บ้ า น ร้ า ง แ ล ะ เ รื อ ไ ร้

บ้ า น ร้ า ง แ ล ะ เ รื อ ไ ร้




คนโบราณนิยมสร้างบ้านด้วยไม้สัก
เพราะนอกเหนือจากเนื้อไม้มีลายสวยแล้ว
ก็ยังสบายใจได้ว่าปลวกจะไม่มากินบ้าน แข็งแรงทนทาน
อยู่อาศัยไปได้ชั่วนาตาปี

ส่วนเรือก็นิยมต่อด้วยไม้สัก ไม้เต็ง รังและตะเคียนทอง
อย่างแรกจะเป็นที่นิยมสุด เพราะมีน้ำหนักพอเหมาะพอดี
มีความสวยงามคงทนใช้งานได้นานเป็นร้อย ๆ ปี ถ้ารู้จักดูแลรักษา
–หมดหน้านาหน้าน้ำก็ขึ้นคานไว้ใต้ถุนบ้าน

บ้านเรามีเรือสารพัดชนิด เพราะสังคมเราเป็นสังคมเกษตร
วิถีชีวิตผูกพันกับสายน้ำ กรุงเก่า บางกอกมีแม่น้ำลำคลองใหญ่น้อยเป็นเส้นทางคมนาคม
จนได้รับฉายาว่าเวนิชตะวันออก
เรือแต่ละลำแต่ละประเภทก็มีประโยชน์ใช้สอยต่างกันไป
พระใช้เรือบดลำเล็กจิ๋วพายออกรับบิณฑบาต
ชาวสวนพายเรือมาดบรรทุกของค้าขายวายล่อง

ในคูคลองท้องร่องสวนเรือใหญ่ไม่สะดวกเข้า
ก็ต่อเรือแตะ ท้องเหลี่ยมด้วยไม้กระดานแผ่นทั้งลำ
นำพืชผลไม้ออกจากสวนมาใส่เรือสำปั้นสวนพายหัวท้ายเร่ขาย-ส่งของ
เรือป๊าบ เรือหมู เรือมาด ใช้ค้าขายวายล่องไปมาหาสู่กันระยะใกล้
ห้วยหนองบึงน้ำสาหร่ายนัก ก็ใช้เรือหนักๆบึกบึนเช่นเรืออีโปง
ที่ขุดจากไม้ซุงตาล พายทะลุทะลวงเข้าไป

ข้ามฟากแม่น้ำใหญ่ก็ใช้เรือสำปั้นแจว
เดินทางระยะไกล ๆก็ใช้เรือหางยาวเรือแท็กซี่โดยสาร
ติดเครื่องแทนถ่อพายใช้ลากจูงเรือใหญ่ ๆ
เช่นเรือกระแซง เรือเอี๊ยมจุ้นที่บรรทุกสินค้าหนัก ๆ
ประเภทหิน ดิน ทราย อิฐ ไม้ เกลือ
(สำนวนที่ว่าอืดอาดเป็นเรือเกลือ มีที่มาจากเรือชนิดนี้
เพราะคำว่าเอี๊ยมจุ้น ภาษาจีนหมายถึงเรือเกลือ)




ปัจจุบัน การขนส่งสัญจรใช้ทางบกทางอากาศสะดวกรวดเร็วกว่า
เรือก็หายหน้าไปจากแม่น้ำลำคลอง เรือเอี๊ยมจุ้น
เรือกระแซง อันเสมือนสัญลักษณ์ของเวนิชตะวันออกแห่งนี้
พอมีเหลือให้เห็นอยู่บ้าง บางหนแห่งจอดแช่แห้งในน้ำ
และถูกกว๊านซื้อไปจอดบนบก
ดัดแปลงเป็นร้านรวงเรือนแรมตามรีสอร์ท
เช่นเดียวกับบ้านทรงไทยแลเรือนโบราณทั้งหลาย

บ้านหรือเรือ เมื่อไม่มีประโยชน์ใช้สอย ไม่มีผู้อยู่อาศัย
นับวันก็มีแต่จะผุพังร้างไป ตามกาลเวลา
ไม่ว่าบ้านหลังนี้ เรือลำนั้นจะสรรสร้างด้วยไม้ชั้นดีเพียงไหน
ดูแลอย่างดีเพียงใด มันก็ดำรงอยู่แค่ในนาม หากแต่ความสง่างาม,
ศักดิ์ศรีหรือคุณค่าความหมายในตัวเอง
ได้หมดสิ้นไร้ลงเสียแล้วอย่างน่าใจหาย
ทุกสรรพสิ่ง ไม่เว้นกระทั่งมนุษย์
ล้วนมีส่วนในการกัดกร่อนทำลายตัวเองด้วย
หาใช่เฉพาะแค่กาลเวลา

............................

ชื่อภาพ บ้านร้าง-เรือไร้
สถานที่ ใกล้ท่าน้ำบางศรีเมือง นนทบุรี
เทคนิค สีน้ำบนกระดาษ










Create Date : 09 ตุลาคม 2550
Last Update : 9 ตุลาคม 2550 13:27:41 น. 71 comments
Counter : 3958 Pageviews.

 
เหมือนที่เพลงเพลงหนึ่งบอกว่า

"บ้านนี้จะงามอย่างไรถ้าไม่มีเธอ"

แม้นบ้านจะราคาแพง ทำด้วยไม้ชั้นดี
หากการดูแล ขาดความรัก

ก็ร้างไร้.....และเหงาเศร้า


โดย: คนเลวที่แสนดี วันที่: 9 ตุลาคม 2550 เวลา:11:51:58 น.  

 
สวัสดีค่ะน้าปอน

อ่านเรื่องเรือและบ้านแล้วก็คิดถึงละแวกบ้านที่ลำปาง
กลับไปครั้งล่าสุดนี้ น่าใจหายไม่น้อย
บ้านไม้หลังใหญ่ หรือกึ่งไม้กึ่งปูน อายุร่วมหกสิบ-แปดสิบปี เป็นพ่ออุ๊ยแม่อุ๊ยได้แล้ว
หลายหลังร้าง ไร้ลูกหลานผู้คนอยู่อาศัย
บางหลังปิดตาย ทิ้งรอยฝุ่นจับช่องลมลายฉลุ ลูกบิดบานประตูที่เคยวาวก็หม่น บันไดไม้ที่เคยมันวับก็หมอง
ด้วยว่าลูกหลานย้ายไปอยู่คอนโดฯ ในกรุง


คิดถึงบ้านค่ะ


โดย: แพนด้ามหาภัย IP: 125.25.138.91 วันที่: 9 ตุลาคม 2550 เวลา:12:21:58 น.  

 
อยู่ไหนคะ เจ้าชายโรแมนติค ของหนู คิดถึงจังค่ะ


โดย: โมกสีเงิน วันที่: 9 ตุลาคม 2550 เวลา:13:37:26 น.  

 
น่าเสียดายนะคะ
เป็นธรรมดาของโลก หมุนไปไม่หยุดนิ่ง
สัจธรรม ความไม่จีรัง ยังใช้ได้กับทุกสิ่ง
แม้จะมีคนบางกลุ่มช่วยอนุรักษ์
แต่สักวันมันก็ต้องหายไปอยู่ดี
ทำได้แค่ชลอเวลา พอให้คนรุ่นหลัง
ได้มีโอกาสได้เห็นบ้าง


โดย: ก้อ IP: 124.121.121.41 วันที่: 9 ตุลาคม 2550 เวลา:13:57:40 น.  

 
หวัดดีครับอ้าย

ช่วงนี้กำลังม่วนอยู่กับการประกวดแต่งเนื้อเพลง
คำร้องเพลง Friend ของเบียร์สิงห์ครับ
นึกสนุกและอยากลองครับ

ถ้าเพลงเสร็จ ท่าจะได้เอามาอวดอ้ายโตย

อิอิอิ



โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 9 ตุลาคม 2550 เวลา:13:58:29 น.  

 


บ้านคือวิมานของเรา ใช่เปล่าคะ อาปอน

ไม่ว่าบ้านจะตั้งอยู่ ณ ที่แห่งใด ก็เป็นสถานที่ ที่เราโหยหาจะย้อนกลับไปเมื่อวัยผ่านพ้น


โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) วันที่: 9 ตุลาคม 2550 เวลา:14:52:54 น.  

 




โดย: filmgus วันที่: 9 ตุลาคม 2550 เวลา:16:39:53 น.  

 
พี่ปอนจ๋า แวะมาทีไร ได้ชมภาพที่ชวนฝันทุกทีเลย งุงิ...งุงิ ตอนนี้หนูป่วยหนักค่ะ มะค่อยฉะบายยยย งุงิ...งุงิ หนูเป็น เป็น เป็น เป็นสิวอะ แง๊...แง เดี๋ยวต้องพบหน้าประชาชีมากมาย ทำไงดี ที่มะช่ายยยทำจายยยยอะ งุงิ...งุงิ


โดย: ใบข้าว IP: 58.9.41.39 วันที่: 9 ตุลาคม 2550 เวลา:21:43:34 น.  

 
แวะมาส่งความคิดถึงค่ะ

เทคแคร์นะค่ะ


โดย: สักกะนิด วันที่: 9 ตุลาคม 2550 เวลา:22:04:29 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ปอน

ภาพ บ้านร้าง-เรือไร้ สวยมาก ๆ ค่ะ
เป็นภาพที่มีชีวิต...ลึกซึ้งไปด้วยเสน่ห์จากคนวาด
เงาบนน้ำสะท้อนถึงอดีตกาลที่ผ่านมา (อันนี้หนูจินตนาการคิดเองนะคะ)
เป็นภาพที่สวยงามจริง ๆ ค่ะ ...ชื่นชมจากใจค่ะ
การลงสีก็โดนเด่นด้วยค่ะ

วันนี้หนูมาแจ้งข่าวคราว ว่าด้วยเรื่องที่หนูพาดพิง ขอบคุณพี่ปอนที่แวะไปอ่านเรื่องเล่า Wal-Mart ครั้งหนึ่งค่ะ หนูขอขอบคุณกำลังใจและคอมเม้นท์ที่พี่มอบให้หนูมากค่ะ และจะนำไปปรับปรุงงานเขียนให้ดีขึ้นค่ะ

หนูขอให้พี่ปอนมีความสุขมาก ๆ ค่ะ


โดย: roslita วันที่: 10 ตุลาคม 2550 เวลา:14:42:13 น.  

 
แก้ไขค่ะ ...การลงสีก็โดดเด่นค่ะ

หนูขออภัยเป็นอย่างมากค่ะ


โดย: roslita วันที่: 10 ตุลาคม 2550 เวลา:14:44:43 น.  

 
สวัสสดีค่ะ พี่ปอน
คงสบายดีนะ แวะมาทักทาย...คิดถึงนะคะ


โดย: เมี่ยงเอง IP: 210.56.70.41 วันที่: 10 ตุลาคม 2550 เวลา:15:50:23 น.  

 
วันนี้ได้เห็นภาพสีน้ำของพี่ปอนลงในหนังสือพิมพ์...ชื่อ
กรุงเทพ....อะไรสักอย่างหนูจำไม่ได้(ขอโทษด้วยค่ะ)
เป็นภาพบ้านเรือนชายน้ำ สวยจังเลยค่ะ
ภาพข้างบนนี้ก็สวย
อยากให้พี่ปอนแสดงภาพที่กรุงเทพบ้างจัง
จะได้มีโอกาสยลให้ชุ่มใจ
ภาพของพี่ปอนสวยอ่อนหวานทุกภาพเลย...


โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.64.39 วันที่: 10 ตุลาคม 2550 เวลา:17:55:02 น.  

 
บ้านเป็นสิ่งสวยงามในชีวิต
เป็นองค์ประกอบหนึ่ง
ที่ครอบครัวช่วยกันสร้างขึ้นมา
อบอุ่นทุกครั้งเมื่อคิดถึง
เป็นสุขทุกคราวเมื่อได้กลับมาอยู่ในบ้าน
บ้านไม่ว่าจะหลังเล็กหรือใหญ่
ทำด้วยหิน ปูน ไม้ หรือว่าดิน
ไม่สำคัญ....สำคัญที่คนอยู่ในบ้าน
มีความรัก ความสัมพันธ์อันดี
ห่วงหา อาทร ห่วงใยซึ่งกันและกัน
หวนกลับไปคินถึงวันเก่า ๆ
บ้านไม้ หลังเล็ก มุงสังกะสี กับหญ้าคา
นอนฟังเสียงฝนตก กระทบหลังคา
หยาดน้ำฝนย้อยชายคา
นอนดูดาวเต็มฟ้า นอกชานบ้าน
ก่อไฟกองเล็ก นั่งล้อมวงในคืนหนาว
ฟังเสียงเล่านิทาน ก่อนนอน
.........อยากบอกว่า คิดถึงบ้าน หลังนี้จังเลย
คิดถึง แต่ไม่มีบ้าน ให้กลับไปแล้ว
............................................................
ขอบคุณ น้าปอน ที่ช่วยเรียกภาพความทรงจำเก่า ๆ
ให้ย้อนกลับมาอีกครั้ง ภาพสวยนะครับ
และ..ภาพในอดีตยังคงงดงามตลอดไป...


โดย: กระโจมดาว IP: 125.25.42.34 วันที่: 10 ตุลาคม 2550 เวลา:20:05:34 น.  

 
ขอบคุณทุกท่าน
รับประทานเกล้ากระผมง่วงมากครับ
ต้นบับ เข้าตา อย่าว่าโง้น งั้น งี้ ราตรีสวัสดิ์


อ้อ..
งุงิ งุงิ ขวัญใจมวลชน
อยากให้สิวหาย ต้องออกกำลังกาย ( กับแฟน )
ไม่ได้ผลคืนค่ารักษาจ้า...
ลาล่ะ




โดย: ปอน ปอน IP: 202.91.19.204 วันที่: 11 ตุลาคม 2550 เวลา:3:35:02 น.  

 
คิดถึงค่ะพี่ปอน ปอน ง่วง แล้วนอนไหนคะ อยู่มุมไหนหนอ


โดย: โมกสีเงิน วันที่: 11 ตุลาคม 2550 เวลา:9:57:27 น.  

 
อยากให้สิวหาย ต้องออกกำลังกาย ( กับแฟน )

อิๆ



โดย: ชจ IP: 202.29.77.2 วันที่: 11 ตุลาคม 2550 เวลา:13:26:12 น.  

 
อ้ายปอน
กิ๊ดเติงเจ้า
จะส่งหนังสือเล่มแรก
"ดอกไม้ วันวารและความทรงจำ"
ไปหื้ออ้ายปอนได้จะได...


โดย: สเลเต วันที่: 11 ตุลาคม 2550 เวลา:19:13:05 น.  

 
คนเลวที่แสนดี
ฟังเพงบ้านความรักอีกสักเที่ยว งือ งือ..

แพนด้า น่ารัก
เป็นคนลำปาง(หนา)เหรอ
คนเชียงรายก็(หนา)เหมือนกัน
อ้อ ลืมไป เดี่ญวนี้เขาให้ไปอยู่พะเยาแล้ว
ลำปาง แพนด้าอ่านมุมกล้องมองกลับรึยัง
เอ๊ะ บ้านหลังนั้นเป็นบ้านน้องหมีรึเปล่า
ปิดร้างครางครวญอยู่แถวท่ามะโอ....

โมกสีเงิน
อยู่ระหว่างความกล้ากับความลังเลจ้ะ
ลังเลว่าจะเดินทางดี
หรือทำงานให้เสร็จวันนี้
ลังเลว่าจะปิดบ้านดี
หรือว่าปิดชั่วคราว
รอให้เน็ตดี ค่อยเปิดรับแขก
เพราะขืนผลุบโผล่ ๆ ปิด เปิดหน้าต่างที ใช้เวลา ห้านาที
ไม่ต้องทำอะไรแล้ว หุดหิด หุดหิด
เสียเพื่อนเปล่า ๆ

หนูก้อ น่ารักพอกับกะว่าก๋า
มาเยี่ยมมาเยียนให้กำลังใจ
แบบว่าเข้าใจ
อยากได้ยินเพลงใหม่ประกวดได้รางวัลทีเถอะนะ
แต่เชื่อไงไม่รู้ว่า ได้แน่ ๆ...

น้องนกขา
บ้านคือวิมาน แต่บางคน
ไม่มี

ฟิล์มกัส
แดดเช้า ฉายฉ่ำ มาช้า-ช้า
ทุ่งทาเหลืองทาบอาบหุบเขา
ลมอ่อนไหว ไกวน้ำค้าง แค่บางเบา
ป่าก็เหงา ซึมเงาม่วง ด้วยห่วงใย

ขออนุญาตคุณพี่ปอนมาฉายซ้ำนะ

ใบข้าว
หนูติ๊ดดดดด คู่เธอ หายไปไหน
ไปเที่ยวกับพวกพ่อสื่อใช่ปะ ชิ..

สักกะนิด เทคแคร์เฃ่นกัน
(เอ๊ะแปลว่าอะไรเนี่ย พูดพล่อยไปได้เรา)

โรสลิต้า
ขอบคุณครับที่ชม และยินดีที่ทำให้หนูรู้สึกดี ๆ ไปกับการวาดภาพที่หนูชอบแต่..
อย่าชมเพียงเพราะพี่ไปอ่านงานหนูนะ
ถ้าไม่รู้สึกก็อย่าแสดงออกนะ
พี่รู้สึกอย่างไร ก็วิจารณ์ไปอย่างนั้น
รูปหนูใสซื่อจริง ๆ
ความบริสุทธิ์ อย่างนั้นแหละที่ศิลปกรทั้งหลาย
ทำหายไปในระหว่างเส้นทางของชีวิต
บางครั้ง บางคน ต้องทนทุกข์ ฝืน แสร้งแกล้งยิ้ม
ทั้งที่เขาเศร้าอยู่ข้างใจใจลึกเร้น

เขาถูกทำให้เป็น ในสิ่งที่เขาไม่ได้เป็น
หนูเห็นด้วยไหม
เป็นอะไรก็ไม่สำคัญเท่า-เป็นตัวของตัวเราเอง

จงยืนยันมั่นในในทางที่หนูเดิน
ยืดอกเผชิญหน้ากับมัน
หนูเลือกเป็นได้ แต่หลาย ๆ คนไม่มีสิทธิ์เลือกเลย
แม้สักห้านาฑีที่จะเป็นตัวของตัวเอง...
พี่ไปอ่านงานหนูต่อจากตอนที่แล้ว
เห็นความพยายาม แม่จะไม่ลงตัว แต่ความพยายามของหนู บวกกับความจริงใจ ทำให้คิดว่า วันข้างหน้าหนูจะเป็นคนเขียนหนังสือได้ เพราะมีวัตถุดิบเยอะแยะ ทั้งยังเป็นคนช่างเก็บรายละเอียด รายละเอียดนี้ ถ้ามีมากไปก็ไม่ดีนะ
ทำให้เรื่องแข็ง เป็นบทความไป
เรารู้รายละเอียด แต่เอามาใช้เท่าที่จำเป็น(เหมือนซูพไก้ก้อนไง)
เปรียบอย่างนี้คงได้ภาพชัด
พูดอย่างโก้ ๆ แบบนักเขียนเอกเช่น เฮมมิงเวย์
รายละเอียดทั้งหมดนั้น ก็คงเหมือนภูเขาใหญ่ส่วนที่จมอยู่ใต้ดิน เรารู้สึกเห็นจริงทั้งหมด แต่ไม่ต้องเขียนเล่าทั้งหมดหรอก เพราะไม่จำเป็น เขียนแต่ยอดที่เรามองเห็นเท่านั้นพอ บรรยายอย่างที่เราเห็น และประทับใจ สั้นกระชับ
ให้เห็นภาพและความรู้สึกรวมของผู้เขาทั้งเทือก รวมทั้งส่วนที่ตามองไม่เห็น นี่แหละถึงจะเรียกว่างานศิลปะของศิลปิน
น้อย แต่ มาก
หนูเลองเริ่มต้นฝึกนะ การบ้านข้อเเรก
ลองมองออกไปข้างนอกหน้าต่างห้องพักหนู แล้วบรรยายสิ่งที่เห็นสักสามสี่บรรทัดหรือหนึ่งย่อหน้า ห้ามเกินนั้น แล้วส่งมาให้ดูนะ

ขอโทษที่มาอภิปรายกันที่นี่ เพราะคิดว่าหลายคนที่ชอบการขีดเขียน อาจไม่มีเวลาไปเยี่ยมโรสลิต้าจะได้ประโยชน์บ้าง ใครจะลองทำการบ้านนี้ ก็ได้
(แล้วจะมีข้อต่อไปตามมา จากหนึ่งย่อหน้านั้น.......)

กระโจมดาว
ตกลงบ้านของกระโจมดาว มุงหญ้าคา หรือมุงสังกะสี
หมายถึง มุงหญ้าคาแล้วทับด้วยสังกะสีรึเปล้า

น่าจะมุงสังกะสีนะ
แต่เสียงฝนคงไม่เพราะเท่าไหร่ เผลอ ๆ จะหนวกหู
ดูดาว หน้าหนาว ล้อมวงรอบกองไฟ
แสดงว่าเป็นคนบ้านนอก

อยากให้บรรยายเสียงสายฝนกระทบหลังคาบ้านมาให้ได้ยินจัง กระโจมดาวเป็นผู้ชายอ่อนไหว หรือเป็นเหมือนตัวละครชายในเรื่องนั้น แสนซื่อ ฉลาดแต่.....ไม่เฉลียว
เกือบเอาชีวิตไปทิ้งเสียที่แดนใต้....

โมกสีเงิน
นกขมิ้นเหลืองอ่อน
ค่ำแล้วจะนอนที่ตรงไหน
นอนที่ไหนก็นอนได้
(อย่าใกล้คนหลายใจก็แล้วกัน) เชยยยยยยยมั่ก มั่ก

สวัสดีหนูเมี่ยง
คิดถึงคนบนเส้นทางหรือไง
หัวใจเขาป่วยไข้รึไม่ว่าง
คิสสสสสสส เลย ไม่ ถึง แง แง......

ตาเบบูญ่า
เป็นนักอ่านตัวจริงเสียงจริง
ภาพนั้นคงเป็นภาพเรือนแพริมแควใหญ่
ลงในกรุงเทพธุรกิจ เซ็คชั่นจุดประกายวันอาทิตย์
ขอบคุณที่ชมชื่น ทำให้มีกำลังใจ
สาบานว่ายังวาดไม่เก่งจ้า มันยังไม่ได้อย่างที่อยากเป็น อยากไป (ต้องเจียมใจเจียมตนเวลาคนชมอย่าหลงเหลิง)
ข้อเขียนเลยเป็นใหญ่ เขียนภาพประกอบเรื่องไป เพราะเราเป็นนักเขียนมากกว่านักวาด มิบังอาจทาบชั้นกับศิลปินใหญ่ที่เขาเขียนประจำที่นั่น เราแค่ชอบและมีความสุขที่ได้ทำแค่นั้นแหละ เรื่องแสดงงาน ก็อยากมาก ๆ
เพราะมีแฟน ๆ คอเดียวกันแบบตาเบบูญ่านี่แหละ (กลุ่มน้อย ๆ) อบอุ่นเสมอเมื่อมีงาน ได้มาพบปะพูดคุยกัน
เรื่องชมภาพเป็นผลพลอยได้ ปีนี้ ไม่ได้จองที่ไหนไว้เลย
ปีหน้าก็คงอด เพราะแกลลอรี่ดังทั้งหลายเขาจองกันข้ามปี
ยิ่งไปในฐานะนักเขียน แหะ แหะ เดี๋ยวเขาก็ถามหาเอกสารหลักฐานศิลปกร.....เอื๊อก ๆ

ชมจันทร์
ดูทำหน้าเข้า
คนมีแฟนแล้วก็งี้แหละ รู้ทันไปหมดนิ
เกาลัดเป็นไง สบายดีนะ

สเลเต
มีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นด้วยเหรอ
ที่อยู่ท่านเปา เอ๊ย ท่านปอน อยู่ข้างบนระเบียงสนทนานะท่าน เอ๊ะหรือหน้าแรก
ถ้าน้องท่านขี้เกียจ วุ่นๆๆๆๆ ไม่มีเวลาๆๆๆๆๆๆ
เหลเต้ เหลเตๆๆๆๆๆๆๆๆ
ก็พลาง ๆ ที่นี่เลย

สัญจร ดาวส่องทาง
บ้านความรัก (เขายายเที่ยง)
อ.เวียงเร่ร่อน
จ.นครแห่งดวงดาวสีน้ำเงิน
รหัสป.ณ.131313



โดย: ปอน ปอน IP: 202.91.18.205 วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:13:54:54 น.  

 
ลืม
เหลเต ลายเซ็นนะ เล่มที่สอง บอกว่าไม่เป็นไรได้ไง
ชอบที่เขียนนะ เขียนดีประทับใจ แถมให้ความรู้เรื่องต้นไม้ใบหญ้า โดยเฉพาะตาเหิน- สเลเต
เย....ดั๊น เป็นดอกไม้โปรดข้าพเจ้าอีก....


โดย: ตาเหินน้อย IP: 202.91.18.205 วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:14:06:15 น.  

 
สัญจร ดาวส่องทาง บ้านความรัก (เขายายเที่ยง)
อ.เวียงเร่ร่อน จ.นครแห่งดวงดาวสีน้ำเงิน
รหัสป.ณ.131313

เดี๋ยวหนูก็ส่งไปจริง ๆ ร๊อกจะถึงไหมล่ะคะเนี่ย


โดย: ชมจันทร์ วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:15:00:36 น.  

 
^
^
^
หนูว่าจะส่งโปสการ์ดที่กำลังหัดทำไปหาซักหน่อย
เกือบไปแล้ว อิ อิ



โดย: filmgus วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:16:46:25 น.  

 
ไปไม่นานหรอกค่ะเฮีย
ยังไงๆๆก็มาชะแว้บ แอบดู
ว่า ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่
อย่างไร เป็นประจำ จำต้องเป็น
กับอีกทั้งได้ทำการตรวจสอบ
สัมภาระก่อนเดินทางเรียบร้อย
แล้ว อุ้ยตาย !! ว้ายตาเถน !!
ไม่เข้าใจว่าไมต้องตาเถนคะ
ถ้าเป็น อุ้ยตาย !! ว้ายตาสาน !!
ลืมหัวจาย ลืมหัวจาย
จะได้มั้ยเนี่ย


โดย: ป้าซ่าส์ วันที่: 13 ตุลาคม 2550 เวลา:8:16:13 น.  

 
สวัสดีครับพี่ปอน


ช่วงนี้คิดว่าคงอยู่ทางเหนือใช่ไหมครับ

ตั้งแต่ต้นปีผมไม่ได้เดินทางไปไหนนานๆเลย

นี่ใกล้หน้าหนาวเข้ามาอีกแล้ว

ยังคิดอยู่ว่าจะไปที่ไหนดีที่ไม่ใช่ที่เดิม

ไปอยู่สักพักหนึ่ง

ตอนนี้เพิ่งเขียนเรื่องยาวประมาณ 10-12 ตอนจบแล้ว

ได้ชื่อที่มาสอดรับกับเรื่องพอดี "ควันไฟและสายรุ้ง"

เพิ่งเสร็จร่างแรก แต่สิ้นเดือนนี้เสร็จเรียบร้อยแน่นอน

(แต่หลวงพ่อชาท่านบอกว่า ถ้าเป็นปราชญ์เขาจะไม่พูดอะไรที่ไม่มีอนิจจังแฝงอยู่ด้วย - ถ้างั้นผมขอพูดใหม่ว่าถ้าชีวิตผมไม่มีอะไรพลิกผันขึ้นมา งานนี้เสร็จเรียบร้อยแน่ หมายถึงต้นฉบับน่ะครับ อันที่จริงน่าจะเสร็จตั้งนานแล้ว ถ้าลงมือทำ)


ส่วนจะได้พิมพ์เป็นเล่มเมื่อไรนั้นขึ้นอยู่กับพี่ขวัญ เรื่องนี้เต็มใจไม่รับค่าเรื่องครับ


เอ้อ...แต่ว่าเรื่องสิวนี่ ผมไม่เป็นสิวมานานเต็มทีแล้วนะครับ


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 13 ตุลาคม 2550 เวลา:9:27:03 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ปอน

วันนี้หนูมาเยี่ยมพี่ในวันหยุดค่ะ พี่ปอนสบายดีหรือเปล่าค่ะ? หนูชอบภาพของพี่จากใจจริงค่ะ หนูไม่ได้ชมแล้วให้พี่ไปอ่านงานของหนูเลยน๊า...หนูชอบศิลปะจริงๆ ...และหนูก็มีความสุขที่ได้สัมผัสผลงาน ที่คน ๆ นั้นถ่ายทอดออกมาคะ

เวลาที่หนูมองงานศิลปะ หนูมักจะจินตนาการไปด้วย แม้ว่าการจินตนาการของหนู อาจจะไม่เหมือนเจ้าของภาพ แต่หนูก็มีความสุขที่ได้คิดไปนอกเหนือ จากความรู้สึกของคนที่ถ่ายทอดออกมา

สมัยเด็ก ๆ หนูชอบวาดรูปมาก ลานกว้าง ๆ ใต้ต้นมะม่วงที่บ้านนาของหนู บนพื้นดินสีขาวที่พอจะทำให้หนูได้ขีดลวดลายได้ หนูก็มักจะวาดตลอด ไม่ว่าจะเป็นภาพเจ้าหญิงในละครทีวี หรือนางเอกในจินตนาการที่หนูถ่ายทอดออกมา ภาพคุณครูที่แสนใจดีของหนูด้วย บางทีหนูก็ชอบวาดกระท่อมน้อย ๆ ที่หนูมักจะสมมุติว่า มันคือกระท่อมที่ปลายนาของหนูนี่เอง

หนูเห็นด้วยกับพี่ปอนค่ะ ความบริสุทธิ์ใจ ความใสซื่อนั้นหายากจริง ๆ ค่ะ ยิ่งสังคมสมัยใหม่ อะไรหลาย ๆ อย่างเปลี่ยนไปมากคะ หลาย ๆ คนเปลี่ยนตัวเองไปตามสภาวะที่ควรจะเป็น จะมีสักกี่คนที่ยังเก็บความเป็นตัวของตัวเองเอาไว้

หนูเป็นคนช่างประดิษฐ์ช่างคิดมาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ เด็ก ๆ แถวบ้านของหนูมักจะให้พ่อแม่สร้างเฮื้อนน้อยให้เล่นขายของกัน ส่วนหนูไม่เหมือนใครเลยคะ หนูสร้างเฮื้อนน้อยของหนูเอง จินตนาการ ออกแบบบ้านน้อย ๆ มีหน้าต่างทุกมุม มีบันไดขึ้นลง ผูกเปลให้ตุ๊กตาได้นอนด้วย ขุดดินทำเป็นบ่อน้ำเล็ก ๆ ไว้เล่นเองค่ะ (เพราะพ่อสั่งห้ามหนูไม่ให้ไปเล่นน้ำบ่อที่เขาเอาไว้ดื่มกันค่ะ) หนูเลยต้องขุดบ่อน้ำเอง

ส่วนถังน้ำนั้น หนูก็เอากระป๋องนมตราหมีมาเปิดฝากออกด้านหนึ่ง จากนั้นก็เจาะรูเล็ก ๆ ข้าง ๆ กระป๋อง เอาเชือกมัดแต่ละด้าน ...แล้วหนูก็ได้ถังน้ำไว้เล่นแล้วค่ะ

บางครั้งหนูก็ชอบเอาถ่านไปขีดเขียนตามกำแพงบ้าน (อันนี้เป็นความซนของหนูเองค่ะ....แต่แปลกที่พ่อไม่เคยดุหนูเลยค่ะ...สงสัยเพราะบ้านเก่าแล้ว อิอิ) มีอยู่ครั้งหนึ่งหนูเขียนบนกระดานฝาบ้านว่า "บ้านแสนสุข" แล้วจู่ ๆ คนแถวบ้านหนูคนหนึ่ง เขามาอ่านเจอ เขาหัวเราะเยาะหนู หาว่าหนูเพ้อเจ้อ

ในตอนนั้นหนูไม่รู้หรอกว่า "บ้านแสนสุขแท้จริงจะต้องเป็นยังไงบ้าง" เพราะบ้านแสนสุขที่หนูคิดในตอนนั้นก็คือ มีพ่ออยู่กับครอบครัวหนู เรามีอาหารทานครบทุกมื้อ พี่น้องรักกันดี หนูมีเพื่อนเล่นด้วยตลอด มีควายไว้ให้หนูขี่ด้วย แค่นี้แหละ ที่หนูคิดว่าสุขที่สุดแล้วล่ะ

หนูดีใจที่สุด ที่หนูเกิดมาเป็นเด็กบ้านนอก ภูมิใจที่เกิดมาโดยปราศจากเทคโนโลยี สิ่งที่หนูได้สัมผัส สิ่งที่หนูได้เรียนรู้นั้น มันฝังแน่นอยู่ในตัวหนูมาตลอดค่ะ

หนูไม่เคยลืมค่ำคืนเดือนเพ็ญที่หนูช่วยพี่สาวตำข้าว หนูไม่เคยลืมการที่ต้องหาบน้ำทุก ๆ วัน หนูยังคงเห็นภาพวันวานเมื่อครั้งเยาว์วัยตลอด แม้แต่ในความฝันนั้น หนูก็ยังเป็นเด็กน้อยเสมอ

ต้นไม้แห่งขุนเขา ต้นหญ้าบริเวณทุ่งนา แม่น้ำห้วยที่ยาวทอดออไปหลายหมู่บ้าน น้ำค้างในตอนเช้า ถนนลูกรังสีแดง เสียงเรไรในยามค่ำคืน แสงตะเกียงในทุก ๆ ราตรี กระท่อมปลายนา กองฟางที่หนูกระโดดเล่นบ่อยครั้ง หนังสติ๊กที่เป็นอาวุธประจำตัว ควายที่หนูเลี้ยงทุก ๆ วันหยุด ดอกนุ่นที่หนูจูบกินน้ำหวานทุก ๆ ฤดูหนาว จักรยานคันเก่า ๆ และชายชราคนหนึ่ง หลายสิ่งหลายอย่างมันคือชีวิตของหนูค่ะ หนูรักทุกอย่างที่หนูเห็น รักทุกอย่างที่หนูสัมผัสค่ะ รักทุกอย่างที่ตัวเองเป็นค่ะ

หนูกราบขอบพระคุณพี่ปอนเป็นอย่างมาก สำหรับเรื่องงานเขียนที่พี่แนะนำให้หนูได้ทราบค่ะ หนูจะเอาคำแนะนำที่ดีของพี่ไปปรับปรุงใช้ในการเขียนงานให้ดีขึ้นค่ะ และจะแวะมาเก็บความรู้จากบล็อกพี่ปอนบ่อย ๆ ค่ะ

หนูยอมรับว่าหนูเป็นคนที่ชอบเล่า...และก็เล่าจริง ๆ ค่ะ บางครั้งก็กลับมานั่งอ่านงานเขียนของตัวเองบ่อย ๆ พลางหัวเราะไปด้วย...ช่างเล่าจริง ๆ เลย พอแวะไปอ่านหนังสือคนอื่น ๆ ดูบ้าง เขาไม่เห็นเล่ารายละเอียดถี่ยิบเหมือนหนูเลย..555 หนูจะพยายามปรับปรุงตัวเองให้ได้ค่ะ จะพยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ

หนูดีใจที่มีโอกาสได้แวะมาชมผลงานของพี่ ทุกสิ่งทุกอย่างที่พี่ถ่ายทอดออกมานั้น เป็นสิ่งที่สวยงาม มีค่าที่ใจค่ะ หนูเคารพผลงานที่พี่ทำจากชีวิตและจิตใจ และก็เอาพี่เป็นแบบอย่างชีวิตด้วยค่ะ

หนูจะทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด จะทำในสิ่งที่ตัวเองรักและพึงพอใจ จะตั้งมั่นเรียนรู้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด จะใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังค่ะ

หนูทำการบ้านที่พี่มอบให้ด้วยค่ะ...บรรยายภาพหน้าบ้านของหนู

"พุ่งไม้รอบ ๆ บริเวณบ้าน ยังคงเขียวชะอุ่มเหมือนเดิม แม้จะไม่มีคนรดน้ำทุก ๆ วัน แต่ธรรมชาติของต้นไม้ชนิดนี้ ก็เติบโตได้ โดยปราศจากการดูแลเอาใจใส่ทุก ๆ วัน

ขอบระเบียงที่ตั้งอยู่หน้าชานบ้านนั้น มีสนิมเกาะติดอยู่ประปราย ก็เหมือนกับชีวิตของคนเรา หากขาดการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ชีวิตก็มักจะเปลี่ยนไป ทั้งในทางที่ดีและไม่ดี

ถนนสองเลนส์หน้าบ้าน มีรถหลายคันวิ่งผ่านไปมา รถแต่ละคันมีราคาสูงต่ำที่แตกต่างกัน รถบางคันราคาเป็นล้าน แต่บางคันก็คันเก่ากึก ทำไมคนเราต้องมีรถราคาที่แตกต่างกันด้วย ในเมื่อเป้าหมายที่แท้จริง ก็แค่วงล้อที่นำพาผู้คนไปทุกหนแห่ง หรือว่ารถราคาเป็นล้านนั้น คือสิ่งที่บ่งบอกฐานะของคน ๆ นั้น"

พี่ปอนค่ะ หนูส่งการบ้านพี่เท่านี้ก่อนค่ะ แล้วจะแวะมาดูคะแนนจากพี่ พร้อมมารับการบ้านข้อต่อไปด้วยค่ะ หนูขอขอบคุณ คุณครูพี่ปอนมากค่ะ

วันหยุดนี้หนูขอให้พี่ปอนมีความสุขมากๆ มีสุขภาพที่ดี มีชีวิตที่สบายใจ มีอะไร ๆ ทำในสิ่งที่รัก และหลายอย่างที่ทำให้พี่มีความสุขค่ะ สาธุ


โดย: roslita วันที่: 13 ตุลาคม 2550 เวลา:11:37:32 น.  

 


สัญจร ดาวส่องทาง
บ้านความรัก (เขายายเที่ยง)
อ.เวียงเร่ร่อน
จ.นครแห่งดวงดาวสีน้ำเงิน
รหัสป.ณ.131313

.........................

กะว่าจะเขียนจดหมายหาอ้ายปอนซะหน้อย
เขอเขายายเที่ยงเข้าไป
ฮาแตกครับอ้าย ไปรษณีย์จะไปส่งจดหมายหื้อก่หา

555555


หวัดดีครับอ้าย




โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 13 ตุลาคม 2550 เวลา:12:45:07 น.  

 
แอบย่องมามองเมียง
พี่ปอน สัญจร กลับมานอนรัง บ้างหรือเปล่า?

โอ..แควนๆเยอะ
หายห่วง
หายห่วง
แต่ไม่หายคิดถึง


โดย: นกแสงตะวัน วันที่: 14 ตุลาคม 2550 เวลา:9:46:07 น.  

 
ชอบเรือมาก แล้วรูปวาดเรือยิ่งชอบ
ได้อ่านเรื่องราวก็ครบเลยสำหรับเรือที่เราชอบ


โดย: ตะวันออกไม่แพ้ วันที่: 14 ตุลาคม 2550 เวลา:12:37:36 น.  

 
สวัสดีค่ะ น้าปอน
บ้านเรือ หรือเรือเอี๊ยมจุ้นนี่หนูยังพอได้เห็นตอนเด็กๆ นะคะ
เพราะเป็นลูกแม่น้ำน่ะค่ะ แม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านจ.สิงห์บุรี
ตอนนี้ไม่มีให้เห็นเลย .. คนรุ่นหลังตามดูได้จากรูปภาพ รูปวาด
และดูละครทีวีแบบย้อนยุคกันแทน ..

" เรือเกลือ " แม่หนุละชอบบ่นคำนี้แหละค่ะ เวลาทำอะไรชักช้า
ไม่ทันใจ


โดย: moodee IP: 124.120.225.216 วันที่: 14 ตุลาคม 2550 เวลา:19:45:16 น.  

 
ฟิล์มกัส
หนูหัดทำโปสการ์ดจริงเหรอ
ส่งได้เลยยยยยย ถึง

ลืมหัวจาย ลืมหัวใจ
คนไหนเหรอป้าซ่าส์
อย่าไปนานนา
กลัวเสียดุลหญิงงาม

พ่อเพยีย
อยู่เหนือลม
แสนสุขสมนั่งชมวิหค
แต่ยังไม่เห็นนกสักตัว

เขียนนิยายเสร็จไปอีกเรื่องเลยเหรอ
เก่งจัง 12 ตอน ไม่ธรรมดาหรอก
เป็นนิยายอิงหลักธรรมรึไง
ถึงว่าขึ้นอยู่กับขวัญ
จะพิมพ์หรือไม่พิมพ์
แค่ได้ทำงานอย่างใจปรารถนาก็สุดยอ ดสุขแล้ว
ยิ่งเห็นมันเป็นเล่มออกมา ดีใจด้วยๆ

ส่วนตัวข้าพเจ้ายังไม่คืบหน้าไปไหนเลย ที่คุยคำใหญ่คำโตไว้(กับตัวเอง) ก็เคลื่อนไปได้นิดนึง..แงๆ ได้แต่ทำมาหา(ไม่ค่อยพอ)กินไป เต้นฟุตเวิร์คไปจนพุงพลุ้ยเอาๆ...
ไม่ได้โทษอะไร ทุกอย่างมีเหตุปัจจัยมาจากตัวเเองทั้งนั้น
ไม่ขยันไม่พอยังขี้เกียจอีกต่างหาก
ฮา ฮา.....
สิบหลวงพ่อชาก็หาช่วยได้
เห็นทีต้องทำอะไรสักอย่างแบบว่าหากระดาษทรายเบอร์ 0
ละเอียด ๆ มาขัดกิเลสหนาๆ มัวแต่ปากว่าอยู่นั่นแล้วแต่มือไม่ทำ

หนีไปเป็นขันทีเสียดีไหม ใจคอ...

โรสลิต้า
ส่งการบ้านเร็วดีแท้
ขยันดีมากเด็กคนนี้
เป็นคนมีเหตุมีผล ช่างเปรียบช่างเปรย
สังเกตว่าเอ่ยถึงบ้านเกิดแล้วหนูจะบรรยายได้เนียนมาก
ชนิดคนอ่านรู้สึก เห็นภาพได้เลย
แต่ตัวการบ้าน กลับแห้ง ๆ นะ
คนอ่านถูกจำกัดจินตนาการไป เพราะหนูสรุปไว้เกือบหมด

ถ้าเปรียบเป็นการสนทนากัน คู่สนทนาก็คงฟังตาลอย ๆ
ไม่ค่อยประทับใจสิ่งที่เล่า เพราะเขาไม่มีโอกาสได้อ้าปาก
หรือใช้ความคิด เป็นประโยค"ปลายปิด" แบบหลวงพ่อเทศนาไปหมดเลย เช่นสนิมที่ระเบียงก็เหมือนกับ.......
รถราคาเป็นล้านเพราะ......

เป็นเหตุเป็นผลไปหมดทุกเรื่อง นั่นคงเป็นวิชาวิทยาศาสตร์
มากกว่าศิลปะ
ยกตัวอย่างไม่ค่อยเก่ง อย่าเครียดล่ะ นี่ไม่ใช่ข้อสรุป แต่เป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ทัศนะหนึ่งเท่านั้น
สรุปว่า ข้อสองของการบ้านก็คือ

ทั้งหมดที่ทำมา ย่อให้เหลือสักสามบรรทัด ให้เห็นภาพ ยินเสียง เผลอ ๆ ได้กลิ่นด้วย ประการสำคัญ ให้ได้อารมณ์หนึ่งอารมณ์ใดก็ได้ แต่เป็นอารมณ์เดียว จากฉากนี้

นักเรียนเข้าใจรึยัง
เข้าใจแล้วลงมือทำได้เลยจ้า....
ใครยังไม่เข้าใจ
ยกมือถามคุณครูก๋าข้างบนก็ได้
ก๊ะว่าก๋า ไม่ธรรมดาหรอก เขาเชิญไปเป็นอาจารย์พิเศษเชียวนะจะบอกให้....

นกแสงตะวัน
บินมาด้วยห่วงใย
กลัวบ้านนี้จะร้าง
ก็คงมองเห็นอนาคตแล้วนะ ขืนน้องเน็ตเป็นอย่างนี้
หวังดีแค่ไหน รักคิดถึงแค่ไหน ก็คงได้แต่ทำตาละห้อย....

ตะวันออกไม่แพ้
ชอบเรือระวังนะ
โบราณว่า พู ญิง ชอบ ยิง เรือ

เข้าทางนู๋ดีเลยยยย
แอบรู้แล้วสิว่าเป็นคนเมืองสิงห์
บ้านเดียวน้าทิวา บ.ก.สีสันเลยนะนี่
นู๋ดี-สบายดี...
เรือเกลือ ตอนนี้จอดขึ้นคานอยู่บ้านทุ่งดาว
เท้าไม่พาย เอาตีนกายหน้าผาก...เอ๊ะไง
สงสัยเพี้ยน เขียนเรื่องไม่ออกแหง...
บ๊าย-บาย





โดย: ข้าพเจ้าเอง IP: 202.91.19.204 วันที่: 14 ตุลาคม 2550 เวลา:23:59:37 น.  

 

ใช่เลยค่ะ น้าปอน หนูน่ะสาวเมืองสิงห์
เพื่อนเคยเรียกว่า มู๋ดุ บอกว่าคนสิงห์ดุ เอิ๊กกก
เกิดและโตที่สิงห์บุรียังเห็นบรรยากาศเรือเอี๊ยมจุ่น
และบรรยากาศคนอยู่ริมน้ำเพราะแม่น้ำไหลผ่านหน้าบ้าน
ย้ายมาเป็นคนบางกอกอยู่นานมากแล้วเหมือนกันค่ะ
แต่คิดว่าตัวเองเป็นลูกแม่น้ำเจ้าพระยาเสมอนะคะ

หนูสบายดีค่ะ น้าปอนสบายดีนะคะ


โดย: moodee IP: 124.120.216.14 วันที่: 15 ตุลาคม 2550 เวลา:2:04:20 น.  

 
หนีไป อีกแระ ไปเที่ยว พี พี ไม่ยอมชวนน้องนุ่ง

แบบนี้ขอแช่ง ให้สุขภาพแข็งแรง ยิ่งๆ ขึ้นนะคะ


โดย: โมกสีเงิน วันที่: 15 ตุลาคม 2550 เวลา:9:01:32 น.  

 
สัญจร ดาวส่องทาง
บ้านความรัก (เขายายเที่ยง)
อ.เวียงเร่ร่อน
จ.นครแห่งดวงดาวสีน้ำเงิน
รหัสป.ณ.131313


เพียงแค่หลับตา
มะมา..จะพาไป...




โดย: เรือรักแล่นลิ่วเริงร่า วันที่: 15 ตุลาคม 2550 เวลา:11:40:04 น.  

 
พี่ปอนจ๋า งุงิ...งุงิ หนูติ๊ดดดด คู่หูดูโอ้ ลัล ล้า...ลา ของหนู เค้าไปเข้าคอร์สลดน้ำหนักอยู่ค่ะ แบบว่า...โดนหนูใบข้าวบังคับให้ไปพบปะแฟนคลับ นักอ่าน(ที่มีอยู่น้อยนิด)ของหนูด้วยกัน วันเสาร์ที่ 20 นี้อะค่ะ แถมยังต้องพาน้องมะหมาไปฝังชิพอีก วุ่ยวายสุดๆไปเลย ส่วนใบข้าว นอกจากจะขี้เกียจออกกำลังกาย(เพราะยังหาแฟนมะได้) แล้วก้อยัง เป็นสิว เครียด กินข้าว แล้วตีปังอยู่เช่นเดิม
มีเคล็ดลับดี ถ้าหากอยากให้สิวหายมาฝากค่ะ (ผีแคสเปอร์บอกมา) คือต้องมะกินข้าวมื้อเย็น วันรุ่งขึ้นก้อห้ามกินมื้อเช้าด้วย แล้วพอสายๆ ก้อจะหิว
สายจะหิว ก้อคือ...สิวจะหายยยยค่ะ งุงิ...งุงิ มุกแป้กมั้ยเนี่ย อิอิ
ฮักและคิดฮอดนักๆนะเจ๊า...งุงิ...งุงิ


โดย: ใบข้าว IP: 58.9.48.40 วันที่: 15 ตุลาคม 2550 เวลา:21:18:40 น.  

 
สวัสดี ครับน้าปอน
บ้านของผม ในความทรงจำที่หลงเหลืออยู่
หลังเล็ก ๆ ใต้ถุนสูง มีหน้าบ้านมุงหญ้าคา
ตัวเรือนส่วนกลางบ้าน มุงสังกะสี
แต่คงจะเป็นของเก่าใช้มานานแล้ว
เพราะเห็นรอยตะปูเต็มไปหมด
ย่า เล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อน สมัยพ่อของย่ายังอยู่
บ้านเคยหลังใหญ่กว่านี้ แต่ก็จำไม่ได้แล้วว่า ทำไม
จึงรื้อแล้วสร้างใหม่ และยังคงใช้วัสดุ
คือไม้ กับสังกะสี จากบ้านหลังเดิม
ผมเกิดที่บ้านหลังนี้ หมอตำแย ตัดสายสะดือให้
และพ่อผม ก็เอารก ใส่ห่อหรือไห
จำไม่ได้แล้วเหมือนกัน ไปฝังดินแถว ๆ หลังบ้านนี่แหล่ะ
ตอนกลางคืน จุดตะเกียงน้ำมันก๊าดใช้
วันไหนที่เดือนหงาย พอดับไฟ
ก็จะเห็นรอยตะปู สว่างเป็นเหมือนแสงดาว ขึ้นเต็มฟ้าเลย
แต่ถ้าวันไหนที่มีฝนตก ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก
ต้องวิ่งหากระป๋องน้ำ มารองน้ำฝน ตามรูรั่ว ของสังกะสี
แต่มันไม่รั่วทุกรูที่เห็นหรอกนะ ถ้าใครเคยอยู่บ้าน
ที่มุงสังกะสี จะนึกภาพได้ เพราะสังกะสีมันมีลอนนูน
ขึ้นและลง ถ้ามีรูอยู่ลอนส่วนที่นูนขึ้น มันจะไม้รั่ว
แต่ถ้าอยู่ส่วนที่ลง มันจะใหลมารวมกัน แล้วก็รั่วพอดี
วันที่ฝนตก ถ้าอยู่ในบ้าน จะได้ยินเสียงเหมือน
มีใครเอา เม็ดกรวด หรือหินเม็ดเล็ก ๆ
มาขว้างใส่หลังคาบ้าน ปัง ปัง ปัง ปัง ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
มันจะค่อย ๆ ดังขึ้นช้า ๆ และค่อย ๆ รัว เร็วขึ้นจนเต็มที่
เป็นเสียงที่ดังมาก ต้องรอสักพักนึง
จึงค่อยชินกับเสียงฝนก่อน คนในบ้านจึงจะพูดคุยกันรู้เรื่อง
มันก็หนวกหูนะ ไม่เพราะหรอก
แต่อยู่มาตั้งแต่เกิด มันก็คงจะชินน่ะ
แต่ส่วนหน้าบ้านที่มุงหญ้าคา
เสียงมันจะดังคนละอย่างกันเลย
ตอนเด็ก ๆ ผมชอบนอนดูเม็ดฝน มันย้อยชายคานะ
เวลาที่ฝนพึ่งจะหยุดตก มันจะย้อยลงเป็นสาย
แล้วก็ค่อย ๆ ทิ้งช่วงห่างลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งหยุด
ดินใต้ถุนบ้านงี้ ฉ่ำไปเลย ต้นไม้ใบหญ้ารอบบ้าน
มันดูเขียว สะพรั่ง ไปหมด
เลยรั้วนอกบ้านไป ก็เป็นทุ่งนาแล้ว
บ้านผมอยู่ในเขตชนบท ของจังหวัดหนึ่ง ทางภาคกลาง
มีไฟฟ้าผ่านมาให้เห็นแต่เสา กับสาย ข้างถนนหลวง
มองเห็นลิบ ๆ มีต้นไม้ปลูกไว้ล้อมรอบ บ้านเลย
ถ้าอยู่ข้างนอกมองเข้ามา จะเห็นแต่หลังคาสังกะสี
แต่ไม่เห็นตัวบ้าน
ริมรั้วด้านนอกมีต้นตาลใหญ่ อยู่สี่ต้น สี่มุมพอดี
มีชานอยู่หลังบ้าน เอาไว้นอนดูดาวหน้าร้อนก็ดี
แต่หน้าหนาวไม่ไหว น้ำค้างลงเยอะ นอนเล่นไม่ได้
เดียวก็โดนไล่เข้าไปนอนในบ้าน
หลังคาสังกะสีนี่มันไม่สร้างปัญหาเฉพาะหน้าฝนหรอกนะ
หน้าหนาว ถ้าปีไหนหนาวจัด ๆ ก็จะมีฝนตกเฉพาะในบ้าน
ได้เหมือนกัน คือน้ำค้างที่มันเกาะอยู่ใต้หลังคาสังกะสี
ตอนค่อนแจ้ง หรือใกล้ ๆ จะเช้า มันจะรวมตัวกันเป็นหยด
เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ทยอยตกลงมาที่พื้นบ้าน
และก็บนหลังมุ้งที่กางนอน หลับอยู่เพลิน ๆ
เจอน้ำค้างหยดใส่หน้า สะดุ้งตื่นเลยเหมือนกัน
แต่ก้มีวิธีแก้ปัญหานะ คือก่อนนอน ผุ้ใหญ่เขาจะเอา
ผ้าห่ม หรือผ้าผื่นบาง ๆ ไม่หนัก วางพาดไว้บนมุ้ง
บังส่วนใบหน้าไว้ให้ เวลาน้ำค้างหยดลงมา
ก็ไม่ทันซึมลงมาข้างล่างหรอก
เป็นไงครับ น้าปอน บรรยากาศบ้านนอก แบบของผม
ที่จริง ยังมีอีกเยอะนะครับ คือยิ่งเขียน ภาพมันยิ่งผุด
ขึ้นมาเรื่อย ๆ แต่จะเก็บเอาไว้เล่าวันหลังมั่งละกัน
ขอบคุณสำหรับ comment นะครับ
ช่วงเวลา แห่งความสุข ที่ผ่านมา
บางครั้ง เราอาจหลง ลืม มันไปได้
แต่.....มันไม่เคยหายไปไหน ใช่ไหมครับ
มันคงนอนรอ เราอยู่ ที่ไหนซักแห่ง
ในก้นบึ้ง ของความทรงจำ
รอ เวลา ที่จะหวล นึกถึงมันอีกครั้ง
เมื่อมีอะไร มาสะกิด
ขอบคุณ น้าปอนที่ช่วยมาสะกิด ให้คิดถึงนะครับ


โดย: กระโจมดาว IP: 125.24.176.241 วันที่: 15 ตุลาคม 2550 เวลา:22:41:38 น.  

 
โห, เขียนกันยาวๆ ทั้งนั้นเลย
เอ่อ...
อ่านแล้วก็เพลินแฮะ ^^


โดย: ดาริกามณี วันที่: 16 ตุลาคม 2550 เวลา:0:09:00 น.  

 

"บ้านหรือเรือ เมื่อไม่มีประโยชน์ใช้สอย
ไม่มีผู้อยู่อาศัย
นับวันก็มีแต่จะผุพังร้างไป
ตามกาลเวลา "

ชอบท่อนนี้ครับ...


โดย: pu_chiangdao วันที่: 16 ตุลาคม 2550 เวลา:11:31:35 น.  

 
เอ้อ..!! อ่า..!!
เฮีย..เค้ามาหาน่ะ


โดย: ป้าซ่าส์ วันที่: 16 ตุลาคม 2550 เวลา:12:46:11 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณครูพี่ปอน

วันนี้หนูขออนุญาตเรียกคุณครูพี่ปอนนะคะ
หนูต้องขออภัยที่แวะมาส่งการบ้านช้าไปหน่อย
พอดีช่วงนี้หนูมีงานเขียนทีเร่งแก้ไขอยู่ค่ะ
ก็เลยต้องรีบทำให้เสร็จคะ
หนูกำหนดเวลาการทำงานเอาไว้
หนูก็อยากจะทำให้ได้ตามเป้าหมายค่ะ
บางครั้งหนูก็เป็นคนค่อนข้างจริงจังกับชีวิต
ไม่เคร่งเครียดแต่ตรงเวลาค่ะ

หลังจากที่หนูมีโอกาสได้เข้ามาส่งการบ้านที่ผ่านมา
และก็ได้ดูคุณครูตรวจการบ้านให้ด้วย
ทำให้หนูเก็บไปคิดหลายวันค่ะ แหะ ๆ
ที่คิดก็เพราะว่า....หนูกำลังคิดว่า
จะเขียนยังไงให้ได้สามบรรทัดน๊า เพื่อที่จะได้มาส่งการบ้านคุณครูพี่ปอนอีกครั้งค่ะ

หนูขอกราบขอบพระคุณคุณครูพี่ปอนมากๆ เลย
ที่ได้ให้คำแนะนำแก่หนูค่ะ
ตอนนี้หนูคิดได้แล้วค่ะ

และขอส่งการบ้านคุณครูดังต่อไปนี้ค่ะ

แมกไม้เปลี่ยนสีไปตามฤดูกาล
สนิมบนระเบียงบ่งบอกถึงอายุของบ้าน
เสียงรถวิ่งผ่านไม่ต่างกับถนนชีวิตของแต่ละคน

หนูไม่รู้ว่าการบ้านของหนูมันตรงประเด็นข้างบนหรือเปล่า แต่หนูย่อให้เป็นแบบนี้ค่ะ ฝากรบกวนคุณครูพี่ปอนช่วยตรวจการบ้านให้หนูด้วยนะคะ

และหนูก็ขอกราบงาม ๆ คุณครูพี่ปอน
เพื่อจะขอคำเฉลยที่เป็นตัวอย่าง
ให้หนูได้เก็บไปคิดด้วยได้ไหมค่ะ? ขอบคุณมากค่ะ

ช่วงนี้หนูเปิดสอนภาษาเขมรที่บล็อกด้วยค่ะ หากคุณครูพี่ปอนอยากเรียนภาษาเขมร ก็ขอเชิญแวะไปเรียนได้นะคะ หนูยินดีต้อนรับเสมอค่ะ หนูสอนแต่ภาษาเขมรค่ะ ไม่มีวิชาคุณไสย์นะคะ ไม่ต้องกลัวค่ะ..อิอิ

ท้ายนี้หนูขอให้คุณครูพี่ปอนมีความสุขมากๆ ค่ะ มีสุขภาพที่ดี มีจิตใจที่สุขสบายค่ะ แล้วหนูจะแวะมารับการบ้านข้อต่อไปค่ะ


โดย: roslita วันที่: 16 ตุลาคม 2550 เวลา:13:56:51 น.  

 
สายัณห์สวัสดีค่ะพี่ปอน ปอน
-------------------------------------
แบบว่า...เป็นสิวที่หน้าผาก เลยไม่ฝากคำเม้นท์
แวะอ่านทั้งเรื่องเขียน ทั้งเรื่องเม้นท์ของมิตรรักฯ อ้ายปอน
มาหลายรอบแล้วค่ะ ครั้งนี้พอจะบิวอารมณ์ได้นิดหน่อย
อะคึ่ ๆ


โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 16 ตุลาคม 2550 เวลา:19:41:17 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ปอน

(ขออนุญาตเรียกพี่ปอนนะคะ)
รู้จักเว็บพี่จากหนังสือไอน้ำ
เลยเข้ามาชมภาพเขียนสีน้ำของพี่ค่ะ
บ้านแบบเก่าๆ กับเรือแบบเก่า ดูยังไงก็มีเสน่ห์เสมอ ^ ^


โดย: อัญชา วันที่: 16 ตุลาคม 2550 เวลา:21:05:32 น.  

 


โดย: : ) IP: 117.47.10.189 วันที่: 16 ตุลาคม 2550 เวลา:21:58:33 น.  

 
สวัสดีเจ้าอ้าย

แวะมาเยี่ยมและส่งข่าวเจ้า
ว่า..ถ้าหากแวะมาแอ่วเจียงใหม่ช่วงวันที่ 13-31 ตุลานี้
ขอเชิญแวะที่..ร้านสายหมอกกับดอกไม้ เน่อเจ้า
เพราะว่าอ้ายไพฑูรย์ เปิ้นเหมาระยะยาว เพื่อจัดงาน
ให้กับ อองซาน ซู จี ชื่องานว่า
"ปลดโซ่ทองคำให้ ซู คยี"

แวะไปเยี่ยมชมบรรยากาศในงานได้จากBLOGของนายเจ้า



โดย: malarn cha วันที่: 16 ตุลาคม 2550 เวลา:22:55:58 น.  

 


แวะมาเยี่ยมค่ะ
สบายดีนะคะ

คิดถึงเสมอ



โดย: ป้าเเอ๊ด (addsiripun ) วันที่: 16 ตุลาคม 2550 เวลา:23:32:40 น.  

 
สวัสดีครับทุกท่าน

ผมแว่บเข้ามาดันประตูอันแสนอืดกระดึบกระดืบไปเก็บดอกรักที่บานร่วงบนพื้นหญ้า
มู๋ดีเจ้าขา
เรื่องริมเจ้าพระยาน่าเขียนจังเนาะ
ขอบคุณที่ถามไถ่ สบายดี มีความสุขกับสิ่งเล็ก ๆในริ้วรอยเวลา...

โมกสีเงิน
พี่ไม่ได้แอบไปนะ
หนูเหลือบตามองใต้ลายเซ็นเบื้องล่างขวาสิคะ
อย่างไรก็ดีใจที่มีคนติดตามงานเขียน

ว้าว...
เรือรักแล่นลิ่วเริงร่า
หลับตาแล้ว เร้วววววววว เดี๋ยวเรือรักล่ม.....

ใบข้าว
หนูหายไปครั้งไร ใจแป๋ววววว ๆ แป้วววววววๆชอบกล
ไม่มีคนส่งมุกเดะๆ มาให้ฮาแตก งานหนังสือ 17 -28 รึเปล่า อยากไปมั่กๆ แต่บังเอิญนัดน้อง ร.ไว้ (ดูรูปข้างบนก่อน สมควรไปนั่งตบยุงที่งานหนังสืออยู่รึ.....)
โชคดีมีพิมพ์ซ้ำครั้งที่3นะ งุงิ งุงิ....

กระโจมดาว
ใช่เลย ที่บรรยายมาทั้งหมดชัดแจ่มและเห็นจริง
(ทีแรกดูเบลอๆ)
เสียงฝนหยดใส่กาละมังสังกะสี และเสียงฝนหยาดชายคา
ใบคานั้นต่างอารมณ์ลิบ
หยิบภาพมาสร้างพจน์ ได้สดกระจ่าง
แบบนี้เขียนหนังสือรุ่งแน่
ที่เขียนมานี้ก็เกือบ ๆจะเป็นเรื่องสั้นเลยนะกระโจมดาว
ใส่ตัวละครเข้าไป ใส่เหตุการณ์ เคลื่อนไหว วางจุดประทับใจ-จบ....

อ่านกระโจมดาวเขียนถึงฝน
ทำให้รีบค้นบทกวีที่เคยเขียนไว้เมื่อครั้งไปเขียนรูปกับหมู่มิตรสหายที่ริมลำลาง ปางมะผ้า แม่ฮ่องสอน เป็นบทกวีรักบทหนึ่ง กรุณารอสักครู่และพบกับสิ่งที่น่าสนใจ-
....................
............
ดาริกามณี....
หลายฟ้าราตรีไม่มีดาว
เพียงหมอกฝนหม่นเหงาห่มราวฟ้า
และเหลืองเซียว ซีกเสี้ยวฝัน แห่งจันทรา
เจ้าหายหน้าไปไหนหนอ เด็กรอดาว...

นี่ก็เช่นกัน
ฝัน บน ภู
ปลูกบ้านอยู่เวียงดารา แต่หาดาว..

คงปลาย- ปลายเดือนดับ กลับไปเยี่ยม
ให้ตระเตรียมเมรัยไว้แก้หนาว
อาจบางทีมีเนื้อคู่ได้อยู่ยาว
ณ บัด นาว ต้นฉบับ เร่งฉับพลัน.....(ไม่นานเกินนอนนะภูนะ.ได้ไปแน่...)

ป้าจ๋า
เลิกเรียกเฮียเนี่ยเอาเท่าไหร่
จะเทใจให้น้อง แล้วล่องเรือ...กัลล์ ฮะฮา ฮะฮา...

น้องโรสลิต้า
ทายในใจว่า ไม่บุรีรัมย์ก็สุรินทร์
พอหนูบอกเล่าว่าสอนภาษาเขมร
ก็เลยคุยโม้ได้ ไหนใครว่ารู้หน้าไม่รู้ใจ

การบ้านที่ให้ไปหนูทำได้ดีมาก
ใช่เลย สามประโยคครอบคลุมหมดที่บรรยายมาสามย่อหน้า แถมเห็นภาพได้กลิ่น ได้อารมณ์คล้อยตาม
หนูเป็นนักย่อความที่ได้ความ
ครูพี่ปอนตัดเกรดAโดยไม่ลังเลใจ
ให้หนูลองไปใช้วิธีนี้กับเรื่องที่เขียนอยู่นะ

เรื่องภาษาเขมร
เห็นทีจะขอตัว มีเพื่อนเป็นเขมรหลายคน ฟังแค่พูด ก็ส่ายหัวดิก ยากส์มั่กมั่ก
ขอเอกเขนก หนุนเขนย สะเบยกว่า(เอ๊ะ เขียนไงนะ
เสบย สเบย งง..)
ว่าง ๆจะแอบย่องไปดูหนูสอนลูกศิษย์
ขอบใจสำหรับความห่วงใยอาทร
พักผ่อนให้มากนะ ทำบองปลาร้าให้ซะมีทานบ้าง
ฝรั่งเจอปลาร้าเข้า ติดใจทุกราย ไปไหนไม่รอด...ขอบอก

อ้ายยะสาวขอนแก่นยัง บ่ เคยมีแฟน บ้านอยู่แดนอีสาน
ปากคอเราะราน หวานถ้อยร้อยประชด
หน้าหมดสิวล่ะ บ่ ว่า อย่ามาเว่า เย้ายั่ว ผู้บ่าว
แค่เม้นท์แค่นี้ มีบิ้วววววววว
อะคึ่ อะคึ่

น้องอัญชา
ดูว่าจะเคยมาจริงๆ
ยินดีต้อนรับครับ
หนังสือไอน้ำนี่คนอ่านเยอะเนาะ
ไม่จำเพาะแต่วัยรุ่น
หนูดูภาพเขียนสีน้ำแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง
แล้วเว้บบล็อกนี้ ควรปรับปรุงอะไร
คนเลยวัยสะรุ่น เขาอยากรู้






โดย: สัญจร ดาวส่องทาง วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:0:26:31 น.  

 
ได้ค่ะ เดี๋ยวจัดให้ นะคะ เฮีย อุ๊บส์!!
เรียกเฮีย น่ารักดีออกค่ะ จั๊กกะเดียม จึ๋ย!จึ๋ย !
เช้าตรู่ วันพุธ อากาศสดชื่นจัง
หมาสามตัวข้างบ้านกัดกันแต่เช้า
ฮ่าๆๆๆๆ


โดย: ป้าซ่าส์ วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:7:09:31 น.  

 


โดย: ชจ IP: 202.29.77.2 วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:8:07:45 น.  

 
ป้าจ๋า
มาแต่เช้าเลยน้าท่าจะรักกันจริง หวังอิงปล่าแดก
แหกขี้ตาตื่นมาเหมือนกันเล้ย
เช้าวันพรู้ดดดดดดดดด
ต้อง
ส่งการบ้านน้องร.(คิดมาก ต้นบับหนะ....)


ที่รักของหนูเกาลัด
แอบไปดัดฟันมาเหรอ
มาทีไรก็เอาแต่ยิงฟันอวดจอบ
ไปล่ะ คอขาดดดดดด..
วันพรู้ดดดดดด


โดย: คนมาหาเฮีย(ห้ามเติมไม้โท) IP: 202.91.18.204 วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:10:57:42 น.  

 
บ้านร้าง..เรือไร้ใจรับรู้
จิตหดหู่ซึมซับความสับสน
หากผุพังก่อนเวลาเช่นค่าคน
ฆ่าแยบยลความหมายในหมายความ

สวัสดีค่ะพี่ปอน
สีแห่งความทรงจำหรือร่องรอยกาลเวลา
มันเป็นโทนสีซีเปียแบบนี้หรือคะ
เรียกไปตามที่เข้าใจน่ะค่ะ
เงาสะท้อนในน้ำ..
สะท้อนเพียงว่าต่างดำรงอยู่..เท่านั้น

ด้วยว่าช่วงนี้น้ำหลาก
ชาวบางบาลขนเรือท้องแบนขึ้นบ้านผูกไว้เป็นแถว
จากที่เคยแบกกันไว้ใต้ถุนเรือน
ด้วยพระนครศรีอยุธยาเป็นเมืองน้ำล้อมรอบอยู่แล้ว
น้ำมากอีกปี ข้าวตั้งท้องต้องแท้ง
ความเสียหายประดังประเดเข้ามา

ภาพเรือเป็นบ้านหรือบ้านเป็นเรือเคยเห็นอยู่ค่ะ
เข้าใจว่าวิถีชีวิตคนริมฝั่งแม่น้ำจะคล้าย ๆ กัน
เห็นภาพนี้แล้ว..
นึกไปถึงเรือนไม้ของปู่ที่ไม่มีลูกหลานอยู่ค่ะ


พี่ปอนสบายดีนะคะ


โดย: ภูเพยีย วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:11:24:13 น.  

 
หนูมาตอนเที่ยง หนูก็รัก เจ้าชายฯ ของหนูไม่น้อยกว่ากันนะคะ (แขวะป้าซ่าส์)

นู๋พลาดผิด ที่ไม่ดูลายเซ็นต์ แต่หนูจะตามเจ้าชายฯ ของหนูไปทุกที่เลย


โดย: โมกสีเงิน วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:12:27:02 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณครูพี่ปอน

หนูขอบคุณมากค่ะ ที่คุณครูพี่ปอนให้คำแนะนำที่ดีกับหนูเสมอมาค่ะ และดีใจที่สุดเพราะหนูได้เกรด A ด้วยแหละ ใช่ A = Apple หนึ่งลูกเหมือนที่เด็กนักเรียนฝรั่งได้จากคุณครูหรือเปล่าค่ะ? (หนูหยอกเล่นค่ะ แค่อยากเล่าเรื่องเด็กฝรั่งให้ฟังเท่านั้นเองค่ะ อิอิ)

หนูไม่ใช่สาวจากสุรินทร์หรือบุรีรัมย์แต่อย่างใดค่ะ
หนูเป็นลูกสาวเมืองแม่ศรี-ษะ-เกษ -เขตพนมดงรักษ์ ติดเส้นทางเมืองกำปงพิราธานี (ชื่อเมืองในนิยายของหนูเองค่ะ ชื่อเรื่อง ตำนานรักมณีอัปสรา ค่ะ เขียนเรื่องนี้เขียนได้สามสิบหน้าค่ะ แต่ต้องหยุดพักผ่อน เพราะงานรัดติ้ว ๆ เลยค่ะ) แถว ๆ บ้านหนูมีปราสาทขอมล้อมรอบค่ะ ใคร ๆ ก็บอกว่าเป็นลูกหลานเผ่าพันธุ์ข้าราชบริพารพระเจ้าชัยวรมันค่ะ หรือที่ใคร ๆ มักจะเรียกว่า..."เนียงอัปสรา"... ค่ะ แต่ไม่ดื่มสุรา ชอบรับประทานข้าวหมากหวาน ๆ เท่านั้นค่ะ อิอิ

เผ่าพันธุ์ของท่านพ่อของหนูอพยพมาจากกัมพูเจียเมื่อหลายร้อยปีค่ะ จากนั้นก็มาตั้งหลักปักฐานอยู่ที่เมืองสุรินทร์ถิ่นคนกินสุราค่ะ ท่านพ่อบอกหนูว่า พอดีมีโรคห่า (ท่านพ่อบอกแบบนี่จริง ๆ ค่ะ) ระบาดขึ้นมา ท่านพ่อก็เลยอพยพครอบครัวมาอยู่ที่ศรีสะเกษ เขตลุ่มน้ำห้วย ร่ำรวยไปด้วยถิ่นดงลำดวน มากล้วนไปด้วยคนเขมร ลาว ส่วย ค่ะ ส่วนคนที่พูดไทยนั้นมีแต่คุณครูเท่านั้นค่ะ แต่พอคุณครูมาอยู่ได้ไม่นาน ก็พากันพูดเขมรชัดแจ๋วเลยค่ะ

นี่แหละค่ะประวัติย่อ ๆ ของหนูค่ะ...ผู้จากบ้านมาไกล....แสนไกล ๆ แต่คิดถึงไหปลาร้าปลาจ่อมตลอดเลยค่ะ อิอิ คุณซะมีก็ติดปลาร้าปลาจ่อมเช่นเดียวกันค่ะ นอกนั้นก็ยังชอบสะตอเป็นชีวิตจิตใจด้วยค่ะ บ้านหนูไม่มีครัวฝรั่งหรอกค่ะ...หนูทำอาหารไทยอย่างเดียวค่ะ คุณซะมีก็ทานอาหารไทยได้ตลอดค่ะ เวลาคุณซะมีทานอาหารฝรั่งทีไร ท้องไส้ไม่ดีทุกที ก็เลยต้องจมอยู่กับอาหารไทยฝีมือหนูค่ะ...พี่สาวมักจะบอกหนูว่า...เสน่ห์ปลายจวัก ปั๋วรักจนตายค่ะ หนูไม่รู้ว่าพี่สาวหยอกเล่นหรือเปล่า แต่หนูก็พยายามทำอาหารบ่อย ๆ และทำเป็นประจำค่ะเวลาได้ทำอาหารให้คนที่เรารักทานมันมีความสุขจริง ๆ ค่ะ

วันนี้นักเรียนของหนูยังไม่เข้าห้องเรียนกันเลยค่ะ สงสัยมาสายกันค่ะ หนูคงจะต้องตัดคะแนนจิตพิสัยแล้วค่ะ ขืนปล่อยให้นักเรียนเป็นแบบนี้ไม่ดีแน่เลยค่ะ แล้วถ้านักเรียนถูกตัดคะแนนเยอะ ๆ คุณครูเนียงคนนี้ก็จะปรับนักเรียนทุกคนให้เลี้ยงข้าวแทนค่ะ (หยอกเล่นค่ะ)

ไม่ทราบคุณครูพี่ปอนเป็นเหมือนหนูไหมค่ะ? บางครั้งเวลาเขียนนิยายหนูก็อินมากๆ เลยค่ะ ประเภทร้องไห้ตาปูดตาบวมนะคะ แต่หนูนี่ตีบทแตกกว่านางเอกในนิยายเสียอีกค่ะ หนูอยากรู้ว่า หนูผิดปกติเกินไปหรือเปล่าค่ะ? เพราะหนูไม่รู้ว่านักเขียนเก่ง ๆ อย่างพี่เป็นแบบนี้หรือเปล่า?

หนูขอให้คุณครูพี่ปอนมีความสุขมากๆ ค่ะ มีสุขภาพสมบูรณ์ สดชื่นสบายใจนะคะ


โดย: roslita วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:13:05:38 น.  

 


บ้านไผน๊อ...ฟ้ากว่าฟ้าต๋อนหน้าฝน
บ้านไผน๊อ.....เดียวหลังเดี่ยวเขียวล้อมราย




บ้านไผน๊อ.....เจ้าเป็นไผใจจะกึดเติงหาสักน้อยก่อหา

อ้ายปอน.....
อุตสาหกรรมน้ำปู๋กำลังเข้มข้น...
แวะลงกอยแล้วกั๊ดอก..กั๊ดใจ...
ต้องไปเซาะหาบ่าโอมายำใส่น้ำปู๋......

สีท่าบ้านดินจะเป็นบ้านพักฉุกเฉินของน้องงูเหียล่ะก๊า.....
สิงสา.....ลำกว่าไก่เน้ออ้าย....

ต๊อกกับเหล้าขาว....หอนกันสุดคืน



โดย: ปลายแปรง วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:13:31:24 น.  

 
สวัสดีรอบค่ำค่ะ

เขินจัง ตอนที่พี่ถามความเห็นเรื่องรูปร่างหน้าตาของบล็อก
ความจริงก็คืออัญก็เลยวัยสะรุ่นไปแล้วเหมือนกันค่ะ ^ ^
แต่ก็ชอบซื้อไอน้ำมาอ่าน คือ นอกจากเชคว่ามีงานตัวเองผ่านหรือเปล่า ก็อาศัยอ่านข่าวคราวของคนในแวดวงเดียวกันไปด้วยค่ะ

ที่พี่ถามเรื่องหน้าตาบล็อกนั้น โดยส่วนตัวอัญว่าสีโทนนี้เก๋ดีออกค่ะ ดูขรึมแต่ไม่เก่า ออกคลาสสิคซะด้วยซ้ำ

รูปสีน้ำบ้านร้าง-เรือไร้ที่พี่ลงไว้ก็งามค่ะ รายละเอียดครบถ้วนสมบูรณ์ชนิดที่คนแวะที่มาชื่นชมงานสีน้ำอย่างอัญดูแล้วก็ต้องแอบถามตัวเองว่า... "เมื่อไหร่ฉันจะทำได้แบบนี้หนอ"




โดย: อัญชา วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:18:35:41 น.  

 
เอ้อ!พี่ขา พี่คะ
เอ้อ !มันไม่เข้ากับรูปปากเค้าอ่ะค่ะ เฮีย !!
ขอยกไว้ซักคนเหอะ เรียกเฮีย
มันฟังดูยิ่งใหญ่ เป็นเอกลักษณ์
ของเอกบุรุษอย่างแท้จริง
( คล้ายๆโฆษณากุงเกงลุงนิ อิอิ )
แวะมาโบกมือลาสักเจ็ดแปดวันค่ะ
อย่าลืม คิดถึงกันล่ะ
แต่มั่นใจว่าเฮียคิดถึงเค้า
อยู่แล้วนิ คนบ้าๆๆโชดาฉิง
ใครจะลืมลงเน๊าะ

ปอ ลอ มาคุยอย่างเดียวฮ่ะ
ไม่ได้มานั่งเรียนนิ เน๊าะเฮีย


โดย: ป้าซ่าส์ วันที่: 18 ตุลาคม 2550 เวลา:7:05:38 น.  

 
คอมเม้นบล็อกนี้อ่านสนุกดีแฮะ

พี่ปอนมาตอบแต่ละที
ฮาขี้แตกขี้แตนเรย

ฮี่ๆ



โดย: ชจ IP: 202.29.77.2 วันที่: 18 ตุลาคม 2550 เวลา:13:12:17 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณปอน
เห็นรูปเรือแล้ว ก็ชวนให้นึกถึง ที่บ้านมีเรือติดเครื่อง
อยู่ 2 ลำ คุณพ่อเรียกว่าเรือแท็กซี่(จนเดี๋ยวนี้ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเรียกอย่างนั้น) สมัยก่อนคุณปู่ใช้เรือสองลำนี้ขายโชห่วยทางน้ำค่ะ เริ่มตั้งแต่สามเสนไล่เรื่อยไปถึงปทุมธานี
ปัจจุบันขายไป 1 ลำ ก็เลยเหลือเพียงลำเดียว ไว้เอาของไปส่งให้คนตามคลองเล็ก ๆ ที่รถเข้าไม่ถึง อย่างเกาะเกร็ดงัยค่ะ น้าชายเอาใจหลาน ๆ ซื้อเรือยาว ๆ เหมือนเรือหางยาว มีเครื่องด้วย แต่ว่าวันลอยกระทงจะเอาเครืองออก แล้วก็ใช้พาย พายไปกลางลำน้ำเจ้าพระยาเพื่อลอยกระทง ได้บรรยากาศไม่เหมือนใคร ไม่ต้องเบียดผู้คนบนริมฝั่ง และก็ได้บรรยกาศคืนวันเพ็ญ นี่ก็ใกล้ลอยกระทงแล้ว ปีนี้วันเสาร์ซะด้วย คงจะได้สนุกกันหล่ะ


โดย: oa (rosebay ) วันที่: 18 ตุลาคม 2550 เวลา:20:57:02 น.  

 
ขอบคุณเจ้าที่แวะไปเยี่ยมที่ blog
วันนี้นายเพิ่งจะ up blog ใหม่
มีข้าวผัดบะลิดไม้(สูตรเฉพาะมาลานชา)
และน้ำพริกลีซอ(สูตรบ้านนาเลา ดอยหลวงเจียงดาว)
ลำขนาดเจ้า..

อ้ายปอนแวะไปดูฮูปก่อนน่อ
เดียวถ้ามาถึงเจียงใหม่ละ...
คะเจ้าจะยะฮื้อจิม


โดย: malarn cha วันที่: 18 ตุลาคม 2550 เวลา:22:30:56 น.  

 
งุงิ...งุงิ พี่ปอนจ๋า หนูไปงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติมาแล้วค่ะ ไปตอนเย็นของวันที่ 17 เลย ไม่ได้กลัวว่าต้องรอเหมือนปีก่อนๆ แต่บังเอิญตื่นมา แล้วพบว่า มัน5โมงเย็นแล้ว และไม่มีอะไรทำแก้เซ็ง เลยไปเดินเล่นๆ แต่ได้หนังสือกลับมา 2 ถุงใหญ่ค่ะ ถุงผ้ากู้โลกเอาไม่อยู่ นี่ขนาดหนูไปแค่ 2 บูธนะคะ อักขระบันเทิงที่ใจดีพิมพ์ยิ้มให้กับความทุกข์ฯของหนู) และทีวีบูรพา แล้วก้อได้หนังสือของพี่ปอนมาด้วย "ฟ้ายังมีที่ว่างให้เธอวาด" อะค่ะ ออกมานานเนแล้ว แต่ตอนที่หนังสือออกมาใหม่ หนูยังยากจนข้นแค้น ต้องแบ่งเงินไว้สำหัรบค่ารถไปทำงานประจำอยู่เลยไม่มีโอกาสได้เป็นเจ้าของ ตอนนี้หนูไม่ต้องเสียเงินค่ารถไปทำงานทุกวันแล้ว เลยสนองตัณหาตัวเองซะบานตะไทเลยค่ะ
วันนั้นเจอพี่ต๊ดดดดโดยไม่ได้นัดหมายที่บูธของสามัญชน ที่แท้เธอก้อหนีตามอุเทน พรมแดงไปนี่เอง 555 ป่านนี้ยังไม่โผล่หน้ามา ไม่รู้ว่าโดนอุเทนล่อลวงไปปล่อยไว้ที่ไหน คิกๆ
งุงิ...งุงิ หนูยังคงไปอีกเรื่อยๆ เพราะยังอยากได้หนังสืออื่นๆอีกมากมาย และวันที่ 27 หนูตั้งใจจะไปสิงอยู่ที่บูธอักขระฯด้วยแหละค่ะ นัดกะเพื่อนนักเขียน และคนอ่านหลายๆคนเอาไว้ แล้วหนูจะได้เจอพี่ปอนมั้ยน๊อ...งุงิ งุงิ

เอ้อ...พี่ปอนวันนี้หนูไปกินหมูกะทะกะเพื่อนๆมาแหละ เพิ่งรู้ว่าจริงๆแล้วเค้าไม่ได้เอาเนื้อหมู เนื้อไก่มาให้เรากิน แต่เป็น "เนื้อช้าง" แหละค่ะ งุงิ...งุงิ เพราะว่า "มันมีงา" อะ มีงาเยอะแยะไปหมดเลยค่ะ งาสีขาวๆ อร่อยแซบบบบบ

งุงิ...งุงิ ตึ้งโป๊ะ 1 มุก แป้กๆ แล้วไปนอน งุงิ...งุงิ


โดย: ใบข้าว IP: 58.9.40.188 วันที่: 19 ตุลาคม 2550 เวลา:2:40:49 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณครูพี่ปอน

วันนี้หนูแวะมาเยี่ยมค่ะ มาเล่าเรื่องนักเรียนภาษาเขมรของหนูให้คุณครูพี่ปอนฟังค่ะ

นักเรียนของหนูน่ารักทุกๆ คนเลยค่ะ แม้จะมีนักเรียนไม่กี่คน แต่หนูก็รักนักเรียนทุกคนเลยค่ะ...นักเรียนดูสนใจวิชาที่เรียนเป็นอย่างมากค่ะ พิเศษสุดก็ พี่บองโมกสีเงิน และพี่บองเป็ดจังค่ะ (เพื่อนพี่โมกค่ะ) สองคนนี้ท่าทางจะได้เกรด A = Apple ไปทานคนละลูกค่ะ

ส่วนนักเรียนคนอื่น ๆ ก็น่ารักไม่น้อยไปเลยทีเดียว ทำให้คุณครูเนียงหนูคนนี้ปลื้มมาก ๆ ค่ะ

หนูแวะมาทักทายและเล่าเรื่องนี้ให้คุณครูพี่ปอนฟังสนุก ๆ ค่ะ จะได้ไม่เครียด...อิอิ

หนูขอให้คุณครูพี่ปอนมีความสุขมากๆ มีแต่ความสบายกายสบายใจ และอยู่ใกล้ ๆ อากาศที่สดชื่นพร้อมทั้งธรรมชาติที่สวยงามค่ะ


โดย: roslita วันที่: 19 ตุลาคม 2550 เวลา:7:20:01 น.  

 
ขอโทษทีครับป้าแอ๊ดแอบย่องตามหลัง
ไม่ระวังเกือบชนเข้ากัน
ไม่ค่อยสบายดีแล้วครับ
ใจมันสับสนวายวุ่น
กำลังจะขึ้นเขาเหลียงซานไปบำเพ็ญภาวนา
ยุบหนอพองหนอ ยุบหนอพองหนอ

มาลานชาของฐากูร
ขอบคุณที่มาส่งข่าว
คิดถึงดาวริมฝั่งแม่ระมิงค์
และแม่ญิงน้ำใจงาม
ยามนี้ใจ๋ปี่อ้ายมันบ่าตั้งอี่น้องอี่นายเหย...

ภูเพยียเป็นคนบางบาลรึเปล่าน้อ
รอคอย ลอยคอ อะไรก็ไม่รู้สักอย่าง
ระหว่างความจริงและความฝัน
อยู่กับวันนี้ดีที่สุดใช่ไหม
ปัจจุบันสมัย ทุกเสี้ยวนาฑี
ให้ดีงาม
แต่ความทุกข์สุขก็ไม่ใช่แค่ตัวหนังสือ
มันคือชีวิตจริงๆ เต้นเร่า มีลมหายใจ
กระเส่า ร้อนรุ่มร้อนเร่า เยี่ยงสามัญชน
เหตุนี้กระมัง คือที่มาแห่งศิลปกรรม
เพ้อพร่ำเพราะพิษไข้ในหัวอก

โรสลิต้า
เหมือนกันเลยหละ
ไม่ค่อยดีเลยนะ อินมากๆ
ใจมันผากๆ เมื่อดวงตารื้นฉ่ำด้วยน้ำตา
ว่าจะขุดบ่อน้ำตาลงอีก ให้ลึกถึงก้นบึ้งบาดาล
รวมทั้งเทซีเมนต์กั้นทำนบใจให้เข้มแข็ง
ศรีสะเกษกับสุรินทร์ถิ่นใกล้เคียง
สำเนียงเดียว
พี่ทักเฉียดไปนิด
ศรีสะเกษมีนักเขียนนักกวีอยู่หลายคนนะ
สังเกตเวลาหนูเขียนถึงที่ถิ่น สำนวนราบรื่นน่าอ่าน
นางอัปสราน่าจะเป็นนิยายย้อนยุคใช่ไหม
น่าสนใจนะ...

ปลายแปรงใจร้าย
เด๊ยวเจ้าของบ้านร้องไห้ไม่รู้ด้วย
แง แง แง......

อัญชา
ซื้อกระดาษ สีไว้เลย
จะพาไปวาดรูป

จะไปไหนอีกล่ะที่รักของบุญรอด
แปดวันจาก-ซะมีเป็นอื่น ระวังเนอ
ซ่าสดจนหยดสุดท้ายเลยนะเรา....

จ...จริงเหรอชมจันทร์
สัปดนวันละนิดจิตแจ่มใส คุณตาประยูร จรรยาวงษ์ว่าไว้


ตอบข้อข้องใจหนูโอ๋ ทำไมเขาเรียกเรือแท็กซี่
ก็เพราะใช้ขึ้นล่องรับส่งผู้โดยสารไง สมัยก่อนเดินทางกันทางน้ำส่วนใหญ่ บางแห่งก้ใช่เป็นเรือข้ามฟาก ปัจจุบันเป็นเรือลากจูง ยังมีให้เห็นที่เจ้าพระยา
พูดถึงคุณปู่แล้วนึกภาพออกเลย แมนมาก เชื่อไหมเป็นคนหลงใหลเรือชนิดนี้มาก
สมัย(ก่อน)ไปสร้างเหย้าที่ริมยม ชุมแสง เมืองชอนตาวัน
ไปชมแควน่านมาพบปิงที่ปากน้ำโหม่(โพ)
เห็นเรือแท็กซี่เยอะเลย ว่าให้เขาล่องแม่น้ำไปเก้าเลี้ยว
เพราะจำได้จากนิยายบู๊ของนักเขียนใหญ่มาลัย ชูพินิจ
คนเรือหัวร่อกันใหญ่ บอกว่านั่งรถไปเถอะสะดวกสบายกว่า เรือย้อนทวนน้ำไปก็ร่วมวันได้ ไม่คุ้มหรอก...
ฮา ฮา ลอยกระทงอีกแล้วหรือนี่
ชวนพี่ๆแถวนี้ไปล่องเรือคืนเพ็ญด้วยสิ(ถ้าไม่กลัวเรือล่มนะ...)
ขอบคุณนะที่มาเยี่ยมเยือน



โดย: สัญจร ดาวส่องทาง วันที่: 19 ตุลาคม 2550 เวลา:11:22:51 น.  

 


ไม่ได้มาหาอาปอนหลายวัน คิดถึงจัง


โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) วันที่: 19 ตุลาคม 2550 เวลา:13:33:52 น.  

 
เฮียค่ะขอบคุณที่ไปเยี่ยมพ่อบู
เย็นนี้เค้าจะไปหาพ่อบูมั่งพรุ่งนี้
คงได้พบกัน แต่อยากพบแบบพ่อบูแข็งแรงมากกว่า

ปอ ลอ ดีจังเฮียมาทุกวัน ชอบ ชอบ

หายไปก่อนน่ะถ้าแว๊บได้จะเข้ามาส่อง ส่อง เฮีย



โดย: ป้าซ่าส์ วันที่: 19 ตุลาคม 2550 เวลา:14:57:40 น.  

 
คอมเม้นต์บางอัน ตลกจังค่ะ


โดย: แวะมา IP: 76.208.7.31 วันที่: 19 ตุลาคม 2550 เวลา:21:23:56 น.  

 
อ๋า....มิน่าจามฟุดฟิดๆๆ โดนใบข้าวมาหย่อนระเบิดไว้ที่นี่เอง

ใบข้าวพูดอย่างนี้เดี๋ยวอุเทน (นักเขียนรูปหล่อ) เขาจะเสียหายเอานา (เพราะพี่อ้ะ ไม่มีอะไรจะเสีย...ฮา) ทำไมไม่บอกให้เคลียร์ๆ ว่าพี่เดินตามอุเทนกับจักษณ์ไปรับประทานอาหารมื้อค่ำกันตะหาก เพราะถ้าจะมีการล่อลวงกันละก็...พี่นี่หละจะเป็นคนล่อสองหนุ่มนั่นไปลวงเอง ฮี่ๆๆๆ

นู๋ติ๊ดไม่ได้หายไปไหนนะคะพี่ปอน ไม่ได้หนีตามใครไป (ส่วนใหญ่มีแต่คนหนีตามนู๋มามากก่า อิอิอิ) นู๋เข้ามาแก้ข่าวให้รกบล็อกพี่ปอนเล่นอีกแล้ว พี่ปอนสบายดีนะคะ ว่าจะคิดถึงพี่ปอน แต่ไม่ดีกั่ว เพราะคนคิดถึงพี่ปอนเยอะแว้ว คริคริ


โดย: tidds วันที่: 20 ตุลาคม 2550 เวลา:1:18:13 น.  

 
เข้ามาดูบ่อยๆแต่ก็ไม่ได้เม้นไว้ พี่ปอนนี่ไม่ว่าจะอย่างไรที่ไหนเมื่อไหร่ก็ญาติเยอะเสมอ อุ่นใจดีจังเลยนะอย่างนี้ คิดถึงครับผม


โดย: ธาธันยา IP: 203.130.159.3 วันที่: 20 ตุลาคม 2550 เวลา:1:36:13 น.  

 
สวัสดีครับน้าปอน
น่าสงสารเรือลำใหญ่ในภาพนะ.....ถ้ามันมีชีวิต
ผมว่ามันมีชีวิตนะ เพียงแต่มันพูดไม่ได้เท่านั้นเอง....
มันสื่อสารกับเราโดยการสัมผัส
รับความรู้สึกได้ เมื่อมีคนมานั่งโดยสาร
ถ้าใครเคยมีเรือ หรือเคยนั่งพายเรือ ลองหลับตานึกดูซิ
ความรู้สึกครั้งแรก ตอนที่เราขึ้นไปนั่งในเรือ
รู้มั๊ย เรือถ้าเอาขึ้นจากน้ำเมื่อไหร่
ไม่นาน มันจะรั่ว เนื้อไม้จะแยก กลายเป็นซากไม้ ผุ ๆ
แต่ถ้ามันอยู่ในน้ำ มันก็อยู่ได้ตลอดฤดูนั่นแหละ
บ้านผมเคยมีเรือ เป็นเรือแจวลำเล็ก ๆ
คนที่รู้จักกับพ่อให้มา เอาไว้ใช้ดักข่ายหาปลา
กับเก็บดอกโสนและผักบุ้ง ที่ขึ้นในคลอง
บ้านผมถูกน้ำท่วมทกปี แม้กระทั่งเดี๋ยวนี้
หน้าน้ำ เรือเป็นพาหนะสำคัญ ในการหาปลา
และทำกิจวัตรอื่น ๆ
ตอนปกติ เวลาหน้าร้อนน้ำแห้ง เราจะเก็บเรือไว้บนบก
เอาเทินไว้กับถัง หรือขอนไม้ ตลอดช่วงเวลาที่ไม่ได้ใช้
แต่ถ้าฤดูฝนมาถึง ก็รอเวลาว่าเมื่อไรจะถึงช่วงน้ำหลาก
น้ำจะล้นมาจากแม่น้ำ ใหลเข้ามาในเขตไร่ยาสูบ
ท่วมแปลงปลูกผัก ท่วมสระหลังบ้าน ที่เขาเลี้ยงปลาไว้
จนมาท่วมรอบ ๆ บ้าน บางปีท่วมขึ้นมาจนถึง
พื้นดินที่ถมปลูกบ้าน เมื่อนั้นหล่ะ
แม่จะเอาเรือจากใต้ถุน ออกมาคว่ำ ผึ่งแดดไว้
รองด้วยขอนไม้ แล้วก็เอาชันมายาตามรอยแยก ของเนื้อไม้ ตามท้องเรือ และกาบเรือ ตากแดดไว้ 3-4 วัน
พอน้ำมาท่วมในระดับที่ลึกพอ แม่ก็จะให้ลูกน้อง
หรือคนงานที่บ้าน ช่วยกันยกเรือลงน้ำ
ผมหัดพายเรือครั้งแรก ตอนอายุ 13 ปี
เวลาพายเรือ ต้องค่อย ๆ พายประคองทีละข้าง ช้า ๆ
ถ้าพายเร็ว เรือมันจะไม่ค่อยไป แถมเหนื่อยอีกต่างหาก
หรือถ้าพายอยู่ข้างเดียว เรือมันก็จะหมุนเป็นวงกลม
คนพายต้องค่อย ๆ พาย ข้างซ้ายที ข้างขวาที
แล้วคนที่นั่งในเรือ ต้องนั่งนิ่ง ๆ นะ อย่าขยับตัวบ่อย ไม่งั้นเรือมันจะโคลง ยิ่งถ้าคนที่ไม่เคยนั้งเรือขึ้นไปด้วยละก็ มีโอกาสทำเรือล่มสูง เพราะนั่งไม่นิ่งนี่แหล่ะ
แต่ถ้าพายได้จนคล่องเมื่อไหร่ จะทำเท่ยืนพายก็ยังได้
ผมก็เคยยืนพายเหมือนกัน แต่หวิด ๆ จะทำเรือล่มทุกที่
เรือแจวลำเล็ก ๆ ปกติจะนั่งได้ไม่เกิน 3 คน
ส่วนใหญ่ก็จะนั่งแค่สองคนหัวท้าย ช่วยกันพาย
หรือบางทีคนอยู่ท้ายคอยพาย คนอยู่หน้าคอยกู้ข่าย
เก็บปลา ปลาหมอ ปลากระดี่ ปลาตะเพียนปลาสร้อย ปูก็มี
หรือบางทีก็เจองูอยู่หลายหนเหมือนกัน เวลาเจองู ไม่มีใครกล้าไปปลดเลยหรอก ต้องรอ ทิ้งไว้หลายวัน จนมันตายนั่นแหละ จึงจะไปปลดทิ้ง
กับข้าวอีกอย่าง ที่หาได้ตอนหน้าน้ำ ก็คือดอกโสน
ดอกโสนสีเหลืองอร่าม ชูยอดเป็นพุ่ม อยู่เหนือน้ำ
ตลอดข้างทาง ริมคลอง และบางต้นก็ขึ้นอยู่กลางน้ำ
จริง ๆ แล้วมันไม่ได้ขึ้นในน้ำหรอก มันขึ้นบนบกนี้แหละ
แต่เผอิญน้ำมันมาท่วมทีหลัง ก็แปลกเหมือนกัน
ทำไมมันไม่ตายตอนน้ำท่วม ทั้ง ๆ ที่ต้นไม้อื่นเวลาโดน
น้ำท่วม ไม่กี่อาทิตย์ก็ตาย
ดอกโสนเป็นอาหารพื้นบ้าน ที่มีกินในฤดูฝน
แต่มีมากช่วงน้ำท่วม หรือหน้าน้ำนี่แหละ จะเอาไปชุบไข่ทอด หรือจะเอาไปต้ม ไปผัดน้ำมันก็ดี กินกับน้ำพริก
ถ้าเป็นน้ำพริกกะปิ จะได้รสชาดยิ่งขึ้นไปอีก กินกับปลาหมอตัวโต ๆ ปิ้งจนมันตก กลิ่นหอม รึจะเป็นปลากระดี่
ใส่เกลือทอดกรอบ อร่อยทั้งนั้น
พูดถึงเรืออยู่ดี ๆ ทำไมเลยไปถึงกับข้าวก็ไม่รู้ซิ
ตอนนี้ เรือลำนั้นพ่อให้ น้าที่เป็นญาติกัน เอาไปใช้นานแล้ว
ไม่รู้ว่า จะเป็นยังไงบ้าง จะกลายเป็นแค่ ซากไม้ผุ ๆ
ทิ้งไว้ใต้ถุนบ้านรึเปล่าไม่รู้นะ ...

... เรือลำเล็ก ๆ แต่บรรทุกความทรงจำ ที่ยิ่งใหญ่ไว้





















โดย: กระโจมดาว IP: 125.24.53.97 วันที่: 20 ตุลาคม 2550 เวลา:23:54:06 น.  

 
คิดถึงพี่ปอน...ตอนนี้อยู่ไหนนะ


โดย: ขอความรักบ้างได้ไหม IP: 58.9.137.83 วันที่: 25 ตุลาคม 2550 เวลา:14:09:17 น.  

 
สวัสดีครับทุกท่านที่ผ่านทาง
ไม่คิดว่าจะมีคนน่ารักแว่บมาข้างหลัง
ทั้งป้าซ่าส์ แวะมา และหนูติ้ด
คิดถึงและคิด ไม่ ถึง
ไปเจออุเทนงานไหน ยังมีจักษณ์ด้วย
ใจคอจะไม่เหลือให้สาวใบข้าวเลยนิ คริ คริ

กระโจมดาวครับ
ผมชอบที่คุณเขียนมาก
ได้บรรยากาศมาก
คงเนื่องเพราะผมเป็นเด็กบ้านนอก
ชอบดอกโสนนะ ผัดไข่ก็อร่อย ผัดน้ำมันเฉย ๆก็เอร็ด
ลวกกับน้ำพริกก็เด็ด
ผมเพิ่งไปเจองานแบบนี้ในบล็อกของคุณน้ำตาลหรือไงนี่แหละ คนเขียนชื่อทิดโส เขียนเรื่องบ้านนอกบ้านนาน่าอ่านมาก คุณเขียนเป็นเรื่องๆสิครับ
เรื่องพายเรือนี่ ก็สนุกตายแล้ว
เชื่อไหม ป่านฉะนี้ผมยังพายเรือไม่เป็นเลย ที่บ้านเขาแจว(ถ่อ)เพราะเป็นหนองน้ำ แต่ก็พอได้แค่นั้น
เด็กบ้านนอกลูกแม่น้ำลำคลอง ตัวจิ๋วยืนพายขาเดียวยังได้
ตอนอยู่ริมแควยม ผมขุดเรืออีโปงลำหนึ่ง ใช้ได้ไม่กี่เดือน หน้าน้ำผูกไม่ดี น้ำพาไหลล่องหายลับ เสียดายลงทุนโค่นไม้ตาลตั้งหนึ่งต้น...

ขอความรักบ้างได้ไหม
นามอย่างนี้ ก็แสดงว่าเป็นมิตรเก่าเนานาน......
อยู่ที่ไหนเหรอ.... แอบอยู่ในความทรงจำแสนอุ่นของคุณนั่นแหละ...คิดถึงกันก็หันหน้ามองดาวบนฟ้า (เอ๊ย) มาที่ห้องนี่แหละจ้า ว่าแต่ว่า คุยกับคนที่มีผ้าคลุมหน้านี้ เสียงพูดจะได้ยินไม่ชัดนะ ว่าไหม...


โดย: สัญจร ดาวส่องทาง วันที่: 25 ตุลาคม 2550 เวลา:22:43:42 น.  

 
โอโห...พี่ปอนด์มาตอบรวดเร็วทันใจสุดๆ เลยคะ
ตอบอย่างนี้สมเป็นเจ้าชายแห่งความฝันซะจริงๆ

อากาศเย็นแล้วดูแลตัวเองด้วยนะคะ


โดย: ขอความรักบ้างได้ไหม IP: 58.9.145.249 วันที่: 29 ตุลาคม 2550 เวลา:17:30:05 น.  

 
อยากได้


โดย: ออม IP: 124.121.50.154 วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:18:27:41 น.  

 
ติดต่อพี่ไม่ได้เลยค่ะ

โทรกลับพี่ชีวีด่วนๆๆๆๆ
เรื่องนายอินทร์


โดย: ขอความรักบ้างได้ไหม IP: 58.9.154.107 วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:24:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สัญจร ดาวส่องทาง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




บ้านความรัก พิบูลศักดิ์ ละครพล w e l c o m e t o P i b u l s a k L a k o n p o l' B l o g s
"พิ บู ล ศั ก ดิ์ ล ะ ค ร พ ล" มีคนถามพิบูลศักดิ์ ละครพล ว่า คุณเป็นอะไรแน่ ? นักเขียน กวี นักดนตรี คนเขียนรูป คนขายฝัน เขาตอบยิ้มๆว่า "ผมเป็นอย่างที่ผมเป็น"....
.............................
"วัยฝัน วันเยาว์"....... เด็ก ๆ จะสร้างบ้านขึ้นด้วยปุยเมฆ เล่นกับก้อนหินที่เก็บมาจากชายหาด เก็บเอาวิชาเลขคณิตไว้ในกระเป๋ากางเกง และฉีกกระดาษสมุดจดงาน มาพับเป็นเรือกระดาษล่องแม่น้ำ....
..........................
"บ้านดวงใจ" นวนิยายที่ทำให้ทุกหัวใจอิ่มเอม และเต็มไปด้วยความสุข เรื่องราวของความรัก ความผูกพันระหว่างพ่อกับลูกสาว ที่ไม่ต้องบอกว่า "รัก" ด้วยคำพูด ....
............................
"ชูมาน" กาลเวลานั้น ไม่สามารถลดทอน ความสวยงาม น่ารัก เหงา เศร้า และสะทกสะเทือนใจ ของนวนิยายเรื่องนี้ได้เลย....
..............................
"ขอความรักบ้างได้ไหม"..... ระหว่างหญิงหนึ่งชายสองที่มาพบกัน มีชีวิตร่วมทุกข์ร่วมสุขกันในช่วงสั้นๆ จากฤดูร้อนที่ทองกวาว ฉายฉานเต็มท้องฟ้า ถึงฤดูฝนที่เต็มไปด้วยเมฆสีเทาทึบ ล้วนเป็นคนที่มีหัวใจแตกร้าวมากับครอบครัว..
.....................................
"คือวารวันอันแสนอุ่น" ห้วงความรู้สึกอันงดงามในวันวาน ระหว่างฉันกับผู้ที่ฉันศรัทธา มิตรสหายอันเป็นที่รัก น้องๆในวงการนักเขียน และเพื่อนร่วมร้องรำทำเพลง ....
.......................................
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
9 ตุลาคม 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สัญจร ดาวส่องทาง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.