Group Blog
 
<<
เมษายน 2552
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
12 เมษายน 2552
 
All Blogs
 
ประเพณีสงกรานต์



เมื่อพูดถึง เชื่อว่าหลายท่านคงนึกไปถึงความสนุกสนานจากการเล่นสาดน้ำ ดังภาพบรรยากาศที่เคยได้เห็นในทุกปี ตามย่านตรอกข้าวสาร ถนนอักษะ หรือต่างแหล่งต่างๆ ซึ่งเป็นที่นิยมของหมู่ชนที่นิยมไปกันเป็นประจำทุกปี และหากจะยังไม่ลืมเลือนกันไป ประเพณีสงกรานต์ของไทยเราที่สืบทอดกันมานั้น ยังมีกิจกรรมอีกมากมายที่ปฏิบัติกันมาตามขนบธรรมเนียมประเพณี นอกเหนือจากการเล่นรดน้ำ หรือที่สมัยนี้เรียกว่าการเล่นสาดน้ำนั่นเอง



กิจกรรมวันสงกรานต์

๑. ทำบุญตักบาตร ทั้งนี้เพื่อให้เกิดสิริมงคลแก่ชีวิต
๒. ปล่อยนกปล่อยปลา คนไทยมีความเชื่อว่าการปล่อยนกปล่อยปลา ถือว่าเป็นการอโหสิกรรมและชำระบาปในส่วนที่ตน
เป็นผู้ก่อ อีกทั้งทำให้เคราะห์ร้ายที่จะเกิดขึ้นหมดไป
๓. ให้ทานแก่ผู้ที่ขัดสน เช่น คนชรา เด็กพิการ เด็กกำพร้า เป็นต้น
๔. สรงน้ำพระพุทธรูป และสรงน้ำพระภิกษุสามเณร
๕. การรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ ได้แก่ บิดา มารดา ญาติผู้ใหญ่ และบุคคลที่มีพระคุณ การรดน้ำผู้ใหญ่ในวันสงกรานต์ ด้วยต้อง
การขอขมาสิ่งที่อาจจะล่วงเกินผู้ใหญ่ ในบางครั้ง รวมถึงเป็นการขอพรเพื่อเป็นสิริมงคล และข้อคิดเตือนใจแก่ตนเอง อีก
ทั้งเพื่อเป็นการแสดงถึงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณอีกด้วย การรดน้ำ ถือเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ ซึ่ง
แสดงถึงความกตัญญูกตเวทีของบุตรหลานที่มีต่อบุพการีหรือญาติผู้ใหญ่ อีกทั้งเป็นการขอพรจากบิดามารดา ญาติผู้ใหญ่
เพื่อเป็นสิริมงคลในวันขึ้นปีใหม่
๖. การละเล่นสาดน้ำ ประเพณีนี้ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของวันสงกรานต์เลยทีเดียว ด้วยงานฉลองวันสงกรานต์นั้นเป็นช่วง ฤดูร้อน ประเพณีเริ่มจากการที่มีการสรงน้ำพระ และรดน้ำญาติผู้ใหญ่ การเล่นสาดน้ำนั้นนิยมกันในหมู่ของหนุ่มสาว น้ำที่
ใช้สาดกันนั้นจะใส่น้ำอบ น้ำหอม แต่ในปัจจุบันประเพณีอันดีงามอันนี้ได้จางหายไปตามกาลเวลาและยุคสมัย ใน
ปัจจุบันมีการสาดน้ำกันอย่างรุนแรง รวมถึงได้มีการนำอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้ามาใช้ในการละเล่นสาดน้ำมากขึ้นด้วย





แม้ว่าประเพณีสงกรานต์จะได้รับความนิยมยึดถือปฏิบัติกันมาจนถึงปัจจุบัน แต่หากมีคำถามว่า ประเพณีสงกรานต์นั้นมาจากไหน มีประวัติความเป็นมาหรือไม่อย่างไร? เชื่อว่าหลายท่านสามารถตอบได้ หลายท่านอาจจะยังต้องทบทวนความจำเพราะรู้สึกจะคลับคล้ายคลับคราว่าพอจะจดจำได้อยู่เพียงลางๆ หรือหลายท่านอาจจะตอบไม่ได้เลยเพราะลืมเลือนกันไปแล้ว หรือไม่ทราบจริงๆ ก็อาจเป็นได้ วันนี้เราจะลองมาทบทวนความทรงจำเกี่ยวกับประวัติของประเพณีวันสงกรานต์กันนิดหน่อยให้พอหอมปากหอมคอ จะได้นำไปเล่าสู่ให้ลูก ให้หลาน อนุชนของเราได้รับสืบทอดความรู้กันต่อไป

ประวัติตำนานวันสงกรานต์

มีท่านเศรษฐีผู้หนึ่งไม่มีบุตรแต่ต้องการบุตรมาก ด้วยถูกนักเลงสุราที่บ้านใกล้กันนั้นกล่าวคำหยาบช้าต่อเศรษฐี ท่านเศรษฐีจึงกล่าวถามว่า "เหตุใดท่านจึง กล่าวดูถูกเราผู้มีสมบัติมาก" นักเลงสุราตอบกลับว่า "ถึงแม้ท่านเป็นผู้มีสมบัติมาก แต่ท่านก็ไม่มีบุตร เมื่อเสียชีวิตแล้ว สมบัติเหล่านี้ก็สูญเปล่า เรานั้นมีบุตร ย่อมประเสริฐกว่า" ท่านเศรษฐีจึงได้จัดพิธีบวงสรวงขอบุตรจากพระอาทิตย์ และพระจันทร์ รอนานสามปีก็มิได้เกิดบุตร เมื่ออาทิตย์ยกขึ้นสู่ราศีเมษ ท่านเศรษฐีจึงพาบริวารไปบวงสรวงขอบุตรจากพระไทร พระไทรมีความเมตตาสงสารเศรษฐีผู้นี้ จึงได้ขึ้นไปบนสวรรค์ทูลขอบุตรจากพระอินทร์ให้แก่เศรษฐี ผู้นั้น พระอินทร์จึงให้ธรรมบาลกุมารเทวบุตรลงมาเกิดเป็นบุตรของท่านเศรษฐี
เมื่อภรรยาของท่านเศรษฐีคลอดบุตร ท่านเศรษฐีได้ปลูกปราสาทเจ็ดชั้นให้อยู่ใต้ต้นไทรริมฝั่งแม่น้ำ และตั้งชื่อให้ว่าธรรมบาลกุมารธรรมบาลกุมารนี้เป็น เด็กที่มีปัญญาเฉลียวฉลาดอย่างมาก เรียนรู้ไตรเทพจบเมื่ออายุ ๗ ขวบอีกทั้งยังสามารถเรียนรู้ภาษานกได้อีก ความดังกล่าวได้ล่วงรู้ถึงท้าวกบิลพรหม ท่านจึงต้องการที่จะทดสอบปัญญาของธรรมบาลกุมาร ท้าวกบิลพรหมจึงได้เสด็จลงมายังโลกมนุษย์ ถามปัญหาธรรมบาลกุมาร ๓ ข้อคือ


ข้อที่ ๑ เช้าราศีสถิตอยู่แห่งใด
ข้อที่ ๒ เที่ยงราศีสถิตอยู่แห่งใด
ข้อที่ ๓ ค่ำราศีสถิตอยู่แห่งใด

และตกลงกันว่า ถ้าธรรมกุมารสามารถตอบปัญหา ๓ ข้อนี้ได้ ภายใน ๗ วัน จะตัดเศียรของตนบูชาธรรมบาลกุมาร แต่ถ้าธรรมบาลกุมารไม่สามารถตอบปัญหาได้ ธรรมบาลกุมารต้องตัดศีรษะของตนบูชาท้าวกบิลพรหมเช่นกัน


เวลาล่วงเลยไปถึง ๖ วัน ธรรมบาลกุมารก็ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ ด้วยความกลัวอาญาท้าวกบิลพรหม ธรรมบาลกุมาร จึงได้หนีไปแอบซ่อนอยู่ใต้ต้นตาลและบนต้นตาลนั้นมีนกอินทรี ๒ ตัว ผัวเมียทำรังอยู่นกอินทรีทั้งสองได้สนทนากันอยู่ในเรื่องการออกไปหากินในวันพรุ่งนี้ นางนกอินทรี : "พรุ่งนี้เราจะไปหากินที่ไหนกันดี "นกอินทรีตัวผู้ : "พรุ่งนี้เราไม่ต้องออกไปหากินไกลหรอก ด้วยพรุ่งนี้ธรรมบาลกุมารจะต้องตัดศีรษะบูชาท้าวกบิลพรหม เนื่องจากตอบปัญหาไม่ได้"
นางนกอินทรี : "น่าสงสารกุมารน้อยยิ่งนัก ท้าวกบิลพรหมก็ช่างถามปัญหาที่มนุษย์เกินจะตอบได้"
นกอินทรีรู้สึกหมั่นไส้นางนกอินทรีจึงได้บอกถึงคำตอบที่ท้าวกบิลพรหมถามธรรมบาลกุมารให้นางนกอินทรีได้รู้
นกอินทรีตัวผู้ : "ราศีแห่งมนุษย์นั้นจะสถิตอยู่ที่ร่างกายต่างวาระกัน คือ เวลาเช้าจะสถิตอยู่ที่หน้า มนุษย์จึงต้องล้างหน้า เวลาเที่ยงราศีสถิตอยู่ที่อก มนุษย์จึงต้องปะพรมน้ำที่หน้าอก และเวลาค่ำสถิตอยู่ที่เท้า มนุษย์จึงต้องล้างเท้า จึงจะพ้นอัปรีย์จัญไรทั้งปวง"


ธรรมบาลกุมารเมื่อได้ยินดังนั้น ก็ได้จดจำคำตอบและนำไปบอกแก่ท้าวกบิลพรหม ท้าวกบิลพรหมจึงจำต้องตัดเศียรของตนบูชาธรรมบาลกุมาร แต่เศียรของท้าวกบิลพรหมมีพิษมาก คือ ถ้าตัดแล้วตั้งไว้บนแผ่นดิน แผ่นดินก็จะลุกเป็นไฟ ถ้าโยนขึ้นสู่ท้องฟ้าฝนก็จะตกไม่ถูกต้องตามฤดูกาล และถ้าทิ้งลงมหาสมุทรน้ำก็จะเหือดแห้ง ท้าวกบิลพรหมจึงรับสั่งเรียกธิดาทั้ง ๗ เพื่อให้นำเศียรของท้าวกบิลพรหมไปแห่ประทักษิณรอบเขาพระสุเมรุ ๖๐ นาที แล้วจึงนำไปเก็บไว้ในมณฑปถ้ำธุลีเขาไกรลาศ ครั้นครบกำหนด ๓๖๕ วัน (โลกสมมุติว่าเป็น ๑ปี) เป็นสงกรานต์ ซึ่งหมายถึงขึ้นปีใหม่นั้นเอง นางสงกรานต์ก็จะต้องนำเศียรของท้าวกบิลพรหมแห่ประทักษิณรอบเขาพระสุเมรุเป็นประจำทุกปี





นางสงกรานต์

เป็นธิดาของท้าวกบิลพรหม หรือท้าวมหาสงกรานต์ และเป็นนางฟ้าอยู่บนสรวงสวรรค์ชั้นจาตุมหาราช (สวรรค์ชั้นที่ ๑ ในทั้งหมด ๖ ชั้น) ซึ่งมีหน้าที่ในการรับศีรษะของท้าวกบิลพรหมแห่รอบเขาพระสุเมรุในแต่ละรอบปี หรือในวันสงกรานต์นั้นเอง โดยมีเกณฑ์กำหนดที่ว่าวันสงกรานต์ คือวันที่ ๑๓ เมษายน ตรงกับวันใดก็ให้นางสงกรานต์ประจำวันนั้นเป็นผู้แห่ นางสงกรานต์มีทั้งหมด ๗ องค์



นางสงกรานต์ทั้ง 7 องค์ ได้แก่



๑. นางสงกรานต์ทุงษเทวี



ทุงษเทวีเป็นนางสงกรานต์ประจำวันอาทิตย์ ทัดดอกทับทิม มีปัทมราค (แก้วทับทิม) เป็นเครื่องประดับ ภักษาหาร คือ อุทุมพร (มะเดื่อ) อาวุธคู่กาย พระหัตถ์ ขวาถือจักร พระหัตถ์ซ้ายถือสังข์ เสด็จไสยาสน์เหนือปฤษฎางค์ครุฑ

๒. นางสงกรานต์โคราดเทวี



โคราดเทวีเป็นนางสงกรานต์ประจำวันจันทร์ ทัดดอกปีป มีมุกดาหาร (ไข่มุก) เป็นเครื่องประดับภักษาหาร คือ เตละ (น้ำมัน) อาวุธคู่กาย พระหัตถ์ขวาถือพระขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายถือไม้เท้า เสด็จประทับเหนือพยัคฆ์ (เสือ)

๓. นางสงกรานต์รากษสเทวี



รากษสเทวีเป็นนางสงกรานต์ประจำวันอังคาร ทัดดอกบัวหลวง มีโมรา (หิน) เป็นเครื่องประดับ ภักษาหาร คือ โลหิต (เลือด) อาวุธคู่กาย พระหัตถ์ขวาถือตรีศูล พระหัตถ์ซ้ายถือธนู เสด็จประทับเหนือวราหะ (หมู)

๔. นางสงกรานต์มัณฑาเทวี



มัณฑาเทวีเป็นนางสงกรานต์ประจำวันพุธ ทัดดอกจำปา มีไพฑูรย์ (พลอยสีเหลืองแกมเขียว) เป็นเครื่องประดับ ภักษาหาร คือ นมและเนย อาวุธคู่กาย พระหัตถ์ ขวาถือเหล็กแหลม พระหัตถ์ซ้ายถือไม้เท้า เสด็จไสยาสน์เหนือปฤษฎางค์คัสพะ (ลา)

๕. นางสงกรานต์กิริณีเทวี



กิริณีเทวีเป็นนางสงกรานต์ประจำวันพฤหัสบดี ทัดดอกมณฑา (ยี่หุบ) มีมรกตเป็นเครื่องประดับ ภักษาหาร คือ ถั่วและงา อาวุธคู่กาย พระหัตถ์ขวาถือพระขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายถือปืน เสด็จไสยาสน์เหนือปฏษฎางค์ชสาร (ช้าง)

๖. นางสงกรานต์กิมิทาเทวี



กิมิทาเทวีเป็นนางสงกรานต์ประจำวันศุกร์ ทัดดอกจงกลนี มีบุษราคัมเป็นเครื่องประดับ ภักษาหาร คือ กล้วยและน้ำ อาวุธคู่กาย พระหัตถ์ขวาถือพระขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายถือพิณ เสด็จประทับยืนเหนือมหิงสา (ควาย)

๗. นางสงกรานต์มโหทรเทวี



มโหทรเทวีเป็นนางสงกรานต์ประจำวันเสาร์ ทัดดอกสามหาว (ผักตบชวา) มีนิลรัตน์เป็นเครื่องประดับ ภักษาหาร คือ เนื้อทราย อาวุธคู่กาย พระหัตถ์ขวาถือจักร พระหัตถ์ซ้ายถือตรีศูล เสด็จประทับเหนือมยุราปักษา (นกยูง)

ข้อมูลทั้งหมดที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้นถือเป็นเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ เพื่อต้อนรับประเพณีสงกรานต์ ซึ่งจะอยู่คู่กับวิถีชีวิตของชนชาวไทยไปอีกนานแสนนาน สำหรับวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์เช่นนี้ หลายท่านอาจไปพักผ่อนคลายร้อนกันตามแหล่งท่องเที่ยวและหาความสำราญจากการเล่นสาดน้ำตามแหล่งที่นิยมในจังหวัดต่างๆ และหลายท่านอาจเดินทางกลับถิ่นฐานภูมิลำเนาเดิมเพื่ออยู่รวมครอบครัว อย่างไรก็ขอให้ระมัดระวังในการเดินทาง และการเล่นสาดน้ำก็อย่างคะนองกันซะจนเกินงามล่ะเจ้าคะ ที่สำคัญ "เมาไม่ขับ ช่วยลดอุบัติเหตุ" สงกรานต์ปีนี้ขอให้ทุกท่านเดินทางปลอดภัย เล่นน้ำกันด้วยความสนุกสนานสำราญใจ และอย่าลืมเที่ยวเผื่อกันด้วยนะคะ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วขอสาดน้ำคนอ่านก่อนแล้วกันนะเจ้าคะ

เอ้า!!! สาดดดดดดดด




แหล่งที่มาของข้อมูลและรูปภาพสวยๆ
//www.vcharkarn.com/varticle/36247/2
//www.oknation.net/blog/print.php?id=237506
w4.thaiwebwizard.com/member/kiat/showdetail.a...
board.palungjit.com/showthread.php?t=77168&page=2
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sanamluang...




Create Date : 12 เมษายน 2552
Last Update : 12 เมษายน 2552 17:49:31 น. 13 comments
Counter : 5220 Pageviews.

 


โดย: Yoawarat วันที่: 12 เมษายน 2552 เวลา:21:02:12 น.  

 


โดย: มิสเตอร์ฮอง วันที่: 12 เมษายน 2552 เวลา:22:12:21 น.  

 
สวัสดีปีใหม่จ้าคนสวย


โดย: ลายปากกา วันที่: 14 เมษายน 2552 เวลา:17:11:37 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ไทย เช่นกันค่ะ คุณ Yoawarat คุณมิสเตอร์ฮอง และร่างทรง (น่าจะเป็นพี่อ้อยคนงามนะ) ลายปากกา ค่ะ ขอให้ทุกท่านสุข สดชื่น สำราญใจ ตลอดปีเลยนะคะ


โดย: มณีนาคา วันที่: 15 เมษายน 2552 เวลา:12:53:24 น.  

 
แม้ว่าหูตาเริ่มจะไม่ค่อยดี แต่ก็สู้ แม้จะตาแฉะก็ตามที

ได้ความรู้มากมายเลยครับ ปีนี้ได้ยินข่าวแว่วๆ ว่านางสงกรานต์ขี่เสื่อ ไม่รู้ว่าสื่อถึงเรื่องดีหรือไม่ดีแฮะ


โดย: วรบรรณ วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:8:30:11 น.  

 
ลุงพี่วัวค่ะ ไปหาข้อมูลมาให้แล้วนะคะ เกี่ยวกับนางสงกรานต์ ขี่เสือในปีนี้

นางสงกรานต์ ปี 2552 ขี่เสือ คนใหญ่คนโตเรืองอำนาจ (ไทยรัฐ)

นางอมรรัตน์ เทพกำปนาท นักวิชาการวัฒนธรรม สำนักงานคณะกรรมการ วัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) กล่าวว่า คำพยากรณ์โบราณ นางสงกรานต์ ปี 2552 ปีนี้สงกรานต์ไทยตรงกับปีฉลู เป็นมนุษย์ผู้ชายธาตุดิน วันที่ 14 เมษายน เป็นวันมหาสงกรานต์ ทางจันทรคติตรงกับวันจันทร์ แรม 4 ค่ำ เดือน 5 เวลา 01.13 น. 14 วินาที สุริยคติปฏิทินสากลเป็นวันอังคาร นางสงกรานต์นามว่า โคราคะเทวี พาหุรัดทัดดอกปีบ อาภรณ์แก้วมุกดาหาร ภักษาหารน้ำมัน พระหัตถ์ขวาถือพระขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายถือไม้เท้า เสด็จไสยาสน์หลับเนตร มาเหนือหลังพยัคฆะ หรือเสือเป็นพาหนะ

และวันที่ 16 เมษายน เวลา 05.06 น. เปลี่ยนจุลศักราชใหม่เป็น 1371 ปีนี้วันเสาร์เป็นธงชัย วันพุธเป็นอธิบดี วันศุกร์เป็นอุบาทว์ และโลกาวินาศ ส่วนพืชพรรณธัญญาหารได้เศษ 6 ชื่อลาภะ ข้าวกล้าในนาจะได้ผล 9 ส่วน เสีย 1 ส่วน จะอุดมสมบูรณ์ และน้ำจะมีมากนั้น จากประกาศสงกรานต์ ข้างต้นเมื่อเทียบกับ คำทำนายโบราณ จะเห็นว่าวันมหาสงกรานต์ตรงกับวันจันทร์ พยากรณ์ไว้ว่า ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ตลอดจนคุณหญิง คุณนายทั้งหลายจะเรืองอำนาจ วันอังคารเป็นวันเนา โบราณว่าจะทำให้ผลหมากรากไม้จะแพง วันพุธเป็นวันเถลิงศก บรรดานักปราชญ์ราชบัณฑิต จะมีความสุขสำราญ และนางสงกรานต์นอนหลับตามาบนหลังเสือ โบราณว่าพระมหากษัตริย์จะเจริญรุ่งเรืองดี และเป็นการเตือนให้ผู้คนอย่าลุ่มหลงสิ่งยั่วยุ ความฟุ้งเฟ้อต่างๆ ตรงกับสภาพวิกฤติเศรษฐกิจปีนี้พอดี ทำให้คนตกงาน และนำมาเจ็บไข้ได้ป่วยจำนวนมาก แต่โชคดีที่นางสงกรานต์มีพระขรรค์ไม้เท้าเป็นอาวุธ จะช่วยป้องกัน และพยุงตัวประเทศ รอดพ้นจากวิกฤติต่างๆ ไปได้


อย่างไรก็ตาม คำทำนายนี้เป็นไปตามโบราณได้พยากรณ์ไว้เท่านั้น


ที่มา //hilight.kapook.com/view/35784



โดย: มณีนาคา วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:18:26:23 น.  

 
ขอบคุณมากๆ ครับ

ขอให้บุญกุศลที่ช่วยไปค้นหาข้อมูลมาให้ผู้สูงวัยคนนี้ ดลบันดาลให้ประสบแต่ความสุขสวัสดิ์พิพัฒน์มงคลตราบนานเท่านานนะครับ


โดย: วรบรรณ วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:20:06:20 น.  

 
มาชมความงามของนางสงกรานต์ พร้อมความรู้เพียบแปล้


โดย: สัมผัสรักในใจเรา วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:21:08:30 น.  

 
คุณลุงพี่วัว ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกเจ้าค่ะ แต่ยังไงคำอวยพรก็ขอรับไว้ด้วยความเต็มใจ

คุณไนท์ นางสงกรานต์แต่ละองค์นี่งามจริงๆ เนอะ อันนี้เห็นด้วย


โดย: มณีนาคา วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:21:29:38 น.  

 
มาขโมยความรู้ค่ะ


โดย: ปณาลี วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:23:48:08 น.  

 
คุณตูน เชิญค่ะ เชิญเลย ไม่หวงไม่ห้ามค่ะ


โดย: มณีนาคา วันที่: 18 เมษายน 2552 เวลา:2:14:25 น.  

 
มาแสวงหาความรู้ค๊าบ


โดย: นาคาม IP: 113.53.71.162 วันที่: 2 ตุลาคม 2553 เวลา:14:44:11 น.  

 
-o-


โดย: wow IP: 180.183.71.154 วันที่: 18 ตุลาคม 2555 เวลา:19:59:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มณีนาคา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]







สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ลอกเลียน ดัดแปลง หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความ หรือรูปภาพใน blog แห่งนี้ไปใช้ทั้งโดยเผยแพร่และอ้างอิงก่อนได้รับอนุญาต มิฉะนั้นอาจถูกดำเนินคดีตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด หากสนใจรูปภาพ งานเขียน หรือผลงานอื่นๆ ใน blog นี้ เพื่อนำไปเผยแพร่เป็นการส่วนตัวหรือการพาณิชย์ กรุณาติดต่อเจ้าของผลงานโดยตรง
ผลงานรวมเล่มเดี่ยว ผลงานรวมเล่มรวมนักเขียน
ผลงานรวมเล่ม e-book
Friends' blogs
[Add มณีนาคา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.