Group Blog
All Blog
|
COAL MINING and POWER PLANTS เนื่องจากประเทศไทยมีแหล่งถ่านหินขนาดใหญ่และมีโรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงหลายแห่ง แต่มักมีปัญหาชาวบ้านประท้วงเป็นประจำ เพราะกลัวปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม เมื่อปี 2010 ได้มีโอกาสไปโครงการ STUDY VISIT ด้วยทุนสนับสนุนจาก DAAD และ Prof.Dr. W. Coldewey ,Westfälische Wilhelms-Universität Münster,Geologisch-Paläontologisches Institüt, ได้ประสานงานให้ได้เข้าชมเหมืองถ่านหินขนาดใหญ่ในเยอรมนีที่ Cottbus ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท Vattenfall ซึ่งงเป็น บริษัทสัญชาติสวีเดนร้อยเปอร์เซนต์ โดยผลิตถ่านหินให้กับโรงไฟฟ้าถ่านหิน ที่เมือง Jänschwalde โดยเป็นโรงไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนี อยู่ชายแดนติดกับโปแลนด์ โดยมกำลังผลิตดังนี้ Electricity capacity : 3,000 MWe (six 500 MW blocks) Heat capacity : 348 MWth Technology : Condensing power Main fuel : Lignite //powerplants.vattenfall.com/janschwalde ประวัติโรงไฟฟ้า Jänschwalde Jänschwalde Power Plant สร้างช่วงปี between 19761988 และในช่วงปี 19911996 โรงไฟฟ้าทุกโรงได้ติดตั้งเทคโนโลยีที่ป้องกันด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อลดการปล่อยก๊าซและได้ปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย ในกลางทศวรรษ 1990s ก็ได้ติดตั้งชุดลดการปล่อยก๊าซไนโตรเจนอ๊อกไซด์ในหม้อต้มทั้ง 12 ชุด และตัวตกตะกอนแบบไฟฟ้าสถิตย์ (electrostatic precipitators) และปรับปรุงกังหัน และติดตั้งปล่องดักก๊าซกำมะถัน //corporate.vattenfall.com/globalassets/corporate/sustainability/doc/lignite-booklet.pdf แต่ด้วยแรงกดดันด้านสิ่งแวดล้อม Vattenfall มีโครงการจะลดกำลังผลิตที่ใช้ลิกไนต์ลง 1,000 MW ซึ่งเทียบเท่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ 8 ล้านตัน โดยจะหยุดโรงไฟฟ้า 2 โรง กำลังผลิตโรงละ 500 MW ในปี 2018 และ 2019 ตามลำดับ แต่จะยังคงรักษาสภาพเผื่อฉุกเฉินเพื่อความปลอดภัยด้านพลังงานจนถึงปี 2022/2023 จึงจะปิดแบบถาวร และตามขัอตกลงจะลดลง 2,700 MW จนถึงปี 2020 ซึ่งเป็นส่วนของโปรแกรมป้องกันสภาพแวดล้อมของเยอรมนี และวันที่ไปเยี่ยมชม ก็เป็นสัปดาห์ของประเทศไทย เพราะวันก่อนคฯของเราก็มีคณะวิศวกรรมจากจุฬาฯ และวันถัดจากคณะเราก็เป็นเหมืองแม่เมาะ ทำเหมืองเสร็จก็ต้องจัดการให้ได้แบบนี้ และกำลังปลูกองุนเพื่อผลิตไวน์ Vielen Dank |
Link |