มหาสมุทรที่ยิ่งใหญ่ได้ เพราะอยู่ต่ำกว่าแม่น้ำทั้งหลาย.....................

สันโดษ....เคล็ดลับของความสุข (เล่าเรื่องประกอบภาพ)









ช่วงนี้ความคิดเป็นอะไรก็ไม่รู้
มันเหมือนกับตัวเราเป็นภูเขาไฟ

บางครั้งก็ดูสงบดี
บางครั้งก็ฟุ้งซ่าน ดุจดังภูเขาไฟที่ประทุขึ้นมาด้วยความกราดเกรี้ยว
บางครั้งมันเหมือนคุม"สติ"ตัวเองไม่ค่อยอยู่...เฮ้อ...

............

วันก่อนจิตมันฟุ้งซ่านมาก
เลยหาทางที่จะทำอะไรก็ตาม เพื่อไม่ให้"จิต"ของเรามันทำร้ายตัวเอง

ลองจัดห้องที่รกหูรกตา
หวังเอาไว้ว่าถ้าทำเสร็จแล้ว
มันคงทำให้เราไม่ฟุ้งซ่าน ซักครู่นึงก็ยังดี

จัดห้องไปๆมาๆ ไปเจอหนังสืออยู่เล่มนึง
เป็นหนังสือเล่มบางๆเล็กๆ
สีเหลืองสดใสสะดุดตา

หน้าปกเป็นรูปการ์ตูนน่ารักๆ มีเขียนไว้ที่หน้าปกว่า
"สันโดษ....เคล็ดลับของความสุข"
เขียนโดยพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก

เล่มนี้จำได้ว่าเป็นของขวัญที่น้องโอ๋ กับ ณ มิตรมอบให้ตอนไปกรุงเทพคราวกะนู้น
ความจริงน้องโอ๋เค้ามีให้เลือกหยิบหลายเล่มมาก
จำไม่ได้เหมือนกันว่าเล่มอื่นๆชื่อว่าอะไรบ้าง
แต่มาสะดุดกับเล่มนี้มากที่สุด ก็เลยหยิบมา










รูปร่างหน้าตาของหนังสือมันเป็นแบบนี้แหละครับ

ผมดองมันเอาไว้ซะนานเลย

ความจริงตั้งใจว่าจะอ่านตั้งหลายทีแล้ว
แต่เอาไปเอามา มันก็มีเรื่องนั่นเรื่องนี่ให้ทำ
จนผลัดวันประกันพรุ่งมาเรื่อยๆ

วันนี้เลยตั้งใจว่าจะอ่านให้จบ หลังจากทำความสะอาดห้องเสร็จ
เอาไปเอามาเริ่มอ่านตอนเที่ยงคืน
ไปเสร็จเอาเกือบตีสอง

ความจริงเนื้อหามันไม่เยอะหรอกครับ
แต่ที่ใช้เวลานานก็เพราะว่าบางทีผมจะอ่านกลับไปกลับมา

เหมือนกับค่อยๆอ่าน ค่อยๆวิเคราะห์ไปซะมากกว่า
มันไม่เห็นมีอะไรที่เราต้องเร่งรีบเลยนี่

แค่นี้ชีวิตของเรายังเร่งรีบกันไม่พออีกหรือ?........









ขออนุญาตยกบทความบางบทในหนังสือเล่มนี้มาแบ่งปันให้ได้อ่านกันน่ะครับ

...........

เคล็ดลับของความสุขที่คนเรามักจะมองข้ามไปคือ
"ความสันโดษ" ซึ่งเป็นสิ่งที่มีอยู่ เป็นอยู่ ซ่อนอยู่ในตัวเราที่นี่ เดี๋ยวนี้

อวิชชา ความไม่รู้ และตัณหาความทะยานอยาก
เป็นสิ่งที่ปิดบังทำให้เรามองไม่เห็นวิถึแห่งความสุข
อันเกิดจาก "ความสันโดษ"

ความสุขอันเกิดจากความสันโดษนั้น
เราไม่ต้องแสวงหาอะไรนอกตัวเรา
เพราะมันมีอยู่ในตัวเราทุกคนอยู่แล้ว
เว้นซะแต่ว่าเรามองไม่เห็นมัน
(สองบรรทัดนี้ผมเขียนต่อขึ้นมาเองครับ...คาดว่าท่านคงหมายความเอาไว้เช่นนี้)









คนจำนวนมาก เข้าใจความหมายของคำว่าสันโดษผิดไป
คิดว่าสันโดษคือการพอใจอยู่คนเดียว
หรือการที่เราไม่ทำอะไร

หากเข้าใจกันแบบนี้แล้ว
คงจะทำให้ปรเทศชาติไม่เจริญ ประชาชนไม่รู้จักพัฒนาตน
เพราะพอใจในสภาพตามมีตามเกิดตามธรรมชาติ
เป็นอยู่อย่างไร ก็พอใจแค่นั้น
มีน้อยแค่ไหน ก็ไม่ต้องขวนขวายไปหามาเพิ่ม

...............


ความจริงแล้ว การพอใจอยู่คนเดียว
ภาษาบาลีเรียกว่า "ปวิวิตตะ" ไม่ได้เรียกว่าสันโดษ

ส่วนการไม่ทำอะไรนั้น
ภาษาบาลีเรียกว่า " โกสัชชะ" คือความเกียจคร้าน ไม่ได้เรียกว่าสันโดษเช่นกัน









คำสอนของพระพุทธเจ้าเรื่องสันโดษ
ไม่ได้สอนให้คนเกียจคร้านท้อถอย
ไม่ขยันหมั่นเพียรในการทำหน้าที่การงาน
อย่างที่มีการเข้าใจผิดกัน


พระพุทธเจ้าสอนเรื่องสันโดษ
เพื่อให้เรารู้จัก"พอใจ"
กับสิ่งที่ตนมีอยู่ สิ่งที่ตนได้มา
และสิ่งที่สมควรแก่ฐานะของตน










จะขอยกตัวอย่างนิทานเรื่องสั้นๆในหนังสือเล่มนี้
มาให้อ่านเป็นตัวอย่างสักเรื่องหนึ่ง

.....................

นิทานเรื่อง"นัสรูดิน กับ มุสตาฟา"

เรื่องมีอยู่ว่า.....

นัสรูดินมีเพื่อนสนิทคนหนึ่งชื่อมุสตาฟา
มุสตาฟาเป็นคนที่ไม่ฉลาด นัสรูดินเป็นคนเฉลียวฉลาด
แต่ชอบทำตัวเป็นคนโง่

วันหนึ่ง มุสตาฟาตื่นแต่เช้ามืด
ด้วยความท้อแท้ก็ไปหานัสรูดิน และบอกว่า

"เพื่อนเอ๋ย บ้านที่ผมอยู่มันคับแคบ กลิ่นเหม็นอับ ไม่คล่องตัวเลย ผมไม่มีความสุข"

"กลัดกลุ้มมาหลายปีแล้ว ช่วยผมหน่อยได้ไหม เงินที่จะชยายห้องก็ไม่มี"











นัสรูดินจึงบอกว่า

"เอาล่ะ แกต้องเชื่อข้าน่ะ เชื่อทุกอย่างน่ะ แล้วจะช่วยให้สบายขึ้น"

มุสตาฟาพูดว่า

"ผมจะเชื่อทุกอย่างที่นายบอก"

นัสรูดินได้ทีก็บอกไปว่า

"คืนนี้น่ะ เอาแพะไปล่ามในห้องนอนของแก"

มุสตาฟางง แต่ก็เชื่อฟังนัสรูดิน
รุ่งขึ้นมา มุสตาฟาตาแดงมาหานัสรูดิน
บอกว่า

"ผมนอนหลับๆตื่นๆ เจ้าแพะวายร้ายมันร้องทั้งคืน ไหนว่าจะช่วยให้ผมมีความสุขไง?"










นัสรูดินบอกว่า

"เอาน่า เชื่อฉันสิ คืนนี้เอาลาเข้าไปอีกตัวหนึ่ง ไปล่ามไว้ด้วยกัน"

มุสตาฟาคนโง่ก็ทำตาม เอาลาเข้าไปล่าม
รุ่งเช้าก็โผเผมาบอกนัสรูดินว่า

"เจ้าแพะกับเจ้าลามันทะเลาะกันทั้งคืน ร้องและเตะกันถ่ายมูลออกมา
ห้องผมเล็กนิดเดียว เหม็นคลุ้งไปหมดแล้ว ไหนว่าจะช่วยให้ผมสบายขึ้นไงหล่ะ"

นัสรูดินบอกว่า

"เอาน่า คืนนี้ได้เรื่อง ให้เอาม้าเข้าไปอีกตัวหนึ่งน่ะ"











พอรุ่งเช้า มุสตาฟาไม่มีแรง ท่าทางโรยรามาก
เพราะไม่ได้นอนทั้งคืน บอกกันนัสรูดินว่า

"ช่วยผมด้วย ช่วยผมให้มีความสุขหน่อย "

นัสรูดินตอบไปว่า

"เอาหล่ะ ได้ที่แล้ว คืนนี้เอาแพะออกจากห้องไปน่ะ"










พอรุ่งเช้ามุสตาฟามาหา
นัสรูดินก็ถามว่าเป็นไงบ้าง

มุสตาฟาจึงบอกว่า "ค่อยยังชั่วนิดหนึ่งแล้ว"

นัสรูดินบอกว่า
งั้นคืนนี้เอาลาออกไป

รุ่งเช้ามุสตาฟาบอกว่า ผมรู้สึกว่าห้องผมกว้างขึ้น

นัสรูดินบอกว่า งั้นคืนนี้แกเอาม้าออกไปจากห้อง

รุ่งเช้ามุสตาฟาเดิมยิ้มเผล่บอกว่า แหม...ผมรู้สึกเป็นสุขเหลือเกิน
ห้องผมรู้สึกมันกว้างขวางดี










คงมีหลายคนที่เป็นแบบมุสตาฟานี่แหละ

ไม่รู้จักพอใจตนเอง เที่ยวคิดฟุ้งซ่านไป
ครั้นสูญเสียไปทีละน้อย พอได้คืนมาจึงเห็นคุณค่า
ของสิ่งที่ตนมีอยู่

ถ้ารู้จักคิดดี คิดถูกเสียตั้งแต่ต้น ก็จะสุขใจ
สบายใจ ไม่ต้องกระวนกระวายใจให้เป็นทุกข์










เมื่อเราเข้าใจกฏแห่งกรรม
ยอมรับกฏแห่งกรรมด้วยปัญญาชอบ
แล้วก็จะพอใจ ในสิ่งที่มีอยู่ เป็นอยู่ ตามฐานะของตนในปัจจุบัน
ยอมรับว่าสิ่งที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน สมบูรณ์แล้วด้วยเหตุผล

พระพุทธเจ้าตรัสว่า
กรรมเก่าคือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ร่างกายจิตใจของเรา
รวมทั้งสิ่งที่เป็นที่พึ่งที่อาศัยของกาย
เช่น พ่อแม่ พี่น้อง สามีภรรยา ลูกๆ บุคคลต่างๆ
ตลอดจนทรัพย์สมบัติ สถานที่ บ้าน สังคม ประเทศชาติ
ที่เราต้องไปเกี่ยวข้อง ล้วนเป็นกรรมเก่า
.
.
.
.











"สันโดษ"
มาจากภาษาบาลีว่า "สันโตสะ"
สัน....แปลว่า ตน
โตสะ...แปลว่า ยินดี

สันโดษจึงแปลว่า ยินดี พอใจ อิ่มเอม สุขใจ กับของของตน

กล่าวโดยย่อก็คือ ให้รู้จักพอ ให้รู้จักประมาณตน

ลักษณะของสันโดษสามประการคือ

1.ยินดีตามมี
2.ยินดีตามได้
3.ยินดีตามควร











ยินดีตามมี.
.
.
.
แม้มีบางสิงบางอย่างไม่ถูกใจ
ก็ต้องอาศัยปัญญาชอบที่จะยอมรับความจริง
จนทำใจให้สงบ สบายใจได้











ยินดีตามได้
.
.
.
.
ยินดีกับของส่วนที่ได้มา
คือ เมื่อแสวงหาประโยชน์อันใดแล้ว
ได้เท่าไหร่ ก็พอใจเท่านั้น ยินดีพอใจในสิ่งที่ได้

สิ่งที่ได้"มันก็พอดีๆกับการกระทำของตนเองทั้งนั้น"
เมื่อเข้าใจจุดนี้ก็จะสบายใจ มีความยินดีพอใจในสิ่งที่ได้











ยินดีตามควร
.
.
.
.
ยินดีกับของที่สมควรแก่ตนเท่านั้น
สิ่งใดที่มีอยู่ หรือจะได้มา หากเห็นว่าไม่สมควรกับเรา
ก็ไม่ยินดี ไม่ยอมรับไว้

การจะตัดสินใจว่า ควรหรือไม่ควรนั้น
ให้พิจารณาโดยใช้หลักสามประการ

ควรแก่ฐานะ..

ควรแก่ความสามารถ...

ควรแก่ศีลธรรม...










ขอนำหลักการฝึกตนให้สันโดษในหนังสือเล่มนี้มาให้อ่านสักหน่อย

...........

วันหนึ่งเราก็ต้องพลัดพรากจากสมบัติที่เราหาไว้
เพราะฉะนั้นหากเราฝึกปฏิบัติ ในเรื่องสันโดษได้
เราก็จะไม่ยินดียินร้าย
เมื่อเราสูญเสียสิ่งเหล่านั้นไป

เพราะฉะนั้นจึงแนะนำให้

1.พิจารณาความแก่ เจ็บ ตาย
2.พิจารณากฏแห่งกรรม
3.ให้ทาน
4.รักษาศิล
5.เจริญอานาปานสติ และเมตตาภาวนา












พิจารณาความแก่ ความเจ็บ ความตาย อยู่เป็นประจำ

เพราะเป็นความจริงของชีวิตที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้
ไม่ว่าจะดิ้นรนแสวงหาเงินทอง สะสมทรัพย์ไว้ได้มากเพียงใด
วันหนึ่งเราก็ต้องพลัดพราก จากสมบัติที่เราหาได้

เมื่อพิจารณาเช่นนี้บ่อยๆ
ความโลภในทรัพย์สมบัติก็จะลดน้อยลง


.........


พิจารณากฏแห่งกรรม


ไม่ว่าจะทำกรรมใดไว้
เราจะต้องเป็นผู้ได้รับผลกรรมนั้นๆสืบไป











การให้ทาน

หมั่นให้ทานอยู่เสมอ อานิสงส์ของการให้ทานที่ผู้ให้จะได้รับในทันทีคือ
"ได้ลิ้มรสความสุขอันเกิดจากการให้"

การสละแบ่งปัน เพื่อความสุขแก่ผู้อื่น
การให้ทานเป็นการฆ่าความตระหนี่ ความโลภในจิตใจไปทีละน้อย

มองเห็นคุณแห่งความสุขจากการคิดให้
แล้วความสันโดษก็จะเกิดขึ้น

...........


การรักษาศีล

ศีลห้าเป็นกรอบทำให้เราไม่ไปเบียดเบียนผู้อื่น

และใหหาโอกาสเพื่อรักษาศีลแปด เพื่อขัดเกลาจิตใจ


............


การเจริญภาวนา


ให้หมั่นเจริญอานาปานสติ และเมตตาภาวนาอยู่เป็นประจำ
โดยเฉพาะเวลาก่อนนอน และตอนเช้า
ก่อนที่จะเริ่มภารกิจอย่างอื่น


เมื่อทุกคนปฏิบัติได้ดังนี้แล้ว
เชื่อว่าความสันโดษจะพึงมีกับทุกคนแน่นอน

ขอบคุณที่อ่านมาจนจบครับ

สวัสดี.....










อ้อ.....บอกเอาไว้นิดหนึ่ง
เผื่อมีคนหมั่นใส้ว่าผมทำได้หมดหรือยัง ถึงได้เอาเรื่องเหล่านี้มาสอน หรือมาบอกต่อ

ผมบอกได้เลยว่าผมเป็นคนหนึ่งที่ยังปฏิบัติตามหลักสันโดษไม่ดี
อาจทำได้ไม่ดีมากๆด้วยซ้ำ

แต่อย่างไรก็ตาม ผมจะพยายามยึดหลักนี้
และผมก็อยากให้ทุกๆคนยึดหลักนี้ไปใช้ด้วยเช่นกันครับผม

ขอบคุณครับ









 

Create Date : 23 เมษายน 2551
60 comments
Last Update : 23 สิงหาคม 2552 20:44:57 น.
Counter : 1867 Pageviews.

 

จิตฟุ้งซ่านนั่นหรือมีสาเหตุหลายประการ อาทิเช่น กินมากเกิน ใช้จ่ายเงินเกิน เที่ยวมากเกิน ทางแก้นั้นง่ายมากๆ ..... จะอะไรซะอีกล่ะครับ มันก็แค่หยุดกิน หยุดใช้เงิน และหยุดเที่ยว เท่านี้อาการฟุ้งซ่านของหมอเบสก็หายเป็นอีปริด...ทิ้งแล้วจ้าาาาา

 

โดย: พี่รี่+ต๊อก 23 เมษายน 2551 17:46:36 น.  

 

ร่วมอนุโมทนาค่ะ

 

โดย: honeybee042 IP: 125.26.77.143 23 เมษายน 2551 17:46:57 น.  

 

สุโข วิเวโก

สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบนั้น ไป่มี

 

โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง 23 เมษายน 2551 18:12:34 น.  

 

สวัสดีครับคุณหมอ


ผมไม่แม่นในคำบาลีครับ
แต่อ่านข้อเขียนคุณหมอแล้วก็รู้สึกดี
ประกอบกับรุปสวยๆโดนใจหลายรูปเลยครับทั้งแมลงปอปีกสีเขียวตัวนั้น
สวยเหลือเกินครับ




สันโดษของผมอาจแค่หมายถึง
การได้ "สงบ" ท่ามกลางความวุ่นวายน่ะครับ

ไม่รู้คุณหมอเคยเป็นรึเปล่า
เหมือนเราอยู่กลางห้างที่เต็มไปด้วยเสียงมากมายร้อยแปด
แต่เราจะได้ยินเสียงเดียว นั่นคือ ความเงียบในใจเรา

ถ้ารักษาความรู้สึกแบบนี้ไว้ได้สม่ำเสมอ
ผมว่าเราก็สันโดษแล้วครับ
มันดีกว่าการไปเดินป่า อยู่กลางดอย
หรือแม้แต่การหลับตานั่งสมาธิแล้วยิ่งเพิ่มความฟุ้งซ่านให้กับความคิดตัวเอง


........................................



วันหลังฝากถ่ายรูปผมที่เหี่ยวๆให้ออกมาสวยงามหน่อยได้มั้ยครับ

^
^

บางอย่างที่เหี่ยวๆ
ถ่ายยังไงก็ไม่สวยนะครับคุณหมอ คริคริ

emoemoemoemoemo

 

โดย: ก๋า เก็กเสียง (กะว่าก๋า ) 23 เมษายน 2551 19:39:48 น.  

 

รูปสวยจังค่ะ เพลินมาก

 

โดย: mungkood 23 เมษายน 2551 19:54:32 น.  

 

สวัสดีคะ
มาอ่านบลอกของคุณหมอวันนี้ทำให้ได้รู้ถึงความหมายของคำว่าสันโดษจริงๆซะที
ภาพสวยจังเลยคะ

 

โดย: อาจารย์บ้านนอก 23 เมษายน 2551 20:05:06 น.  

 

ผมก็สันโดษ แต่แปลว่า ไม่มีใครคบ แงๆๆ

 

โดย: แอบชอบ คห. ข้างล่าง IP: 125.24.91.39 23 เมษายน 2551 20:51:47 น.  

 

วันนี้มีคนให้พรนาห์แปลกๆไม่คุ้นหูมาสองคน
คือพี่หมอกะพี่โบ๊ต

พอมาอ่านบล็อกพี่หมอเลยเข้าใจถึงที่มาของคำอวยพร

ขอบคุณนะคะที่เข้าไปอวยพรวันเกิดให้แก่กัน

 

โดย: มัยดีนาห์ 23 เมษายน 2551 20:53:15 น.  

 

แป่ว นาห์เฉยๆกะคห.ข้างบนนะค่ะ
ไม่ได้ชอบไม่ได้รัก

 

โดย: มัยดีนาห์ 23 เมษายน 2551 20:56:04 น.  

 

อ่า....ผมก็นึกว่าคุณหมอหมายถึงหลังใบหูซะอีก 5555

emoemoemo

 

โดย: ก๋า เก็กเสียง (กะว่าก๋า ) 23 เมษายน 2551 21:09:10 น.  

 

ภาพมุมมองแปลกตา

โดดเด่นด้วยเรื่องราวที่เร้นอยู่

โรแมนติคในความสัมผัส

และลึกซึ้งในความรู้สึกงดงาม ตามความหายของภาพ

 

โดย: โสมรัศมี 23 เมษายน 2551 21:16:55 น.  

 

ได้มุมมองชีวิตที่นำไปใช้ได้ ขอบคุณค่ะ

 

โดย: อึ่งปากขวด 23 เมษายน 2551 22:41:09 น.  

 

เป็นบล็อกที่ดีมากพ่อหมอ....


แอบมีเอาโลโก้กระทุ้งผิวน้ำซะเป็นคลื่นเลยนะ....

ร้ายจริงๆ...

 

โดย: namit 23 เมษายน 2551 22:41:37 น.  

 

อยากบอกว่ามีเพื่อนให้เล่มนี้กะ skyrocket เหมือนกันตอนปีใหม่...ทีแรกคิดว่า..เอ๊ะ...เขาแอบด่าอะไร หรือต้องการตอกย้ำอะไรเราหรือเปล่าน่า...

..พอมาเห็นของคุณหมอแล้ว....อืม....ต้องกลับไปอ่านอีกสักรอบแล้ว..

 

โดย: skyrocket IP: 58.9.184.13 23 เมษายน 2551 22:44:48 น.  

 


เรื่องราวเยี่ยมไปเลยจ๊ะพี่หมอ..

ความจริงมนุษย์ธรรมดาอย่างเราๆ
คงหาน้อยที่จะสามารถปฏิบัติได้เต็มที่ทุกประการ
แต่เพียงแค่ได้เริ่มระลึกและหมั่นฝึกฝนบ้าง
แค่นี่ก็มีประโยชน์แล้วหละ...

โดยเฉพาะการแก้ไขความทุกข์ใจ (สำหรับวิธีที่อรใช้นะ)))
แค่ลองมองต่างมุมน่ะ... บางครั้งมันก็ช่วยได้เยอะเลยนะ

ภาพสวยมากๆ ด้วยหละ...ชื่นชม ชื่นชม

...... ......

 

โดย: สะพานไม้ 24 เมษายน 2551 0:54:30 น.  

 



ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ แบบนี้นะคะเฮียเบส

 

โดย: เพื่อนของเพื่อน ^O^ IP: 202.12.118.61 24 เมษายน 2551 10:51:32 น.  

 

ขอบคุณนะคะที่เอาสาระมาฝากกันบ้าง เพราะบล็อกหนูมันไม่มีสาระเอาซะเลยอ่า ตอนแรกเข้าใจว่าสันโดษ หมายถึงอยู่คนเดียวซะอีก

 

โดย: butbbj 24 เมษายน 2551 12:20:49 น.  

 

สวัสดีครับคุณหมอ

เห็นเม้นท์คุณหมอ
วิญญาณก๋าราณีเข้าสิงทันที 55555

ขนาดว่าจะหยุดสักพัก
มันอดไม่ได้ครับ
เพราะเป็นคำถามที่น่าตอบจังเลย

ขอละเมิดความคิดตัวเองอีกครั้ง
ขอนำเม้นท์คุณหมอมาตอบคำถามนะครับ
เป็นการ์ตูนครับ

ไว้ตอบเสร็จจะมาเคาะประตูบอกนะครับ

 

โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) 24 เมษายน 2551 12:43:22 น.  

 

หวัดดีค่ะ ตอนแรกจะแวะมาดูรูปสวยๆ เหมือนปกติ
แต่ได้มาอ่าน แล้วทำให้ข้อคิดอะไรๆ หลายอย่าง
เลยค่ะ ขอบคุณมากนะค่ะ
ตอนนี้เปลี่ยนมานับถือคริสต์ค่ะ
แต่เมื่อก่อนเป็นพุทธ อาจารย์หมอที่ รพ
เค้าเป็นคริสต์เหมือนกัน แต่เค้าชอบอ่านหนังสือ
ของอาจารย์ท่านนี้ล่ะค่ะ เค้าก้อแนะนำให้อ่าน
เหมือนกัน เค้าว่ามีข้อคิดกับคำสอนดีๆ ด้ แล้วก้อ
ได้คำตอบดีๆ เหมือนกันค่ะ
^^

 

โดย: แพนด้าเริงระบำ 24 เมษายน 2551 12:45:46 น.  

 

อ๊ะโห ปลงอย่างงงๆ เลยฮับ

 

โดย: butbbj 24 เมษายน 2551 12:56:58 น.  

 

แวะมาชมรูปงามๆ + อารมณ์สันโดนของคุณหมอ
เรื่องการนำมาเผยแพร่นั้นเป็นเรื่องน่ายินดี และ เป็นบุญมหาศาล

ขอให้หมอเข้าใจและดูธรรมชาติตามความเป็นจริง
ก็จะรู้ว่าตัวเราไม่มีอะไรเลย..จริงๆ

ขอให้มีความสุขกับการที่ได้ลงมือทำครับ
ช่วงนี้วุ่นวายมากๆๆ ไม่อยากขับรถแล้ว
อยากอยู่แบบสันโดดอ่ะ...

 

โดย: Little Knight 24 เมษายน 2551 13:41:54 น.  

 

คุณหมอเอาคำคมมาวางในบล็อก
แล้วผมจะเอาก้อนหินมาปาหลังคาบ้านคุณหมอได้อย่างไร
5555

เดี๋ยวจะเอาดอกไม้มามอบให้ครับ
ในวันที่อัพบล็อกเสร็จครับ

 

โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) 24 เมษายน 2551 14:34:37 น.  

 

สุขอื่นยิ่งกว่าใจหยุดนิ่งไม่มี ค่ะคุณหมอ (จะลงภาษาบาลีด้วยกลัวผิด...ขี้เกียจค้นค่ะ)

 

โดย: Little sun IP: 72.14.204.136 24 เมษายน 2551 14:45:09 น.  

 

สาธุกับคุณหมอจริงๆ คุณหมอหาที่พึ่งได้ถูกต้อง ธรรมะนั้นเป็นที่พึ่งที่ดีที่สุดอย่างแท้จริง ความทุกข์ในโลกของคนเรานั้นเกิดจากความทะยานอยาก เมื่อมีสติเกิดขึ้นก็สามารถหาที่พึ่งและสงบระงับเหตุที่ก่อให้เกิดความทุกข์เหล่านั้น แม้จะดับเหตุได้เพียงชั่วครั้งชั่วคราว แต่ก็ทำให้เกิดปัญญาความรู้ว่าทุกข์คืออะไร เกิดจากเหตุคือสิ่งใด ทุกข์จะน้อยลงอย่างไร วิธีทำให้ทุกข์คลายลงทำเช่นไร เชื่อว่าคุณหมอได้ปัญญาในธรรมยิ่งๆขึ้นไป

 

โดย: กิตติ IP: 202.90.6.36 24 เมษายน 2551 15:07:35 น.  

 

ชอบคำที่พระพุทธเจ้าสอนมากเลยหมอ

"พอใจ"
กับสิ่งที่ตนมีอยู่ สิ่งที่ตนได้มา
และสิ่งที่สมควรแก่ฐานะของตน


ใช่เลยครับ หลายครั้งที่ผมมักจะลืมประโยคนี้
ขอบคุณอีกครั้ง ภาพสวยครับ

 

โดย: B/W 24 เมษายน 2551 15:28:34 น.  

 

นอกจากภาพสวยเพลงเพราะแล้ว
เนื้อยาของบลอกก็ดีเยี่ยมจริงๆ

ขอบคุณที่นำเรื่องดีๆมาเล่าสู่กันฟังครับ

 

โดย: zmen 24 เมษายน 2551 18:23:40 น.  

 

"สันโดษจึงแปลว่า ยินดี พอใจ อิ่มเอม สุขใจ กับของของตน"

ชอบ ชอบ

 

โดย: อุ๊เอง IP: 61.7.172.122 24 เมษายน 2551 20:05:56 น.  

 

กว่าจะอ่านจนจบ มีประโยชน์ดีครับ ความสุข มักอยู่ทึ่ตัวเราเอง คิดเอง ทำเองทั้งนั้นนะครับ

ภาพประกอบสวยมากๆๆๆครับ

 

โดย: ตงเหลงฉ่า 24 เมษายน 2551 22:32:51 น.  

 

สวัสดีครับคุณหมอ


เที่ยวให้สนุกนะครับ
เอารูปสวยๆมาฝากกันด้วยนะครับ
ขอเป็นรูปจากกระบอกข้าวหลามก็แล้วกันนะครับ 55555

ขอลูกกะตานกอะไรประมาณนั้น 55555


..................................


ผมกำลังคิดพล็อตเรื่องอยู่เลยครับ
ผมจะตอบคำถามของคุณหมอเป็นการ์ตูนครับ


เดินทางปลอดภัยนะครับ

 

โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) 25 เมษายน 2551 8:12:35 น.  

 

 

โดย: popos IP: 58.9.151.180 25 เมษายน 2551 10:44:35 น.  

 

คนเรานี่เหมือนภูเขาไฟจริงๆนะคะ บางครั้งก็ดูสงบดี
แต่ก็ยังมีความว้าวุ่นซ่อนอยู่ภายใน รอวันที่จะประทุ
ออกมา....เหมือนที่กำลังเป็นอยู่ตอนนี้คุณหมอว่า
กฏแห่งกรรมมีจริงไหม?? ทำไมคนที่ทำร้ายคนอื่น
ไม่ว่าจะทำร้ายร่างกายหรือจิตใจ ทำไมเค้าถึงไม่
รู้สึกทุกร้อน แถมยังดูมีความสุขมากมายด้วยซ้ำ
โดยไม่เคยย้อนนึกถึงการกระทำของตัวเองเลย
เข้าใจดีว่าความทุกข์มันเกิดจากตัวเรา เพราะว่า
เราคิดให้เป็นทุกข์เอง แต่มันก็ยากเหมือนกันนะ
ที่เราจะทำตามที่เราหวังไว้ เพราะมนุษย์เรายัง
เต็มไปด้วยกิเลส .............
ใครมีข้อแนะนำบ้างค่ะ จะขอบพระคุณอย่างยิ่ง

 

โดย: ข้าวเปลือก IP: 125.27.30.25 25 เมษายน 2551 11:02:57 น.  

 

^
^^
^^^

ลองไปอ่านบล๊อกคุณกะว่าก๋าข้างบนๆดูครับ
ผมว่าเค้ามีคำตอบให้น่ะ

คำตอบดีด้วยหละ....

 

โดย: Dr.Manta 25 เมษายน 2551 11:16:10 น.  

 

นกเจียงใหม่ค่อนข้างเน้อครับคุณหมอ หุหุหุ

ระวังหน้อยเน้อครับ คริคริ

emoemoemo

 

โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) 25 เมษายน 2551 11:38:26 น.  

 

ตอนนี้กำลังอ่านหนังสืออยู่เล่มหนึ่ง
The New Religions of Japan เขียนโดย Harry Thomsen
พอได้อ่านแล้วรู้สึกว่าหลักคำสอนของพุทธแบบดั้งเดิมและชินโต
เป็นอะไรที่ misconcept ไดง่ายมาก และถูกฉกฉวยไปเป็น concept หลักของลัทธิ หรือศาสนาใหม่ๆได้มากมาย
ชักอยากจะหาหนังสือเกี่ยวกับด้าน้มาอ่านต่อซะแล้ว
ตอนนี้สนใจเรื่องปรัชญาวะบิ ซะบิ, เซน กับชินโตจัง

 

โดย: Unravel IP: 133.37.240.199 25 เมษายน 2551 11:43:25 น.  

 

หวัดดีค่ะคุณหมอ ไม่ได้มาดูนอนแล้ว
หมอยังไม่ออกจากทะเลอีกเหรอคะ
......เหนื่อยมั๊ยคะอยู่ที่นั่น

ปล.คนบนบกก้อเหนื่อยค่ะ แต่ไม่มากกกก ยิ้มได้อยู่

 

โดย: pla_crazy (chosanapuk ) 25 เมษายน 2551 12:00:05 น.  

 



จะเที่ยวอีกแล้ว แล้วเมื่อไหร่บ้านริมโขงจะได้ปักเสาสักทีค่ะพี่

เที่ยวให้สนุกนะคะ

 

โดย: มัยดีนาห์ 25 เมษายน 2551 12:03:55 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: yosita_yoyo 25 เมษายน 2551 14:00:56 น.  

 

เห็นด้วยทุกเรื่องเลยค่ะ เมื่อคืนดูรายการทีวี ก็คิดค่ะ

ทุกวันนี้ เรามีอะไรที่หลายคนบอกว่า ถ้ามีแล้วจะมีความสุข แล้ว

แต่ทำไมเราไม่เห็นมีความสุขเลย รู้สึกว่าตัวเอง

เห็นแก่ตัว กว่าเมื่อก่อน มาก ไม่รู้เป็นเพราะอะไร แย่จังเลยเนาะ

อัพเรื่องนี้ดีเลยค่ะ อ่านไปก็นึกถึงตัวเองไปด้วย ทบทวนตัวเองค่ะ

ขอบคุนมากนะคะ ที่ทำไห้ได้คิด

 

โดย: coco-melon 25 เมษายน 2551 15:22:47 น.  

 

+ โดยปกติ ผมก็พอจะอ่านเพื่อทำความเข้าใจหลักธรรมะอยู่บ้าง ... เลยเข้าใจ 'สันโดษ' ในระดับนึง แต่พอมาอ่านที่พี่หมอเบส พรรณนาไว้ ก็ทำให้กระจ่างขึ้นไปอีก 1 ขั้น ขอบคุณสำหรับปัญญาทางธรรมด้วยขอรับ
+ รูปประกอบสวยบาดจิต

+ ก็ขอให้พี่หมอเบส ไปเที่ยวปายให้หนุกหนาน เดินทางไปกลับปลอดภัยนะคร้าบ

 

โดย: บลูยอชท์ 25 เมษายน 2551 17:43:17 น.  

 

sunn doz*

home alone

eie eie*

 

โดย: tangz IP: 58.8.80.10 25 เมษายน 2551 17:53:55 น.  

 

วันนี้เก๋พึ่งกลับมาจาก ชะอำไปประกวดงานวิจัยของกอง กุมาร มาปีนี้ของรามาได้ที่หนึ่งและ แวะเมาเยียมดูนะรูปสวยทุกรูปเลย.....อีกไม่นานสอบเสร็จจะ หยิบกล้มาปัดฝุนแล้วโพสรูปมาให้สอนบ้างนะคะ......เก๋ คิดถึงจ้า

 

โดย: เก๋ IP: 58.9.150.231 25 เมษายน 2551 20:36:16 น.  

 

ชอบรูปนี้จังพี่หมอ.......





 

โดย: สิงห์นครพิงค์ 25 เมษายน 2551 21:43:08 น.  

 

ได้อ่านข้อคิดดีดี ประกอบภาพสวยสวย ถึงสวยมาก

ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบสันโดษ (จริงๆไม่มีใครคบ 55 ) ผมว่ามันใกล้เคียงกับคำว่า พอเพียง ผมชอบคำนี้มากมาก มันดู Minimal ดี

 

โดย: fzero 25 เมษายน 2551 23:30:29 น.  

 


ว่าพยายามจะรักษาอารมณ์ไม่ให้โมโหง่าย
แต่วันนี้ก็ตะบะแตกจนได้อ่ะ

กว่าจะสงบใจได้ก็เครียดไปซะตั้งนาน
นึกได้อีกทีว่าน้องเค้าทำไปก็คงเป็นเพราะเหตุผลส่วนตัว...
เฮ้อ...สุดท้ายก็ต้องใช้วิธีมองในมุมมองเป็นตัวน้องเค้าน่ะค่ะ

 

โดย: สะพานไม้ 26 เมษายน 2551 1:10:54 น.  

 

หนีจากเมืองเงียบๆ ไปหามหานครอย่างเชียงใหม่
กลับมาอย่าลืมขนมนะเฟ้ย...ไม่งั้นคลีนิคถล่มแน่ๆ


อยากไปดูหนังจัง..เมื่อวานได้ดูเรื่อง Chocolate น่ะสนุกดีคับ
ไปหามาดูนะ สะใจอย่ามาก
เที่ยวให้สนุกนะครับ สันโดษมหาบุรุษ

 

โดย: Little Knight 26 เมษายน 2551 8:53:06 น.  

 

วันนี้มาแนวธรรมะแฮะ ช่วงนี้ผมก็ฟุ้งซ่าน หงุดหงิด หดหู่สลับๆกันไปเหมือนกันครับ ไม่รู้เป็นอะไร สงสัยจะทำงานมากไป ไม่มีเวลาเงียบๆพักผ่อนกายและใจเลย

 

โดย: แป๊กก IP: 86.145.76.68 26 เมษายน 2551 19:46:24 น.  

 

กล้องใหม่ที่ได้มา มันดีก็จริงค่ะ
แต่มังคุดอยากได้ฝีมือที่พัฒนากว่านี้ซักหน่อย
ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองยำอยู่กับที่จริงๆ

แวะมาบ้านนี้ีทีไร เห็นรูปแล้วชื่นใจจริงๆ

(แอบกระซิบว่า มังคุดเอารูปกระโดดที่นี่ ไปใช้กับทริปเสม็ดด้วยแหละ
บังคับเพื่อนให้มันกระโดดท่าเดียวกัน พร้อมๆกัน แล้วก็สูงพอๆกัน
เพิ่งมีครั้งนี้แหละค่ะ ที่ได้ผล
ถ่ายมาหลายที ชอบไปกันคนละทิศละทาง ขอบคุณค่ะ)

 

โดย: mungkood 26 เมษายน 2551 20:33:10 น.  

 


โอ้โห....บ้านเด็กแนวเลยน่ะครับพี่
แต่ผมชอบของแปลกๆแบบนี้แหละ

ไว้ว่างๆจะไปนอนเป็นเพื่อนน่ะครับ
ถ้าสร้างเสร็จแล้วมาสะกิดด้วย 555



โดย: Dr.Manta



... ไว้แวะไปดูอีกนะคะ หากมีแนวหนักกว่าเก่า

ตอนนี้จริงๆ ออกแบบไว้เยอะ แต่มันไม่แนวอะ มันปกติ

ชอบความผิดปกติมาก

เลยยังไมเอา บ้านปกติมาลง

มันไม่เท่

 

โดย: โสมรัศมี 27 เมษายน 2551 7:36:00 น.  

 

ทั้งภาพและความหมาย
ให้คุณค่าทางจิตวิญญาณดีแท้
ขอบคุณครับ เผื่อแผ่

 

โดย: ครูเต้ IP: 58.8.137.27 27 เมษายน 2551 20:16:06 น.  

 

สันโดษ...ไปเที่ยวเชียงใหม่หรอ...


หรือว่าไปหาหนังสือธรรมมาเพิ่มในตู้หนังสือครับ
คริ คริ...ท่าทางจะได้เลนส์มาเพิ่มเปล่าเนี่ย...

เที่ยวให้สนุก หรือ ทำงานให้ร่าเริงนะครับ
สำมะคัญมากกกกก ... อย่าลืมขนมนะ
อุตสาห์ให้คูปองไปแล้วนะ...

 

โดย: Little Knight 28 เมษายน 2551 10:12:53 น.  

 

ชอบทุกๆผลงานของหมอแมนต้าคะ
ติดตามตั้งแต่ตอนไม่ได้สมัครสมาชิกเว็บแล้ว
จนได้สมัครสมาชิก
ขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆที่มอบให้นะคะ
เป็นกำลังใจให้กับผลงานดีๆตลอดไปคะ

 

โดย: กุลานารี IP: 61.19.220.253 28 เมษายน 2551 11:42:40 น.  

 

กลับมายางงงง

 

โดย: Unravel 28 เมษายน 2551 20:18:28 น.  

 

พี่.....

อ่านแล้วซึ้งเลยง่ะ


เฮ้อ.....

อยากปล่อยวางได้บ้างจัง

ทำไงดี

 

โดย: vecchio 28 เมษายน 2551 23:59:25 น.  

 

แวะมาชมภาพสวยๆอีกครั้งครับ ....

 

โดย: ตงเหลงฉ่า 29 เมษายน 2551 0:14:57 น.  

 

ภาพสวย เรื่องราวก็ดีด้วยค่ะคุณหมอ
ขอบคุณที่เอาเรื่องราวดี ๆ มาแบ่งปันกันค่ะ

 

โดย: มันจะดีเหรอคะ 29 เมษายน 2551 3:06:42 น.  

 

คุณหมอครับ

ผมจำได้ว่าคุณหมอบอกว่าจะกลับมาวันนี้หรือไม่ก็พรุ่งนี้
ผมตอบคำถามคุณหมอเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ
ยังไงถ้ากลับมาก็ย้อนหลังไปดูด้วยนะครับ


 

โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) 29 เมษายน 2551 8:09:58 น.  

 

คุณหมอคะ แจนอัพบล้อคแล้วนะคะ

ไปเที่ยวด้วยนะคะ กิกิ

 

โดย: coco-melon 29 เมษายน 2551 13:24:22 น.  

 

ชอบจ้าาาา ทั้งเรื่องที่เขียนและเพลง

 

โดย: แก้ว (Little Knight ) 29 เมษายน 2551 15:22:53 น.  

 

หนังสือของพระอาจารย์มิตซูโอะผมก็ได้มาตอนไปวิปัสสนาคราวนั้นนะ
แต่ยังไม่ได้อ่านเลยแฮะ

ภาพประกอบสวยขาดใจไปเลยครับ

 

โดย: พลทหารไรอัน 13 มิถุนายน 2551 0:45:41 น.  

 

อะไรไม่รู้ก็ได้รู้
อะไรไม่เคยเห็นก็ได้เห็น
อะไรไม่เคยสัมผัสก็ได้สัมผัส(ด้วยใจ)
ความจริง ความหมาย ความเข้าใจ
ยกนิ้วให้

 

โดย: วีวี่ IP: 58.9.83.42 13 กันยายน 2551 20:23:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Dr.Manta
Location :
เชียงราย Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 30 คน [?]




&key



Group Blog
 
<<
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
23 เมษายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Dr.Manta's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.