ห่างหายกับการเขียนบล็อกไปนาน เพราะติดเรื่องเรียนคอร์สใหม่ซึ่งยากกว่าเดิม หัวงอกไปเยอะเลย เรียนก็หนัก อาจารย์ก็พูดเป็นต่อยหอย แถมเพื่อน ๆ ค่อนข้างไปเร็ว ความกดดันก็เลยเยอะ วันนี้เลยแวะมาเขียนบล็อกเรื่องแกรมม่าง่าย ๆ ให้เพื่อน ๆ ได้ฝึกดู แกรมม่ามีเยอะมาก ไว้สอบผ่านคอร์สนี้แล้วมีเวลาจะเอามาลงเพิ่มเติม อันที่เขียนนี้เขียนจากความเข้าใจของตนเอง ผิดถูกยังไงถ้ามีผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยนะคะ

คำกริยา  Werkwoord

คำกริยา เป็นคำที่ระบุการกระทำ สถานการณ์ การเปลี่ยนแปลง หรือคุณลักษณะของประธานในประโยค เปลี่ยนรูปได้ตามกาลเวลา หรือบุคคล  ชั่วโมงแรก ๆ  ของการไปเรียนจะได้เรียนคำกริยาก่อนเลย ซึ่งคำกริยาจะเป็นพื้นฐานของการใช้ภาษาดัทต์ขั้นต่อไป พูดถึงคำกริยา 2 แบบนี้ก่อน  เพราะว่า คนที่เริ่มเรียนใหม่ ๆ จะได้เรียนคำกริยาในรูปปัจจุบันก่อน

คำกริยาแท้ (persoonvorm) คือกริยาที่ต้องมีการผัน
คำกริยารูปเต็ม (infinitief) เป็นกริยาที่ใช้ได้เลยในรูปที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ  ใช้กับประธานที่เป็นพหูพจน์ จะได้เจอคำนี้บ่อยๆ เวลาต้องไปแต่งประโยคจ้า

หลักในการผันคำกริยาในรูปปัจจุบันกาล

                การผันคำกริยาจะเริ่มจากประธานที่เป็น ik  เราเรียกว่า stam หรือ  ik-vorm มีหลักในการผันดังต่อไปนี้

1.       คำกริยาลงท้ายด้วย –en ก่อนอื่นให้แยกพยางค์ของคำกริยา โดยให้มีพยางค์ท้ายมีอักษรตัวที่ติดกับ en ด้วยเช่น

Wonen     (พักอาศัย)               wo  + n  + en              wo + nen

Spreken   (พูด)                       spre  + k + en             spre + nen

Maken      (ทำ)                       ma + k +  en                 ma  + ken

2.       หลังจากนั้นให้พิจารณาว่า คำกริยา ก่อนพยางค์ท้ายนี้ลงท้ายด้วยสระหรือไม่ ถ้าลงท้ายด้วยสระเสียงสั้น ( a, e, o, u  ยกเว้น i ) ให้เพิ่มสระพวกนี้เข้าไปอีกหนึ่งตัวแล้วตามด้วยตัวสะกด เพราะคำเหล่านี้เวลาอ่านจะต้องอ่านในลักษณะสระเสียงยาว เพราะรากศัพท์มันเป็นสระเสียงยาวจ้า

Wonen     (พักอาศัย)               wo  + n  + en              wo + nen                     Ik  woon

Spreken   (พูด)                       spre  + k + en            spre + ken                  Ik  spreek

Maken      (ทำ)                       ma + k +en                ma +ken                      Ik  Maak  

Huren       (เช่า)                       hu + r + en                hu  + ren                      Ik  huur

แต่จะมีบางตัวที่เป็นสระเสียงสั้น ต้องอาศัยการสังเกตและการฝึกอ่านบ่อย ๆ และคำกริยาที่อยู่ในไม่เป็นไปตามกฎ  เช่น komen  = Ik  kom    และคำเหล่านี้ gaan, staan, slaan en doen เมื่อทำ เป็น Ik-vorm จะเป็น ga, sta, sla และ ก็ doen  มีอีกหลายคำที่ไม่เป็นไปตามกฎ แต่ตอนนี้คิดไม่ออกได้แค่นี้แหละ

Luisteren                     Ik  luister   (คำนี้ r ไม่ใช่ตัวสะกดแต่เป็นสระ er เสียงสั้นไม่ต้องใส่ e เพิ่ม)

3.       คำกริยาที่มีตัวสะกดลงท้าย เวลาทำให้เป็น stam หรือ ik-vorm ห้ามมีตัวสะกดซ้ำกันสองตัว หรือคำที่มีตัวอักษรหรือตัวสะกดอยู่ด้วยกัน ตัดแค่ en ออกก็พอ ในภาษาดัทต์จะไม่มีการใช้ตัวสะกดสองตัวซ้ำกันไม่ว่ากรณีใด ๆ  เช่น

Willen                Wil + len                     Ik  wil

Bellen               bel + len                 Ik bel

Werken             werk + en               Ik  werk

Drinken            drink + en                Ik drink

4.        คำกริยาที่เมื่อแยกแล้วลงท้ายด้วย v และ Z  ต้องเปลี่ยน จาก v  เป็น f  และ z  เป็น s เช่น

Geven              ge + v + en             geev               เปลี่ยนเป็น     Ik  geef

Lezen                le + z + en             leez                 เปลี่ยนเป็น     Ik  lees

Schrijfven        schrij + v + en        schrijv              เปลี่ยนเป็น     Ik schrijf

คนเขียนเริ่มมึนแล้วตอนนี้ผิดถูกยังไงใครที่รู้ช่วยเพิ่มเติมให้ด้วยนะคะ ไว้ว่าง ๆ จะเขียนใหม่ค้า

Create Date : 12 มีนาคม 2553
Last Update : 12 มีนาคม 2553 22:57:33 น.		3 comments
Counter : 887 Pageviews.
Share Tweet