ห้ามคุมกำเนิดจริงหรือ

ที่ฟิลิปปินส์ศาสนจักรมีอิทธิพลมากทีเดียว ถ้าทางศาสนจักรไม่สนับสนุน อย่าหวังว่าจะเลือกตั้งชนะ อดีตประธานาธิบดีเอสทราด้าถึงกับประกาศว่าตัวเขาเองนั้น เป็นลูกคนที่ 8 (ถ้าจำไม่ผิด) ถ้าบิดามารดาของเขาคุมกำเนิด เขาก็คงจะไม่ได้เกิดมา ตัวเขาเองมีภรรยาหลายคนโดยที่ไม่ได้หย่ากับภรรยาหลวง

อย่างไรก็ดี เรื่องนี้เหมือนปากว่าตาขยิบ เพราะปัญหาคนล้นประเทศ ว่างงาน สาธารณูปโภคไม่พอเพียง ฯลฯ อีกทั้งเพื่อเป็นไปตามความต้องการขององค์การอนามัยโลก (ซึ่งให้เงินสนับสนุน) รัฐบาลฟิลิปปินส์จึงไม่สามารถจะห้ามเรื่องคุมกำเนิด แถมยังต้องให้เงินช่วยเหลือค่าทำหมันด้วย

เมื่อสัก 10 ปีที่แล้ว จะหาซื้อถุงยางอนามัยสักอันนี่ยากเย็นแสนเข็ญ แถมโดนเหล่แบบแปลก ๆ ปัจจุบันนี้เห็นมีขายตามร้านสะดวกซื้อเหมือนเป็นขนม ส่วนด้านยาคุมนั้น ต้องถามที่เค้าท์เต้อร์ร้านยา และมักจะโดนเหล่จากพนักงานขายด้วย

เรื่องนี้แม้แต่สูตินรีแพทย์ก็เอากับเขาด้วย หมอสูฯ บางคนไม่รับปรึกษาเรื่องวางแผนครอบครัว และบางคนไม่ยอมทำหมันให้คนไข้ (ที่ถึงแม้จะแต่งงานมีลูกหลายคนแล้ว ไม่ใช่ประเภทมีปัญหาทางจริยธรรมแต่อย่างใด) แนะนำว่าอยู่ที่ประเทศนี้ จะหาหมอให้คุยกันก่อน

ทำไมไม่คุมกำเนิดล่ะ? นอกจากความเชื่อทางศาสนาที่ว่าควรปล่อยชีวิตให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระเจ้าแล้ว คนฟิลิปปินส์เชื่อว่าเด็ก ๆ คือของขวัญจากสวรรค์ ส่วนใหญ่ (ที่จิตไม่ทราม) จะรักเด็กกันมาก ๆ ไปไหนมาไหนเป็นครอบครัวใหญ่ ไม่มีการทิ้งเด็กไว้บ้านกับพี่เลี้ยง แม้แต่หนุ่ม ๆ สาว ๆ ก็ไม่มีสักกี่คนที่ไม่รักเด็ก หรือรำคาญเด็ก เพราะเขาเติบโตมาอย่างนั้น (นางงามที่นี่จึงออกจะหาเสียงเรื่องเด็กยากอยู่สักหน่อย) อือ ครอบครัวก็อบอุ่นดี นั่งรถคันใหญ่ กินข้าวโต๊ะใหญ่ ป่วยทีเป็นกันหมดบ้าน 555

อย่างไรก็ดี เรื่องเคร่งศาสนานี่ขวางโลกยุคโลกาภิวัฒน์ไม่ได้เอาเลย หนุ่มสาวสมัยใหม่มักจะแต่งงานเมื่อท้อง มาอยู่ที่นี่ 10 กว่าปี ไปงานแต่งงานมาหลายงาน มี 2 งานเท่านั้นที่เจ้าสาวยังไม่ท้อง แม้กระนั้นยังมีคนคิดว่าสงสัยลูกหลุดทีหลัง เป็นงั้นไป มีเพื่อนอีกคนแต่งกันตอนลูกคนที่สองอายุครบขวบ เอากะเค้าสิ เข้าใจว่าสมัยนี้หนุ่มสาวไม่นิยมแต่งงานเร็วเหมือนสมัยก่อน ก็เลยตัดสินใจก็เมื่อจำเป็นเท่านั้น

ศาสนาว่าอะไรบ้างเรื่องนี้? มีนะ บางโบสถ์เขาจะไม่แต่งให้ บางโบสถ์จะไม่ให้ีศีล (baptize) เด็กที่เกิดนอกสมรส แต่ก่อนกฎหมายไม่ให้เด็กพวกนี้ใช้นามสกุลบิดาเอาทีเดียว เดี๋ยวนี้ผ่อนคลายมากแล้วหลายโบสถ์ยอมรับ ถือว่ากลับใจมาสารภาพบาปแล้วก็แล้วกันไป ไม่ให้ต้องเดือดร้อนอนาคตของเด็ก กฎหมายก็โอเคให้เด็กใช้นามสกุลบิดาได้ ถ้ามีการรับรองบุตร ไอ้ที่ยากก็คือเรื่องโรงเรียน เพราะโรงเรียนดี ๆ ที่นี่ยังมีอยู่มากที่ไม่รับเด็กที่เกิดโดยบิดามารดาไม่ได้สมรสในโบสถ์ (คือจดทะเบียนเฉย ๆ ก็ไม่ได้ ต้องแต่งตามศาสนาถึงจะรับ) ลูกคนรู้จักหลาย ๆ คนก็ต้องไปเข้าโรงเรียนอินเตอร์ ซึ่งแพงมาก โดยไม่จำเป็นเลย เพราะโรงเรียนดี ๆ ที่นี่ก็สอนเป็นภาษาอังกฤษทั้งนั้น

จึงขอแนะนำว่าจะทำอะไร ตัดสินใจอย่างไร ให้นึกถึงผลข้างหน้าให้มาก เจ้าของบล็อกเองเป็นคนประเภทตามใจฉัน คือทำตัวนอกกฎระเบียบมากที่สุดแล้ว (คือกฎระเบียบไหนเห็นว่าไม่มีเหตุผล หรือไม่ยุติธรรมก็จะโวย) ก็ยังไม่สามารถต่อต้านกระแสศรัทธานี้ได้ ไม่คิดจะต่อต้านด้วย (บ่นนิดหน่อย) เพราะอยู่มาสักพักก็เริ่ม "เข้าใจ" คือเข้าใจสภาพวัฒนธรรมการดำรงชีวิตของเขา มองเห็็นความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น และรู้ทัน คือไม่ต่อต้าน แต่ก็ไม่ตามน้ำ คิดว่ามีศรัทธาไว้ก็ดี จะได้หมั่นทำความดี ใช่ไหมล่ะคะ

Create Date : 04 พฤษภาคม 2552		3 comments
Last Update : 6 มิถุนายน 2552 16:51:32 น.
Counter : 886 Pageviews.
Share Tweet