|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เรื่องเล่า...จากในวัง..(เขาเล่ามา)
เรื่องที่ 1
เหตุการณ์เกิดที่จังหวัดตาก เมื่อพระเทพทรงเสด็จไปเยี่ยมราษฎรตามที่ต่างๆ และได้ทรงเสด็จไปเยี่ยมประชาชนในตลาดสดและถามความเป็นอยู่กับบรรดาแม่ค้าในตลาด แต่ก็มาถึงแม่ค้าปลา ซึ่งพระองค์ทรงตรัสถามว่า ปลาพวกนี้ขายอย่างไงจ๊ะ แม่ค้าตอบว่า ที่สวรรคตแล้วกิโลละ 40 บาท และเสด็จไปเสด็จมากิโลละ 80 บาทจ๊ะ เหตุการณ์นี้ ทำให้ข้าราชบริพารที่ตามเสด็จหัวเราะกันทุกคน
เรื่องที่ 2
เช้าวันหนึ่ง เวลาประมาณ 7 โมงเช้า นางสนองพระโอษฐ์ ของฟ้าหญิงองค์เล็ก ได้รับโทรศัพท์เป็นเสียงผู้ชาย ขอพูดสายกับฟ้าหญิงทางนางสนองพระโอษฐ์ ก็สอบถามว่าใครจะพูดสายด้วย ก็มีเสียงตอบกลับมาว่า คนที่แบงค์ นางสนองพระโอษฐ์ก็ งง...งง ว่าคนที่แบงค์ ทำไมโทรมาแต่เช้า แบงค์ก็ยังไม่เปิดนี่หว่า แต่พอฟ้าหญิงรับโทรศัพท์แล้วถึงได้รู้ว่าคนที่แบงค์น่ะ ก็ที่แบงค์จริงๆ นะไม่เชื่อเปิดกระเป๋าตังค์ แล้วหยิบแบงค์มาดูสิ...ขนลุกเลย ( ทรงตรัสกับในหลวงท่านอยู่นั่นเอง )
เรื่องที่ 3
อีกครั้งหนึ่งที่ภาคอีสาน เมื่อเสด็จขึ้นไปทรงเยี่ยมบนบ้านของราษฎรผู้หนึ่ง ที่คณะผู้ตามเสด็จทั้งหลายออกแปลกใจในการกราบบังคมทูลที่คล่องแคล่ว และ ใช้ราชาศัพท์ได้อย่างน่าฉงน เมื่อในหลวงมีพระราชปฏิสันถารถึงการใช้ราชาศัพท์ได้ดีจึงมีคำกราบทูลว่า ข้าพระพุทธเจ้าเป็นโต้โผลิเกเก่า บัดนี้มีอายุมากจึงเลิกรามาทำนาทำสวนพระพุทธเจ้าข้า... มาถึงตอนสำคัญที่ทรงพบนกในกรงที่เลี้ยงไว้ที่ชานเรือนก็ทรงตรัสถามว่า เป็นนกอะไร และมีกี่ตัว...พ่อลิเกเก่ากราบบังคมทูลว่า มีทั้งหมดสามตัว พระมเหสีมันบินหนีไป ทิ้งพระโอรสไว้สองตัว ตัวหนึ่งยังเล็กตรัสอ้อแอ้เลยและทิ้งให้พระบิดาเลี้ยงดูแต่ผู้เดียว เรื่องนี้ ดร.สุเมธเล่าว่าเป็นที่ต้องสะกดกลั้นหัวเราะกันทั้งคณะไม่ยกเว้นแม้ในหลวง
เรื่องที่ 4
เมื่อครั้งท่านพระชนม์มายุ 72 พรรษา มีการผลิตเหรียญที่ระลึกออกมาหลายรุ่น เจ้าของกิจการนาฬิกายี่ห้อหนึ่ง ได้ยื่นเรื่อง จึงขออนุญาตนำพระบรมฉายาลักษณ์ของท่านมาประดับที่หน้าปัดนาฬิกา เป็นรุ่นพิเศษท่านทราบเรื่องแล้วตรัสกับเจ้าหน้าที่ว่า ไปบอกเค้านะเราไม่ใช่มิกกี้เมาส์
เรื่องที่ 5
เรื่องการใช้ราชาศัพท์กับในหลวงดูจะเป็นเรื่องใหญ่ที่ใครต่อใครเกร็งกันทั้งแผ่นดินและไม่เว้นแม้กระทั่งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายรายงาน ครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน มีข้าราชการระดับสูงผู้หนึ่งกราบบังคมทูลรายงานว่า ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้าพลตรี ภูมิพลอดุลยเดช ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตกราบบังคมทูลรายงานฯลฯ เมื่อสิ้นคำกราบบังคมทูลชื่อ ในหลวงทรงแย้มพระสรวลอย่างมีพระอารมณ์ดีและไม่ถือสาว่า เออ ดี เราชื่อเดียวกัน... ข่าวว่าวันนั้นผู้เข้าเฝ้าต้องซ่อนหัวเราะขำขันกันทั้งศาลาดุสิดาลัยเพราะผู้รายงานตื่นเต้นจนจำชื่อตนเองไม่ได้
เรื่องที่ 6
เคยมีเรื่องเล่าให้ฟังว่า ในหลวงเสด็จไปในถิ่นทุรกันดารเพื่อเยี่ยมเยียนราษฎร มีอยู่ครั้งหนึ่งพระองค์ท่าน ทรงแจกพระเครื่องให้กับราษฎรจนหมดแล้ว แต่ราษฎรผู้หนึ่งกราบบังคมทูลขอรับพระราชทานพระเครื่องว่า ขอเดชะ ขอพระหนึ่งองค์ ในหลวงตรัสว่า ขอเดชะ พระหมดแล้ว
เรื่องที่ 7
วันหนึ่งพระองค์ท่านเสด็จเยี่ยมเยียนพสกนิกรของท่านตามปกติที่ต่างจังหวัด ก็มีชาวบ้านมาต้อนรับในหลวงมากมาย พระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินมาตามตลาดพระบาท ที่แถวหน้าก็มีหญิงชราแก่คนหนึ่งได้ก้มลงกราบแล้วก็เอามือของแกมาจับพระหัตถ์ของในหลวงแล้วก็พูดว่า ยายดีใจเหลือเกินที่ได้เจอในหลวง แล้วก็พูดว่า ยายอย่างโน้น ยายอย่างนี้อีกตั้งมากมาย แต่ในหลวงก็ทรงเฉยๆ มิได้ตรัสรับสั่งตอบว่ากระไร แต่พวกข้าราชบริพารก็มองหน้ากันใหญ่ กลัวว่าพระองค์จะทรงพอพระราชหฤทัยหรือไม่ แต่พอพวกเราได้ยินพระองค์รับสั่งตอบกับหญิงชราคนนั้น ทำให้เราถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหว เพราะพระองค์ทรงตรัสว่า เรียกว่ายายได้อย่างไรอายุอ่อนกว่าแม่ฉันตั้งเยอะต้องเรียกน้าซิถึงจะถูก
เรื่องที่ 8
ครั้งหนึ่งหลายๆ ปีมาแล้ว พระเจ้าอยู่หัวทรงประชวรนิดหน่อยเกี่ยวกับพระฉวี มีพระอาการคันมีหมอโรคผิวหนังคณะหนึ่งไปเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายการรักษา คุณหมอเป็นผู้เชี่ยวชาญทางโรคผิวหนัง แต่ไม่ได้เชี่ยวชาญทางราชาศัพท์ก็กราบบังคมทูลว่า เอ้อ -ทรง...อ้า-ทรงพระคันมานานแล้วหรือ พะยะค่ะ พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงพระสรวล ตรัสว่า ฉันไม่ใช่ผู้หญิงนี่จะท้องได้ยังไง แล้วคงจะทรงพระกรุณาว่าหมอคงจะไม่รู้ราชาศัพท์ทางด้านอวัยวะร่างกายจริงๆ ก็พระราชทานพระบรมราชานุญาตว่า เอ้าพูดภาษาอังกฤษกันเถอะ เป็นอันว่าก็กราบบังคมทูลซักพระอาการกันเป็นภาษาอังกฤษไป
เรื่องที่ 9
เรื่องนี้รุ่นพี่ที่จุฬาฯเล่าให้ฟังว่า มีอยู่ปีนึงที่ในหลวงทรงเสด็จพระราชทานปริญญาบัตร อธิการบดีอ่านรายชื่อบัณฑิต แล้วบังเอิญว่ามีเหตุขัดข้องบางประการ ทำให้อ่านขาดตอนก็ต้องรีบหาว่าอ่านรายชื่อไปถึงไหนแล้ว ปรากฎว่าในหลวงท่านทรงจำได้ ท่านเลยตรัสกับอธิการบดีไปว่า เมื่อกี้นี้ (ชื่อ...) เค้ารับไปแล้ว และมีอีกปีนึงขณะที่พระราชทานปริญญาบัตรอยู่ดีๆ ไฟดับไปชั่วขณะ...ทำให้บัณฑิตคนหนึ่งพลาดโอกาสครั้งสำคัญในการถ่ายรูป พอในหลวงทรงพระราชทานปริญญาบัตรเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะให้พระบรมราโชวาท ท่านทรงให้อธิการบดีเรียกบัณฑิตคนนั้นมารับพระราชทานอีกครั้ง เพื่อจะได้มีรูปไว้เป็นที่ระลึก ตื้นตันกันถ้วนทั่วทั้งหอประชุม
ที่มา : เขาเล่ามา จริงๆ
Create Date : 11 สิงหาคม 2551 |
Last Update : 11 สิงหาคม 2551 21:19:03 น. |
|
3 comments
|
Counter : 758 Pageviews. |
|
|
|
โดย: itoursab IP: 61.91.152.25 วันที่: 21 สิงหาคม 2551 เวลา:18:14:44 น. |
|
|
|
โดย: เรารักพระเจ้าอยู่หัว IP: 110.164.22.110 วันที่: 9 ตุลาคม 2552 เวลา:15:33:45 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
สงขลา Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
พ่อเป็นคนปทุม แม่เป็นคนอยุธยา เกิดกรุงเทพ ไปทำงานที่สงขลา ใช้ชีวิต ที่สงขลา ทำงานเกี่ยวกับหนังสือ ..มีความสุขอยู่ท่ามกลางหนังสือ ...ใช้หนังสือในการดำรงตน
|
|
|
|
|
|
แต่สิ่งหนึ่งที่เราเห็นได้ชัดคือ
พระองค์ทรงใส่ใจในทุกรายละเอียดด้วยความเมตตา
ทรงพระเจริญ