Croissants au beurre สูตรพยายามอธิบายให้คนอ่านเข้าใจ แหม มาอยู่ไกลถึงฝรั่งเศสทั้งทีแล้วถ้าจะไม่ทำ Croissants กินเองบ้างเห็นจะผิดวิสัยคนชอบทำขนมปังกินเองอย่างเรา ถามว่ายุ่งยากไหม ขอตอบว่าไม่เท่าไหร่ แต่ต้องใช้เวลาเท่านั้นเองค่ะ พอดีเมื่อเช้าสามีสุดที่รักบอกช่วงนี้ไม่ค่อยได้กิน Croissants เลย เราก็เลยบอกว่างั้นเดี๋ยวทำให้กินนะจ๊ะ แต่จะทำทีล่ะมากๆ แบบกินได้หลายวันเลยแหละค่ะถึงจะคุ้ม จำได้ว่าตอนมาอยู่ใหม่ๆมีเพื่อนที่โรงเรียนภาษาขอให้ช่วยสอนทำ Croissants หน่อย เราเองก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่นักว่าสอนไปแล้วเค้าจะเข้าใจได้มากน้อยแค่ไหน แต่ก็พยายามอธิบายแบบสุดความสามารถที่มี แบบเห็นรูปแล้วเข้าใจได้ง่ายเลย เอาแบบว่าคนที่ไม่มีพื้นฐานอะไรมาก่อนเลยก็สามารถทำกินได้เลยค่ะ มาเริ่มกันเลยนะค่ะ วันนี้ทำแบบตัวเล็กค่ะ เพราะว่าเจ้าลูกสาวจะได้จับกินได้ถนัดมือเค้า วันนี้จะทำ Croissants แบบพื้นฐานเลยนะค่ะ น้ำหนักของโดว์ที่ได้รวมแล้วได้ 1 กิโลกรัมค่ะ หรือ ทำออกมาแล้วได้ Croissants 15-20 ตัวค่ะ ส่วนผสม แป้งเค้ก 350 กรัม แป้งทำขนมปัง 150 กรัม น้ำตาลทราย 60 กรัม นมผง 10 กรัม เกลือป่น 12 กรัม เนยที่อุณหภูมิห้อง 100 กรัม ยีสสด 25 กรัม น้ำเย็น 230 กรัม เนยเย็น 250 กรัม ไข่ทั้งใบ 1 ฟอง + ไข่แดง 1 ฟอง ตอนนี้มาดูวิธีทำกันดีกว่าค่ะ 1.ใส่แป้งทั้งสองอย่างรวมกันในโถตีและใช้หัวตีแบบตะขอนะค่ะ พร้อมด้วยน้ำตาล นมผง เกลือ และเนยอุณหภูมิห้อง และที่ขาดไม่ได้เลยคือยีสสดค่ะ การใส่ยีสต้องให้ระวังไม่ให้ถูกเกลือและน้ำตาลนะค่ะ ไม่งั้นมันจะตายก่อนได้ใช้งานค่ะ 2.เริ่มเดินเครื่องใช้ความเร็วต่ำได้เลยค่ะ แล้วใส่น้ำลงไปตีผสมกันขณะที่เครื่องเดินค่ะ 3.พอเทน้ำลงไปแล้วดูให้ส่วนของน้ำไม่กระเด็นออกมาขอบโถ ก็เพิ่มความเร็วของเครื่องตีเป็นความเร็วปานกลางค่ะ ประมาณ 6 นาทีค่ะ หรือดูว่าส่วนผสมเข้ากันดีจนเนียนและยืดหยุ่นได้ดีค่ะ 4.โดว์ที่ดีคือจะต้องไม่ติดขอบโถตี และสามารถหลุดออกมาจากโถได้โดยการใช้มือจับขึ้นมาจากโถค่ะ 5.โรยนวลแป้งที่โต๊ะที่จะใช้นวดแป้ง และวางโดว์ลงไปจัดโดว์ให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมแบบในรูปค่ะ 6.ใช้พลาสติกคลุมให้มิดโดว์ และเอาไปพักไว้ในตู้เย็นค่ะ อย่างต่ำ 2 ชั่วโมงค่ะ 7.ก่อนที่จะเอาโดว์ออกมาใช้งาน ให้เอาเนยเย็นไปเข้าช่องแช่แข็งสักสิบนาทีค่ะ 8.เอาโดว์ออกมารีดให้ได้ความหนา 7-8 มิลลิเมตรค่ะ เพื่อให้ง่ายต่อการรีดโดว์ให้โรยแป้งนวลช่วยนะค่ะ 9.เมื่อครบเวลาที่เอาเนยไปแช่แข็งแล้วให้เอาเนยออกมาจากช่องแช่แข็งออกมารีดค่ะ การรีดคือให้เป็นสี่เหลี่ยมขนาดให้ได้ครึ่งหนึ่งของความยาวของแผ่นโดว์ที่รีดไว้ค่ะ การรีดเนยนั้นให้โรยนวลแป้งช่วยได้ค่ะ หรือถ้าเนยอ่อนตัวเกินไปให้เอากระดาษไขที่ใช้ในครัวน่ะค่ะ ตัดเป็นสองแผ่นแล้วโรยนวลแป้ง เอาเนยใส่ตรงกลางระหว่างกระดาษไขสองแผ่นค่ะ จะทำให้เนยที่อ่อนตัวเพราะความร้อนในมือเรารีดออกมาเป็นแผ่นไม่ติดเป็นมันตามโต๊ะและอุปกรณ์ค่ะ เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นจะลงรูปเป็นแบบภาพวาดนะค่ะ เพราะถ้าให้อธิบายด้วยภาพถ่ายจากของจริงจะไม่เข้าใจสำหรับคนที่เริ่มทำนะค่ะ 10.วางแผ่นเนยลงไปบนแผ่นโดว์ที่รีดไว้ วางแผ่นเนยให้กึ่งกลางของแผ่นโดว์ค่ะ ถ้าไม่เข้าใจดูในรูปเลยค่ะ 11.พับครึ่งแผ่นโดว์ลงมาประกบให้มิดแผ่นเนยเลยค่ะ ดูจากรูปนะค่ะ 12.เมื่อแน่ใจว่าแผ่นโดว์ปิดเนยได้สนิทแล้วให้จับแผ่นโดว์หมุน 90 องศาค่ะ แล้วรีดแผ่นโดว์ให้เป็นสี่เหลี่ยมแผนผ้าค่ะ ให้มีความหนาประมาณ 6-7 มิลลิเมตรค่ะ ให้สังเกตุตามเส้นปะในรูปนะค่ะ และแบ่งแผ่นโดว์ด้วยสายตาตามเส้นปะในรูปค่ะ ดูรูปประกอบนะค่ะ 13.พับหัวท้ายลงมาตามเส้นปะค่ะ อย่างในรูป 14.แล้วพับครึ่งค่ะให้แผ่นโดว์ประกบกันพอดี จะเห็นว่าจะได้แผ่นโดว์ที่พับแล้ว 4 ชั้นนะค่ะ แล้วเอาแผ่นฟิล์มพลาสติกคลุมให้มิดนำไปแช่ตู้เย็น ประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อให้โดว์และเนยแข็งตัวขึ้น จะได้ง่ายในการรีดขั้นตอนค่อไป และที่สำคัญคือ ถ้ารีดโดว์ที่เนยไม่เย็นพอและโดว์ไม่แข็งตังพอจะทำไให้เนยทะลุแป้งออกมาได้และพออบออกมาแล้วมันจะไม่เป็นชั้นค่ะ แต่จะออกมาแบบข้างในเป็นเหมือนขนมปังธรรมดาน่ะค่ะ เพราะเนยมันออกมาผสมกับโดว์พอรีดไปแล้วมันจะกลายเป็นก้อนเดียวกันและไม่ยอมขึ้นชั้นให้ค่ะ ก่อนนำโดว์แช่ตู้เย็นให้จำตำแหน่งของโดว์ว่าตรงไหนหัวหรือท้ายด้วยนะค่ะ หรือทำเครื่องหมายไว้ก็ได้ว่าตรงไหนหัวจะได้จำได้ 15.พอครบเวลาเอาโดว์ออกมาค่ะ อย่าลืมว่าตรงไหนหัวท้ายนะค่ะ แล้วหมุนแผ่นโดว์ 90 องศา แล้วรีดให้เป็นแผ่นยาวหนาประมาณ 6-7 มิลลิเมตรโดยการใช้นวลแป้งโรยช่วยให้รีดได้ง่ายขึ้นค่ะ แล้วใช้สายตากะรอยที่จะพับค่ะ แบบเส้นปะในรูปเลยค่ะ 16.เริ่มพับจากด้านซ้ายหรือด้านขวามลงมาก่อนก็ได้ค่ะ 17.แล้วพับอีกด้านลงมาทบกัน ขั้นตอนนี้เสร็จแล้วจะเห็นว่าโดว์มี ชั้นนะค่ะ แล้วเอาแผ่นฟิล์มพลาสติกคลุมให้มิดนำไปแช่ตู้เย็น ประมาณ 1 ชั่วโมง 18.เอาโดว์ออกมารีดเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมอย่างในรูปให้ได้ความหนา 3-4 มิลลิเมตรค่ะ 19.ตัดแผ่นโดว์แบ่งครึ่งตามแนวยาวค่ะ 20.แล้วตัดแผ่นโดว์เป็นสามเหลี่ยมให้ฐานมีความยาว 5 เซนติเมตร หรือกว้างกว่านั้นถ้าอยากได้ขนมออกมาขนาดใหญ่ขึ้น นำสามเหลี่ยมที่ตัดไว้เอาไปแช่ตู้เย็นค่ะ แล้วเอาออกมาม้วนทีล่ะแผ่น ไม่งั้นเดี๋ยวจะเละค่ะตอนม้วน แต่ถ้าเชื่อมือตัวเองว่าจะม้วนได้ไวก่อนเนยละลายก็ไม่ต้องแช่ตู้เย็นค่ะ 21.การม้วนก็ไม่ยากค่ะ ให้จับแผ่นโดว์ที่ตัดเป็นสามเหลี่ยมแล้ว จับหัวและหางยืดสักนิดค่ะ ไม่ต้องถึงขนาดขาดนะค่ะ นิดเดียวจริงๆ เพื่อให้ตอนม้วนจะได้แน่นหน่อยค่ะ 22.ให้เอาปลายมีดกรีดลงตรงกลางที่ฐานของแผ่นโดว์ที่จะม้วนสักนิดเดียวค่ะ เพื่อที่ตอนม้วนเราจะได้ตัวขนมที่มีด้านข้างยาวขึ้นจะดูสวยค่ะ เหมือนพระจันทร์เสี้ยวนะค่ะ เอาแบบดูรูปประกอบนะค่ะ 23.เริ่มม้วนจากการแบ๊ะส่วนที่กรีดไว้ขึ้นด้านบนแต่เฉียงขึ้นนะค่ะ เพื่อจะดึงด้านข้างให้ยาวค่ะ เอาไงดีล่ะอธิบายยากจัง เอาเป็นว่าดูจากรูปน่ะค่ะ 24.แล้วม้วนต่อจนจบแผ่นค่ะ แต่ต้องให้ไม่แน่นและก็ไม่หลวมมากเกินไปนะค่ะ ที่สำคัญให้ตรงปลายของแผ่นลงไปอยู่ข้างล่างนะค่ะ ไม่งั้นอบออกมาแล้วเด้งค่ะ ไม่สวยนะจะบอกให้ อุ้ยลืมบอกไปว่าก่อนวางขนมบนถาดให้เอากระดาษไขรองก้นก่อนนะค่ะ จะได้ไม่ติดก้นถาดตอนอบเสร็จ แล้ววางขนมให้ห่างกันหน่อยนะค่ะ พอให้มีพื่นที่ให้ขนมขยายตัวตอนพักก่อนอบจะเพิ่มขนาดอีกเท่า แล้วพอเข้าอบขนาดก็จะเพิ่มอีกค่ะ อย่างไงกะให้ได้พอดีนะค่ะ 25.พอม้วนเสร็จหมดแล้วให้พักที่อุณหภูมิห้องที่ค่อนไปทางร้อนนิดหน่อยแต่ไม่เกิน 30 องศาเซลเซียสค่ะ ประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ (ลักษณะที่ดีคือโดว์จะเพิ่มเป็นขนาดเป็นสองเท่านะค่ะ) 26.ก่อนครบเวลาพักโดว์ประมาณ 20 นาที ให้เปิดเตาอบใช้ไปล่างและบนค่ะ 180-190 องศาเซลเซียส 27.เอาไข่ทั้งฟองและไข่แดงมาตีผสมกันค่ะ แล้วใช้พู่กันทาให้ทั่วโดว์ที่เพิ่มขนาดได้ที่แล้วอย่างในรูปค่ะ เพื่อเพิ่มสีสันให้น่ากินน่ะค่ะ 28.เอาขนมเข้าอบค่ะ นาน 12-15 นาที ขั้นตอนนี้ต้องคอยสังเกตุสีของขนมด้วยนะค่ะ เพราะบางครั้งเครื่องอบของแต่ล่ะบ้านความร้อนมันไม่เท่ากันค่ะ ให้ดีต้องมีเครื่องวัดอุณหภูมิไว้สักอันค่ะ พอขนมสุกแล้วเอาออกจากเตาค่ะผึ่งให้เย็นค่ะ วันนี้ทำออกมาได้หนึ่งตะกร้าเต็มๆค่ะ วันนี้มีเชฟตัวเต็งมาลองชิมรสชาดให้ค่ะว่าผ่านหรือเปล่า แต่เอ ทำไมเชฟมือเล็กจัง ทำไรก็ไม่ถนัดอีกเอาไงดีล่ะ งั้นเดี๋ยวมีผู้ช่วยคอยทาแยมให้เชฟก่อนชิมล่ะกันค่ะ จะได้ชิมแยมที่พึ่งทำใหม่ๆไปด้วยเลย อั่นแน่ คนนี้นี่เองเชฟตัวเต็งระดับชาติหน้าตาเป็นอย่างงี้ค่ะ ขอตบท้ายหน่อยนะค่ะว่าการทำครัวซองนั้นออกจะยากหน่อย ทำครั้งแรกอาจจะออกมาไม่ดีเท่าที่ควร แต่เชื่อเถอะค่ะว่า ถ้ามีครั้งแรกแล้วครั้งต่อๆไปต้องตามมาแน่นอน เรื่องความสวยของขนมอันนี้ต้องขยันฝึกฝีมือค่ะ แต่ถ้าบางครั้งกลัวจะกินไม่หมดก็ให้เอาโดว์ดิบๆนี่แหละค่ะแช่ไว้ในช่องแช่แข็งได้ จะกินเมื่อไหร่ค่อยเอาออกมาพักไว้ให้เพิ่มขนาดแล้วอบกินได้ตามต้องการค่ะ   Create Date : 15 มิถุนายน 2552 25 comments Last Update : 19 มิถุนายน 2552 3:52:39 น. Counter : 1556 Pageviews. Share Tweet

อธิบายได้ละเอียดละออดสุดยอดเลยนะคะ ส่วนแป้งก็ทำได้น่าทานจริง ๆ ค่ะ ไม่เสียชื่อไปหญิงไทยเลย เดี๋ยวรอทานขนมชิ้นต่อไปนะคะ วันนี้ขอครัวซองต์ไปทานตัวนึงก่อนนะคะ   โดย: Pastel pied 19 มิถุนายน 2552 6:55:38 น.

ขอครัวซองต์ชิ้นหนึ่งนะคะ ไปทานกับกาแฟ   โดย: yayojung 19 มิถุนายน 2552 7:46:41 น.

ชอบทานครัวซองท์มากเลยค่ะ นี่ก็ว่าจะทำเหมือนกัน แต่แอบขี้เกียจเล็กน้อย ทำทีต้องทำเยอะๆ เพราะจะได้คุ้มค่าเหนื่อย อิอิ น่ากินสุดยอดเลยค่า   โดย: Tiny Bakery 19 มิถุนายน 2552 8:53:26 น.

อยากทำกินเองบ้างเหมือนกันคะ แต่ใช้เวลานานจริงๆ เลย สรุปว่าซื้อ ว่างั้น   โดย: Azizan 19 มิถุนายน 2552 10:35:21 น.

อธิบายได้ละเอียดมากๆ เลยค่ะ ข้าน้อยนับถือๆๆ ขอ save ไว้ก่อนดีกว่า โอกาสเหมาะๆ คงได้ลองทำบ้างเพราะคงต้องใช้เวลากับมันมากพอดู   โดย: คาร์เนชั่นสีม่วง 19 มิถุนายน 2552 11:24:30 น.

ดาวจ๋า นำขนมที่ประเดิมเปิดกรุ๊ปบล็อกใหม่มาฝากค่ะ ชอบบ้านนี้จังเลย มีนักชิมประจำบ้านหน้าตา น่ารักๆอีก... ท่าทางขนมจะอร่อยมากกกกก เพราะเธอ ทานตุ้ยๆๆ เลย ... ขอให้มีความสุขมากๆ น๊า ดาวจ๋าขอแอ๊ดเป็นเพื่อนบล็อกด้วยนะคะ .. วันหลังจะได้มาดูว่านักชิม จะชิมอารายยอีกค่ะ ...   โดย: ดาวจ๋า คนซนๆค่ะ (satineesh ) 19 มิถุนายน 2552 15:12:25 น.

เคยทำค่ะ ออกมาอันใหญ่ยังกะหมอน หนุนนอนได้เลย...เหนื่อยม๊ากๆๆๆ   โดย: popang (popang ) 19 มิถุนายน 2552 16:14:09 น.

เด็ดดวง   โดย: หลั่มหมั่นเหม่ง 19 มิถุนายน 2552 16:42:58 น.

ว่าแต่ยังไม่วันเสาร์เลยครับที่นี่ยังวันศุกร์อยู่เลย 555   โดย: หลั่มหมั่นเหม่ง 19 มิถุนายน 2552 16:43:30 น.

กระจ่างสุดๆเลยคับ เครียทุกข้อสงสัยเลยคับ   โดย: bb_bon 19 มิถุนายน 2552 18:08:38 น.

ขอบคุณทุกคนอย่างสุดซึ้งค่ะที่เข้ามาเยี่ยม เดี๋ยวรอถามเชฟใหญ่ก่อนว่าคราวหน้าอยากให้นำเสนออะไรค่ะ เรื่องสูตรไม่ต้องห่วงค่ะ เพราะที่เรียนมาน่ะบอกได้เลยไม่หวงจริงๆ รู้อะไรมา ได้อะไรมากก็อยากบอกให้หมดอ่ะค่ะ เพราะกลัวมันจะตายไปกับตัวแล้วจะไม่มีคนสืบทอด เหมือนเรียนมาแล้วเสียป่าว   โดย: marabout 19 มิถุนายน 2552 18:45:32 น.

ิเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าครัวซองค์เค้าม้วนกันยังไง ยังไม่เคยลองทำแป้งเพสตรี้สักที ไม่กล้า แหะๆ แต่ดูจากที่คุณmarabout อธิบายแล้วง่ายดีจัง อยากลองทำมั่งแล้วค่ะ ว่าแต่เชฟมือเล็กๆให้คะแนนครัวซองค์เท่าไรค่ะนี่ อิอิ ปล.ขออนุญาต add link นะคะ ขอบคุณค่ะ   โดย: mma_mmi 19 มิถุนายน 2552 20:49:25 น.

ครัวซองต์อวบอึ๋มได้ใจมากๆเลยค่ะ แต่ดูรูปแล้วรูปน่ารักดีแต่ไม่ได้อ่านค่ะ555อ่านแล้วงงค่ะ   โดย: มิคุริ 19 มิถุนายน 2552 22:16:27 น.

โอโฮะ ดูหน้าเชฟซะก่อน อร่อยจริงๆนะเนี่ย เชื่อแล้วค่า   โดย: Febie 19 มิถุนายน 2552 22:23:55 น.

ง่า..ท่าทางจะยากนิคะ..แต่เห็นคนชิมแล้ว..รับประกันความอร่อยเล้ยยยย   โดย: กะตุ้งนิ้ง 20 มิถุนายน 2552 3:43:18 น.

หวัดดีค่ะ แวะมาทักทายค่ะ ครัวซองน่าทานน๊ะค๊ะ   โดย: ข้าวฟ่างเปียก 20 มิถุนายน 2552 12:00:24 น.

หูยยย งามและน่ากินมากกกก คนชิมก้อน่าเอ็นดูซะ อิอิ นี่กะลังฝึกทำขนมปังค่ะ รอให้เก่งกว่านี้ซะหน่อย จะลองทำครัวซองค์แน่ๆ ค่ะ   โดย: kokophiz 20 มิถุนายน 2552 17:56:09 น.

ดูแล้วไม่ยาก แต่ว่ามันไม่น่าจะง่ายเลยค่ะ แต่ทำออกมาแล้วน่ากิ๊น น่ากิน   โดย: currywurst 20 มิถุนายน 2552 23:36:11 น.

ทำออกสวยเชียวค่ะ แถมดูน่าทานมากมาก   โดย: smithfamily 21 มิถุนายน 2552 1:28:56 น.

โห น่าทานมากก ครัวซองต์เป็นของโปรดเลยนะคะนี่ แต่ทานมากไม่ได้ค่ะ เอวจะคอยขยายออกข้างให้ได้เลย วิธีทำละเอียดยิบ ไว้จะมาขอลอกสูตรไปทำบ้างนะคะ แต่คงต้องใช้ความพยายามและใช้เวลาเยอะแน่ๆเลยค่ะ อบทีนึงหอมมมม ไปทั้งบ้านเลยใช่มั้ยคะ   โดย: เป็นแค่หนึ่งคนนี้ 21 มิถุนายน 2552 10:35:00 น.

ชอบหม่ำมากเหมือนกันค่ะ ตอนอบกลิ่นคงหอมไปทั้งบ้านเลยเนอะ ตัวเล็กๆ แบบนี้ขอสองตัวนะค๊าา อิ อิ   โดย: its_gemmi 21 มิถุนายน 2552 20:51:04 น.

อธิบายละเอียดดีจังเลย แม่แจ่มใสเคยจะทำหลายหนแล้วคะ แต่ทำใจไม่ได้ตรงใส่เนยเยอะๆนี่แหละ ทำแล้วไม่กล้าทานแน่ แต่ไปซื้อมาน่ะทานได้ เพราะไม่รู้ไม่เห็น   โดย: แม่แจ่มใส (MommyTammy ) 22 มิถุนายน 2552 8:40:28 น.

นางแบบน่ารักมากเลยครับ   โดย: kirofsky 22 มิถุนายน 2552 9:10:55 น.

แวะมาชิมครัวซองสวยสุดยอดไปเลยค่ะ   โดย: never the last 24 มิถุนายน 2552 8:01:24 น.

น่าทานจังเลยค่ะ อบออกมาแล้วสีสวยมากๆ น่าทาน น่าทานที่ซู้ด   โดย: TP.pop 8 กรกฎาคม 2552 22:01:56 น.