[Ghibli Collection Review] The Wind Rises ...ปีกแห่งฝัน วันแห่งรัก
 The Wind Rises ...คืนแห่งฝัน วันแห่งรัก



ที่ใช้ชื่อไทยเป็นชื่อบล้อคเลยก็เพราะว่า ดูจบแล้วคิดว่ามันเหมาะสมมากๆค่ะ

จริงๆก่อนหน้าที่จะดูเรื่องนี้ เพื่อนๆหลายคนบอกมาว่ามันเอื่อยๆไปหน่อย แต่เห็นหลายๆคนในพันทิปก็ชอบกัน ส่วนตัวเป็นแฟนจิบลิอยู่แล้ว เลยดูค่ะ (แม้ว่าจริงๆเราก็ไม่ได้ชอบจิบลิทุกเรื่องอย่าง Ponyo งานก่อนหน้านี้เราก็เฉยๆนะ ก็น่ารักดีแต่ไม่ได้ประทับใจอะไรมากมายค่ะ)



งานนี้เป็นงานชิ้นสุดท้ายของมิยาซากิ แน่นอนว่ามีคนทำสกอร์คู่บุญอย่าง Joe Hisaishi มาอยู่ด้วยอีกแล้วค่ะ หลังจากหายหน้าหายตาจากจิบลิไปนาน งานหลังๆที่มิยาซากิไม่ได้ทำ โจก็ไม่ได้ทำ

สกอร์ไปด้วยค่ะ เราดูจบได้ยินเสียงออแกนในสกอร์เป็นระยะ จนทำให้อยากดู Laputa ขึ้นมาเลยค่ะ

ช่วงยี่สิบนาทีแรก เราชอบนะ ฉากในฝันเครื่องบิน กับเสียงเพลงชวนให้เรานึกถึงฉากเริ่มของ Laputa ค่ะ เพลงเพราะมากๆ งานแสงงานภาพก็ดูเป้ะมากขึ้นนะ โดยเฉพาะเรื่องแสงสวยมากๆค่ะ

ท้องฟ้า เมฆงี้ อลังการทีเดียว



ตอนฉากพระนางเจอกันครั้งแรก เราเริ่มคิดว่า คงเป็นอีกเรื่องที่ค่อนข้างโรแมนติกของจิบลิแน่ๆค่ะ ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ จะว่าโรแมนติกก็ใช่ จะว่าเชยก็ได้นะ แอบทำให้นึกถึงละครไทยสมัยก่อนเบาๆ ส่วนตัวคิดว่ามันเป็นความรักที่แตกต่างจากจิบลิเรื่องอื่นๆส่วนมากเนอะ เป็นความรักของผู้ใหญ่ที่จริงจัง มีหมั้น มีแต่งงาน ส่วนมากจิบลิมักจะมีเด็กผู้หญิงเป็นตัวเดินเรื่อง ความรักเป็นแบบโชโจส่วนมาก แต่แบบในเรื่องนี้เราก็ชอบค่ะ แม้จะดูรวดเร็วไปหน่อย ฉากแต่งงานเป็นหนึ่งในฉากที่เราชอบที่สุดเลยมั้งคะ แอบน้ำตาซึมอ่ะ



ฉากที่คุณนายพูดว่า "เธออยากให้จิโร่จำเธอแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน" เราแบบน้ำตาไหลเลยอ่ะ แล้วตัดฉากไปที่เครื่องบินสลับกับรถไฟที่นาโฮโกะนั่งอยู่

เราว่าจิโร่เป็นคน Passionate (ไม่รู้ภาษาไทยแปลว่าไงอ่ะ) ทั้งในเรื่องความรัก แล้วก็เรื่องงาน (อาจจะเพราะว่าเขารักงานที่ทำด้วยแหละมั้ง) เราว่าผู้ชายแบบนี้ดีนะ เราชอบ 5555



อย่างที่เราเคยพูดไปในรีวิวก่อนๆ(จำไม่ได้ว่าอันไหน) ว่า มิยาซากิต้องรักเครื่องบินมากแน่ๆ หรืออย่างน้อยก็อะไรที่บินได้ล่ะน่ะ เพราะเกือบๆทุกเรื่องของมิยาซากิต้องมีการบินหมดเลยนี่ ไม่ว่าจะปราสาทบิน เกาะบิน เรือบิน เครื่องบิน มังกรบิน ไม้กวาดบิน เราว่าอีกอย่างนึงคือเค้าน่าจะชอบเครื่องจักรแบบยุคแรก เครื่องจักรแบบที่มีฟันเฟือง แบบรถจักรไอน้ำ หรือเครื่องบินยุคสงครามโลก



ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ไม่เคยล่มสลายว่ามั้ยคะ ไม่ว่าจะแพ้สงคราม แผ่นดินไหว ซึนามิ ก็เป็นประเทศที่ลุกขึ้นยืนได้อย่างรวดเร็วจริงๆ ถ้าให้เราเลือกไปอยู่ประเทศไหนนานๆสักประเทศคงเป็นญี่ปุ่นนี่แหละค่ะ คิดว่าคงไม่มีวันเบื่อเลยค่ะ (แต่ยังไงประเทศเราก็ดีที่สุดสำหรับเรานะ 555 ไม่ได้กินอาหารไทยนานๆก็แย่แน่)



เราชอบที่มีภาพฝันๆมาเป็นระยะๆอ่ะค่ะ ชอบมากๆ ไม่รู้จะอธิบายยังไงว่าทำไมถึงชอบ เราว่าคนที่เรียนเรื่องเครื่องบินต้องชอบเรื่องนี้มากแน่ๆ ถ้าพูดกันจริงๆแล้วเรื่องนี้อาจจะมีประเด็นซีเรียสมากกว่าเรื่องอื่นๆของจิบลิส่วนใหญ่ก็ได้ค่ะ เรื่องสงคราม ปากท้องของผู้คน เครื่องบิน ความฝัน ทั้งหมดรวมๆกันอยู่ เราชอบฉากที่จิโร่คุยกับเพื่อนเรื่องสปองเค้ก



"เงินที่เราใช้ในการซื้อเทคโนโลยีจากเยอรมันน่ะ นายรู้มั้ยเท่าไหร่ มันพอที่จะซื้อสปองเค้กเป็นของหวานให้เด็กอดอยากทุกคนในประเทศได้เลย แต่เราก็เลือกที่จะทำแบบนั้น"

แล้วก็ชอบฉากที่จิโร่ฝันคุยกับวิศวกรชาวอิตาลี ที่เค้าถามว่า ถ้าเลือกได้อยากอยู่ในโลกที่มีปิรามิดหรือไม่มี แล้วบอกว่าเครื่องบินเป็นสิ่งที่จะสร้างขึ้นมาเพื่อทำลายล้าง แต่ถึงอย่างนั้นยังอยากที่จะสร้างมันรึเปล่า

ความจริงยุคสงครามโลกเป็นยุคที่เราชอบนะคะ ถ้าไม่นับว่ามีสงครามล่ะก็นะ กระโปรงยาวๆ ใส่หมวกปีกกว้าง ร้านกาแฟเปิดแผ่นเสียง คนฟังดนตรีดีๆ



ชอบหัวหน้าที่ดูเป็นแบบ หัวหน้าขี้โมโห ตัวเล็ก เสียงดัง ดูเป็นตัวละครที่แบบ traditional มากๆ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านี่น่ะหัวหน้านะ แต่เราก็ชอบที่เค้าใส่ใจในเรื่องเล็กๆอย่างตอนที่จิโร่บอกว่าอยากได้

ฮอนโจอยู่ในทีม แต่หัวหน้าไม่เห็นด้วย บอกว่าสุดท้ายจะกลายเป็นการแข่งขันระหว่างกันและกันไป มิตรภาพสำคัญกว่า

ชอบฉากฝันสุดท้ายที่เป็นจิโร่ยืนคุยกับวิศวกรอิตาลีอ่ะ
ที่บอกว่า "ไม่มีเครื่องบินสักลำที่บินกลับมา"
"ก็ไม่ที่ให้บินกลับมาอยู่ดี"

แล้วก็ชอบฉากตอนจบที่ปล่อยให้เราคิดเอง ถึงความเป็นไปของนาโฮโกะกับจิโร่ ที่จิโร่พยักหน้าให้กับนาโฮโกะในตอนสุดท้าย เราชอบมากกกกก อดคิดไม่ได้เลยว่า จิโร่ที่ต้องอยู่คนเดียวไม่มีนาโฮ

โกะแล้วจะรู้สึกยังไง ... จริงๆเราว่าเรื่องความรักของสองคนนี้ค่อนข้างรวดเร็วไปหน่อย แต่ก็ถอืว่าเป็นส่วนเยอะของหนังแล้วล่ะค่ะ เราชอบที่นาโฮโกะเลือกที่จะใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายกับจิโร่

สรุปแล้ว เราก็ชอบนะแต่ไม่ได้ประทับใจอะไรมาก จะเรียกว่าไม่ค่อยอินก็ได้ค่ะ (อินเป็นระยะๆ) เหมือนว่ามันจะแอบน่าเบื่อช่้วงที่เป็นเนื้อหาทางเครื่องบินมั้งคะ 555 ความรักก็อย่างที่เราบอกไปว่า

มันรวดเร็วไปหน่อย แต่เราก็ชอบค่ะ



Create Date : 12 สิงหาคม 2557
Last Update : 16 สิงหาคม 2557 18:14:16 น.
Counter : 6573 Pageviews.

3 comments
  
"คืนแห่งฝัน วันแห่งรัก" !? o_O
.
.
อ้าว~ เรื่องนี้ไม่ได้ชื่อว่า "ปีกแห่งฝัน วันแห่งรัก" หรอกเหรอเนี่ย
(แซวเล่นครับ ฮุฮุ)


.....

ใช่ ๆ จิโร่ (ในหนัง) นี่คนบ้างานขนาดหนักจริง ๆ ครับ
ดูสิ! ขนาดรีบจับรถไฟไปเยี่ยมคู่หมั้นที่ป่วย ยังเอางานไปทำด้วย
แถมทำไปน้ำตาก็ไหลหยดแหมะลงบนงานอีกต่างหาก
บ้างานขนานแท้ ^^"

เรื่องความรัก...ผมว่านาโอโกะ (ในหนัง) นี่ถือว่าโชคดีนะครับ
เคยทราบมาว่า..ผู้หญิงสมัยนั้น (โบราณมาก ^^")
ถูกทาบทาม-นัดดูตัว-แล้วก็รวบรัดจับแต่งงานเลย
แต่นาโอโกะได้เลือกคู่ครองจากคนที่แอบปลื้มเองด้วย ดีจัง ^^

ผมชอบตอนจบของเรื่องนี้นะ
ถึงแม้บางคนจะบอกว่าดูแล้วไม่เคลียร์ น่าจะมีต่ออีกหน่อย
แต่สำหรับผมเคลียร์แล้วล่ะ
มันมี message ที่ ผกก. อยากบอกอยู่ในนั้นครบแล้วครับ
โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 14 สิงหาคม 2557 เวลา:23:33:52 น.
  
กริ้ดดดดด เอ๋ออีกแล้วค่ะะะะ อายจังเลย 555
เราอ่ะชื่อเรื่องผิดตลอดดด
โดย: Marina_rain IP: 110.168.245.222 วันที่: 16 สิงหาคม 2557 เวลา:18:13:01 น.
  
นี่ส่วนตัวไม่เคลียร์กับตอนจบที่นาโอโกะไปโรงพยาบาลเลยค่ะ
โดย: Comnom IP: 184.22.158.207 วันที่: 9 ธันวาคม 2566 เวลา:21:23:17 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

marina_rain
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [?]



ติดต่อทางอีเมลได้ที่ wasineechann@gmail.com
สิงหาคม 2557

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31