|
ชีวิตไม่มีทางเลือก
เห็นพาดหัวบล็อกแบบนี้ไม่ต้องตกใจ พอดีเมื่อวานนี้เกิดเจอเรื่องเศร้าๆ เลยอยากจะเขียนระบายความในใจจากสิ่งที่ได้เจอมา
ก่อนเริ่มเรื่องฉันอยากจะอธิบายก่อนว่าฉันไม่เคยมีอคติกับคนที่มีอาชีพเป็นขอทาน (ฉันถือว่ามันเป็นอาชีพนะ เพราะเค้าเลี้ยงตัวเองจากการเป็นขอทานของเค้า) เพียงแต่ฉันมักจะสงสัยอยู่เสมอว่าทำไมเค้าถึงเลือกที่จะเป็นขอทาน น่าจะมีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้
เมื่อวานนี้ออกไปข้างนอกเจอขอทานคนนึง ที่จริงตั้งแต่มาอยู่เกาหลีก็เห็นขอทานบ่อยเหมือนกันนะ เท่าที่สังเกตรู้สึกว่าขอทานที่นี่มักจะเป็นคนในวัยกลางคนจนถึงแก่เป็นส่วนใหญ่ ไม่เคยเห็นขอทานเด็กเลย แต่ขอทานเมื่อวานที่เจอทำให้ฉันรู้สึกเศร้าขึ้นมาแบบทันทีทันใด เป็นยายแก่ๆคนนึง แก่จนไม่รู้ว่าจะอธิบายความแก่ของแกยังไงดี ความย่นบนใบหน้ามันฟ้องว่าแกคงผ่านชีวิตมานานมากแล้วจริงๆ ฉันเกิดคำถามขึ้นในใจเงียบๆว่ายายอยากจะเป็นขอทานแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้จริงๆเหรอ ยายเลือกที่จะเป็นหรือว่ายายไม่มีทางเลือกกันแน่
เมื่อตอนยังเป็นเด็กฉันคิดอยู่เสมอว่าทุกคนมีสิทธิ์เลือกว่าจะให้ตัวเองเป็นอะไร มีสิทธิ์กำหนดชีวิตตัวเองอย่างเต็มเปี่ยม แต่เมื่อโตขึ้น ประสบการณ์ก็บอกให้ฉันรู้ว่าชีวิตไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเราเองเสมอไป สภาพแวดล้อมมันมีส่วนกำหนดชีวิตเราอย่างมากทีเดียว เด็กที่เกิดจากแม่ที่เป็นขอทานชีวิตเค้าก็จะวนเวียนอยู่ในสังคมขอทาน การที่จะหลุดจากวงโคจรนี้ไปไม่ใช่เรื่องง่ายเลย บางคนถูกจำกัดชีวิตด้วยสภาพร่างกายเป็นเหตุ เป็นใบ้ หูหนวก ตาบอด พิการมาตั้งแต่เกิด ฯลฯ มีเหตุตั้งร้อยแปดพันอย่างทำให้คนเราไม่สามารถเลือกทางเดินที่ตัวเองอยากเดินได้ ยายที่ฉันเจอเมื่อวานก็คงจะเหมือนกัน ยายอยากเป็นขอทานหรือเปล่าฉันไม่รู้ มีความสุขหรือเปล่าฉันก็ไม่รู้อยู่ดี แต่ฉันคิดเอาเองว่าด้วยอายุขนาดนั้น สำหรับคนทั่วไปแล้วน่าจะเป็นอายุที่ได้ใช้ชีวิตในบั้นปลายอย่างสงบ ไม่ใช่มาเดินขอเค้ากินแบบนี้ ยายคงจะมีความจำเป็นที่จะต้องเลี้ยงตัวเอง หรือต้องเลี้ยงคนอื่นด้วยก็สุดที่ฉันจะรู้ได้ เมื่อคิดถึงตอนนี้ก็ทำให้ฉันรู้สึกเศร้าแบบเอาจริงเอาจังเลยแหล่ะ ฉันค่อนข้างเห็นใจคนแก่นะ คือเห็นว่าวัยแก่เป็นวัยที่ชีวิตมันใกล้ถึงฝั่งเต็มทีแล้ว เค้าคงไม่มีกะจิตกะใจที่จะมาต่อสู้กับชีวิตมากมายเท่ากับคนวัยหนุ่มสาว ในเมื่อยายดิ้นรนจะเงินแบบนี้ ยายคงมีเหตุที่จำเป็นมากจริงๆ ไม่ชอบเลยที่ต้องมาเห็นชีวิตที่ไม่มีทางเลือกแบบนี้
เมื่อวานไม่รู้เป็นไง ตอนเย็นก็เจอเรื่องเศร้าอีก คราวนี้ไม่ใช่คน เป็นแมว
เมื่อวานตอนเย็นไปเยี่ยมน้าสามีที่บ้านเค้า กินข้าวเย็นด้วยกัน บรรยากาศทั่วไปก็สนุกสนานเป็นกันเองดี ตอนกินข้าวเสร็จเดินดูห้องโน้นห้องนี้ในบ้านน้าถึงได้เจอน้องเหมียว แมวตัวนึงอยู่ในห้องมืดๆตัวเดียว ตอนแรกคิดว่าคุณน้าคงไม่อยากให้แมวออกมาเพ่นพ่านตอนกินข้าวเลยขังมันเอาไว้ แต่พอคุยกันถึงได้รู้ว่าจริงๆแล้วคุณน้าไม่ได้สนใจมันเลย ออกปากถามฉันกับสามีอีกต่างหากว่าถ้าอยากได้ก็อุ้มมันไปเลย สามีบอกว่ามันเป็นแมวของลูกสาวคุณน้า ตอนนี้ลูกสาวคุณน้าแต่งงานแล้วก็ท้องอยู่ด้วย เลยทิ้งมันเอาไว้ที่บ้าน คุณน้าก็ไม่ได้อยากเลี้ยงมันตั้งแต่แรกแล้ว ก็เลยไม่ได้สนใจอะไรมัน ขังมันไว้อยู่ในห้องนั่นแหล่ะ แค่ให้กินข้าวทุกวัน ที่เหลือก็ให้มันอยู่ตัวเดียวโดดเดี่ยวเดียวดาย น้ำท่าก็ไม่ได้อาบ (แต่มันดูไม่สกปรกนะ) คิดดูก็แล้วกัน มันอยู่แต่ในห้องนั้น กินข้าว อึ ฉี่ไปวันๆ ตอนกลางวันก็ยังดี กลางคืนก็อยู่ไปแบบมืดๆ ไม่ได้สัมผัสกับการอุ้มการลูบจากคนมาเป็นปีแล้ว มิน่า ตอนที่เข้าไปลูบมันมันทำท่าตื่นเต้นระคนแปลกใจน่าดูเลย
แง๊ เจอเรื่องเศร้าอีกแล้ว แมวตัวนี้ก็ไม่มีทางเลือกเหมือนกัน มันถูกเจ้าของทิ้ง ถูกขังอยู่ในห้องแบบนี้ แล้วจะให้มันเลือกทางเดินให้ชีวิตมันได้ยังไงกัน ฉันชอบมันนะ แต่ฉันก็ไม่กล้าเอามันมาเลี้ยงตามที่คุณน้าถาม เพราะฉันรับผิดชอบมันไม่ไหว ชีวิตชีวิตนึงนะ ถ้าไม่มั่นใจว่าจะเลี้ยงได้ตลอดรอดฝั่งไปจนมันตายไปก่อนฉัน ฉันก็ไม่กล้าจะเลี้ยงมัน เนี่ย น้องเหมียวถูกจำกัดชีวิตอีกแล้ว เกือบจะมีโอกาสได้มีนายใหม่ แต่ก็ต้องชวดเพราะฉันไม่กล้า
น้องเหมียวผู้น่าสงสาร
รูปนี้แอบขำ ตาน้องเหมียวสะท้อนแสงแฟลชกลายเป็นซุปเปอร์แมวไปซะงั้น
คุณยายกับน้องเหมียวทำให้ฉันรู้ว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในการมีชีวิตอยู่ก็คือความมีอิสระในชีวิต เงินทองเป็นของสำคัญก็จริง แต่มันก็ไม่ได้สำคัญไปมากกว่าอิสระ ถ้าไม่มีอิสระแล้ว เงินทองที่มีจะเอาไปทำอะไรได้ ฉันเชื่ออย่างนั้นจริงๆนะ
Create Date : 25 กันยายน 2554 |
|
5 comments |
Last Update : 30 กันยายน 2554 12:28:16 น. |
Counter : 1545 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: มาศวดี 16 ตุลาคม 2554 12:53:15 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
Anyang Korea
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]
|
ชีวิตคนเรามันสั้นนัก ถ้านับกันเป็นจำนวนวันทั่วไปก็อยู่ที่หลักหมื่นเท่านั้น บางคนอาจจะมีชีวิตอยู่แค่หลักพันวัน หลักร้อยวัน หลักสิบวัน ไม่ถึงสิบ แย่ไปกว่านั้น บางชีวิตไม่มีโอกาสได้ลืมตาดูโลกด้วยซ้ำ แม้ชีวิตคนเราจะสั้น แต่กลับสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ขึ้นบนโลกใบนี้มากมาย ฉันอยากจะใช้พื้นที่บล็อคนี้แบ่งปันประสบการณ์ของฉันกับทุกคน สร้างสรรค์พื้นที่บันทึกเรื่องราวของฉัน ให้โลกใบนี้พอจะมีสิ่งที่เรียกได้ว่าเกิดจากการสร้างสรรค์ของฉันอยู่บ้าง
|
|
|
|
|
|
|
|