เรือใจในอ่าวฟ้า






เรือใจในอ่าวฟ้า

กางใบเรือแห่งรักและศรัทธา
ล่องนาวาชีวิตไป
ให้ถึงฟาก ฝั่งฝัน



ไม่ง่ายเลย...
การดำเนินชีวิตไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องด้วยความเป็นจริง
ของชีวิต มิอาจขีดเขียน วางแผนกำหนดการได้
ชีวิตเปลี่ยนแปลงไป เหมือนสายน้ำที่ขึ้นลง
บางช่วงกรากกล้า บางช่วงเชื่องช้าเอื่อยไหล
เปลี่ยนแปรไป ตามกระแสชะตากรรม

จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง จากที่สูงไปสู่ที่ต่ำ
ผ่านการเคี่ยวกรำของเกาะแก่งแห่งอุปสรรค
ผ่านห้วงรักและเหวลึก กาลเวลาจะเป็นผู้ป่าวประกาศ
ถึงธาตุแท้ของแต่ละคน เช่นเดียวกับความเปลี่ยนแปลง
ที่บ่งบอกความแข็งแกร่งของศรัทธา
ยามรุ่งเรืองเฟื่องฟูขึ้นสู่ยอดสูงสุด
ยามเซทรุดล้มคว่ำคะมำหงาย สิ้นไร้ทุกสิ่ง
เขาจะยอมรับความเป็นจริงของชีวิตไหม..
ตีโพยตีพายต่อว่า...โทษโชคชะตาฟ้าดิน
ยกธงขาวความอ่อนแอยอมแพ้พ่าย
หรือยืดอกท้าทาย จ้วงพายต่อ
โดยไม่ระย่อมรสุมที่โหมซัด...

ไม่ง่ายเลย...
การมีชีวิตอยู่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
โดยเฉพาะมีชีวิตอยู่อย่างอิสระ
มีชีวิตอย่างมีชีวิตชีวา ไม่เบียดเบียนใคร
มีชีวิตที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่า-ศักดิ์ศรี
มีชีวิตในความพอดีและพอใจ ไม่ง่ายเลย...
การมีชีวิตอยู่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
โดยเฉพาะมีชีวิตอยู่อย่างเรียบง่าย

.................................................................


สถานที่ หาดกะตะ กะรน ป่าตอง มองจากจุดพักชมวิวบนยอดเขา อ.เมือง จ.ภูเก็ต
เทคนิค สีน้ำบนกระดาษ
ขนาด ๒๓+๓๔ ซม.







พบกับข้อเขียนใหม่ล่าสุดได้
ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันอาทิตย์
คอลัมน์ "ผ่านตามาตรึงใจ"
พบกันทุกยามเช้าวันอาทิตย์นะครับ




Create Date : 26 เมษายน 2550
Last Update : 3 พฤษภาคม 2550 0:53:09 น. 16 comments
Counter : 2561 Pageviews.

 

งานและภาระของตัวเอง...หนักหนาพอควร
บางครั้งก็ทดท้อ...หมดกำลังใจ
บางเรื่อง...ก็พูดกับใครไม่ได้

พูดกับไดอารี่ของตัวเองในอินเตอร์เนท
ผู้คนผ่านไปมา ไม่ได้หวังให้ comment
แต่หวังว่าจะเก็บเกี่ยวไว้เป็นประสบการณ์
ให้ระมัดระวังไม่ก้าวผิดก้าวพลาดเหมือนเจ้าของไดอารี่

เวลาว่าง...มักจะเข้าเยี่ยมเยียนไดอารี่หน้าโน่นหน้านี้
แต่ไม่ comment เพราะให้เกียรติในการใช้ชีวิตแต่ละคน

อ่านเรื่องของคุณแล้วชอบค่ะ
บางเรื่องก็ได้พักตาพักใจ
ขออนุญาต add บล๊อกนะคะ



โดย: Big Spender วันที่: 29 เมษายน 2550 เวลา:8:55:00 น.  

 
แวะมาล่องเรือใจในอ่าวฟ้าค่ะ

เมื่อวันเสาร์ตอนค่ำ สถานีข่าวเนชั่น ได้ดูรายการจุดชนวนความคิด
เขาทำสกู๊ปเรื่องของ สิงห์ สนามหลวง มาให้ชม
(ก่อนหน้านั้นสองสามวัน พี่โดมได้ดูไปแล้วที่ช่อง 9)
จึงดีใจนักหนาที่ได้มีโอกาสดู
แม้จะเป็นสกู๊ปสั้น ๆ
แต่ก็สะท้อนความคิดและวิถีชีวิตของคุณสุชาติและครอบครัวได้พอสมควร

ถึงสิงห์จะเป็นที่รู้จักกันในแวดวงและเป็นผู้มีความรู้ความสามารถอย่างยิ่ง แต่ภาพที่เห็นในทีวี ก็คือวิถีชีวิตที่เรียบง่าย สมถะ

ชอบที่สิงห์บอกว่าวันนี้สายตาก็ฝ้าฟาง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยิ่งเหมือนว่าต้องอ่านมากขึ้น ต้องดูหนังมากขึ้น เรียกว่าต้องใช้สายตามากขึ้นกว่าก่อน ก็ยังไม่รู้ว่าวันข้างหน้ามันจะลงเอยยังไง

การมีชีวิตอยู่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
โดยเฉพาะมีชีวิตอยู่อย่างเรียบง่าย

แล้วจะแวะมาใหม่ค่ะ


โดย: หนอนฯ IP: 58.8.37.145 วันที่: 29 เมษายน 2550 เวลา:12:23:43 น.  

 
สวัสดีค่ะ กวีหวานแสนโรแมนติก
คิดถึงตอนเด็กๆ ที่ได้อ่าน
" ชูมาน " อ่าน "ความรัก จะอยู่กับเรา"
ฟังเพลง ขอความรักบ้างได้ไหม

และคุณก็เป็นแรงบันดาลใจให้เขียนกวี
แม้จะไม่หวานเท่า
นั่นมันนานมาแล้ว

ดีใจนะ ที่บางที "สู่ฝัน" อาจกลับมาในรูปแบบออนไลน์

อวยพรให้ฉันโชคดี
ที่จะร้องเพลงให้เธอฟัง
และฉันจะไม่มีวันโศกเศร้า
ในสิ่งที่ฉันได้ทำไป..
เพื่อความรัก



โดย: วีดวาด วันที่: 29 เมษายน 2550 เวลา:12:25:11 น.  

 
ตามลิงค์มาจากบล็อกคุณโดมค่ะ
ขออนุญาตเรียกพี่ปอน
เพราะเป็นน้องสาวของคนที่พี่ปอนรู้จักค่ะ


ขอบคุณสำหรับถ้อยคำนี้นะคะ
ไม่ง่ายเลย...
การมีชีวิตอยู่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
โดยเฉพาะมีชีวิตอยู่อย่างอิสระ
มีชีวิตอย่างมีชีวิตชีวา ไม่เบียดเบียนใคร
มีชีวิตที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่า-ศักดิ์ศรี
มีชีวิตในความพอดีและพอใจ ไม่ง่ายเลย...
การมีชีวิตอยู่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
โดยเฉพาะมีชีวิตอยู่อย่างเรียบง่าย



โดย: สเลเต วันที่: 29 เมษายน 2550 เวลา:15:48:15 น.  

 
ท้องฟ้าด้านนอกเป็นสีส้มแกมเทา
อากาศยังคงเย็นลงเรื่อยเรื่อย ..
ครอบครัวนกกวักหายไปนานแล้ว
กล้าต้นข้าวดูจะโตช้าลง
น้ำสำหรับอาบ เย็นจัด
ฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลง ..


อยากก่อกองไฟกองเล็ก
สำหรับผิงเพื่อไล่ไอหนาว
กลิ่นควันไฟจางจางที่ลอยมาตามลม
ทำให้อากาศที่สูดเข้าไป มีกลิ่นหอม
กระดิ่งลมรูปปลาโลมา บินล้อลม .. ส่งเสียงทั้งวี่วัน


สิ่งเล็กน้อยรอบตัวผมนี่ ผมเรียกว่า .. ความสุข
ความสุขที่อยู่รายล้อมรอบตัว
ขอเพียงแค่เลือกที่จะมอง และ .. รู้สึก


ความสุขยังอยู่รายล้อมรอบตัว .. ในทุกที่ทาง



*ยืนยันว่าการมีชีวิตอย่างเรียบง่ายนั้น ยาก :)


โดย: นายประภาคาร IP: 61.7.174.90 วันที่: 29 เมษายน 2550 เวลา:23:47:03 น.  

 
สวัสดีค่ะ ..
คลิกไปคลิกมา พบเจอบลอคคุณพิบูลศักดิ์
รูปนี้สวย ชอบภาพวาดสีน้ำ ชอบคำเขียนด้วยค่ะ
..
ยิ่งโตขึ้น การใช้ชีวิตเหมือนจะยิ่งยากขึ้น
บางคนบอกว่า เพราะเราทำให้มันยากและซับซ้อน
มันเลยยาก .. แอบเถียงว่าขนาดกรองไปกรองมาแล้ว
ชีวิตที่ไม่ค่อยอะไรกับสิ่งเร้าอะไรนัก ยังจัดให้มันเป็น
ระเบียบ เป็นไปได้อย่างใจอยากให้เป็นยากจริงๆ
ไม่ขึ้นอยู่กับเรา ก็ไปขึ้นอยู่กับคนอื่นอีก ..
..

ยังไม่มีโอกาสได้อ่านงานของคุณพิบูลศักดิ์มากนักค่ะ
บางเล่มเก่าๆ เคยอ่านมาบ้างแล้ว แต่นานมาก ..
ดีจังค่ะที่ได้มีโอกาสติดตามงานจากหน้าจออย่างนี้ด้วย..

ชอบ " บ้านดวงใจ " ด้วยค่ะ
การวาดภาพจากสีน้ำ ยังต้องรอจังหวะและโอกาส
เหมือนๆ กับชีวิตคนเราอย่างนั้นนะคะ .. บางทีอาจจะต้อง
ผ่อนให้มันช้าลงนิด เพื่อรอคอยจังหวะและโอกาสด้วย ..


โดย: moodee IP: 124.120.220.72 วันที่: 30 เมษายน 2550 เวลา:0:39:56 น.  

 
ไม่ง่ายเลย แต่ก็ไม่ยากที่จะง่าย (และงาม)
ทักทายทุกคนนะครับ
ขอบคุณสำหรับทุกแรงดาลใจ
เช่นกัน คุณ-คุณ ก็ช่วยจุดไฟให้ความฝันของผมเช่นกัน

เพราะเราฝัน
เราจึงมีชีวิต

เพราะเรามีชีวิต
เราจึงฝัน
ความฝันคือเส้นทางสู่ความจริง
ความฝันคือที่มาของทุกสิ่ง
ความฝันคือฟากฝั่ง คือแสงไฟ
ช่วยส่องให้เราเห็นชีวิตอย่างที่มันควรจะเป้น
เห็นเพื่อหาญกล้าทายท้าชะตากรรม
ความฝันคือดาวเหนือนำนาวาแห่งชีวิต

น่าคิดตรงที่ว่า สู่ฝัน จะกลับมาแบบออนไลน์
หนังสือสู่ฝัน หรือ ชาวสู่ฝัน
(คงอย่างหลังนะวืดวาด)


โดย: คนหว่านฝัน (สัญจร ดาวส่องทาง ) วันที่: 30 เมษายน 2550 เวลา:2:53:19 น.  

 

การมีชีวิตอยู่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
โดยเฉพาะมีชีวิตอยู่อย่างเรียบง่าย


อืม..แต่เราชินกับมันนะความเรียบง่าย
เรียบง่ายซะจน..แปลกแยก ในสายตาคนรอบข้าง


...
เรือใจในอ่าวฟ้า

ชอบถ้อยคำนี้จัง
จะว่าไป
เราก็เพียงนาวาลำเล็ก ๆ ของโลกอันไพศาล
บรรทุกความหวังเพื่อข้ามถึงฝั่ง
อย่างปลอดภัย

ระหว่างทาง,
อาจพบเจอพายุเชี่ยว ถาโถม
อาจเงียบงันอ้างว้าง
หรืออาจเพลิดเพลินกับหมู่คลื่น ฟ้าคราม น้ำใส

เราต่างหากเป็นผู้เลือก
ที่จะหลบหลีก
ที่จะเก็บเกี่ยว
หรือที่จะปล่อยให้นาวานอยล่องลอยไป ลอยไกล

เราต่างหากเป็นผู้เลือก
จริงมั้ยคะ




โดย: นกแสงตะวัน-คนเพาะฝัน IP: 203.188.43.15 วันที่: 2 พฤษภาคม 2550 เวลา:22:56:18 น.  

 
มีชีวิตอย่างอิสระ แต่ไม่โดดเดี่ยว
เรียบง่าย แต่ไม่ว่างเปล่า
ในมุมเล็กๆ การมีชีวิตอย่างอบอุ่น
ทำได้ด้วยใจของเราเอง...

ฉันชอบอักษรทุกตัวที่คุณ(น้า)ปอนเขียน...
ทำให้ครุ่นคิดว่า...ทำอย่างไรตัวเองจึงจะกรั่นกรอง
ถ้อยคำที่สวยงามได้อย่างคุณบ้าง...
นั่นคงเป็นอีกหนึ่งความฝัน สำหรับฉัน...


โดย: คนเลวที่แสนดี วันที่: 3 พฤษภาคม 2550 เวลา:8:42:36 น.  

 
นกแสงตะวัน
จริงจ้ะ เรามีสิทธิ์เลือก(แต่เราไม่เลือก)
แต่หลายคนไม่มีสิทธิ์เลือกและเลือกไม่ได้

คนเลวที่แสนดีครับ
เราก็พยายามที่จะเป็นอย่างที่เราเป็น
ทำมุมเล็ก ๆของการมีชีวิตอยู่ให้อบอุ่น
คุณทำได้ก็ดีแล้ว เรายินดีด้วยแต่ไม่อิจฉา เพราะจะทำให้ร้อนใจ..

เขียนได้กับทำได้ไม่เหมือนกันนะครับ
เขียนได้ก็แค่เขียนได้
แต่ต้องทำได้ด้วย
เหมือนธรรมะ ไม่ใช่แค่รู้ แค่พูดเป็นนกแก้วนกขุนทอง
แต่ต้องปฎิบัติดีปฎิบัติชอบด้วย
หลวงพ่อโดม วัดพวงพเยียท่านอบรมเราเสมอ
ท่านเป็นคนน่านับถือ เพราะไม่ใช่ดีแต่พูด แต่ทำได้ด้วย
เช่นเรื่องไม่กินข้าวเย็น ไม่ดื่มเหล้าไม่สูบบุหรี่ อ่ย่างนี้เป็นต้น..เรามันพวกดีแต่พูดแต่เขียน ดีแต่เตือนคนอื่น ตัวเองยังจัดการตัวเองไม่ได้ดีเลย
เอาแค่เรื่องวินัยในการทำงาน
ขยันและสม่ำเสมอ ไม่ใช่ตำข้าวสารกรอกหม้อ เอ้อระเหยลอยชายเป็นศิลปิน บินไปนั่นมานี่กับเจ้านกหัวใจตัวดี ที่ช่างโอดครวญ
เรากำลังใช้ฝอยหยาบขัดกิเลสละเอียดของตัวเองอยู่จ้ะ ไม่ต้องขาววาววับหรอก เอาแค่สะอาด
กิเลสหนามากก็ทุกข์มากนะ

ตอนนี้เจอหนังสือเล่มหนึ่งทั้งสองท่านได้อ่านรึยัง
ชื่อพรอันสูงสุด เขียนโดยจิม สโตวอลล์
เป็นหนังสือดีจ้ะ ชอบตอนหนึ่งที่ว่า
"เพื่อที่จะรักชีวิต คุณต้องพอใจในการดำเนินชีวิตของคุณ"
"ในที่สุด ชีวิตที่ใช้อย่างเต็มที่ ก็คือพรอันสูงสุดนั่นเอง"

ต้องขอตัวไปทำงานเขียนก่อนจ้ะ แล้วจะมาคุยเรื่องหนังสือดีต่อ เห็นสังคมครอบครัวอันอบอุ่นของคุณ-คุณแล้ว เราก็อุ่นด้วย ทำให้เราได้เรียนรู้ว่า "ครอบครัวที่แท้จริงจะเกิดขึ้น ก็ต่อเมื่อมีความรัก กลุ่มคนสามารถกลายเป็นครอบครัว เมื่อพวกเขาเติมความรักเข้าในความสัมพันธ์ระหว่างกัน หากปราศจากความรัก ครอบครัวก็เป็นเพียงกลุ่มคน
ที่อยู่ในสายตระกูลเดียวกันเท่านั้น."

ช่างประจวบเหมาะอะไรเช่นนั้นที่เราเจอหนังสือเล่มนี้-ในห้วงเวลานี้ มันช่วยปลอบโยนเราได้มาก ว่าคนเราทุกคนไม่อาจเหมือนกันได้หมดหรอก เราต่างมีวิถี มีแบบฉบับและต้นทุนชีวิตต่างกัน....
ถึงครอบครัวชีวิตเราจะล่มสลายแต่เราก็ยังมีครอบครัวใหญ่อยู่ คือเพื่อนฝูงมิตรสหาย-ในครอบคัวสู่ฝันของเรา รักและหวังดีที่มีมา คือต้นทุนก้อนมหึมา(ทีเดียว) ที่ทำให้เรามีพลังใจ มีศรัทธาที่จะก้าวเดินต่อไป
แค่ตระหนักรู้ถึงคุณค่าของความรัก ก็ถือว่าเราได้รับพรสูงสุดของชีวิตแล้ว(เหมือนกัน)

ไปทำงานจริงแล้วหละ บาย...


.


โดย: คนหว่านฝัน IP: 125.24.46.206 วันที่: 3 พฤษภาคม 2550 เวลา:11:45:55 น.  

 
หาเจอโดยบังเอิญ

carry_on.tu@hotmail.com


โดย: ตุ๊ carry on IP: 222.123.170.20 วันที่: 3 พฤษภาคม 2550 เวลา:21:52:25 น.  

 
ขอบคุณพี่ปอนค่ะ
เล่มนั้นยังไม่ได้อ่าน แต่ท่าทางจะไม่ได้อ่านถ้าเป็นเรื่องธรรมะ คิดแบบจององว่าตนรู้เรื่องสัจจธรรมการดำเนินชีวิตมากพอนะคะ รู้วัฏฏะ อาจเพราะพบเจอปัญหา(ทุกข์)มามาก เผชิญมามาก บางครั้งย้อนกลับไปทบทวน การพาตัวฝ่าข้ามอุปสรรคนานามาได้ โดยกล้าต้นน้อยในอ้อมกอดยังสบายดีเติบโตขึ้นรับแสงตะวันอันเจิดจ้าได้(แม้ตัวเองจะมีรอยบาด เป็นแผลเป็นที่คอยทิ่มใจ) แต่เรารู้ขอบเขตของแผลนะ และอยู่กับมันได้ -นี่อาจเป็นสิ่งที่เราเลือก

เขียนมายืดยาว ข้าพเจ้ามักหาเหตุผลมาอ้างกับตัวเองเพื่อเอาตัวให้พ้นจากสิ่งที่ไม่ชอบเท่านั้นเองค่ะ

ต้องขอบคุณหนังสือดีที่พี่บอนหยิบยกมาเล่าสู่กันฟัง

มีหนังสือดีตุนไว้หลายเล่มเหลือเกิน อ่านไม่ทันเลยค่ะ
(หนังสือ..ดีทั้งนั้น)
ไปร้านหนังสือทีไรอดใจไม่ไหว ได้เพิ่มกลับมาบ้านทุกที

เคยบ่นว่าอัดอั้นตันใจ..อยากทำอะไร อะไร ที่ใจปรารถนา แต่ชีวิตประจำวันจำจองให้ต้องดิ้นรนหาอยู่หากิน งานประจำที่รัดตัว งานจรที่หมั่นแวะมาเยี่ยม บางคราวบางครั้งจึงได้แต่นั่งจับดินสอ นั่งมองกระดาษเปล่า ดูกลีบแก้วพรูลงมาเกลื่อนโต๊ะหนังสือหลังบ้าน ใจเตลิด ดินสอไม่ร่ายภาษาแต่ร่างเป็นกลีบแก้วจางๆไปซะนี่

ราตรีสวัสดิ์ในค่ำคืนที่สายลมแห่งความเงียบนอกหน้าต่างยังพัดไหว ๆ ค่ะพี่ปอน







โดย: นกแสงตะวัน-แห่งค่ำคืน IP: 203.188.9.31 วันที่: 4 พฤษภาคม 2550 เวลา:3:25:36 น.  

 
เธอ...ผู้มาลบรอยบาดแผลให้ฉัน
รอยช้ำในอดีต...ค่อยค่อยเลือนราง
ในขณะที่...ความฝัน ความรัก และอบอุ่น
เริ่มเติมต่อ...เต็มในช่องว่าง...สู่ชีวิต...
ฉัน เธอ และครอบครัวเล็กๆ....

ชอบเพลงตอนนี้จังเลยค่ะ...

คนเลวที่แสนดี... ชื่อที่บ่งบอกความหมายทุกอย่างในความเป็นตัวฉัน...ถ้าไม่รังเกียจ อย่าลืมแวะไปเยี่ยมครอบครัวอุ่นรักนะคะ....

ขอบคุณทุกสิ่ง ที่ดลใจให้มาพบกัน....


โดย: คนเลวที่แสนดี วันที่: 4 พฤษภาคม 2550 เวลา:20:18:45 น.  

 
ดีจังตุ๊
ดีใจจังที่เข้ามาทักทาย
เชื่อไหม เขียนเรื่องจบไปตอนแล้ว
แต่ความสะเพร่าทำหายไปในอากาศ
จะเริ่มใหม่นะ ติดงานเขียนด้วย
คืนนี้ก็ปล้ำกับยักษ์ตาเดียวอยู่
ไม่ชนะ สดับข่าวแม่ป่วยอีก ก็เลยไปกันใหญ่
สมาธิไม่รู้หนีไปไหน

คนเลวที่แสนดี
ขอบคุณที่เข้ามาให้กำลังใจ
ว่างจะไปเยี่ยมครอบครัวอุ่นรัก


โดย: สัญจร ดาวส่องทาง วันที่: 5 พฤษภาคม 2550 เวลา:9:29:29 น.  

 
สเลเต
ขอโทษนะครับ
พี่เขาตาลาย เบลอๆเพราะกรำงาน
สเลเตเป็นน้องสาวของใครน้อ
โลกเรานี้กลม
ชีวิตไม่พ้นวนอยู่ในวงกลมแห่งโลกใบนี้

เพียงบางทีเราหลงทิศและเดินสวนทางกัน


โดย: สัญจร ดาวส่องทาง วันที่: 5 พฤษภาคม 2550 เวลา:9:30:23 น.  

 
ฝนกำลังจะตกอีกแล้วค่ะ
คิดถึงตอนที่ไปอยู่เชียงใหม่แรกๆ
ช่วงที่รับน้อง
มีเพื่อนมาจากจังหวัดพะเยาสี่ห้าคน
รุ่นพี่จะบังคับให้ร้องเพลงพะเยารอเธอให้ฟัง
..เฝ้าห่วงอาลัยถึงใครคนหนึ่ง..
เคยรักกันตราตรึง..ประหนึ่งดังดวงชีวา..
โห..แค่ฟังครั้งแรก มันก็วิ่งช้าๆ จังหวะสโลว์ ตรงแน่วไปที่หัวใจเลยหละ
..หลังจากนั้น ก็ได้ฟังจนร้องเพลงนี้ได้ขึ้นใจ
..หลังจากนั้น ก็พบรักครั้งแรกตั้งแต่ปีหนึ่ง เขาเป็นคนบ้านสักทุ่ง อยู่อำเภอจุน จังหวัดพะเยา
..หลังจากนั้น ก็หลงรักจังหวัดพะเยาด้วย
..ตอนนี้....ความหลังเป็นความทรงจำอันงดงาม
คล้ายๆ กับหนังสือของพี่ปอน
ที่เปิดอ่านเมื่อใด มันก็ยังงดงาม อุ่นๆ เหงาๆ อยู่ข้างใน
คิดถึงจังค่ะ



โดย: พะเยารอเธอ (บอนหวาน ) วันที่: 5 พฤษภาคม 2550 เวลา:21:17:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สัญจร ดาวส่องทาง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




บ้านความรัก พิบูลศักดิ์ ละครพล w e l c o m e t o P i b u l s a k L a k o n p o l' B l o g s
"พิ บู ล ศั ก ดิ์ ล ะ ค ร พ ล" มีคนถามพิบูลศักดิ์ ละครพล ว่า คุณเป็นอะไรแน่ ? นักเขียน กวี นักดนตรี คนเขียนรูป คนขายฝัน เขาตอบยิ้มๆว่า "ผมเป็นอย่างที่ผมเป็น"....
.............................
"วัยฝัน วันเยาว์"....... เด็ก ๆ จะสร้างบ้านขึ้นด้วยปุยเมฆ เล่นกับก้อนหินที่เก็บมาจากชายหาด เก็บเอาวิชาเลขคณิตไว้ในกระเป๋ากางเกง และฉีกกระดาษสมุดจดงาน มาพับเป็นเรือกระดาษล่องแม่น้ำ....
..........................
"บ้านดวงใจ" นวนิยายที่ทำให้ทุกหัวใจอิ่มเอม และเต็มไปด้วยความสุข เรื่องราวของความรัก ความผูกพันระหว่างพ่อกับลูกสาว ที่ไม่ต้องบอกว่า "รัก" ด้วยคำพูด ....
............................
"ชูมาน" กาลเวลานั้น ไม่สามารถลดทอน ความสวยงาม น่ารัก เหงา เศร้า และสะทกสะเทือนใจ ของนวนิยายเรื่องนี้ได้เลย....
..............................
"ขอความรักบ้างได้ไหม"..... ระหว่างหญิงหนึ่งชายสองที่มาพบกัน มีชีวิตร่วมทุกข์ร่วมสุขกันในช่วงสั้นๆ จากฤดูร้อนที่ทองกวาว ฉายฉานเต็มท้องฟ้า ถึงฤดูฝนที่เต็มไปด้วยเมฆสีเทาทึบ ล้วนเป็นคนที่มีหัวใจแตกร้าวมากับครอบครัว..
.....................................
"คือวารวันอันแสนอุ่น" ห้วงความรู้สึกอันงดงามในวันวาน ระหว่างฉันกับผู้ที่ฉันศรัทธา มิตรสหายอันเป็นที่รัก น้องๆในวงการนักเขียน และเพื่อนร่วมร้องรำทำเพลง ....
.......................................
Group Blog
 
 
เมษายน 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
26 เมษายน 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สัญจร ดาวส่องทาง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.