|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เครื่องดื่มสุดฮิต
เครื่องดื่มสุดฮิต...เขาคิดกันมาได้ยังไง
ได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งค่ะ เรื่อง ชื่อนี้ท่านได้แต่ใดมา โดย ฮ.ซาเปียน เป็นการรวบรวมประวัติความเป็นมาของชื่อเรียกสิ่งต่างๆ แบบที่ไม่ใช่ข้อมูลเชิงวิชาการเท่าใดนัก บ้างก็เป็นตำนาน บ้างก็เป็นข้อสันนิษฐาน แต่อ่านแล้วเห็นว่าน่าสนใจดี ดังนั้นจึงขอเล่าถึงที่มาของเครื่องดื่มต่างๆ ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบกันอย่างแพร่หลายในทุกวันนี้..ขอเริ่มที่เครื่องดื่มแก้วโปรดก่อนเลยค่ะ
กาแฟ : ต้องขอบคุณแพะช่างกินและคนเลี้ยงแพะช่างสังเกตคนหนึ่งในเอธิโอเปียที่ทำให้เมล็ดกาแฟได้เป็นที่รู้จัก มีตำนานหนึ่งเล่าว่ามีคนเลี้ยงแพะคนหนึ่งชื่อ นาย Kaldi สังเกตเห็นว่าแพะที่ตนเลี้ยงมักจะกระโดดโลดเต้นอย่างคึกคักเมื่อได้กินผลไม้เล็กๆ สีแดงๆ เขาจึงลองกินดูบ้าง ปรากฏว่ากินแล้วก็ เออ รู้สึกสดชื่นดีแฮะ ต่อมาเขาไปคุยกับพระนักบวชในหมู่บ้าน นักบวชจึงไปสังเกตและนำผลไม้นี้กลับมาทดลองคั่วและต้มชงดื่ม แล้วก็พบว่ามันทั้งหอมทั้งอร่อย แถมยังทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า สามารถสวดมนต์ในตอนกลางคืนได้นานโดยไม่ง่วงนอนเลย นับจากนั้นกาแฟก็ค่อยๆ แพร่หลายไปทั่วถึงในยุโรป อเมริกา ตลอดจนละตินอเมริกา ผ่านทางพ่อค้า นักเดินทางต่างๆ ที่ไปค้าขาย แสวงโชค หรือตั้งถิ่นฐานใหม่ สำหรับคำว่า Coffee นั้นมาจากชื่อถิ่นกำเนิดที่เมล็ดกาแฟถูกค้นพบ คือ แคว้น Caffa ในเอธิโอเปีย บ้านของนาย Kaldi นั่นเอง งานนี้แพะไม่ต้องรับบาป แต่รับความดีความชอบไปเต็มๆ เลยที่ทำให้มนุษยชาติได้มีโอกาสลิ้มรสกาแฟ
ชา : ในหนังสือเล่มนี้บอกว่าน้ำชามีต้นกำเนิดมาจากฮ่องเต้ ใบไม้ และสายลม ฟังดูโรแมนติกดีจัง ตามตำนานเล่าว่า มีฮ่องเต้จีนองค์หนึ่ง ชื่อ Shen Nung ขี่ม้าไปเที่ยวเล่นในป่าจนกระทั่งเหนื่อย จึงหยุดพักกลางทางเพื่อดื่มน้ำ ขณะที่ต้มน้ำรอให้เดือดได้ที่อยู่นั้น (อากาศคงจะหนาวมั้งคะถึงต้องต้มน้ำร้อนดื่ม) ระหว่างรอเกิดมีลมพัดเอาใบไม้ชนิดหนึ่งปลิวตกลงไปในหม้อต้มน้ำ ฮ่องเต้ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คงเห็นว่าน้ำร้อนขนาดนั้นยังไงเชื้อโรคก็ตายหมด ก็เลยเหวยน้ำนั้นต่อไป ปรากฏว่า ไอ๊หยา อร่อยนี่ กลิ่นหอมกรุ่นละมุนจมูกด้วย นับจากนั้นมาผู้คนก็รู้จักเอาใบไม้ชนิดนั้นมาชงดื่มกัน แถมบางแห่งยังมีการต่อยอดผลิตภัณฑ์โดยการใช้กากใบชาที่เหลืออยู่ก้นถ้วยมาดูดวงซะด้วย
พั้นช์: ชื่อหรูดูดีมีสไตล์กลิ่นอายฝรั่ง แต่เครื่องดื่มชนิดนี้มีที่มาจากอินเดียค่ะ ..อินี่ฉานเป็นคนคิดค้นนะนายจ๋า.. ตั้งแต่สมัยที่อินเดียถูกอังกฤษปกครอง มีฝรั่งชาวอังกฤษนายหนึ่งได้รับเชิญจากเพื่อนบ้านชาวพื้นเมืองให้ไปดื่มสังสรรค์กันหน่อย เครื่องดื่มที่ว่านั่นทำมาจากเหล้าพื้นเมือง น้ำมะนาว น้ำชา น้ำตาล และน้ำเปล่า และเพราะทำจากส่วนผสม 5 อย่างนี่เอง ชาวอินเดียจึงเรียกเครื่องดื่มนี้ว่า ปัญจะ ซึ่งแปลว่า ห้า ฝรั่งนายนั้นติดใจในรสชาติที่ได้ลิ้มลองจึงนำมาเผยแพร่ในหมู่ฝรั่งด้วยกันเอง แต่ฝรั่งออกเสียงไม่ชัด ปัญจะ ก็เลยเพี้ยนมาเป็น พั้นช์ ในที่สุด
ไหมไทย : ค็อกเทลชื่อดังที่นิยมกันทั่วโลก ตอนแรกที่ได้ยินชื่อเครื่องดื่มเมนูนี้คิดว่าเป็นเพราะมีการคิดค้นสูตรขึ้นมาในเมืองไทยซะอีก แต่ไม่ใช่ค่ะ คนคิดสูตรคือ นาย Victor Bergron เจ้าของบาร์แห่งหนึ่งในสหรัฐ ตั้งแต่ปี 1944 นู่นแน่ะ เขาลองผสมเหล้ารัมกับน้ำผลไม้นานาชนิด เสร็จแล้วก็ให้เพื่อนเขาที่เป็นชาวตาฮิติลองชิมดู ชาวตาฮิติไม่ติเลยซักคำ แต่กลับอุทานออกมาเป็นภาษาตาฮิติว่า Mai Tai ซึ่งแปลว่า "ยอดเยี่ยมจริงๆ" นี่ล่ะค่ะ อะไรที่ดีๆ เราก็อยากมีส่วนร่วมด้วยนิดนึง เครื่องดื่ม Mai Tai ของชาวโลก จึงกลายเป็น Mai Thai ในเมืองไทยด้วยเหตุนี้..นี่เอง
Create Date : 22 ธันวาคม 2553 |
|
22 comments |
Last Update : 22 ธันวาคม 2553 15:19:31 น. |
Counter : 1677 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: อ๋อซ่าส์ 22 ธันวาคม 2553 19:42:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: อ๋อซ่าส์ 22 ธันวาคม 2553 19:47:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: maraporn 24 ธันวาคม 2553 18:47:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: nootikky 24 ธันวาคม 2553 19:49:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: อ๋อซ่าส์ 25 ธันวาคม 2553 23:19:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: nootikky 27 ธันวาคม 2553 17:41:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: nootikky 31 ธันวาคม 2553 17:33:45 น. |
|
|
|
|
|
|
|