ฟ้าใสที่ตุรกี ตอน 1 วันใน Cappadocia

เมื่อพูดถึง Cappadocia ทุกคนก็คงนึกถึงภาพบัลลูนบนท้องฟ้าสดใสลอยอยู่เหนือภูเขาหินรูปร่างประหลาดๆ เช้าวันที่เราขึ้นบัลลูน อากาศก็แจ่มใสและท้องฟ้าก็เป็นสีฟ้าสวยแบบในรูปถ่ายเป๊ะ วันนี้โชคดีที่ลมไม่แรงด้วย บัลลูนจึงลอยเตี้ยๆได้ กระเช้าของบัลลูนมีขนาดใหญ่กว่าที่เราคิดเพราะรับได้ 20 คน (เราเคยนึกว่ากระเช้ารับได้ 3-4 คนจากการ์ตูนสมัยเด็กๆที่มีคนในกระเช้าอยู่แค่นั้น ^^) เรารู้สึกว่าเวลา 1 ชั่วโมงที่อยู่บนท้องฟ้าผ่านไปเร็วมากๆ เพราะแค่ถ่ายรูปบัลลูนลูกอื่นก็ใช้เวลาไปเยอะแล้ว ยังมีวิวของภูเขาหินและหุบเขาที่มองจากข้างบนก็ดูแปลกออกไป แล้วก็แสงอาทิตย์ยามเช้าที่ทำให้หุบเขามีแสงเงาที่งดงาม

Ready, Set, Float!!!!!

บัลลูนของบริษัทอื่นที่ทยอยๆลอยขึ้น

ทิวทัศน์จากข้างบน

แม้แต่บนท้องฟ้าก็มี Balloon jam ด้วย

ซูมดูบ้านนกพิราบแบบใกล้ๆ (ขี้นกพิราบใช้ทำปุ๋ยค่ะ)

ถ้าใครยังติดใจบัลลูน ลูกทางซ้ายเอากลับบ้านได้ค่ะ ^^



Cappadocia เป็นชื่อเรียกของพื้นที่กว้างๆที่ครอบคลุมหลายเมือง เราได้ชมเมืองใต้ดินชื่อ Derinkuyu ซึ่งเป็นเมืองใต้ดินมีขนาดใหญ่ที่สุดและลึกที่สุด (Cappadocia มีเมืองใต้ดินหลายแห่งที่ยังถูกค้นพบไม่หมด หินที่เกิดจากลาวาของภูเขาไฟเป็นหินที่โดนขุดหรือเจาะได้ง่าย แต่เมื่อโดนอากาศหินเหล่านี้ก็จะแข็งขึ้น) ชาวเมืองใช้เป็นที่หลบภัยจากสัตว์ป่า, จากภัยธรรมชาติหรือจากผู้รุกราน (เช่น พวกอาหรับสมัยศตวรรษที่ 6 และ 7) ชาวคริสต์ก็ใช้เป็นที่ซ่อนตัวช่วงที่ศาสนาคริสต์ยังไม่เป็นที่ยอมรับ ห้องแต่ละห้องจะถูกเชื่อมด้วยอุโมงค์ที่คนตัวเล็กอย่างเราเดินได้อย่างสบายๆ แต่มีบางอุโมงค์ที่ทั้งเตี้ยและแคบจนคนตัวเตี้ยอย่างเรายังต้องก้มตัว (ที่นี่ไม่เหมาะสำหรับคนที่กลัวที่มืดๆแคบๆค่ะ) Derinkuyu มีทั้งคอกสัตว์, ห้องครัว,โบสถ์, ห้องทำไวน์, ห้องเรียน, บ่อน้ำ ฯลฯ และที่สำคัญคือมีช่องระบายอากาศ นักโบราณคดีประเมินว่าที่นี่น่าจะรองรับคน 10,000-20,000 คนได้ o.O

บรรยากาศใต้ดินที่เย็นๆเหมือนกับห้องในโรงแรมถ้ำเลย ^^



นอกจากขึ้นบัลลูนแล้ว highlight ของที่นี่จะเป็นการชมภูเขาหินที่เรียกว่า Fairy Chimneys ซึ่งเกิดจากลาวาที่ถูกกัดเซาะจากลมและน้ำเป็นเวลานานจนกระทั่งเหลือแต่หินแข็งๆข้างบน บางแห่งก็มีรูปร่างเหมือนโคนไอศครีม บางแห่งก็มีรูปร่างเหมือนเห็ด แล้วแต่จินตนาการของแต่ละคนว่าจะมองเป็นรูปร่างอะไรนะคะ :-)

ป้อมหินแถวเมือง Uchisar

มองจากจุดท่องเที่ยว Goreme panorama view point (ถ้าเราจำไม่ผิด ^^)

มีใครนึกถึงเห็ดออรินจิทอดบ้าง? (ที่นี่อยู่ใกล้เมือง Urgup)

อูฐหิน!!

แท่งดินสอยักษ์



นอกจาก Fairy Chimney ที่ตั้งอยู่กระจัดกระจายแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับคนที่ชอบประวัติศาสตร์ก็คือโบสถ์ถ้ำซึ่งมีจำนวนมากมาย คนจะรู้จักโบสถ์ที่ Goreme Open-Air Museum มากกว่าเพราะเป็นจุดแวะของทัวร์ต่างๆ (นักท่องเที่ยวที่นี่มีเยอะมากๆๆ แถมห้องที่เปิดให้ดูก็มีขนาดเล็ก จึงเกิดอาการง่องแง่งระหว่างนักท่องเที่ยวขึ้น) โบสถ์ถ้ำไม่ได้ถูกตบแต่งสวยงามเหมือนกับโบสถ์ที่เราเคยเห็นที่อื่น แต่บางโบสถ์ก็ยังมีภาพวาด frescoe ที่แสดงเหตุการณ์จากไบเบิลที่ยังมีความงดงามอยู่ บางโบสถ์ก็จะมีภาพวาดที่เป็นสัญลักษณ์แทน บางโบสถ์ก็เหลือแต่ภาพวาดที่เรือนลางจนมองไม่ออกว่าเป็นภาพอะไร ถ้าใครมีเวลาเหลือ ก็น่าจะเดินตาม walking trail เพื่อดูแท่งหินหรือโบสถ์ถ้ำที่อยู่ไกลๆ นอกจากได้ดู Fairy Chimney อย่างใกล้ชิด คนก็ไม่แออัดเหมือนกับที่จุดท่องเที่ยวรถจอดถีงค่ะ

Goreme Open-Air Museum

สัญลักษณ์ที่อยู่บนผนังโบสถ์ (จาก Goreme Open-Air Museum)

สัญลักษณ์ที่อยู่เหนือประตูโบสถ์ที่อยู่บนเขาใกล้ๆเมือง Cavusin

ปีนเขาเตี้ยๆเพื่อไปชม Rose Valley

มองจากโบสถ์ร้างไปยังห้องร้างที่อยู่อีกฝั่งหนึ่ง

เราเดาว่าที่นี่เคยเป็นแท่นบูชา




 

Create Date : 04 กรกฎาคม 2555
0 comments
Last Update : 4 กรกฎาคม 2555 19:10:23 น.
Counter : 1228 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


ปลาฝอยกุ้งกรอบ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




วิดวะผู้ทิ้งห้องครัวไปหลายสิบปีหลังทำกินงูๆปลาๆสมัยเรียน ตั้งแต่รู้จัก bloggang และมีน้องๆในบริษัทเต็มใจเป็นหนูทดลอง ทำให้เกิดแรงฮึดอีกครั้ง :-)
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
4 กรกฏาคม 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ปลาฝอยกุ้งกรอบ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.