หากวันนี้คือกรวดทรายที่ไร้ค่า แต่วันข้างหน้าจะเจียระไนให้ได้มาซึ่งเพชรแก้ว
ให้แวววาวกระจ่างตา พร่างพราวกระจ่างใจ และแข็งแกร่งยากนักจะทำลาย

ไม่รู้ว่าเรายึดมั่นถือมั่นในตัวเองเกินไปหรือเปล่า - -"


หลังจากที่ทำอะไรบางอย่างลงไปโดยไม่ทันได้ไตร่ตรองหรือคิดให้รอบคอบลงไปก่อน สุดท้ายก็มานั่งรู้สึกว่าสิ่งที่เราทำไปมันไม่สมควรทำหรือเปล่านะ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่ามันผิด มันไม่สมควรทำ หากแต่มันก็สายไปแล้ว เพราะเราได้ทำมันลงไปเรียบร้อยแล้ว และเราก็ไม่สามารถที่จะย้อนกลับไปแก้ไขการกระทำตัวเองในอดีตได้เสียด้วยสิ เฮ้อ - -"


ฉันเชื่อเสมอว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนดูถูกคน ไม่เคยดูถูกความเป็นมนุษย์ของคนอื่น ไม่เคยดูหมิ่นว่าใครจะด้อยไปกว่าตนเองเลย เพราะแต่ละคนก็เลือกเกิดไม่ได้ และตัวเราเองก็ไม่ได้ว่ายิ่งใหญ่มาจากไหน จะว่าไป ฉันเองก็แค่ลูกแม่ค้าคนหนึ่งเท่านั้นด้วยซ้ำ หากแต่ว่าตนเองอาจจะโชคดีกว่าใครๆ ที่มีโอกาสได้ร่ำเรียนจนสำเร็จการศึกษาและได้ทำงานในสายวิชาชีพที่ใครหลายคนยกย่องชื่นชมในระดับหนึ่ง

แต่ก็นั่นแหละ บทบาทที่ฉันเป็นมันก็ไม่ได้ว่ายิ่งใหญ่เกินผู้คนคนอื่นไปเลย ฉันก็ยังเป็นแค่มนุษย์ปุถุชนคนธรรมดา คำนำหน้าชื่อตัว ก็ได้ใช้เฉพาะตอนอยู่ในเวลาทำงาน ตอนอยู่ในเสื้อกาวน์สั้น ที่ปักชื่อบนอกว่า "ภญ." ก็เท่านั้น พอถอดเสื้อออก อยู่นอกรั้วโรงพยาบาล ฉันก็ไม่ต่างอะไรจากคนอื่น กลับมาบ้าน ฉันก็คือลูกพ่อแม่ที่ทำอาชีพค้าขาย เจ้าของร้านอาหารเล็กๆ ไม่ได้ใหญ่โต ลูกน้องก็ไม่มีด้วยซ้ำ

ใช่ล่ะ..วันหยุด ฉันก็อยู่กับร้านอาหารที่บ้านตัวเอง ไม่ได้มีคนแก่มายกมือไหว้จนฉันรับไหว้ไม่ทันตอนไปอธิบายหรือแนะนำการใช้ยาให้พวกเขาฟัง ไม่ได้มีใครมาเรียกฉันว่า "คุณ" ทั้งๆ ที่เขาเองก็อายุมากกว่าฉัน หากแต่เพราะฉันอยู่ในฐานะที่เรียกได้ว่าเป็นหัวหน้าเขา อาจจะมีบ้างที่เรียกพี่เรียกน้อง เพราะเราก็ไม่อยากให้มีช่องว่างของการทำงาน

หรือเพราะความรู้สึกว่าตัวเองก็มี "ดี" จะอวด มันจึงทำให้เกิดยะโสโอหังขึ้นมาในใจลึกๆ โดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้



ไม่ใช่ว่าพอตัวเองทำงานแล้วพอมาช่วยงานที่ร้านแล้วต้องทำหน้าที่บริการคนอื่นจะรู้สึกรังเกียจหรือทำไม่ได้งั้นหรอก เพราะตอนทำงาน หน้าที่ของเรามันก็คือการบริการคนอื่นเหมือนกัน เพียงแต่ระดับการให้บริการ มันไม่ใช่ว่าต้องตามใจลูกค้าไปเสียทุกอย่าง แล้วงานที่ร้านตัวเอง ก็ทำมาตั้งแต่เด็กแล้ว คงไม่ได้นึกมารังเกียจอะไรเอาตอนนี้ ใครจะเรียกพี่ เรียกน้อง เรียกแม่ค้า หรืออะไร ก็ไม่ได้โกรธเคือง (ถึงจะไม่พอใจบ้าง หากแต่มันก็ยังอยู่ระดับที่รับได้) แต่วันนี้ฉันกลับคิดว่าเหตุการณ์บางอย่างมันสุดจะทนจริงๆ

ลูกค้าหญิงชายคู่หนึ่ง ที่ฝ่ายชายเป็นคนต่างชาติ เขาอาจจะติดธรรมเนียมต่างชาติที่ว่า พอเรียกคิดเงินค่าอาหาร ต้องให้ทิปคนเสิร์ฟ เพียงแต่ร้านฉันไม่ใช่ร้านอาหารแบบสวนอาหาร ไม่มีเด็กเสิร์ฟ เจ้าของร้านและลูกๆ ช่วยงานกันเอง ลูกค้าส่วนใหญ่ก็คนรู้จักสนิทสนม เด็กนักเรียน คนทำงาน แล้วค่าอาหารจานละแค่ยี่สิบสามสิบ ใครจะมาให้ทิปกัน ซึ่งพอลูกค้าฝรั่งคนนั้นให้เรียกให้คิดเงิน ฉันก็เดินเข้าไปเก็บ พอถึงเวลาทอนเงิน ก็เพียงแค่สิบบาท เขากลับไม่ยอมรับเงินทอนจากฉัน ฉันก็บอกว่าไม่เอา (เพราะว่าร้านเราไม่เคยว่าต้องมีทิป กำไรค่าอาหารมันก็บวกอยู่แล้วในราคาสินค้า) ซึ่งพอฉันจะส่งให้ ลูกค้าฝ่ายหญิงก็บอกฉันว่าทิป ฉันบอกไม่เอา เธอก็บอกว่าให้ลุง(หมายถึงพ่อฉัน) ..เท่านั้นแหละ .. ความรู้สึกไม่พอใจมันพุ่งจี๊ดขึ้นในใจทันที .. นี่พวกเขาคิดว่า บ้านเราเห็นแก่เงินงั้นเหรอ ฉันไม่เอา แล้วพ่อฉันต้องเอาใช่ไหม .. ฉันเดินกลับเข้าไป โยนเงินเหรียญสิบลงไปบนโต๊ะที่วางกระป๋องใส่เศษสตางค์ ก่อนจะเดินออกจากบ้าน ผ่านโต๊ะที่ลูกค้าสองคนนั้นยังคงนั่งอยู่ ทันที และฉันก็รู้ว่า อย่างน้อยๆ ฝ่ายหญิงที่เห็นกิริยาฉันเต็มๆ คงเข้าใจว่าฉันไม่พอใจ

ฉันไม่รู้อะไรเป็นแรงผลักดันให้ตัวเองแสดงท่าทางแบบนั้น ประจวบเหมาะว่า ฉันกำลังจะเดินออกไปซื้อของข้างนอกอยู่แล้วลูกค้าก็เรียกเก็บเงินพอดี จะให้เดินผ่านไปเลยก็ทำไม่ได้ พอเกินความไม่พอใจ ก็เลยเผลอแสดงอารมณ์ออกมาโดยไม่คิด แถมยังคิดมากไปว่าเขาดูถูกเรา ดูถูกพ่อแม่เรา ..ฉันเป็นถึงอะไร ทำไมต้องมาทำเหมือนแค่ฉันเป็นเด็กเสิร์ฟด้วยนะ .. คิดในแง่ร้ายไปต่างๆ นานา แล้วไปสงบสติอารมณ์ที่ร้านหนังสือหน้าปากซอยบ้าน (ฉันเป็นโรคจิตที่ว่า หากอยู่ในภาวะเครียด การพลิกหนังสือ จะเป็นวิธีที่ทำให้ฉันผ่อนคลายตัวเองได้) พลิกดูนู้นดูนี่ กระทั่งรู้สึกดีขึ้นก็เดินกลับเข้าบ้าน ลูกค้าสองคนนั้นก็ออกไปแล้ว พ่อแม่ของฉันก็คงไม่รู้อะไร เพราะพอดีที่ว่าตอนนั้นท่านทั้งสองอยู่ในครัว ไม่ได้เห็นเหตุการณ์ที่ฉันกระทำลงไป..


แต่มาตอนนี้.. ฉันจึงสำนึกได้ว่าตัวเองทำอะไรลงไปกันนะ ทำไมถึงได้ยึดมั่นถือมั่น ยึดติดกับสิ่งสมมติที่ได้สร้างขึ้น และมองโลกในแง่ร้าย จนกระทั่งแสดงอารมณ์และนิสัยเด็กๆ ออกไป .. ซึ่งต่อให้อีกฝ่ายจะคิดแบบนั้นจริงๆ ฉันก็ไม่น่าที่จะทำแบบนี้ ทำไมไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเองบ้างก็ไม่รู้ ..


..ก็ได้แต่หวังกับตัวเองว่านี่คือบทเรียนหนึ่งที่ต้องจำไว้คอยเตือน คอยสั่งสอนตัวเอง เรายังต้องพบเจออะไรอีกมากในชีวิต การที่เราไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ มันอาจจะนำพาความเดือดร้อนมาสู่ตนเอง การที่เราอวดดี ยึดมั่นถือมั่นในตัวเองมากเกินไป ไม่มีใครเขามาชื่นชมยินดีด้วยหรอก เขาจะพากันติเตียน ถ้าเรายังมีดีจะอวดก็ยังไม่เท่าไหร่ หากพอสักวันที่ตัวเองเกิดพลาดแล้วล้มขึ้นมา นั่นล่ะ จะมีแต่คนเหยียบย้ำซ้ำเติม ผิดกับถ้าเราอ่อนน้อมถ่อมตน ใครเห็นใครก็รักใคร่ยินดี พร้อมที่จะช่วยเหลือหากเราประสบกับความลำบาก


..ฉันไม่รู้ว่าลูกค้าชายหญิงคู่นั้นจะกลับมาที่ร้านฉันอีกไหม ฉันก็ได้แต่หวังว่าเขาจะไม่โกรธเคืองการกระทำที่ไม่คิดของฉัน แล้วพาลพาโลไม่ชอบใจพ่อแม่ฉันไปด้วย อย่างน้อยๆ ความสำนึกผิดของฉัน คงจะพอให้เขาอภัยให้บ้าง และฉันก็คงต้องมีสติระลึกถึงการกระทำทุกอย่างของตนเองให้มากขึ้น ..จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจกับการกระทำที่ผ่านมาแบบนี้อีก


ปล.กลายเป็นความอัดอั้นตันใจประดับบล็อกไปอีกเรื่องจนได้นะเจ้ามะกอกช่อเอ๊ย - -"




 

Create Date : 29 เมษายน 2549
14 comments
Last Update : 29 เมษายน 2549 22:04:00 น.
Counter : 516 Pageviews.

 

อืม คนเราผิดพลาดกันได้ครับ ตัวโทสะมันง่ายที่จะจุด ยังดีครับที่รู้สาเหตุ เมื่อรู้แล้วไม่น่าจะดับยากละครับ หลังจากนี้คุณคงไม่พลาดอีก

 

โดย: นายเบียร์ 29 เมษายน 2549 18:57:29 น.  

 

แวะเข้ามาอ่าน เพราะสังเกตจากชื่อใน msn (ถึงจะซ่อนตัว แต่เราก็พอจะรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับพี่ๆ น้องๆ สุดที่รักของเราเหมือนกันน้า อิอิ)

มาแสดงความคิดเห็นอย่างเป็นกลางๆ นะคะ พี่คิดว่ามันคงเป็นเรื่องของ 'ความแตกต่างทางวัฒนธรรม' และก็เพราะอย่างนี้ จึงทำให้การเรียนการสอนในระดับมหาวิทยาลัยเดี๋ยวนี้ นิยมแทรกวิชาประมาณ 'cultural studies' เข้าไปในหลักสูตรด้วย

พี่คิดว่าลูกค้าของเกด คงไม่น่าจะคิดอะไร นอกจากคิดเพียงว่าเค้าพอใจในการบริการ ก็เลยอยากจะให้เงินเล็กๆ น้อยๆ เป็นการแสดงน้ำใจ เพราะเค้าไม่ได้มาเข้าใจถ่องแท้กับเราว่า กิจการเล็กๆ ระดับที่ทำกันภายในครอบครัวแบบนี้ บางทีการให้ทิป กลับถูกเข้าใจผิดว่าเป็นการดูถูก

และถ้าจะให้ความเป็นธรรมกับเค้ามากขึ้น จริงๆ เค้าอาจจะไม่ได้เข้าใจผิดซะทีเดียวก็ได้ เพราะว่าสังเกตมั้ย ตามท้องถนนในบ้านเรา มีคนอยู่จำนวนนึง ที่พร้อมจะหากิน (แบบติดจะเอารัดเอาเปรียบ) กับคนต่างชาติโดยเฉพาะ ร้านขายของ ขายเสื้อผ้า พอเห็นเป็นฝรั่งเท่านั้น บางที่ (ที่เจ้าของไม่ได้มีจริยธรรมในอาชีพมากนัก) ก็จะโก่งราคาให้สูงขึ้นกว่าปกติ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ก็อาจจะทำให้ชาวต่างชาติมองว่าคนไทย (โดยเฉพาะในระดับการประกอบอาชีพค้าขายเล็กๆ น้อยๆ) เป็นคนเห็นแก่เงินได้ ทั้งๆที่ในความเป็นจริงแล้ว มันไม่ได้ถูกต้องเสมอไป

ในทางกลับกัน อย่างเวลาพี่อยู่เมืองนอก เราเป็นนร. ไม่ได้มีรายได้ให้ฟุ่มเฟือยมากมาย แถมยังมาจากประเทศที่ค่าเงินแตกต่างจากเงินปอนด์แบบสุดขั้วและค่าครองชีพก็ต่ำกว่ามาก แต่ธรรมเนียมของเค้าคือเวลาเราไปกินข้าว ขึ้นแท็กซี่ หรือจะอะไรก็ตาม เราจะต้องให้ทิปประมาณ 10% พี่เองก็พยายามทำความเข้าใจ และคิดว่าเข้าเมืองตาหลิ่ว เราก็คงต้องหลิ่วตาตาม (แม้บางทีจะเสียดายเงินอยู่บ้างเหมือนกัน) ในขณะที่ เพื่อนพี่บางคน เค้าก็รับไม่ได้ เค้าไม่แคร์ เพราะคิดว่าอยู่เมืองไทยยังไม่เห็นต้องให้กันมากขนาดนี้ (10%) แล้วค่าครองชีพที่นั่นก็สูงจะตายอยู่แล้ว รายได้เราก็ไม่มี แต่ผลที่ได้ก็คือ ผู้ให้บริการเค้าก็จะมองเราด้วยสายตาแปลกๆ

ในกรณีนี้ พี่คิดว่าตอนที่เกิดเหตุการณ์นั้น เกดคงไม่ทันได้คิดอะไร อาจจะเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบ รักศักดิ์ศรีมากกว่าจะตั้งใจที่จะแสดงกิริยาที่ไม่ดี ในเมื่อตอนนี้ สำนึกผิด พี่ก็คิดว่าคงจะโอเคแล้วล่ะค่ะ คนเราไม่มีใครไม่เคยทำอะไรพลาด และในเหตุการณ์ๆ นึง มันก็มีหลายแง่มุมให้มอง คนเรามองกันจากคนละมุม ย่อมจะคิดและเห็นไม่เหมือนกันค่ะ

ดังนั้น เลิกคิดมากเถอะนะ จำไว้เป็นบทเรียนก็พอค่ะ ^^

 

โดย: อุรัสยา (อุรัสยา ) 29 เมษายน 2549 20:00:03 น.  

 

มันผิดพลาดกันได้ค่า...พี่เกด มันผ่านไปแล้ว ช่างเหอะ...เป็นบทเรียนแล้วกันเนอะ

 

โดย: YUI_MUNMOO 29 เมษายน 2549 23:44:01 น.  

 

อืมมม ... ก็เข้าใจความรู้สึกตอนนั้นแหละ

ในอารมณ์นั้น มันอาจจะทำให้เราคิดไปอีกแบบหนึ่ง

และนั่นแหละ พอย้อนกลับมาคิดอีกที
เราก็อาจจะคิดว่ามัน ... เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยน่าจะเป็นเรื่องเลย

เอิ๊กๆ ไม่เป็นไรหรอกเกดจ๋า
แม้มันจะแลกมาด้วยความรู้สึกแย่ แต่ก็ทำให้เรามีบทเรียนของชีวิตเพิ่มขึ้นอีกข้อนะ ^^

 

โดย: int_gal (iNt_GaL ) 30 เมษายน 2549 0:16:29 น.  

 

โอ้ เข้ามาคราวนี้เป็นหัวข้อนี้หรือนี่...

พี่ว่าเรื่องนี้มันก็เป็นเรื่องที่มองได้หลายมุมนะ ถ้าจากมุมมองของลูกค้าฝรั่ง ก็เหมือนที่เปี๊ยกว่าจ้ะเกด มันเป็นเรื่องของธรรมเนียมที่แต่ละคนคุ้นชินกันมา อย่างตอนที่พวกพี่ไปเรียนต่อพี่ก็ต้องจ่ายค่าทิปทั้งที่จริงๆอัตราค่าเงินแบบคนไทย ไปใช้ชีวิตอยู่กินที่นั่นก็นับว่าแพงจะตายอยู่แล้ว แต่เราก็จำเป็นต้องทำไม่งั้นจะถูกมองแปลกๆ ซึ่งฝรั่งสองคนนั้นเขาก็คงให้ทิปด้วยเจตนาแบบนั้น คือ เป็นธรรมเนียม คงไม่ได้มีเจตนาจะดูถูกอะไรหรอก

ส่วนเกด เท่าที่พี่ดู พี่ว่าช่วงนี้เกดเครียดจากการทำงานมากนะ แล้วอาการเครียดเนี่ย มันเป็นอะไรที่สะสมและฝังอยู่ในความรู้สึกอย่างเหนียวแน่นมาก พอมีอะไรมากระทบมันก็ทำให้เราพร้อมที่จะระเบิดมากกว่าเวลาปกติ

พี่ดีใจที่เกดคิดได้ในภายหลังว่าสิ่งที่ตัวเองทำลงไปมันสมควรแล้วหรือไม่ ครั้งหน้าพี่เชื่อว่าเกดจะเตือนตัวเองให้ระมัดระวังตัวมากขึ้นแน่นอน

 

โดย: 1981 (บทเพลงแห่งความฝัน ) 30 เมษายน 2549 2:30:44 น.  

 

แล้วทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี...เชื่อเช่นนั้นค่ะ

 

โดย: สายลมอิสระ 30 เมษายน 2549 11:04:46 น.  

 

นายเบียร์


แหะๆ ยอมรับว่าจริงค่ะ ที่ตัวโทสะมันจะจุดง่าย แต่ปกติแล้วเป็นคนที่จุดยากค่ะ บางคนเลยบอกว่ามะกอกช่อเป็นคนใจเย็น บางครั้งก็เย็นจนเป็นน้ำแข็ง หรือเป็นคนใจแข็งนั่นเอง หากแต่ครั้งนี้คงเป็นไปได้ว่าหลายปัจจัยด้วยแหละค่ะ เครียดๆ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เฮ้อ..



อุรัสยา

ก็เข้าใจเรื่องนี้เหมือนกันล่ะพี่เปี๊ยก ถึงได้มานั่งเสียใจเอาที่หลังไง ว่าไม่น่าวู่วามเลย เศร้าๆ แต่ยังไงก็ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆ และกำลังใจนะคะพี่ ^ ^



YUI_MUNMOO

จ้า ผ่านไปแล้ว เอาคืนไม่ได้ด้วยนะยุ้ย T^T แต่เอาเถอะ พี่จะจำไปเป็นบทเรียน ว่าต่อไปนี้จะต้องใจเย็นขึ้นล่ะ



int_gal

นั่นแหละโรส เพราะอารมณ์เป็นเหตุ ถ้าไม่ทำตามอารมณ์มากไปก็ไม่เกิดเรื่องแบบนี้หรอกนะ เฮ้อ

แต่ไงหนูเกดก็จะจดจำไว้ล่ะคับพ้ม ^ ^



1981 (บทเพลงแห่งความฝัน)

นั่นแหละเนอะ เป็นเรื่องของมุมมองที่ต่างกัน พอเรามองแค่มุมแคบๆ ก็เลยกลายเป็นว่าเราคิดเล็กคิดน้อยคิดตื้นๆ ไป อีกอย่างก็เป็นเพราะภาวะเครียดของเกดจริงๆ ด้วยล่ะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ ยังไงเกดก็จะจดจำไว้ล่ะคราวนี้



สายลมอิสระ

ค่ะ มันผ่านไปแล้ว และก็ไม่ได้ร้ายแรงมาก แต่ยังไงก็จะต้องจำเป็นบทเรียนล่ะค่ะว่าต้องไม่ปล่อยความคิด การกระทำไปตามอารมณ์ตัวเองอีก ขอบคุณนะคะ ^ ^

 

โดย: มะกอกช่อ (makokchor ) 30 เมษายน 2549 15:06:33 น.  

 

ไม่เป็นหรอก คนเราทำผิดพลาดกันได้ แต่สิ่งสำคัญคือเรารู้ตัวแล้วจะไม่ทำผิดซ้ำซากต่างหากที่สำคัญ

อย่าคิดมากนะเด๋วตีนกาขึ้นไม่รู้ด้วย

 

โดย: หมูน้อยแก้มแดง 30 เมษายน 2549 22:26:04 น.  

 

อาชีพแพทย์น่าเห็นใจครับ อยู่ท่ามกลางความกดดันมากรอบด้านทั้งผู้ป่วยและญาติ ไหนจะผู้ร่วมงานบางส่วนแม้แต่เฉพาะทางที่ไม่น่าเคารพ

ของคุณอาจถึงจังหวะที่หลายอย่างมาสุมๆกันพอดีเลยกลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายบนหลังอูฐ แต่ไงผมเชื่อครับว่าคนที่คิดได้ว่าไม่น่าเลยแบบนี้ คงไม่ปล่อยตัวเองให้พลาดอีก

สู้ๆนะครับ

 

โดย: นายเบียร์ 1 พฤษภาคม 2549 1:16:13 น.  

 

พักผ่อนเยอะๆ นะ
อย่าเครียดมาก
อะไรปล่อยวางได้ก็ปล่อยวางไปบ้าง

พูดเป็นคนแก่เลยแฮะเรา

 

โดย: ชมสิจ๊ะ 2 พฤษภาคม 2549 1:54:37 น.  

 

ความผิดพลาดที่ผ่านไปแล้วก็คงต้องปล่อยให้ผ่านไปนะเกด พี่อยากให้มองในแง่ดี อย่างน้อยตอนนี้เกดได้หันกลับมาพิจารณาสิ่งที่ตัวเองทำลงไปอีกครั้งแล้วยอมรับว่าได้ทำผิดไป พี่ว่ามันเป็นเรื่องที่น่าดีใจมากกว่า ที่ทำผิดแล้วยอมรับผิด แต่ไม่อยากให้เกดยึดติดกับความผิดนั้นไปเรื่อยๆจนตัวเองไม่สบายใจ ขอให้เก็บไว้เป็นบทเรียน เพื่อเตือนตัวเองในครั้งต่อๆไปนะ

คิดถึงจ้า ทำใจให้สบายนะ ปล่อยวางท่องเอาไว้

 

โดย: W i n t e r b e r r y 2 พฤษภาคม 2549 7:43:51 น.  

 

อู้นี่นา ไม่อัพบล็อคสักที อิอิ

 

โดย: อุรัสยา IP: 58.8.36.99 3 พฤษภาคม 2549 21:17:13 น.  

 



หมูน้อยแก้มแดง

ขอบใจที่เข้ามาปลอบและเป็นกำลังใจให้นะน้องรัก

เอ่อ..แต่ว่าไอ้ประโยคสุดท้ายนี่ มันแอบว่าป่าวฟร่ะ



นายเบียร์

จริงๆ ก็ทุกอาชีพแหละนะคะ โดยเฉพาะอาชีพบริการ เราต้องทนรับกับคนหลากหลายและก็อารมณ์ความต้องการต่างๆ กันไป ถ้าเราเองควบคุมอารมณ์ตัวเองยังไม่ได้มันก็จบล่ะ

ต่อไปมะกอกช่อก็ต้องพยายามล่ะนะคะ ขอบคุณคุณเบียร์อีกครั้งค่ะ เออ..แต่มะกอกช่อไม่ใช่หมอนะ เป็นเภสัชกรต่างหาก



ชมสิจ๊ะ

ขอบคุณสำหรับกำลังใจฮับ หนูเองก็อยากพักอะนะพี่ พยายามไม่เครียดอยู่ แต่ทำไม่ค่อยจะรอด งานเยอะดีอะ ช่วงนี้ (และคาดว่าจะเยอะตลอดไปด้วย) โดยเฉพาะว่าตอนนี้ฝึกอยู่ในแผนกที่ต้องใช้ความรู้มากๆ ทำให้ต้องค้นข้อมูลเพิ่มด้วย ประมาณต้องทำนอกเวลาทำงานอีกอะ เลยเหนื่อยมากกว่าเดิมเป็นพิเศษ งือ..

เอ..ปกติพี่ก็แก่แล้วมะช่ายเหรอ เหอๆๆๆ
(รวมในกลุ่มพันปีด้วยนิ)



W i n t e r b e r r y

ข้อนี้เกดก็ยอมรับและไม่ปล่อยให้ตัวเองทำผิดซ้ำซากอีกล่ะ จะเก็บไว้เป็นบทเรียนสอนตัวเองค่ะ แต่ยอมรับว่าดีขึ้นมากโดยเฉพาะได้กำลังใจจากหลายๆ คน การบ่นผ่านบล็อกก็ดีอย่างหนึ่งนะ ฮา..



อุรัสยา

เหอๆๆๆ พี่เปี๊ยก หนูป่าวแอบอู้นะ ยังไม่มีเรื่องมาเล่าอะ แถมวันธรรมดาทำงานอย่างหนักอีก ช่วงนี้เหนื่อยๆ ฮับ

แต่นี่ก็จะเตรียมไปบ่นอีกล่ะ

 

โดย: มะกอกช่อ (makokchor ) 4 พฤษภาคม 2549 0:10:46 น.  

 

สวัสดีน๊าาา ทักทายจ้า สปาชา sparsha A Moment of Bride เจ้าสาว เสริมจมูก ศัลยกรรมเสริมจมูก ศัลยกรรมจมูก สลายไขมันด้วยความเย็น ลดเซลลูไลท์ Leg Squeezing ผิวเปลือกส้ม FIS หน้าท้องใหญ่ ตัวเล็กแต่มีพุง Body Contouring ลดสัดส่วนทั้งตัว ลดปีกด้านหลัง เนื้อปลิ้นรักแร้ เนื้อปลิ้น Build Muscle สร้างกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อหน้าท้อง สลายไขมันหนา สลายไขมัน ลดไขมัน Lock Shape รักษารูปร่าง สลายไขมัน ลดสัดส่วน Oxy Peel ทำความสะอาดหน้า ทำความสะอาดหน้าแบบล้ำลึก ยกกระชับ Ulthera ปรับรูปหน้า ปัญหาผิวหย่อนคล้อย Beauty Shape สลายไขมันแบบเร่งด่วน ลดไขมัน ลดเซลลูไลท์ ผิวเปลือกส้ม สลายไขมันสะโพก กระชับผิว Sexy Mama แม่หลังคลอด รอยแตกลาย ปรับรูปร่าง กำจัดขน Hair Removal กำจัดขนถาวร สลายไขมันเหนียงด้วยความเย็น สลายไขมัน สลายไขมันเหนียง IV Drip ฟื้นฟูร่างกาย เสริมภูมิต้านทาน Bye Bye Panda Eye ลดรอยหมองคล้ำใต้ดวงตา ลดริ้วรอยใต้ตา นวดกระชับหน้าอก หน้าอกกระชับ อกหย่อนคล้อย Beauty Breast Lifting Enlarge Beauty Breast นวดอกเล็กให้ใหญ่ หน้าอกเล็ก ยกกระชับหน้า รักแร้ขาว รักแร้ดำ เลเซอร์รักแร้ขาว ผิวใต้วงแขน Love Fit กระชับช่องคลอด เลเซอร์กระชับช่องคลอด แก้ไขปัสสาวะเล็ด Meso Shine ผลักวิตามิน บำรุงผิว สวยด้วยเลือด รักษาผิว หนวดเครา กำจัดขนหนวด กำจัดขน กำจัดขนเครา เลเซอร์ขน เลเซอร์ขนถาวร กำจัดขนถาวร เลเซอร์เครา เลเซอร์หนวด กำจัดขน ยกกระชับ ร้อยไหม Thread Lift การดูดไขมัน ดูดไขมัน ศัลยกรรมตา 2 ชั้น ตา 2 ชั้น ศัลยกรรมตา สปาน้ำนม เพิ่มความชุ่มชื่น แก้ผิวแห้ง นวดผ่อนคลาย การนวดผ่อนคลาย Rest Time Aroma Massage Aroma Massage Acne Body Mist ลดรอยสิว ลดจุดด่างดำ ลดรอยดำ ด็อกเตอร์ไลฟ์ doctorlife ศัลยกรรมเสริมจมูก ศัลยกรรมจมูก เสริมจมูก Cellulysis สลายไขมัน ulthera ยกกระชับ Acne Clear รักแร้ขาวเนียน เลเซอร์กำจัดขนถาวร กำจัดขน ร้อยไหม Freeze V Lift กำจัดไขมันด้วยความเย็น PRP ผิวหน้า PRP ผมบาง ผมร่วง เลเซอร์กระชับช่องคลอด กระชับช่องคลอด Love Fit สลายไขมันด้วยความเย็น Cell Repair ผิวขาวใส ลดสัดส่วน ปรับรูปร่าง Perfect Shape สลายไขมันแบบเร่งด่วน ฟิลเลอร์ Filler รักษาหลุมสิว Dual Yellow เลเซอร์หน้าใส Love Fit ปัญหาปัสสาวะเล็ด ปัสสาวะเล็ด Oxy Bright ทำความสะอาดรูขุมขน Bye Bye Fat ลดไขมัน Luminous แสงสีฟ้า รักษาสิว ฆ่าเชื้อสิว ABO Active 3D Toxin IV Drip เพื่อสุขภาพและความงาม ยกกระชับผิว hifu ให้ใจ สุขภาพ

 

โดย: สมาชิกหมายเลข 6161573 12 พฤศจิกายน 2563 14:36:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Katenipa
Location :
นครปฐม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






(รายละเอียดข้อมูลอัพเดตเจ้าของบล็อกติดตามได้ในหน้า "สมุดเยี่ยม" เลยนะคะ ^ ^)




ชักเริ่มจะเปลี่ยนแนวจากบ้าซีรี่ย์เกาหลี มาเป็นย้อนยุคกลับไปสู่หนังจีนกำลังภายใน และวกกลับมาคลั่งไคล้แดนปลาดิบ ณ บัดนาว ^ ^





ตัวฉัน(มั้ง) ^ ^"


มนุษย์(ธรรมด๊า ธรรมดา)เดินดินกินข้าวแกง(รวมถึงอาหารอื่นๆ )ไปตามประสา แค่บางวันอาจอยากกินก๋วยเตี๋ยวบ้างก็เท่านั้น เพศคงไม่ต้องบอกกันล่ะเนอะ คิดว่าเห็นจากรูปถ่าย + เวลาพูดคุย ก็น่าจะรู้(หรือเปล่า - -') ส่วนอายุ.. ความลับดีก่า กรั่กๆ .. แบบหยุดไว้ที่ 18 ส่วนที่เพิ่มมาฝากธนาคารทั้งนั้น เหอๆ .. สำหรับอาชีพ.. ตอนนี้ไม่วิจัยฝุ่นเพิ่มภาวะภูมิแพ้อากาศให้กะตัวเองและเพื่อนๆ แล้วนะ ..เพราะตอนนี้คือ pharmacist เต็มๆ ตัวแล้ว เพิ่งจะเปลี่ยนงานโดยลาออกจากเภสัชกรโรงพยาบาลไปเป็นที่เรียบร้อย แต่ก็กำลังจะได้งานใหม่ คิดว่าน่าจะสบายขึ้นเล็กน้อยเพราะเลือกทำพาร์ทไทม์ค่ะ แบบอยากหาเวลาว่างในการทำงานอดิเรกที่ชอบ แต่ไหงงานพาร์ทไทม์ที่ได้กลับกลายว่าทำงานอาทิตย์ละ 6 วัน วันละ 8 ชม. ไม่ต่างจากงานประจำเลยง่ะ - -"

แล้วตกลงว่าจะได้ว่างไหมยังไม่แน่ใจเลยนี่ เฮ้อ..


อื่นๆ ก็ไม่รู้จะบอกอะไรอีกแล้วล่ะ ปล่อยๆ ให้มันเป็นไปตามวิถีของมันไปแล้วกันเน้อ.. ^ ^


..........

อัพเดตเพลงใหม่..









ยังไม่มีเพลงติดบล็อกใหม่ๆ ไปฟังเสียงผิวปากของอีวานใน Heaven's tree กันค่ะ (ไม่รู้จะชวนหลับหรือเปล่า ^ ^")






ปล. อัพเดตโปรไฟล์ส่วนตัว 26/10/2006 ค่ะ ^ ^


Guestbook




Group Blog
 
<<
เมษายน 2549
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
29 เมษายน 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Katenipa's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.