แม่รักลูกเองไม่ต้องจ้าง..ห่วงลูกเองไม่ต้องจ้าง..หวังดีต่อลูกเองไม่ต้องจ้าง...คุ้มครองลูกเองไม่ต้องจ้าง
Group Blog
 
 
ธันวาคม 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
22 ธันวาคม 2554
 
All Blogs
 
ยังคงอยู่กับความรัก

บันทึกหน้าที่สาม ยังคงอยู่กับความรัก




ความรัก ไม่ให้สิ่งอื่นนอกจากตนเอง
และก็ไม่รับเอาสิ่งใดนอกจากตนเอง ความรัก ไม่ครอบครอง

และก็ไม่ยอมถูกครอบครอง เพราะความรักนัี้นพอเพียงแล้ว
สำหรับตอบความรัก





"คาริล ยิบราน"







Create Date : 22 ธันวาคม 2554
Last Update : 22 ธันวาคม 2554 10:36:23 น. 12 comments
Counter : 799 Pageviews.

 
หนังสือปรัชญาชีวิต
ผมอ่านสามรอบแล้วครับ

ถ้าจำไม่ผิด
ผมน่าจะอ่านงานของคาริล ยิบรานครบทุกเล่ม
แต่เล่มที่ชอบที่สุดน่าจะเป็นเล่มนี้เลยล่ะครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 ธันวาคม 2554 เวลา:11:31:06 น.  

 
ผมอ่านซ้ำทุกๆประมาณ 5 ปีครับพี่ตาล
ปรัชญาชีวิตสำหรับผม
ไม่ต่างกับคู่ามือมนุษย์
และเต้าเต๋อจิงครับ

หยิบมาอ่านแต่ละครั้ง
ก็ได้อะไรใหม่ๆสำหรับความคิดเสมอ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 ธันวาคม 2554 เวลา:12:28:33 น.  

 

ส่งคำถาม-คำตอบครับพี่ตาล

.
.
.



พี่สงสัยค่ะ


นิสัยของคนเราขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมหรือการเลี้ยงดู

เพราะเคยเห็นครอบครัวหนึ่งมีฐานะดี
ลูกชายสองคนได้รับการเลี้ยงดูในสิ่งแวดล้อมเดียวกัน


แต่พอโตขึ้นมาคนหนึ่งเป็นนายแพทย์

อีกคนเรียนจบมหาวิทยาลัยมีชื่อเหมือนกัน
แต่ไม่ได้ทำงานอะไรติดการพนันด้วยค่ะ


คุณก๋าคิดว่าขึ้นอยู่กับอะไรค่ะ

หรือขึ้นอยู่กับบุญกุศลของแต่ละคนที่ทำมา




คำถามโดย : ตาลเหลือง
วันที่ : 19 ธันวาคม 2554
เวลา : 9:52:25 น.









ผมเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือมาก
มากถึงมากที่สุด
ถ้ามองดูในบ้าน ไม่มีใครที่อ่านหนังสือมากเหมือนที่ผมอ่านเลยครับ

ไปโรงเรียนสมัยเป็นนักเรียน
ครูก็ไม่เคยบังคับ แต่ผมชอบและรักการอ่านด้วยตัวเอง


ถ้าหยิบประเด็นเรื่องการอ่านมาเกี่ยวข้อง
ผมว่ามันเกิดขึ้นในตัวเราเอง
คิดได้เอง ค้นจนเจอสิ่งที่ชอบและรักด้วยตัวเอง





พ่อแม่ผมในสมัยเด็กไม่มีเวลาดูแลลูกทั้งสี่เลย
เพราะต้องทำงานหนักมาก ทำงานทั้งวันทั้งคืน
ช่วงวัยหนึ่งผมรู้สึกเหมือนโตขึ้นมาด้วยตัวเองเสียด้วยซ้ำ
ดังนั้น พ่อกับแม่ไม่มีอิทธิพลใดใดกับวิธีคิดของผมเลย

เพียงแต่พอผมเรียนจบมา
แล้วทำงานกับพ่อเป็นสิบกว่าปี
ตรงนี้เริ่มซึมซับวิธีคิดและกลยุทธ์ในการทำการค้ามาจากพ่อบ้าง
แต่ผมก็เก่งได้ไม่ถึงครึ่งของความสามารถที่พ่อมี

ผมไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นนักธุรกิจ
แต่เมื่อต้องมาทำ ก็พยายามให้ดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้




สมัยเรียนสถาปัตย์ เพื่อนเกือบทุกคนดื่มเหล้า สูบบุหรี่
แวดล้อมตัวผมมีแต่เรื่องจีบสาว เข้าเธค เล่นพนัน ฯลฯ

แต่ผมผ่านมันมาได้โดยไม่เคยสนใจหรือคิดที่จะลองเลย
ผมคิดว่าผมชัดเจนกับความคิดตัวเองมาก
โดยไม่มีใครเป็นต้นแบบที่ชัดเจน

เป็นตัวตนที่พัฒนาขึ้นมาโดยไม่ค่อยสนใจสิ่งแวดล้อม
ไม่ยอมให้ใครบงการความคิด

ผมคิดถึงสิ่งที่ตัวเองจะทำ ชัดเจนว่าอยากเรียนอะไร
อยากเป็นอะไร และความสุขของตัวเองอยู่ที่ไหน


มองกลับมาอีกด้านหนึ่ง ผมจึงเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงมาก
ไม่เปิดใจให้ใครง่ายๆ และรักษาพื้นที่ส่วนตัวไว้
จนเพื่อนหรือคนรู้จักยากจะเข้าถึงได้....




ผมไม่ค่อยเชื่อในเรื่องของกรรมเก่า
แต่เชื่อในสิ่งที่คนๆหนึ่ง คิด พูด ทำกับตนเอง
ทำบ่อยๆ คิดบ่อยๆ พูดบ่อยๆ
สิ่งนั้นจะไหลเข้าไปในจิตสำนึก
ที่สุดแล้วมันจะกลายเป็นความเคยชิน
จากความเคยชินกลายเป็นสันดานติดตัวในที่สุด

สันดานนี้เราเรียกว่า “กรรม” หรือ “การกระทำ “ นั่นเองครับ



คนจะดี จะเลว
ไม่ได้อยู่ที่ชาติกำเนิด
การเลี้ยงดูมีส่วนมากพอสมควร
การเรียนรู้หล่อหลอมวิธีคิดก็สำคัญ

แต่ที่สุดแล้ว ใครกันล่ะครับ
ที่สร้าง “ตัวตน” ขึ้นมา
ก็ตัวเราทั้งนั้น


แก้วเหล้าวางอยู่
ไม่มีใครหยิบกรอกปากเราได้ ถ้าเราไม่คิดจะดื่ม

เห็นเงินตกอยู่สามล้าน ถ้าเรารู้ว่าไม่ใช่ของเรา
เราก็ไม่หยิบ


เห็นคนเดือดร้อน ถ้าใจเรามีกุศล
ถึงไม่มีใครบอก เราก็คิดอยากช่วย

ฯลฯ



ผมว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้ติดตัว ฝังอยู่ในความคิดของเรา
ข้ามภพข้ามชาติมาโดยตลอด
เป็นความเคยชิน เหมือนหลายคนเกิดมาแล้วถนัดซ้าย
บางคนร้องเพลงเก่ง บางคนใจคอโหดเหี้ยม
บางคนเก่งด้านการค้าขาย บางคนเก่งศิลปะ ฯลฯ

สิ่งนี้มีอยู่แล้วในตัวเรา
เพียงแต่เรา “เปลี่ยนแปลง” มันได้
ขอเพียงรู้ว่าอะไรดี อะไรไม่ดี
แยกแยะ วิเคราะห์
แล้วลงมือเปลี่ยนแปลงตัวเองทันที
ทำอย่างต่อเนื่อง ยาวนาน ทำอย่างอดทน


ผมเชื่อว่าทุกคนเป็นคนดีขึ้นได้ในทุกวัน
เมื่อไหร่ก็ตามที่เรารู้ตัว
รู้ตัว รู้ดี รู้ชั่ว
สิ่งไหนในตัวที่ดีรักษาไว้ นิสัยหรือความคิดด้านลบ
ฝึกหัดแก้ไขความเคยชิน ทำซ้ำๆบ่อยๆ
จนเกิดการเปลี่ยนแปลง



ใครจะมาทำให้เราได้ครับ
พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ เพื่อนพี่น้อง ฯลฯ
ใครก็เปลี่ยนนิสัยเราไม่ได้
ถ้าเราไม่คิดจะเปลี่ยน



“ตัวเรา” เป็นคนสร้างตัวตนขึ้นมาจาก “ความคิด” ของเรา
และถ้าเราอยากเปลี่ยนตัวตนของเรา
ก็ไม่มีหนทางไหนเลยครับ
นอกจากเปลี่ยนแปลงที่ “ความคิดของตัวเราเอง”




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 ธันวาคม 2554 เวลา:13:05:50 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ตาล
อ่านแล้วได้ข้อคิดนะเนี่ย..


โดย: ฟ้า... (kuvasu ) วันที่: 22 ธันวาคม 2554 เวลา:14:03:26 น.  

 

ฟ้ามีเล่มหนึ่งค่ะ แต่เป็นภาษายังกฤษ
เลยอ่านยังไม่จบซะที แหะๆๆ


โดย: ฟ้า.. (kuvasu ) วันที่: 22 ธันวาคม 2554 เวลา:14:48:55 น.  

 
ปรัชญาลึกซึ้งมากมาย แหะ ๆ
คนไทยอ่านหนังสือกันน้อยมาก สถิติเขามีว่ายังไงน้าาาา
ปีละกี่บรรทัด ...

ขอบคุณที่แวะไปที่บ้านนะคะ มีกาแฟมาเสิร์ฟยามบ่ายค่ะ
เผื่ออ่านมากแล้วจะมึน กาแฟช่วยได้ค่ะ อิอิ






โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 22 ธันวาคม 2554 เวลา:14:58:18 น.  

 

ชอบเหมือนกันค่ะพี่ตาล คาริล ยิบราน ถ้าจะหยิบมาเขียน คงมีหลายข้อความที่ชอบ....

เห็นคำถามของพี่ตาล กับคำตอบของคุณก๋าแล้ว...ตามนั้นเลยค่ะ เหมือนเราๆ ไงคะ พี่น้องท้องเดียวกัน พ่อแม่เราก็เลี้ยงมาเหมือนๆ กัน พวกเราแต่ละคนยังนิสัยใจคอแตกต่างกันเลยค่ะ

เพื่อนหนู (ในวัยขนาดนี้) เปลี่ยนชื่อกันเยอะมาก ไม่รู้เหตุผลจริงๆ จังๆ ไม่กล้าถามเค้าด้วย...ถ้านิสัยเราไม่เปลี่ยน ความคิดเราไม่เปลี่ยน เราก็เป็น คนๆ เดิมนี่หล่ะค่ะ


ตอนอ่านหนังสือห้องสมุดราม หนูตามอ่านงานของทมยันตี แทบทั้งหมดค่ะ พอทำงานมีรายได้ ก็ไปตามซื้อมาสะสมไว้อีก ทั้งชอบ ทั้งปลื้มค่ะ





โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 22 ธันวาคม 2554 เวลา:15:00:17 น.  

 

วิ่งขึ้นไปดูชั้นหนังสือ สุวรรณี สุคนธา หนูมีอยู่ 3 เล่มค่ะ ลูกรัก , เขาชื่อกานต์ , ความรักครั้งสุดท้าย

ทมยันตี แนวศาสนา พี่สาวหนูขอบายเหมือนกัน พี่ตาลลองอ่านรึยังคะ เขียนดีค่ะ หนูจำชื่อไม่ได้ทั้งหมด จิตา...

ของโรสลาเรน ลักษณวดี ด้วยค่ะ หลังๆ มาไม่ค่อยได้ตามซื้อแล้ว เรื่องล่าสุด สุริยวรมันค่ะ มีไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้อ่านเลย หนูโรคจิต ชอบซื้อมาไว้ก่อน เราถือคติว่า หนังสือไม่บูดไม่เน่า เมื่อราคาถูก (งานหนังสือ) ก็จะไปหามาไว้ครอบครอง





โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 22 ธันวาคม 2554 เวลา:16:30:01 น.  

 
ปล.1 นายต้นเองก็ ทึ่ง ในความคิดคุณก๋า


- ขอบคุณครับพี่ ขอบคุณน้องต้นด้วยนะครับ


ปล.2 ให้นายต้น มีความคิด เหมือนคุณก๋า สักครึ่ง ก็คงดีค่ะ

- เป็นแบบที่น้องต้นเป็นนี่ล่ะครับ วิเศษที่สุดแล้วครับ ^^
เป็นเหมือนผม เพื่อนไม่ค่อยคบนะครับ 555




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 ธันวาคม 2554 เวลา:18:14:54 น.  

 
แวะมาทักทายครับ


โดย: อัสติสะ วันที่: 22 ธันวาคม 2554 เวลา:19:37:39 น.  

 
สวัสดีวันศุกร์แห่งชาติค่ะ วันหยุดนี้ไปเที่ยวไหนกันเอ่ย .......


โดย: ยุ้ย (แม่อัยยะจัง ) วันที่: 23 ธันวาคม 2554 เวลา:9:22:06 น.  

 
ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารี
ธรรมนั่นแหละ รักษาผู้ประพฤติธรรม

มีความสุขกับธรรมที่รักษาได้ ตลอดไป...นะคะ





โดย: พรหมญาณี วันที่: 23 ธันวาคม 2554 เวลา:9:25:10 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ตาลเหลือง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ตาลเหลือง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.