พฤศจิกายน 2556

 
 
 
 
 
1
2
3
5
6
7
8
9
10
11
12
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
All Blog
@ปากเซ แขวงจำปาสัก กับการวิ่งออกกำลังกายบนสะพานลาว-ญี่ปุ่น ประสบการณ์ที่ประทับใจสุดๆอีกครั้งหนึ่ง

..จำปาลาว  หน้าโรงแรม..


............สัปดาห์ที่แล้ว เราได้รับการติดต่อจากเครือข่ายการทำงานบอกว่าจะได้ไปสัมมนาที่รีสอร์ทในอำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ในฐานะผู้นิเทศงาน  ตอบตกลงไปเพราะปลายฝนต้นหนาวการได้ไปรีสอร์ทสวยๆคงเริ่ดดดดดดดสุดๆ  
..............วันจันทร์  เดินทาง  เราไปถึงจุดนัดหมายตั้งแต่ตี5ครึ่ง เมื่อขึ้นรถมีการแจ้งกำหนดการว่าไปปากเซ..........อะไรนะ.....ปากเซ  จำปาสัก  ประเทศลาวนี่นะ  เอ๋อสิ!.....เราไม่ได้เตรียมตัวที่จะออกนอกประเทศเลย  น้องๆทีมงานบอกว่าจัดการให้หมดแล้ว  ตั้งแต่ส่งเลข13หลักไปทำใบผ่านแดน  ผู้จัดทำออกนอกเขตให้เรียบร้อยโดยที่เราไม่รู้เรื่องเลย  เราโทรแจ้งพี่สาว  หลานชาย ลูกน้องที่ทำงาน ผู้บังคับบัญชา  .......สำคัญมากเพราะจะไม่ใช้โทรศัพท์  แจ้งให้ติดต่อผ่านไลน์ FB แทน ซึ่งเขาแจ้งว่าโรงแรมมีWIFIให้ใช้  


............เราพักโรงแรมจำปาสักแกรนด์  สัมมนาอย่างจริงจัง  ไกด์แนะนำว่าตอนเช้ามีคนออกไปเดินกำลังกายที่สะพานเยอะ  ดีใจจัง  เพราะตอนเก็บกระเป๋า  สิ่งสำคัญที่เราไม่ลืมคือ ชุดวอร์ม รองเท้าผ้าใบ  กะจะไปวิ่งในรีสอร์ทตอนเช้า เย็น ....เปลี่ยนจุดหมายปลายทางแต่กิจกรรมคงเดิม



จะเห็นว่าข้างสะพานทำเป็นช่องทางเดินแยกออกจากสะพานอย่างชัดเจน  การวิ่งบนสะพานจึงปลอดภัยมาก  น่าเดินน่าวิ่งมาก 


น้ำโขงยังเต็มฝั่ง ไหลเร็วรี่ น้ำขุ่น  บริเวณที่ถ่ายเป็นช่วงกลางสะพาน ลมพัดมาปะทะใบหน้าค่อนข้่างแรงเย็นเกือบหนาว ทำให้ไม่รู้สึกเหนื่อยเลย ยังตี5กว่าๆ ดวงอาทิตย์ยังไม่ขึ้น โรแมนติคมากๆ  สมองโล่ง จิตใจสบายจนบอกไม่ถูก





......เดินมาได้สักระยะ มองกลับไปที่รงแรม

.................สะพานลาว-ญี่ปุ่น ที่ข้ามแม่น้ำโขงที่ปากเซ  ยาว800เมตร โรงแรมที่พักอยู่เชิงสะพานนี้เลยทีเดียว  ตอนเช้าเราตื่นตอนตี5ครึ่ง  ตาลีตาเหลือกเปลี่ยนชุด ลงมาชั้นล่างโรงแรม  สว่างพอควรแล้ว  เดินไปที่ถนน คิดในใจว่าถ้าเปลี่ยวจะรอจน6โมงก็ได้  ที่ไหนได้  คนเยอะพอตัวทีเดียว 

.......ถ่ายปกติ แต่แปะแกเดินมาได้ระยะพอดี....

............ เราเริ่มต้นวอร์มด้วยการเดินเร็วไปเรื่อยๆ  ถึงกลางสะพานนะ  มันฟินมากกกกกก  อากาศเย็นสบาย  ลมพัดปะทะใบหน้า  สดชื่นสุดที่จะบรรยายออกมาเป็นคำพูด  แม่น้ำโขงกว้าง  ไหลเชี่ยว น้ำสีขุ่น มองไปใกล้ไกลก็พบทิวเขาล้อมรอบเมือง   เราเดินโดยไม่รู้สึกเหนื่อยเลย  วิ่งเบาๆไปเรื่อยๆ แล้วข้ามถนนไปอีกฝั่งของสะพาน  รถไม่เยอะมากนัก  ทำให้อากาศดี  มีพี่ๆผู้หญิงในทีมออกมาเดินก่อนหน้าเราหลายคน  ทักทายกันไปเรื่อยๆ  คนลาวชอบมาออกกำลังกาย  หน้าตายิ้มแย้ม  อัธยาศัยดีมากๆ


ดวงอาทิตย์ยังไม่ขึ้น ตี5กว่าๆ




ยังมืดสลัวแต่โรแมนติคมากกกก
บริเวณโค้งน้ำ มีหมอกลอยเรี่ยๆเหนือผิวน้ำเป็นสายบางๆ  เฮ้อ! โลกออกจะสวยงามขนาดนี้  จะเอาอะไรกับชีวิตอีกเนอะ 



สว่างขึ้นมาอีกหน่อย....
กลางสะพานมองไปฝั่งตะวันออก ดวงอาทิตย์ใกล้ขึ้น เห็นสายไฟแรงสูงไกลๆทอดยาวจากเขื่อนข้ามประเทศมาส่งไฟฟ้าให้ประเทศไทย 





ประมาณ6โมงครึ่ง  สว่างโร่  
สะพานมุมโคลสอั๊พ  เดินมาข้างๆโรงแรมเป็นร้านผับริมโขงกลางคืนคึกคัก  แต่เช้ามืดขนาดนี้ ไม่มีบริการ  ทำให้เรายึดเป็นที่สำหรับถ่ายภาพได้โดยสะดวก




มองไปด้านตะวันออกจากกลางสะพาน



สะพานมองจากฝั่งโรงแรม



ฝั่งตรงข้ามโรงแรม  เป็นอาคารอะไรไม่รู้ ไม่ได้สอบถามไกด์
ถ่ายจากผับริมโขง

การมาเยือนลาวใต้ในครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 3 ครั้งแรกพักที่จำปาศักดิ์ พาเลส เมื่อเกือบ20ปีมาแล้ว ก็ประทับใจอีกแบบ ครั้งนั้นยังไม่มีสะพานลาว-ญี่ปุ่น การข้ามโขงต้องข้ามโดนแพขนานยนต์เท่านั้น ถนนในลาวยังแย่มากๆ ลาวกำลังทำถนนทำให้การเดินทางค่อนข้างลำบากมาก  ต้นไม้ใหญ่ถูกตัดโค่นวางเรียงรายอยู่ข้างทาง เรามองดูด้วยความรู้สึกเสียดาย  ครั้งนั้นเราไปเที่ยวหลี่ผี คอนพะเพ็ง จำได้ว่านั่งเรือข้ามไปขึ้นเกาะ  คำว่ามหานทีสีทันดรกว้างใหญ่ยังกะทะเล เราสวมเสื้อชูชีพแต่คิดในใจว่าถ้าเรือล่มเราจะมีชีวิตรอดอย่างไร เพราะแม่น้ำโขงกว้างมาก น้ำไหลแรง ความทรงจำครั้งนั้นประทับใจไม่รู้ลืม ลาวยังเวอร์จิ้นมาก 
ครั้งที่แล้วเมื่อ2ปีที่แล้ว มีสะพานลาว-ญี่ปุ่นแล้ว สะดวกมาก  เราพักที่โรงแรมจำปาสัก แกรนด์ แห่งนี้  เราเห็นความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ถนนหนทางที่พัฒนาขึ้นมาก แต่ชาวนาลาวยังปักดำไม่ได้หว่านข้าวเหมือนชาวนาไทย เราไปคอนพะเพ็งอีกครั้ง รถทัวร์ไปถึงได้เลยไม่ต้องลงเรือ  ทำให้รู้สึกเสียดายแทนนักท่องเที่ยวยุคหลังๆที่พลาดโอกาสชื่นชมธรรมชาติสวย รู้สึกดีที่มีโอกาสได้มีประสบการณ์แบบเดิมๆดิบๆกับเมืองลาวใต้เมื่อครั้งยังเป็นวัยรุ่น ครั้งนั้นเราไปเยือนตาดผาส้วม ธรรมชาติของลาวยังงดงามเสมอ 
การมาเยือนครั้งนี้ ได้เปลี่ยนทิศทางการท่องเที่ยว ในการสัมมนา2วันแรก ใช้ชีวิตอยู่แต่ในโรงแรม การออกไปเดินตลาดไม่ใช่ทางเลือกของเราแล้ว เนื่องจากครั้งที่แล้วเราได้ท่องตลาดดาวเรืองอย่างเต็มที่  ครั้งนี้จุดมุ่งหมายเราจึงอยู่ที่การลุกวิ่งข้ามสะพานลาว-ญี่ปุ่นในตอนเช้ามืดทั้ง2วัน  วันที่3ของการเดินทางเปลี่ยนจุดหมายเป็นตาดฟานและตาดเยืองแล้วเดินทางกลับ โอเคเลยล่ะสำหรับเรา แต่เพื่อนร่วมทริปบางคนยังไม่เคยไปตาดผาส้วมบ่นเสียดายกันงึมงำๆ


ตาด(น้ำตก)ฟาน (เก้งกวาง)
เราต้องขึ้นไปบนเขาสูงของลาวใต้ อากาศเย็นสบายแบบภูเขาๆ กิจการไร่กาแฟ พริกไทย เหมือนภาคใต้ ภาคตะวันออกของไทย หรือเวียดนาม สักพักถ้ายางพาราตีตลาดได้คงน่ากลัว ภูเขาก็ภูเขาเถอะ โล้นเลี่ยนเหมือนในประเทศไทยแน่ๆ 
ตาดฟานมองเห็นไกลๆ รู้สึกคล้ายดูเหวสุวัตที่เขาใหญ่ อะไรประมาณนั้น ทางเดินมีต้นวาสนาออกดอกพราวทุกต้น เสียดายยังไม่บาน อดเชยชมกลิ่นหอมๆ  แต่วาสนาที่บ้านเรายังไม่หนาวพอที่จะออกดอก




ตาดเยือง
ตาดเยืองให้ความรู้สึกใกล้จนรู้สึกได้ทุกละอองน้ที่สาดซ่ากระจายขึ้นมาจนเปียกชื้น ทางเดินที่ลาดชันต้องเกาะราวทั้งขึ้นและลง คนที่เข่าไม่ดีหมดสิทธิ์โดยสิ้นเชิง เราไม่กล้าใช้กล้องตัวเองมากนัก  กลัวความชื้น  ถ่ายเสร็จรีบเก็บ ใช้บริการกล้องที่ชาวบ้านใช้ถ่ายภาพด่วนเหมือนแหล่งท่องแที่นวทั่วๆไป ถ่ายกับน้ำตกเป็นที่ระลึก แอบสนับสนุนบริการของเขาด้วยเพื่อให้เขามีรายได้ไว้หล่อเลี้ยงตนเองและระบบ 




ไร่กาแฟก่อนถึงตาดฟาน
กาแฟพันธ์อะโรเบก้า เราตะบันถ่ายๆๆๆๆๆจนกาแฟทุกต้นยอมแพ้ เอามาฝากรูปนึงนะ



ไม่รู้จักชื่อแต่ชอบ  อวบและสีสดมาก
ชอบๆๆๆๆ  



รองเท้านารี  สวยยยยย น้ำลายคนถ่ายหก อยากได้
เราชอบกล้วยไม้ เสียดายมีน้อยไป  สวนกล้วยไม้ป่าอยู่ใกล้ๆก็ยังไม่แทงช่อดอก คงอีกสักเดือน 




อีกดอก



ไฮเดรนเยีย ต้นเตี้ย ดอกไม่ใหญ่มาก เริ่มโรย แต่ยังไงก็ยังตามถ่ายเก็บไว้ ที่พิษณุโลกเมื่อปลายเดือนที่แล้วที่เราไปเยือนในรีสอร์ทแห่งนึง ต้นสูงประมาณเกือบเมตร ดอกใหญ่กว่านี้ เข้าใจว่าเป็นฤดูออกดอกของไฮเดรนเยียเค้า

ราเดินทางกลับไทยบ่ายวันนั้น สิ้นสุดการเดินทางสุดเซอร์ไพรส์ แต่ก็ได้้ความอิ่มเอมกับธรรมชาติแบบสุดๆเช่นกัน 
ขอบคุณโอกาสดีๆในชีวิต  ชีวิตต้องเดินทางต่อไป  ไม่ว่าจะเจอะเจออะไร ขอเพียงเราไม่หมดหวัง ปลุกพลังใจให้เข้มแข็ง ยอมรับทุกประสบการณ์ที่เข้ามา เจอกันทริปหน้านะคะ



Create Date : 13 พฤศจิกายน 2556
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2556 12:03:59 น.
Counter : 5265 Pageviews.

2 comments
  
ขออนุญาตเข้ามาชม Blog นะครับ อ่านแล้วก็อยากไปเหมือนกัน ไม่ทราบว่าปากเซอยู่ห่างจากน้ำตก คอน-พะ-เพ็ง มากไหมครับ ช่วงนี้น้ำในแม่น้ำโขงเยอะ น้ำตกน่าจะสวยดี .......
โดย: Kaokrabi Deawdaay วันที่: 30 พฤศจิกายน 2556 เวลา:21:59:09 น.
  
สวยมากคุณเก้าฯ ธรรมชาติยังสมบูรณ์คล้ายบ้านนอกไทยสัก30ปีที่แล้ว
โดย: mangpongja (mangpongja ) วันที่: 1 ธันวาคม 2556 เวลา:14:14:39 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Chompoopoo
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]