England Trip 08 - 4. Castleton in Peak District

Castleton เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ อยู่ที่ Hope Valley ใน Derbyshire
ที่ได้ชื่อว่า Castleton ก็เนื่องจากในหมู่บ้านนี้มีปราสาทอยู่หลังนึง บนยอด
เขา เป็นปราสาทที่ค่อนข้างปรักหักพังแล้วหล่ะค่ะ ตัวปราสาทไม่ค่อยมีอะไร
ให้ตื่นตาตื่นใจเท่าไหร่ แต่วิวระหว่างทางขึ้นปราสาทเนี่ยสวยเป็นที่สุด แล้ว
อิฉันจะนำเสนอในโอกาสต่อไป

เนื่องจาก Castleton ตั้งอยู่ในหุบเขา รอบ ๆ หมู่บ้านเล็ก ๆ นี้จึงมีทางเดิน
(Walks) และถ้ำน่าสนใจอยู่มากมาย

อันนี้เป็นวิวที่มองจาก B&B ของอิฉัน มองออกไปจะเห็นตัวเองตัวเล็กจ้อยอยู่
ท่ามกลางหุบเขา Hope




เจ้าถิ่นเยอะแยะไปหมด ..แต่..แกะที่นี่ หน้าตาช่างไม่น่ารัก ไม่น่าเอ็นดูเอา
ซะเลย คงเป็นพันธุ์ของมันที่ดูหน้าแหลมเปี๊ยว ตาตี่ ๆ สู้แกะที่ New
Zealand หรือแกะพันธุ์ที่เลี้ยงเยอะ ๆ ทางเหนือของอังกฤษไม่ได้


ทางเดินจาก B&B ของอิฉันไปตัวเมือง Castleton นี่ไม่ไกลค่ะ (แต่ก็ไม่ใกล้
เท่าไหร่) ทางเดินมีให้เลือก 3 ทาง คือ
1. เดินออกจากตัวฟาร์มไปบนถนนใหญ่ ประมาณ 20 นาที (คือเดินอ้อม ว่างั้นเหอะ)
2. เดินข้ามทุ่งเลี้ยงแกะ 3 ทุ่ง ประมาณ 15 นาที ผ่านแกะ ผ่านม้าเพียบ และ
3. Mud lane เป็นทางออกจะลุยขี้โคลนกันเล็กน้อย เดินผ่านป่า เหมือน Blair Witch Project แต่ก็ใกล้ที่สุด ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
เราลองเดินกันมาหมดแล้วทั้ง 3 ทาง และพบว่าทางที่เดินข้าม 3 ทุ่งเป็นทางที่ดีที่สุด เพราะไอ้ที่เดินบนถนนใหญ่กว่าจะถึงตัวหมู่บ้านก็เหนื่อยหอบซะจนขี้เกียจเดินทำไรต่อ ส่วนไอ้ Mud lane นั่น หวาดเสียวน่าดู ลองจับเวลา แค่ 10 นาทีก็จริง แต่มันเป็น 10 นาทีที่ยาวนานเหลือเกินในความรู้สึก น่ากลัวหว่ะค่ะ เข้าไปแล้วนึกถึงพวกหนังเกรดห่วย ๆ ที่ชอบมีผู้ร้ายหรือผีบ้าที่ชอบลากคนไปหั่นทิ้งในป่า

นี่คือทางเดินข้ามทุ่ง


ใกล้ตัวหมู่บ้านเข้าไปอีกนิด


ในทุ่งจะมีม้า


มีแกะที่หน้าตาไม่น่าเอ็นดู


และแกะเด็กอีกเล็กน้อย


เจ้าแกะ เจ้าม้าพวกนี้ อิฉันเดินผ่านพวกมันทุกวันก็ถ่ายรูปพวกมันทุกวัน มัน
คงคิดน่ะว่าจะถ่ายอะไรกันนักหนา ตรูก็หน้าเหมือนเดิมทุกวันหล่ะเฟร้ย



ส่วนนี่ แกะเฮอคิวลิส


พอใกล้ตัวหมู่บ้าน ก็จะเดินผ่านตรอก(โคตรจะ)แคบ ผ่านกำแพงบ้าน
ชาวบ้านทะลุเข้าหมู่บ้านได้ ถ้าอิฉันมาหลังจากนี้ซัก 5 ปี เข้าใจว่าจะไม่
สามารถทะลุตรอกนี้ออกมาได้


มาถึงตัวหมู่บ้านซักทีค่ะ Castleton เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ แต่มี B&B อยู่หลาย
แห่ง เพราะเป็น location ที่อยู่ใกล้แหล่งเที่ยวหลายที่ ใกล้ ๆ มีทางเดิน
(Walks) ให้ชมวิวเยอะแยะ เด็ก ๆ นักเรียนมาทัศนศึกษากันมาก มีร้าน
อาหารหลายร้าน ร้านของที่ระลึก มี (In)convenience store 1 ร้าน

โรงแรมในตัวเมือง


หมู่บ้านโบราณที่ยังมีคนอาศัยอยู่จริง



บนยอดเขานั่นหล่ะค่ะที่มาของชื่อเมือง


หมู่บ้านนี้จะมีลักษณะเหมือนหมู่บ้านในนิทาน คือจะมีลำธาร มีปราสาท
มีดอกไม้ มีฝูงสัตว์เยอะแยะ

ลำธารและเป็ดน้อย อิฉันซื้อหนมปังปอนด์ไปเลี้ยงพวกมันวันละปอนด์ค่ะ


เดินไปอีกนิดจะเจอทางเข้าถ้ำ แต่เราไม่ได้เข้ากัน อิฉันกลัวที่มืด ๆ แคบ ๆ
อ้ะค่ะ


เราเลยเดินต่อไปอีกนิด ไปเดินรอบ ๆ หุบเขากัน อันนี้เป็น trek สั้น ๆ เดิน
ซัก 45 นาทีได้ วิวสวยสุดใจ





วนมา 1 รอบ ก็ได้เวลาขึ้นปราสาทกันแล้ว


วิวนี้มองจากระหว่างทางเดินขึ้น มองลงมายังหมู่บ้าน วิวสวยงามเยี่ยงนี้


ตัวปราสาทไม่มีไรมาก ปรักหักพัง


เด็ก ๆ มาทัศนศึกษากันมากมายเลยค่ะ วี๊ดว้ายกะตู้วู้กันใหญ่
อิฉันมองวิวอย่างอิ่มเอม

และแล้ว สายตาก็มาสะดุด กะกองก้อนหิน (?) ข้างล่างนี้

ใคร๊ ใครกัน
บังอาจมาสร้างกองหินจ๊างน้อยใกล้ ๆ ปราสาทอย่างนี้ มู๊ดอิ่มเอมของอิฉัน
หายวับไปกะตาทีเดียว

หลังจากนั้น เราก็เดินลงมาหาอาหารเย็นกระแทกปากกันค่ะ ได้มาคนละ
อย่าง ลาซานย่าของอิฉัน และ Chiili Concarne ของคุณสามี

Create Date : 12 ตุลาคม 2551		2 comments
Last Update : 12 มิถุนายน 2554 17:13:17 น.
Counter : 1575 Pageviews.
Share Tweet