเนื้อหัวใจ



Smiley ทีนี้มาพูดถึงกลไกการทำงานของ คาร์นิทีนนะครับ เริ่มจากพี่น้องต้องรู้จัก ไมโตคอนเดรียเสียก่อนครับ ไมโตคอนเดรีย เป็นออร์แกนเนลล์ที่ทำหน้าที่ผลิตพลังงานให้กับส่วนต่างๆของเซลล์ หรืออวัยวะของร่างกาย มีรูปร่างหน้าตาดังรูปข้างล่างนี้แหละ



โดยการผลิตพลังงานนั้นจะใช้กระบวนการที่เรียกว่า oxidative phosphorylation เป็นกระบวนการถ่ายเทอิเล็กตรอนที่เกิดขึ้นในไมโตคอนเดรีย เพื่อสร้างพลังงานจากการสลายสารอาหาร ซึ่งอาจะเป็นการสร้างพลังงานจาก น้ำตาลกลูโคส กรดไขมันสายสั้น หรือ โปรตีน โดยจะขอพูดเฉพาะไขมันนะครับ เมื่อกรดไขมันมาถึงเซลล์แล้วมันจะถูกตัดเป็นท่อนๆ (ท่อนละ 2 คาร์บอนอะตอม) โดยกระบวนการ บีต้า-ออกซิเดชัน แล้วคาร์นิทีนนี่แหละครับจะเป็นโปรตีนตัวพาให้ไขมันเข้าสู่เซลล์ และเข้าสู่ไมโตคอนเดรีย ตามลำดับ เพื่อเผาไขมันนั้นให้กลายเป็นพลังงานแก่ร่างกาย ดังนั้น คาร์นิทีนจึงเป็นตัวลดระดับไขมันในเลือดนั่นเอง อีกทั้งมันสามารถนำพาไขมันที่แทรกอยู่ตามกล้ามเนื้อไปเผาให้กลายเป็นพลังงานได้ ดังนั้นมันจึงช่วยลดไขมันที่แทรกตามกล้ามเนื้อ หรือ พอกตามอวัยวะสำคัญๆทั้งหลาย เช่น หัวใจ ตับ ได้เป็นอย่างดี 


ผลก็คือ ไขมันจะไม่ถูกนำเข้าไปเผาในไมโตคอนเดรีย แล้วไขมันเหล่านั้นก็จะตกค้าง สะสมอยู่ในระบบหลอดเลือด สุดท้ายแล้ว อาจทำให้หลอดเลือดแข็ง (เนื่องจากไขมันไปเกาะ)  อีกทั้ง ส่งผลให้อ้วนมากขึ้น คอเลสเตอรอลสูงขึ้น กำลังกายก็จะลดลง (เนื่องจากไขมันไม่ถูกนำไปเผาให้กลายเป็นพลังงาน) นอกจากนี้ การที่ไขมันไม่ถูกนำไปเผาในไมโตคอนเดรีย ก็ยังทำให้เกิดการสะสมของไตรเอซิลกลีเซอรอลในเซลล์ (ไตรเอซิลกลีเซอรอล = ไตรกลีเซอไรด์ คือ ไขมันที่เหลวๆหยุ่นๆ คล้ายๆน้ำมันหมูนั่นแหละพี่น้อง ซึ่งจะสะสมอยู่ที่เนื้อเยื้อไขมัน ตามชั้นใต้ผิวหนังและช่องท้อง)

Smiley ฮอร์โมนบางชนิด ก็ไปมีผลต่อการเผา ไตรเอซิลกลีเซอรอล เช่น glucagon, epinephrine , norepinephrine ,adrenocorticotropic , hormone-ACTH ,growth hormone (GH) และ  vasopressin เหล่านี้จัดเป็นฮอร์โมนที่ช่วยย่อยไขมัน เช่นเมื่อระดับกลูโคสในเลือดต่ำ ฮอร์โมนเอพิเนฟริน และ กลูคากอน ก็จะกระตุ้นให้เกิดการสลายไขมันออกมา ส่วนฮอร์โมนอินซูลิน เป็นฮอร์โมนที่ทำหน้าที่เก็บน้ำตาลกลับ ไปสะสมที่ตับและกล้ามเนื้อในรูปของไกลโคเจน และ ยับยั้งการสลายตัวของไขมัน พร้อมกันนั้น มันจะกระตุ้นไตรเอซิลกลีเซอรอลขึ้นมาแทน (จะเห็นว่า เจ้าอินซูลินเนี๊ยมีทั้งร้ายกาจ และดีเลิศ มันจะเป็นผู้ร้ายก็ต่อเมื่อร่างกาย มีโรค X-syndrome หรือ ว่าที่เบาหวานนั่นเองครับ หรือ ภาวะดื้ออินซูลิน หรือ โรคเบาหวาน เนื่องจากภาวะเหล่านี้เป็นภาวะที่ร่างกายหลั่งอินซูลินออกมามากผิดปกติ)

ประโยชน์ที่จะได้รับจากคาร์นิทีน

1. ใช้รักษาอาการอ่อนเพลีย ซึมเศร้า ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดหลัง ปวดขา อย่างได้ผล

2. เมื่อใช้ แอล-คาร์นิทีน เป็นประจำ  ทำให้การใช้ออกซิเจนของนักกีฬามีประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้ออกกำลังกายได้นานขึ้น(ส่งผลให้ผอมเร็ว) โดยไม่เหนื่อยล้า หรือ เพิ่มความอดทนในการออกกำลังกาย 

3. เมื่อแรกเริ่มใช้ หากจะให้เห็นผลต้องใช้ในปริมาณที่สูง แล้วค่อยลดลงหลังจากเห็นผลแล้ว

4. ใช้เพื่อลดความอ้วนได้ แต่ต้องออกกำลังกายควบคู่ด้วย หากกินคาร์นิทีนอย่างเดียวแล้วไม่ออกกำลังกาย ยังไงๆก็อ้วนเหมือนเดิม เนื่องจากมีการวิจัยในวัยรุ่นที่อ้วน โดยให้กินคาร์นิทีนวันละ 2 กรัม เป็นเวลา 3 เดือน พบว่า วัยรุ่นกลุ่มนั้นน้ำหนักตัวลดลง 11 ปอนด์(รวมทั้งไขมันในตัวด้วย) ส่วนกลุ่มที่ให้ยาหลอก พบว่า น้ำหนักลดลงไม่ถึง 2 ปอนด์!!!

5. อาจช่วยลดภาวะหมันในผู้ชาย เนื่องจากมีการวิจัยพบว่ คาร์นิทีน 2-4 กรัมต่อวัน สามารถช่วยให้เชื้ออสุจิเคลื่อนไหวว่องไวขึ้น และมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีอารมณ์ทางเพศ และพลังกายสูงขึ้น โดยระยะเวลาที่เกิดผลคือ 3 เดือน

6. อาจช่วนลดภาวะความจำเสื่อมได้ เนื่องจากมีการวิจัยหลายการวิจัย เช่น การวิจัยแรก เค้าให้คนไข้อัลไซเมอร์ 7 คน (น้อยไปหน่อย ไม่น่าเชื่อถือเลย) ได้รับคาร์นิทีน 3 กรัมต่อวัน เป็นเวลา 1 ปี เทียบกับ 5 คนซึ่งได้รับยาหลอกพร้อมกับกลุ่มควบคุมอีก 21 คน พบว่า กลุ่มที่ได้รับคาร์นิทีน มีอาการเลวลง น้อยกว่ากลุ่มควบคุมมาก (การวิจัยนี้ไม่น่าเชื่อถือนะ แต่เอามาลงให้ดูเฉยๆ) การวิจัยที่ 2 เค้าทำวิจัยที่อิตาลี ใช้คน 481 คนเป็นกลุ่มทดลอง ดดยให้คาร์นิทีนวันละ 1.5 กรัม เป็นเวลา 3 เดือน พบว่าอาการดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและไม่มีผลข้างเคียงแต่ประการใด (การทดลองนี้อ่านแล้วน่าเชื่อถือมาก) 

7. ลดภาวะหดหู่ ซึมเศร้า อัลไซเมอร์ ในผู้สูงอายุ

8. มีรายงานวิจัยที่มหาวิทยาลัย โอเรกอนสเตท แนะนำว่า การกิน L-acetyl carnintine ร่วมกับกรดแอลฟาไลโปอิค (ALA) อาจช่วยต้านความชราได้ โดยใช้ L-acetyl carnintine 2-4 กรัมต่อวัน กับ ALA 100 – 300 มิลลิกรัมต่อวัน โดยเฉพาะอาการอ่อนเพลียในผู้ชรา แนะนำให้เพิ่ม L-acetyl carnintine อีก 500 มิลลิกรัม ร่วมกับ ALA 250 มิลลิกรัม และ โคคิวเทน 100 มิลลิกรัมต่อวัน

9. ช่วยเด็กกลุ่มสมาธิสั้น โดยมีการวิจัยบ่งชี้ว่า L-acetyl carnintine ใช้ได้ผลอย่างมีประสิทธิภาพ

โทษที่ได้รับจากคาร์นิทีน

1. แอลคาร์นิทีนไม่มีอันตรายต่อร่างกาย เสียอย่างเดียว คือเสียเงินเยอะ Smiley

2. ผู้ป่วยโรคไตควรระมัดระวังในการใช้ อย่าโลภกินเยอะ

3. ดีคาร์นิทีนมีข้อเสียดังกล่าวไปแล้ว

4. ไม่ควรกินแอล-คาร์นิทีนเกิน 6 เดือน เนื่องจากการกินติดต่อเป็นระยะเวลานาน อาจจะทำให้ร่างกายขาดกรดอะมิโนตัวอื่นๆ หากมีความจำเป็นที่ต้องกินติดต่อกัน ก็ควรกิน 6 เดือน แล้วพักซักช่วงหนึ่ง ในช่วงที่พักนั้น ควรกินกรดอะมิโนให้ครบ 20 ตัว แล้วค่อยกลับมากิน แอล-คาร์นิทีนอีกครั้งครับ


ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับคาร์นิทีน

1. ปริมาณที่ได้ผลสูงสุดน่าจะอยู่ที่วันละ 1-4 กรัม โดยจะให้ผลดีที่สุดเมื่อกินก่อนลงแข่งขันหรือฝึกซ้อมสัก 2-3 สัปดาห์

2. ถ้าเกิดภาวะ ขาดคาร์นิทีน ให้พี่น้องกินคาร์นิทีน 2-5 กรัม ภายใน 12 ชั่วโมง แล้วก็ให้กินต่อเนื่อง 1-2 กรัมต่อวัน 

สัญญาณที่บ่งบอกว่าขาดคาร์นิทีน

Smiley 8 เหนื่อยอ่อน ไม่มีแรง

Smiley 8 น้ำหนักตัวเพิ่ม

Smiley 8 คอเลสเตอรอล และ ไตรกลีเซอไรด์สูง

Smiley 8 หัวใจทำงานอ่อน

Smiley 8 จิตใจอ่อนล้า

3. จากผลการวิจัยพบว่าคนอ้วนไม่มีคาร์นิทีนในเนื้อเยื้อเลย

4. Acetyl-L carnitine เกิดจากกรดอะมิโน 2 ตัวก็คือ กรดอะมิโนไลซีน และกรดอะมิโนเมไธโอนีน โดย ALC จะมีคุณสมบัติเฉพาะต่อสมองและเซลล์ประสาทโดยตรง เป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่เรานำไปช่วยเสริมเพื่อช่วยปกป้องสมองจากความเสื่อมของสมองที่เกี่ยวข้องกับความชรา เช่วยเรื่องความจำ สมาธิ ช่วยเพิ่มการผลิตพลังงานในสมอง ปกป้องเซลล์ประสาทจากสารพิษ หรือ จากอนุมูลอิสระ และช่วยรักษาสภาพตัวรับสารสื่อประสาท

5. Acetyl-L carnitine (ALC) และ L-carnitine แม้จะคล้ายกัน แต่มีข้อแตกต่างที่สำคัญมาก ก็คือ L- carnitine สามารถใช้ได้ด้วยกล้ามเนื้อ แต่ไม่สามารถผ่าน blood brain barrier (BBB) เพื่อเข้าสู่สมองหรือหูได้ดี ส่วน Acetyl-L carnitine นั้นผ่านเนื้อเยื้อได้ดี (มี bioavailable สูงกว่า) ที่เป็นเช่นนี้ก็เนื่องมาจาก ALC เป็นอนุพันธ์ของ L-carnitine ที่มีส่วนของ acetyl group (ALC เป็นหน่วยย่อยของ L-carintine) ซึ่งทำให้ ALC สามารถผ่านเข้าสู่เซลล์ประสาทได้โดยสะดวกและนำส่งไขมันเข้าสู่ไมโตคอนเดรียของเซลล์ประสาท (ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานให้กับเซลล์ประสาท) เมื่อเซล์ประสาทมีพลังงานที่เพียงพอก็จะซ่อมแซมตัวเองได้ และ ทำงานได้ดีขึ้น ดังนั้นจึงมีการนำ ALC มาใช้ทางการแพทย์ในการช่วยบำรุงเซลล์ประสาท โดยนำมารักษาโรคสมองเสื่อม (Dementia) เช่น Alzheimer หรือ นำมารักษาผู้ป่วยอัมพฤก อัมพาต จากเส้นเลือดในสมองตีบหรือแตก นอกจากนี้ ยังนำมารักษาผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีอาการเสื่อมของเส้นประสาทปลายมือ ปลายเท้า หรือแม้กระทั่งได้นำ ALC มารักษาคนปกติ ที่มีอาการขี้หลงขี้ลืมด้วย

6. มีรายงานการใช้ L-acetyl carnitine ในวารสารการแพทย์มากมาย

7. L-acetyl carnintine แพงกว่า carnitine มาก

8. ผู้ป่วยมะเร็ง หรือ โรคไต จะมีการสูญเสียคาร์นิทีนไปมาก อันเนื่องมาจากยาขับปัสสาวะ จึงควรได้รับเสริม 

ข้อแนะนำในการกินคาร์นิทีน

1. ควรกินวันละ 1000 มิลลิกรัมเป็นอย่างน้อย แต่สิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้แต่เกิดขึ้นน้อยมากๆๆ ย้ำว่าน้อยมากๆๆ ก็คือ อาจจะทำให้มีกลิ่นตัว เหมือนกลิ่นคาวปลา อันเนื่องมาจากการทำปฎิกิริยาของคาร์นิทีนกับแบคทีเรียในลำไส้ กลิ่นจะหายไปหากลดขนาดของคาร์นิทีนลงครับ ไม่ต้องเป็นกังวลเลย 

2. หากต้องการลดความอ้วน หรือลดน้ำหนัก หรืออยากให้หัวใจแข็งแรง หรือ อยากลดคอเลสเตอรอล ควรกินอย่างน้อย 2000 มิลลิกรัมต่อวัน

3. ควรกินทุกวัน เพื่อรักษากล้ามเนื้อ หัวใจ และตับ ของพี่น้องเอง โดยแบ่งกินทุกครึ่งชั่วโมงก่อนอาหารครับ



Smiley view label

Smiley ดูสินค้าที่ร้าน
NOW FOODS : L-Carnitine 1000 mg Liquid
POTENCY      : 1000 mg/1 Tablespoon = 15 ml.
QUANTITY    : 4 / 16 fl. Oz. (7/32 Tablespoons)
PRICE             : 600 บาท/1310 บาท
Note แอล-คาร์นิทีน ขนาด 4 fl. Oz. ไม่มีโพแทสเซียม นะครับ และมี 2 รสให้เลือกคือ Citrus และ Tropical Punch

ส่วนที่ดี

1. เป็นแอล-คาร์นิทีนชนิดน้ำ ซึ่งเชื่อว่าดูดซึมได้ดีกว่าชนิดเม็ด
2. ขนาดแอล-คาร์นิทีนคือ 1000 มก. ผมถือว่าเป็นขนาดขั้นต่ำที่ควรกินในแต่ละวัน
3. ให้วิตามินเกลือแร่มา 3 ชนิด คือ
Smiley วิตามินบี 5  ช่วยเปลี่ยนไขมันและน้ำตาลให้กลายเป็นพลังงาน อีกทั้งยังช่วยลดระดั คอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังจำเป็นสำหรับการทำงานของต่อมหมวกไตในการผลิตฮอร์โมนต่างๆที่จะทำให้ผอมได้ เช่น DHEA เป็นต้น
Smiley วิตามินบี 6  ซึ่งช่วยให้ร่างกายดูดซึมโปรตีนและไขมันได้ดีขึ้น ลดการเป็นตะคริว ช่วยเสริมสร้างแอนติบอดีและเซลล์เม็ดเลือดแดง(เนื่องจากเวลาออกกำลังกายเราต้องการเม็ดเลือดแดงมาขนออกซิเจนซึ่งถือว่าเป็นเชื้อเพลิงในการเผาผลาญสารอาหาร ไปป้อนเซลล์ให้มากและเร็ว หากเม็ดเลือดแดงน้อย ก็จะทำให้การขนส่งออกซิเจนไปที่เซลล์น้อย ส่งผลให้การเผาผลาญไม่มีประสิทธิภาพ สุดท้ายก็คือ ผอมช้าลงนั่นเอง)
Smiley โพแทสเซียม  ในส่วนของโพแทสเซียมที่ให้มา ผมไม่ค่อยเห็นความสำคัญเท่าไหร่ แต่เดาเอาว่าเค้าคงใส่มาเพื่อ ลดความอ่อนล้าหรือตอบสนองช้าของกล้ามเนื้อ ของพี่น้องที่ลดความอ้วนโดยการกินคาร์โบไฮเดรตน้อยๆ !! เนื่องจากการลดคาร์โบไฮเดรตลงนั้นหรือที่เรียกกันว่า “โลว์คาร์บไดเอต” พี่น้องไม่ใช่กำลังลดน้ำหนักตัวลงเท่านั้นแต่พี่น้องกำลังลดระดับโพแทสเซียมในเลือดลงด้วย ผลที่ตามมาก็คือ กล้ามเนื้ออ่อนล้าหรือตอบสนองช้านั่นเอง หรือ เค้าอาจจะใส่มาเพราะเค้ามองไปในเรื่องของ สมดุล “โซเดียม-โพแทสเซียม” เนื่องจากหากสมดุลนี้เสียไปแล้ว การทำงานของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ สมดุลของน้ำ การเต้นของหัวใจ เสียไปนั่นเอง โดยสมดุลนี้ต้องการมากๆเลยโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตอนที่พี่น้องออกกำลังกายครับ
4. แต่งรส Tropical Punch หรือ Citrus

ส่วนที่แย่
1. ไม่มีข้อเสียอะไรคับ

สรุป
ถ้าพูดถึงแอล-คาร์นิทีนแล้ว ผมไม่ค่อยเห็นข้อแตกต่างของแต่ละแบรนด์เท่าไหร่ จะมีข้อแตกต่างกันชัดเจนก็ตรงส่วนประกอบเสริมนั่นเอง ดังนั้น การเลือกซื้อแอล-คาร์นิทีน ก็คงต้องอยู่ที่พี่น้องแล้วล่ะครับว่า
1. มีงบเท่าไหร่  ถ้ามีงบมากก็ซื้ออันที่มันใส่อะไรทำไมมาเวอร์ๆได้ แต่ถ้ามีงบน้อยเราก็ควรซื้อตัวที่ถูกหน่อย เพราะถ้าคิดเฉพาะมิติของแอล-คาร์นิทีน ผมว่าไม่มีความแตกต่างกันเลย
2. ชอบแบบใหน  แบบเม็ด แบบแคปซูล หรือแบบน้ำ (ถ้าถามผม ผมชอบแบบน้ำ)
3. ชอบยี่ห้อใหน เนื่องจากประสิทธิภาพ ประสิทธิผลในแต่ละแบรนด์มันเกือบจะเท่าๆกันเลยครับ ดังนั้นในเรื่องของเหตุผลนั้นผ่านแน่นอน ก็เหลือแต่เพียงทางด้านจิตใจ หรือ อารมณ์ครับ ในที่นี้ พี่น้องต้องใช้อารมณ์ในการตัดสินแล้วคับ นั่นก็คือ“ชอบยี่ห้อใหนก็ซื้อซะ” อย่างผมก็มียี่ห้อในดวงใจกับเค้าเหมือนกันนะ ซึ่งเวลาผมไปรีวิวของเค้าเนี๊ย (ผมก็แอบมี bias เล็กๆเหมือนกันนะ แต่ก็ยึดหลักความถูกต้อง เป็นกลางเสมอ) ถ้าของชิ้นนั้นดีผมก็ดีใจ (มากๆ) แต่ถ้าของชิ้นนั้นไม่ดีผมก็มีความรู้สึกแย่ๆ ประมาณว่า แบรนด์นี้เราอุส่าห์ชอบไรเงี๊ย แต่ทำของออกมาห่วย ซึ่งผมก็จะไม่เอามาเสมอขายอย่างแน่นอนครับ หรือ ถ้าเอามาขายผมก็คอมเมนต์ตรงๆ โต้งๆ ไม่ลำเอียงแน่นอน นะฮ๊าฟฟ...

Smiley view label

Smiley ดูสินค้าที่ร้าน

NOW FOODS : L-Carnitine 1000 mg Liquid
POTENCY     : 1000 mg/1 Tablespoon = 15 ml.
QUANTITY   : 32 fl. Oz. (7/63 Tablespoons)
PRICE            : 2300 บาท

ส่วนที่ดี
1. เป็นแอล-คาร์นิทีนชนิดน้ำ ซึ่งเชื่อว่าดูดซึมได้ดีกว่าชนิดเม็ด 
2. ขนาดแอล-คาร์นิทีนคือ 1000 มก. ผมถือว่าเป็นขนาดขั้นต่ำที่ควรกินในแต่ละวัน
3. ให้วิตามินเกลือแร่มา 3 ชนิด คือ
Smiley วิตามินบี 5  ช่วยเปลี่ยนไขมันและน้ำตาลให้กลายเป็นพลังงาน อีกทั้งยังช่วยลดระดั คอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังจำเป็นสำหรับการทำงานของต่อมหมวกไตในการผลิตฮอร์โมนต่างๆที่จะทำให้ผอมได้ เช่น DHEA เป็นต้น
Smiley วิตามินบี 6  ซึ่งช่วยให้ร่างกายดูดซึมโปรตีนและไขมันได้ดีขึ้น ลดการเป็นตะคริว ช่วยเสริมสร้างแอนติบอดีและเซลล์เม็ดเลือดแดง(เนื่องจากเวลาออกกำลังกายเราต้องการเม็ดเลือดแดงมาขนออกซิเจนซึ่งถือว่าเป็นเชื้อเพลิงในการเผาผลาญสารอาหาร ไปป้อนเซลล์ให้มากและเร็ว หากเม็ดเลือดแดงน้อย ก็จะทำให้การขนส่งออกซิเจนไปที่เซลล์น้อย ส่งผลให้การเผาผลาญไม่มีประสิทธิภาพ สุดท้ายก็คือ ผอมช้าลงนั่นเอง)
Smiley โพแทสเซียม  ในส่วนของโพแทสเซียมที่ให้มา ผมไม่ค่อยเห็นความสำคัญเท่าไหร่ แต่เดาเอาว่าเค้าคงใส่มาเพื่อ ลดความอ่อนล้าหรือตอบสนองช้าของกล้ามเนื้อ ของพี่น้องที่ลดความอ้วนโดยการกินคาร์โบไฮเดรตน้อยๆ !! เนื่องจากการลดคาร์โบไฮเดรตลงนั้นหรือที่เรียกกันว่า “โลว์คาร์บไดเอต” พี่น้องไม่ใช่กำลังลดน้ำหนักตัวลงเท่านั้นแต่พี่น้องกำลังลดระดับโพแทสเซียมในเลือดลงด้วย ผลที่ตามมาก็คือ กล้ามเนื้ออ่อนล้าหรือตอบสนองช้านั่นเอง หรือ เค้าอาจจะใส่มาเพราะเค้ามองไปในเรื่องของ สมดุล “โซเดียม-โพแทสเซียม” เนื่องจากหากสมดุลนี้เสียไปแล้ว การทำงานของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ สมดุลของน้ำ การเต้นของหัวใจ เสียไปนั่นเอง โดยสมดุลนี้ต้องการมากๆเลยโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตอนที่พี่น้องออกกำลังกายครับ
4. แต่งรส  Citrus

ส่วนที่แย่
1. ไม่มีข้อเสียอะไรคับ
สรุป
ถ้าพูดถึงแอล-คาร์นิทีนแล้ว ผมไม่ค่อยเห็นข้อแตกต่างของแต่ละแบรนด์เท่าไหร่ จะมีข้อแตกต่างกันชัดเจนก็ตรงส่วนประกอบเสริมนั่นเอง ดังนั้น การเลือกซื้อแอล-คาร์นิทีน ก็คงต้องอยู่ที่พี่น้องแล้วล่ะครับว่า
1. มีงบเท่าไหร่  ถ้ามีงบมากก็ซื้ออันที่มันใส่อะไรทำไมมาเวอร์ๆได้ แต่ถ้ามีงบน้อยเราก็ควรซื้อตัวที่ถูกหน่อย เพราะถ้าคิดเฉพาะมิติของแอล-คาร์นิทีน ผมว่าไม่มีความแตกต่างกันเลย
2. ชอบแบบใหน  แบบเม็ด แบบแคปซูล หรือแบบน้ำ (ถ้าถามผม ผมชอบแบบน้ำ)
3. ชอบยี่ห้อใหน เนื่องจากประสิทธิภาพ ประสิทธิผลในแต่ละแบรนด์มันเกือบจะเท่าๆกันเลยครับ ดังนั้นในเรื่องของเหตุผลนั้นผ่านแน่นอน ก็เหลือแต่เพียงทางด้านจิตใจ หรือ อารมณ์ครับ ในที่นี้ พี่น้องต้องใช้อารมณ์ในการตัดสินแล้วคับ นั่นก็คือ“ชอบยี่ห้อใหนก็ซื้อซะ” อย่างผมก็มียี่ห้อในดวงใจกับเค้าเหมือนกันนะ ซึ่งเวลาผมไปรีวิวของเค้าเนี๊ย (ผมก็แอบมี bias เล็กๆเหมือนกันนะ แต่ก็ยึดหลักความถูกต้อง เป็นกลางเสมอ) ถ้าของชิ้นนั้นดีผมก็ดีใจ (มากๆ) แต่ถ้าของชิ้นนั้นไม่ดีผมก็มีความรู้สึกแย่ๆ ประมาณว่า แบรนด์นี้เราอุส่าห์ชอบไรเงี๊ย แต่ทำของออกมาห่วย ซึ่งผมก็จะไม่เอามาเสมอขายอย่างแน่นอนครับ หรือ ถ้าเอามาขายผมก็คอมเมนต์ตรงๆ โต้งๆ ไม่ลำเอียงแน่นอน นะฮ๊าฟฟ...

Smiley view label

Smiley ดูสินค้าที่ร้าน

NOW FOODS : L-Carnitine 2000 mg Liquid-Shots
POTENCY      : 2000 mg/1 Shot.= 15 ml.
QUANTITY    : 12 Shots. 
PRICE             : 1050 บาท

ส่วนที่ดี
1. เป็นแอล-คาร์นิทีนชนิดผงผสมน้ำ ซึ่งเชื่อว่าดูดซึมได้ดีกว่าชนิดเม็ด หรือ ชนิดแคปซูล แล้วที่สะดวกกว่านั้นคือเค้าแบ่งเป็น Shot คือแบ่งเป็นซองๆน่ะครับ 1 ซองต่อการกิน 1 ครั้ง ผมว่าสะดวกดีคับ เพราะเราจะพกไปใหนก็ได้ จะกินตอนใหนก็ได้ 
2. ให้แอล-คาร์นิทีนมา 2000 มก. เยอะถูกใจผมมาก เพราะถ้าตามแนวคิดผม ถ้าจะกินเพื่อลดความอ้วน ควรกินวันละ 2000-3000 มก. ครับ
3. ให้วิตามินมา 2 ชนิด คือ
Smiley วิตามินบี 5  ช่วยเปลี่ยนไขมันและน้ำตาลให้กลายเป็นพลังงาน อีกทั้งยังช่วยลดระดั คอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังจำเป็นสำหรับการทำงานของต่อมหมวกไตในการผลิตฮอร์โมนต่างๆที่จะทำให้ผอมได้ เช่น DHEA เป็นต้น
Smiley วิตามินบี 6  ซึ่งช่วยให้ร่างกายดูดซึมโปรตีนและไขมันได้ดีขึ้น ลดการเป็นตะคริว ช่วยเสริมสร้างแอนติบอดีและเซลล์เม็ดเลือดแดง(เนื่องจากเวลาออกกำลังกายเราต้องการเม็ดเลือดแดงมาขนออกซิเจนซึ่งถือว่าเป็นเชื้อเพลิงในการเผาผลาญสารอาหาร ไปป้อนเซลล์ให้มากและเร็ว หากเม็ดเลือดแดงน้อย ก็จะทำให้การขนส่งออกซิเจนไปที่เซลล์น้อย ส่งผลให้การเผาผลาญไม่มีประสิทธิภาพ สุดท้ายก็คือ ผอมช้าลงนั่นเอง)
4. ไม่แต่งสีแต่งรส แต่มีความหวานจาก Xylitol ซึ่งผมชอบนะ แต่บางคนชอบแบบแต่งรสมาให้ด้วย ก็นานาจิตตังคับ

ส่วนที่แย่
1. ไม่มีข้อเสียคับดีทุกอย่าง

สรุป
ถ้าพูดถึงแอล-คาร์นิทีนแล้ว ผมไม่ค่อยเห็นข้อแตกต่างของแต่ละแบรนด์เท่าไหร่ จะมีข้อแตกต่างกันชัดเจนก็ตรงส่วนประกอบเสริมนั่นเอง ดังนั้น การเลือกซื้อแอล-คาร์นิทีน ก็คงต้องอยู่ที่พี่น้องแล้วล่ะครับว่า
1. มีงบเท่าไหร่  ถ้ามีงบมากก็ซื้ออันที่มันใส่อะไรทำไมมาเวอร์ๆได้ แต่ถ้ามีงบน้อยเราก็ควรซื้อตัวที่ถูกหน่อย เพราะถ้าคิดเฉพาะมิติของแอล-คาร์นิทีน ผมว่าไม่มีความแตกต่างกันเลย
2. ชอบแบบใหน  แบบเม็ด แบบแคปซูล หรือแบบน้ำ (ถ้าถามผม ผมชอบแบบน้ำ)
3. ชอบยี่ห้อใหน เนื่องจากประสิทธิภาพ ประสิทธิผลในแต่ละแบรนด์มันเกือบจะเท่าๆกันเลยครับ ดังนั้นในเรื่องของเหตุผลนั้นผ่านแน่นอน ก็เหลือแต่เพียงทางด้านจิตใจ หรือ อารมณ์ครับ ในที่นี้ พี่น้องต้องใช้อารมณ์ในการตัดสินแล้วคับ นั่นก็คือ“ชอบยี่ห้อใหนก็ซื้อซะ” อย่างผมก็มียี่ห้อในดวงใจกับเค้าเหมือนกันนะ ซึ่งเวลาผมไปรีวิวของเค้าเนี๊ย (ผมก็แอบมี bias เล็กๆเหมือนกันนะ แต่ก็ยึดหลักความถูกต้อง เป็นกลางเสมอ) ถ้าของชิ้นนั้นดีผมก็ดีใจ (มากๆ) แต่ถ้าของชิ้นนั้นไม่ดีผมก็มีความรู้สึกแย่ๆ ประมาณว่า แบรนด์นี้เราอุส่าห์ชอบไรเงี๊ย แต่ทำของออกมาห่วย ซึ่งผมก็จะไม่เอามาเสมอขายอย่างแน่นอนครับ หรือ ถ้าเอามาขายผมก็คอมเมนต์ตรงๆ โต้งๆ ไม่ลำเอียงแน่นอน นะฮ๊าฟฟ...
***ตัวนี้ผมชอบมากๆ เพราะสะดวกดี***

Smiley view label

Smiley ดูสินค้าที่ร้าน

NOW FOODS : L-Carnitine 3000 mg Liquid 
POTENCY      : 3000 mg/1 Tablespoon = 15 ml. 
QUANTITY    : 4/16 fl. Oz. ( 7/31 Tablespoons) 
PRICE             : 550 บาท/ 1350 บาท 
Note ขนาด 4 fl. Oz. ไม่มี แคลเซียมและโพแทสเซียมมาให้ 

ส่วนที่ดี
1. เป็นแอล-คาร์นิทีนชนิดน้ำ ซึ่งเชื่อว่าดูดซึมได้ดีกว่าชนิดเม็ด หรือ แคปซูล หรือ แคปซูล 
2. ขนาดแอล-คาร์นิทีนคือ 3000 มก. ซึ่งเป็นขนาดที่ผมแนะนำสำหรับคนที่อ้วนถึงอ้วนมากๆแล้วจะลดความอ้วนโดยการออกกำลังกาย 
3. ให้วิตามินเกลือแร่มา 4 ชนิด คือ
Smiley วิตามินบี 5  ช่วยเปลี่ยนไขมันและน้ำตาลให้กลายเป็นพลังงาน อีกทั้งยังช่วยลดระดั คอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังจำเป็นสำหรับการทำงานของต่อมหมวกไตในการผลิตฮอร์โมนต่างๆที่จะทำให้ผอมได้ เช่น DHEA เป็นต้น
Smiley วิตามินบี 6  ซึ่งช่วยให้ร่างกายดูดซึมโปรตีนและไขมันได้ดีขึ้น ลดการเป็นตะคริว ช่วยเสริมสร้างแอนติบอดีและเซลล์เม็ดเลือดแดง(เนื่องจากเวลาออกกำลังกายเราต้องการเม็ดเลือดแดงมาขนออกซิเจนซึ่งถือว่าเป็นเชื้อเพลิงในการเผาผลาญสารอาหาร ไปป้อนเซลล์ให้มากและเร็ว หากเม็ดเลือดแดงน้อย ก็จะทำให้การขนส่งออกซิเจนไปที่เซลล์น้อย ส่งผลให้การเผาผลาญไม่มีประสิทธิภาพ สุดท้ายก็คือ ผอมช้าลงนั่นเอง)
Smiley โพแทสเซียม  ในส่วนของโพแทสเซียมที่ให้มา ผมไม่ค่อยเห็นความสำคัญเท่าไหร่ แต่เดาเอาว่าเค้าคงใส่มาเพื่อ ลดความอ่อนล้าหรือตอบสนองช้าของกล้ามเนื้อ ของพี่น้องที่ลดความอ้วนโดยการกินคาร์โบไฮเดรตน้อยๆ !! เนื่องจากการลดคาร์โบไฮเดรตลงนั้นหรือที่เรียกกันว่า “โลว์คาร์บไดเอต” พี่น้องไม่ใช่กำลังลดน้ำหนักตัวลงเท่านั้นแต่พี่น้องกำลังลดระดับโพแทสเซียมในเลือดลงด้วย ผลที่ตามมาก็คือ กล้ามเนื้ออ่อนล้าหรือตอบสนองช้านั่นเอง หรือ เค้าอาจจะใส่มาเพราะเค้ามองไปในเรื่องของ สมดุล “โซเดียม-โพแทสเซียม” เนื่องจากหากสมดุลนี้เสียไปแล้ว การทำงานของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ สมดุลของน้ำ การเต้นของหัวใจ เสียไปนั่นเอง โดยสมดุลนี้ต้องการมากๆเลยโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตอนที่พี่น้องออกกำลังกายครับ
Smiley แคลเซียม ซึ่งผมมองว่าเค้าใส่มาเพื่อยังผลกับกล้ามเนื้อ (อ่าน...แคลเซียม) แล้วแคลเซียมยังสามารถลดความอ้วนได้ด้วย แต่ต้องกินโดสสูง(แต่เค้าใส่มาให้ 2.5 mg/1 tablespoon ตรงนี้คงช่วยลดความอ้วนไม่ได้แน่นอน) 
 4. รส Citrus ครับ 

ส่วนที่แย่
1. ไม่มีข้อเสียอะไรคับ

สรุป
ถ้าพูดถึงแอล-คาร์นิทีนแล้ว ผมไม่ค่อยเห็นข้อแตกต่างของแต่ละแบรนด์เท่าไหร่ จะมีข้อแตกต่างกันชัดเจนก็ตรงส่วนประกอบเสริมนั่นเอง ดังนั้น การเลือกซื้อแอล-คาร์นิทีน ก็คงต้องอยู่ที่พี่น้องแล้วล่ะครับว่า
1. มีงบเท่าไหร่  ถ้ามีงบมากก็ซื้ออันที่มันใส่อะไรทำไมมาเวอร์ๆได้ แต่ถ้ามีงบน้อยเราก็ควรซื้อตัวที่ถูกหน่อย เพราะถ้าคิดเฉพาะมิติของแอล-คาร์นิทีน ผมว่าไม่มีความแตกต่างกันเลย
2. ชอบแบบใหน  แบบเม็ด แบบแคปซูล หรือแบบน้ำ (ถ้าถามผม ผมชอบแบบน้ำ)
3. ชอบยี่ห้อใหน เนื่องจากประสิทธิภาพ ประสิทธิผลในแต่ละแบรนด์มันเกือบจะเท่าๆกันเลยครับ ดังนั้นในเรื่องของเหตุผลนั้นผ่านแน่นอน ก็เหลือแต่เพียงทางด้านจิตใจ หรือ อารมณ์ครับ ในที่นี้ พี่น้องต้องใช้อารมณ์ในการตัดสินแล้วคับ นั่นก็คือ“ชอบยี่ห้อใหนก็ซื้อซะ” อย่างผมก็มียี่ห้อในดวงใจกับเค้าเหมือนกันนะ ซึ่งเวลาผมไปรีวิวของเค้าเนี๊ย (ผมก็แอบมี bias เล็กๆเหมือนกันนะ แต่ก็ยึดหลักความถูกต้อง เป็นกลางเสมอ) ถ้าของชิ้นนั้นดีผมก็ดีใจ (มากๆ) แต่ถ้าของชิ้นนั้นไม่ดีผมก็มีความรู้สึกแย่ๆ ประมาณว่า แบรนด์นี้เราอุส่าห์ชอบไรเงี๊ย แต่ทำของออกมาห่วย ซึ่งผมก็จะไม่เอามาเสมอขายอย่างแน่นอนครับ หรือ ถ้าเอามาขายผมก็คอมเมนต์ตรงๆ โต้งๆ ไม่ลำเอียงแน่นอน นะฮ๊าฟฟ...






Create Date : 26 มีนาคม 2555
Last Update : 31 พฤษภาคม 2555 10:22:27 น.
Counter : 22087 Pageviews.

23 comments
  
ถ้ากินวันล่ะ 1000mg แบ่งการกินเป็นแบบ
ตอนเช้าหลังอาหาร 1 เม็ด (500mg)
ตอนเย็นก่อนเล่นกีฬา 40 นาที อีก 1 เม็ด(500mg)
จะดีไหมครับ หรือควรกิน ครั้งล่ะ 2 เม็ด(1000mg)
คือผมสูง 173 หนัก 98 kg ครับ ออกกำลังกายโดยการว่ายน้ำ
ช่วยแนะนำด้วยครับ ขอบคุณครับ
โดย: Golf IP: 58.8.235.21 วันที่: 1 เมษายน 2555 เวลา:0:19:32 น.
  
ต้องดูว่ากินเพื่อลดความอ้วนมั๊ยนะคับ ถ้ากินลดความอ้วนแนะนำที่ 2000-3000 mg ครั้งเดียวก่อนออกกำลังกายที่คิดว่าจะต้องเหนื่อยที่สุด แต่หากกินเพื่อสุขาภาพที่ดี ลดภาวะเสี่ยงต่อไขมันในเลือด ทำให้ระบบโดยรวมดี ทำให้ระบบเผาผลาญปกติ ให้กินวันละ 1000 mg ก็พอ แบ่งกินเช้า กลางวัน เย็น ครับ แต่หากกินเพื่อกระชับสัดส่วน(คือต้องผอมหรือมีไขมันน้อย) ก็ควรกินก่อนออกกำลังกายที่คิดว่าเหนื่อยที่สุด ครั้งเดียวพอ ที่ 1000 mg ครับ
โดย: เฟยเฟย (ultramaths ) วันที่: 1 เมษายน 2555 เวลา:15:17:58 น.
  
ลืมดูน้ำหนักกะส่วนสูง คุณมี BMI 32.74 ซึ่งเกินมาตรฐานนะคับ ควรกินที่ 2000-3000mg ก่อนออกกำลังกายที่คิดว่าเหนื่อยที่สุด แค่ครั้งเดียวก็พอครับ
โดย: เฟยเฟย (ultramaths ) วันที่: 1 เมษายน 2555 เวลา:15:20:47 น.
  
ขอบคุณมากครับ ข้อมูลมีประโยชน์มากครับ
ต้องการกินเพื่อลดความอ้วนครับ
การกินตอนเช้า นี่ไม่มีผลเลยใช่ไหมครับ แต่ในสลากยา ที่กิน(ของยันฮี) เค้าระบุให้กินหลังอาหารเช้าอะครับ
โดย: กอล์ฟ IP: 58.8.235.21 วันที่: 1 เมษายน 2555 เวลา:19:26:58 น.
  
แอลคาร์นิทีนนั้น จากผลการวิจัย ระบุว่า การได้รับพร้อมกับการออกกำลังกายจนถึงจุด "สูงสุด" ถึงจะก่อประโยชน์ หากกินพร้อมกับการออกกำลังกายเล็กๆน้อยๆ จะไม่ได้ประโยชน์ตามที่กล่าวอ้าง และ หากกินขณะไม่ได้ออกกำลังกาย จะ "ไม่ได้รับประโยชน์ตามที่กล่าวอ้างเลย" เนื่องจากแอลคาร์นิทีนนั้น เป็นสารที่ผลิตได้โดยร่างกายของเราเองครับ ไม่ต้องกินเสริมก็ได้คับ ในภาวะปกติมันก็ผลิตออกมาปกติครับ แต่ตอนออกกำลังกายมันจะถูกใช้หมดอย่างรวดเร็วครับ เลยต้องกินเสริม หากไม่ออกกำลังกาย กินไปก็ไม่ได้ประโยชน์ครับ (ประโยชน์ในเรื่องลดความอ้วนนะ)
โดย: เฟยเฟย (ultramaths ) วันที่: 2 เมษายน 2555 เวลา:8:26:00 น.
  
หากกินหลังอาหาร จะเป็นการกินเพื่อรักษาสภาพ เซลล์กล้ามเนื้อ ตับ และหัวใจ คับ
โดย: เฟยเฟย (ultramaths ) วันที่: 2 เมษายน 2555 เวลา:8:30:17 น.
  
ลองเข้าไปใน ยูทูป แล้ว พิมพ์ว่า Kute DOCTOR 5 : L-carnitine 1 ดูเวลา 4.30 และ 7.00 ครับ
โดย: เฟยเฟย (ultramaths ) วันที่: 2 เมษายน 2555 เวลา:8:44:02 น.
  
ผมอยากทราบว่าถ้ากิน L Carnitine บวกกับออกกำลังกายจะทำให้ค่า SGOT และ SGPT ลดลงได้หรือเปล่าครับ

คือผมออกกำละงกายโดยการวิ่งมาเป็นเวลา 1 ปี น้ำหนักลดลงมา 12 กิโลกรัม เหลือ 80 กก ผมสูง 178 ซม แต่ค่า SGOT และ SGPT ยังอยู่ที่ 50 +/- 5 เกินไปนิดหน่อย
โดย: KORN IP: 124.121.71.193 วันที่: 12 เมษายน 2555 เวลา:20:38:12 น.
  
ตอบคุณ KORN
AST หรือ SGOT เอนไซม์ตัวนี้อาจหลั่งสูงกว่าปกติเมื่อตับทำงานผิดปกติอันเกิดจาก

เครียดเรื้อรัง พักผ่อนไม่พอจนเกิดอาการอ่อนเพลีย ดื่มสุราจัด โรคโลหิตจางเรื้อรัง ไขมันจับตับ ไขมันและ/หรือน้ำตาลในเลือดสูงอย่างเรื้อรัง มะเร็งตับ โรคดีซ่าน และการใช้ยาบางชนิดอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ เป็นต้น

ดังนั้น คุณต้องไปตรวจให้ละเอียดก่อนนะครับว่า สาเหตุที่ตับทำงานผิดปกตินั้น มันมาจากสาเหตุอะไร จึงจะแก้ได้ตรงจุด

หากแก้ตรงจุดแล้วเราพบว่า ค่า SGOT จะลดลงอย่างรวดเร็วครับ นั่นแสดงว่า การออกกำลังกายอาจจะเป็นการเกาไม่ถูกที่เกาครับ

ส่วน ALT หรือ SGPT เอนไซม์ตัวนี้อาจหลั่งสูงกว่าปกติเมื่อเกิดอาการผิดปกติขึ้นที่

ตับ หัวใจ ไต กล้ามเนื้อลาย

ซึ่งทางการแพทย์สามารถใช้ค่า SGPT ติดตามผลทางพยาธิสภาพที่เปลี่ยนแปลงของอวัยวะเหล่านั้นได้

ดังนั้นการที่ค่าทั้งสองสูงขึ้ืนอาจจะมีสาเหตุมาจากตับเป็นสำคัญครับ ก็ต้องเป็นหน้าที่ของคุณอีกนั่นแหละที่ต้องไปตรวจตับว่า มีความผิดปกติอย่างไร หลังจากนั้นค่อยแก้ปัญหากันต่อไป ผมว่าจะเป็นวิธีการที่เหมาะสมที่สุดครับ

หากได้ผลยังไงก็สอบถามมาได้คับ
โดย: เฟยเฟย (ultramaths ) วันที่: 13 เมษายน 2555 เวลา:0:12:08 น.
  
ผมตรวจมาแล้วครับที่รพ กรุงเทพ ตรวจหลายอย่างมากเลยทั้งตรวจเลือด MRI และ Ultrasound
หมอบอกว่าเป็น Fatty Liver
ผมเลยอยากรู้ว่าถ้ากินเจ้า L Carnitine แล้วมันจะทำให้ค่าเอนไซม์ทั้งสองตัวลดลงหรือเปล่า
ผมเห็นที่คุณเฟยเฟยลงไว้ว่า ไขมันในตับ มันไม่สามารถสลายไปได้ด้วยการออกกำลังกาย ซึ่งผมก็ออกกำลังกายมากแต่มันก็ยังเกินอยู่เล็กน้อย


โดย: KORN IP: 110.168.3.145 วันที่: 14 เมษายน 2555 เวลา:20:59:14 น.
  
ซื้อ แอล คาร์นิทีน ของ Vista มาค่ะ ต้องการใช้เพื่อให้น้ำหนักลดลง ใช้ร่วมกับการออกกำลังกาย ทานก่อนออกกำลังกายประมาณ 30 นาที จากเอกสารบอกว่า L-Carnitine L-Tartrate 726.35 mg(80.71%) (ให้แอล-คารนิทีน 499 มก.) สอบถามว่า คุณเฟยเฟย แนะนำให้ทาน 1000 mg /วัน อย่างนี้ เราก็ต้องทาน 2 เม็ด เข้าใจถูกต้องหรือเปล่าคะ ขอบคุณค่ะ
โดย: basil syrup IP: 58.8.227.153 วันที่: 16 เมษายน 2555 เวลา:16:49:54 น.
  
ตอบคุณ KORN
การจะสลายไขมันที่แทรกอยู่ตามอวัยวะภายใน เช่น ตับ หัวใจ ลำไส้ เป็นต้น ทำได้ยาก ถ้าออกกำลังกายเพียงอย่างเดียวครับ แต่ใช่ว่าการออกกำลังกายจะไม่ได้ช่วยอะไรเลยก็ไม่ถูกซะทีเดียว แต่ต้องใช้เวลาที่ยาวนาน เนื่องจาก การออกกำลังกายจะช่วยเผาผลาญไขมันก็จริงอยู่ แต่การสูญเสียไขมันนั้น มีลำดับชั้น ร่างกายจะยอมเสียภายนอกก่อน ซึ่งการสูญเสียไขมันถึงอวัยวะภายในนั้นทำได้ยากครับ การใช้แอลคาร์นิทีน ก็เป็นอีกทางลัดหนึ่ง ซึ่งช่วยดึงไขมันจากอวัยวะภายในมาเผาในไมโตคอนเดรีย ซึ่งปกติร่างกายจะไม่ทำอย่างนั้น หรือ ทำน้อยมากๆ แต่การจะได้ผลเช่นนี้ คุณจะต้องออกกำลังกายถึงขีดสุด การออกกำลังกายนิดหน่อย หรือ ไม่ออกกำลังกายเลย แต่กินแอลคาร์นิทีน ก็ไม่ได้ผลแต่อย่างใด

การรักษา

1. รักษาด้วยยาต่างๆ ซึ่งจนถึงปัจจุบันยังไม่มียาที่รักษาได้ผลดีจริงเท่าที่มีการทดลองและพอจะได้ผลดีได้แก่
- ยาที่เพิ่มความไวต่ออินซูลิน Insulin-sensitizing agents, เช่น pioglitazone และ rosiglitazone (Avandia), และ metformin (Glucophage) ---ก่อนใช้ยาควรใช้อาหารเสริมก่อน เนื่องจากยามีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก

- Anti-TNFa agents , such as infliximab (Remicade)

- ยาเพิ่มการไหลเวียนของเลือด such as pentoxifylline (Trental)

- สารต้านอนุมูลอิสระ, เช่น vitamin E, betaine, and s-adenosylmethionine (SAMe) , Milk thistle

2. เรื่องอาหารการกิน อันนี้ไม่ขอตอบแล้วกันนะครับ ผมคิดว่า คุณ KORN คงทราบดี

3. การควบคุมน้ำหนักให้เข้าสู่เกณฑ์ปกติ โดยคำนวณได้จาก IBM ตรงจุดนี้แหละที่ต้องใช้การออกกำลังกาย + แอลคาร์นิทีน

สรุปการรักษาด้วยตัวคุณเองก็คือ ออกกำลังกายถึงขีดสุด +แอลคาร์นิทีน+คุมอาหารและนำ้หนักตัว+ ทีมอาหารเสริมต้านอนุมูลอิสระ+ Milk Thistle ครับ

โดย: เฟยเฟย (ultramaths ) วันที่: 17 เมษายน 2555 เวลา:9:22:15 น.
  
ตอบคุณ KORN
คำนวณค่า BMI ของคุณได้ 25.25 ยังถือว่าเฉียดเส้นนะ คุณต้องลดน้ำหนักลงไปที่ 65 - 72 กิโลกรัม ก็จะดีไม่น้อยครับ โดยถ้าคุณลดน้ำหนักลงไปถึงระดับนี้ โดยใช้แอลคาร์นิทีน + การออกกำลังกายจนถึงขีดสุด + โครเมียม แล้วล่ะก็ ค่าSGOT และ SGPT น่าจะลดลงแล้วล่ะครับ
โดย: เฟยเฟย (ultramaths ) วันที่: 17 เมษายน 2555 เวลา:9:30:09 น.
  
ตอบคุณ basil syrup
เข้าใจถูกแล้วครับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับความอ้วนด้วยนะครับ อ้วนมากก็กินมากอ้วนน้อยก็กินน้อย พิจารณาเอาครับ กินให้อยู่ในช่วง 1000-3000 mg กำลังดี
โดย: เฟยเฟย (ultramaths ) วันที่: 17 เมษายน 2555 เวลา:9:32:46 น.
  
ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำ
โดย: KORN IP: 110.169.139.168 วันที่: 17 เมษายน 2555 เวลา:19:18:01 น.
  
การทานแอล คาร์นิทีน มีข้อห้ามในการทานหรือไม่ ถ้าจะทานในตอนเช้าท้องว่างหลังจากตื่นขึ้นมา แล้วไปเล่นโยคะ 1000 mg และ ทานตอนเย็น อีก 1000 mg แล้วก็ออกกำลังกายด้วยการใช้เครื่องเล่นต่างๆ จะทีอันตรายหรือไม่คะ น้ำหนักประมาณ 58-59 ค่ะ สูง 153 ขอบคุณค่ะ
โดย: basil syrup IP: 58.8.138.64 วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:22:57:16 น.
  
ตอบคุณ basil syrup
ไม่มีปัญหาเลยครับ ได้ตามนั้นเลย
โดย: เฟยเฟย (ultramaths ) วันที่: 19 เมษายน 2555 เวลา:9:12:37 น.
  
แอล คาร์นิทีนชนิดน้ำ ถ้าต้องการทาน 1,000mg คือต้องทาน
1ช้อนโต๊ะ (15 ml) เข้าใจถูกต้องหรือเปล่าคะ และชนิดน้ำและชนิดเม็ด ถ้าชนิดน้ำดูดซึมได้ดีกว่า ระยะเวลาในการทานก่อนอาหารก่อนออกกำลังกาย ยังเหมือนเดิมหรือไม่ คือประมาณ 30 -40 นาที ขอบคุณค่ะ
โดย: basil syrup IP: 58.8.47.121 วันที่: 20 เมษายน 2555 เวลา:20:46:20 น.
  
ตอบคุณ basil syrup
แล้วแต่แบรนด์และขนาดนะคับ บางขนาด 1 ช้อนโต๊ะ จะได้แอลคาร์นิทีน 1000 mg บางขนาด 1 ช้อนโต๊ะ จะได้แอลคาร์นิทีน 3000 mg ครับ แต่คิดว่าคุณ basil syrup คงเข้าใจตรงกับผมและคงเข้าใจถูกแล้วล่ะ

ส่วนระยะเวลาการกินก็ตามที่ว่ามาเลยครับ ถูกละคับ
โดย: เฟยเฟย (ultramaths ) วันที่: 20 เมษายน 2555 เวลา:22:34:00 น.
  
มีประโยชน์ในการเลือกซื้อมากๆเลยคะ ขอบคุณมากคะ
โดย: narusu (narusu ) วันที่: 30 ธันวาคม 2555 เวลา:5:52:06 น.
  
สนใจ3000liquidka click linkไม่ได้ หาซื้อที่ไหนคะ
โดย: นัท IP: 223.204.248.153 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา:13:00:18 น.
  
เช็คราคา แอลคาร์นิทีน ยี่ห้อไหนราคาเท่าไรก่อนซื้อ เราใช้ vistra ก้อใช้มีของยันฮีด้วยเดี๊ยวนี้ลองดูน่ะค่ะ
>> //www.smarturl.it/l-carnitine-discount

แอลคาร์นิทีน ยี่ห้อไหนดี
โดย: ดีต่อใจ (สมาชิกหมายเลข 3548505 ) วันที่: 8 ตุลาคม 2560 เวลา:22:45:46 น.
  
เช็คราคา แอลคาร์นิทีน ยี่ห้อไหนราคาเท่าไรก่อนซื้อ เราใช้ vistra ก้อใช้มีของยันฮีด้วยเดี๊ยวนี้ลองดูน่ะค่ะ
>> //www.smarturl.it/l-carnitine-discount


แอลคาร์นิทีน ยี่ห้อไหนดี
โดย: ดีต่อใจ (สมาชิกหมายเลข 3548505 ) วันที่: 8 ตุลาคม 2560 เวลา:22:47:54 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ultramaths
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 62 คน [?]



ผม..เฟยเฟย รายงานตัวค้าบ
ultramaths ขอสงวนลิขสิทธิ์ข้อความทั้งหมดในblogนี้ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
All rights reserved.