จากโสกไผ่ใบข้าวถึงลมแล้งเริงระบำ
เมื่อลมแล้งพัดผ่านมา ดอกไม้ได้เวลาบานไสว เรื่องราวรื่นเริงในหมู่บ้าน ยังคงกังวานไหวในหัวใจผู้คน
จตุพร แพงทองดี
เรื่อง ลมแล้งเริงระบำ (โสกไผ่ใบข้าวภาค 2)
เป็นวรรณกรรมเยาวชน ได้รับรางวัลชมเชย หนังสือสำหรับเด็กวัยรุ่น อายุ 12-18 ปี จากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ ปี 2553
ในชุดนี้มีสามเล่ม คือ โสกไผ่ใบข้าว ลมแล้งเริงระบำ และอีเกิ้งดวงกลม
ได้อ่านแล้ว สองตอน คือ โสกไผ่ ใบข้าว และลมแล้งเริงระบำ มีความสุขมาก กับ ตัวละครเอกของเรื่อง เด็กหญิงคำดั้ว และเพื่อน ๆ ชาวนาอีสาน การดำรงชีวิต ที่สอดคล้องกับธรรมชาติ
เล่มแรก พูดถึงฤดูกาลทำนา เด็กน้อย อย่างคำดั้ว และเพื่อน ๆ ต่างมีส่วนช่วยในการทำนา เด็ก ๆ ได้รับการปลูกฝั่ง ให้รู้จักบุญคุณ แม่โพสภ ผ่านประเพณีต่าง ๆ
เมื่อฤดูกาลผัดผ่าน ลมแล้ง เริงระบำ หมดฤดูกาลทำนา แต่คำดั้ว และพ้องเพื่อน ยังคงมีงานที่ต้องทำเช่น การต้อนวัว ไปเลี้ยง ตามท้องทุ่ง เด็กน้อย อย่างคำดั้ว และ เด็กสาว ที่เริ่มรุ่น รวมกลุ่มกันในตอนสาย ๆ แต่ละคน สะพายใส่ห่อข้าว พร้อมตะข้องและเสียมน้อย เผื่อระหว่างทางขุดหา สิ่งที่จะนำมาเป็นอาหารได้เช่น แมลง หรือกบ เขียด หรือพืชผักต่าง ๆ
นอกจากการยังชีพด้วยวิถีธรรมชาติแล้ว ยังได้ซึมซับ ประเพณี งานบุญต่างๆ เช่น เดือนสามทำบุญข้าวจี่ เดือนสี่ งานบุญเผวส(ผะเหวด)
ได้เห็นความสามัคคีของชาวบ้าน ร่วมแรงร่วมใจ ช่วยงานบุญ
อีกสิ่งหนึ่งที่ ตาลเหลืองคิดว่า มีเสน่ห์คือ ได้รู้ภาษาอีสาน
ในเล่มนี้ มีหลายคำ ที่น่าจดจำ
คะลำ แปลว่า ต้องห้าม หมากอะโหล แปลว่า เครื่องขยายเสียง ใบเงิน แปลว่า ธนบัตร
ขี้เข็บ แปลว่า ตะขาบ
เวลาอ่านต้องใช้สำเนียงอีสานด้วย ถึงเป็นการในใจก็ตาม ตาลเหลืองว่า ได้อรรถรสดี (อ่านแล้วคิดถึงปัญญา-เรณูขึ้นมาทันทีเลยเชียว)
การได้เรียนรู้ภาษาที่แตกต่างจากที่ตัวเองรู้ เป็นสิ่งที่ตาลเหลืองชอบ หากได้เดินทางไปต่างถิ่น ต่างบ้านต่างเมือง ก็ชอบที่จะจดจำและลองใช้พูดกับเจ้าของภาษา เป็นความสุขอย่างหนึ่งค่ะ
ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน๊ต สนพ.มติชน
Create Date : 08 เมษายน 2556 |
Last Update : 8 เมษายน 2556 13:37:06 น. |
|
56 comments
|
Counter : 2357 Pageviews. |
|
|
คิดถึงพี่นะพี่ตาล พิจิตรนี่ไกลเกินจริงๆๆนึ