แนะนำพจนานุกรมแนวใหม่ "คลังคำ" - ดร. นววรรณ พันธุเมธา
ไม่ได้เปิดบล็อกแนะนำหนังสือที่ได้อ่านอีกตั้งแต่เปิดบล็อกหนังสือไปครั้งแรกตั้งนาน (จนหยากไย่จะเกาะบล็อกอยู่แย้ว)
มาวันนี้เจ้าของบล็อกขออนุญาตมาแนะนำหนังสือดีๆ สักเล่มนะคะ เล่มนั้นก็คือ..
แต่น แตน แต๊น..... (ลีลาทั้งกะปี อิช้าน )
หนังสือคู่มือภาษาไทยแนวใหม่ "คลังคำ" จ้า......
ส่วนรายละเอียดข้อมูลหนังสือหาดูได้จากเวปนี้นะคะ //www.amarinpocketbook.com/books_detail.asp?book_id=626
รู้สึกว่า link เปิดไม่ได้ งั้นใส่รายละเอียดไว้ให้เลยแล้วกันนะคะ
คลังคำ โดย: ดร.นววรรณ พันธุเมธา สำนักพิมพ์อมรินทร์ พิมพ์ครั้งที่: - (ของจขบ. ครั้งที่ 3 แย้ว) หมวดหนังสือ: ความรู้/วิชาการ ราคา: 600 บาท ISBN: 9742722714 จำนวนหน้า: 1134 หน้า
รายละเอียด: รวมคำและสำนวนในภาษาไทยตามหมวดหมู่ความหมาย ซึ่งมีเนื้อหาบางส่วนเกี่ยวกับการนิยามและการเปรียบเทียบความหมายของคำ จัดเรียงให้เหมาะสม พร้อมให้ตัวอย่าง
หนังสือ คลังคำเล่มนี้ จขบ. ใช้เป็นคู่มือติดตัวได้นานประมาณ 1 ปีแล้วละค่ะ ได้จากงานสัปดาห์หนังสือเมื่อปีก่อน
ที่มาที่ไปของการทำให้ตัดสินใจซื้อคลังคำมาไว้ในครอบครอง คงต้องเริ่มเล่าอรัมภบทตั้งแต่แรกนู้นแหละ Once upon a time... เอ่อ
แหะๆๆ เอาใหม่ๆ
แรกเริ่มเดิมที ก็อยู่ดีไม่ว่าดีค่ะ เป็นนักเรียนสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ อยู่กับตำราของโลกที่เป็นเหตุจึงเกิดผลดีๆ ไม่ชอบ อุตริเข้ามาสนใจโลกการสร้างสรรค์ประดิษฐ์คำ โลกแห่งจินตนาการในวงการน้ำหมึก วนเวียนเกาะเวปถนนนักเขียน แล้วก็เริ่มลงมือ"เขียน" แต่เพราะไม่ใช่นักเรียนภาษา หลักการใช้ภาษาใดๆ ที่เคยเรียนมาในสมัยมัธยมและครั้งสุดท้ายก็วิชาพื้นฐานตอนปี 1 ก็เลยแทบจะคืนอาจารย์ผู้สอนไปหมด จขบ. จึงมีปัญหากับการสรรหาคำมาใช้ในการเขียนนิยายของตนเองเสมอๆ ตอนแรกเลยที่เริ่มคิดแต่งนิยาย ก็จะอาศัยใช้คำง่ายๆ คำที่คุ้นๆ หู คุ้นๆ ตา รวมไปถึงคำที่เคยอ่านเจอจากหนังสือเล่มอื่นๆ เปิดพจนานุกรมทั่วๆ ไปบ้าง งัดตำราภาษาไทยเก็บเก่าโดยเฉพาะฉบับที่รวบรวมศัทพ์สำนวน อุปมาอุปไมยคำเปรียบเทียบ เพราะการเขียนบทบรรยายในงานบันเทิงคดีแบบเรื่องสั้น นิยาย จะให้เขียนบรรยายทื่อๆ เหมือนการเขียนบทความ งานวิชาการ มันก็คงจะน่าเบื่อเกินไป แถมการใช้คำซ้ำๆ ลูกเล่นคำไม่หลากหลายก็อาจทำให้นิยายน่าเบื่อไปได้
แต่พจนานุกรมทั่วๆ ไปมันก็ยังไม่ตอบโจทย์ของตัวเองได้จนครบค่ะ สิ่งที่เป็นปัญหาที่สุดสำหรับตนเองในตอนนั้นก็คือการหาคำมาใช้แทน ต้องการใช้คำได้หลากหลาย ความหมายเดียวกับคำๆ นี้แต่เบื่อคำนี้แล้ว มีคำอื่นใช้แทนไหมนะ พวกคำไวพจน์เหมือนในบทประพันธ์ร้อยกรองล่ะ.. ตอนนั้นเลยเกิดคำถามกับตัวเองว่า มันจะมีหนังสือที่รวบรวมคำแบบจัดเป็นหมวดหมู่ แยกตามความหมายคำ คำที่มีความหมายเหมือนกัน ใช้แทนกันได้ อะไรทำนองนี้ จะมีไหมนะ อยากได้แบบเล่มเดียวมีครบในตัวไม่ต้องเปิดหนังสือเล่มนั้นที เล่มนี้ทีด้วยยิ่งดีใหญ่ (แบบแอบขี้เกียจเล็กน้อย )
แล้วโชคก็เข้าข้างจขบ.ทำให้ได้รู้จักเพื่อนนักอ่านคนหนึ่ง เขาเป็นเพื่อนนักอ่านแสนดีของมะกอกช่อ (ยกเว้นเรื่องเรียกชื่อนี้แหละ เคืองๆ ) เพื่อนคนนี้ไม่ใช่นักอ่านในเวปธรรมดาค่ะ เป็นนักอ่านที่เรียกว่าสนใจทางภาษาศาสตร์มากพอดู พอสนิทกันก็ได้อาศัยเขา..เพื่อนคนสำคัญ..คนนี้แหละที่ช่วยเรื่องสำนวนภาษาในนิยายให้บ้าง คลังคำเล่มนี้ก็ได้เขาเหมือนกันที่เป็นคนแนะนำให้ไปหามาไว้ครอบครองเป็นเจ้าของ (ขอบคุณมากๆ นะคร้าบบบ) ตอนนี้เพื่อนข้างกายที่สำคัญจึงแปรเปลี่ยนมาเป็นคลังคำแทนเพื่อนผู้แสนดีช่วยตรวจบรู๊ฟนิยายคนนั้นไปโดยปริยาย กร๊ากกกกกกกกกกก(ล้อเล่นน้า แต่แอบจริง ช่วงนี้เพื่อนยุ่งมากเลยไม่ค่อยได้มาช่วยเค้าดูนิยายเท่าไหร่นี่เนอะ)
เกริ่นนำไปเยอะแล้ว มาดูรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของหนังสือนะคะ
"คลังคำ" จะจัดเป็นพจนานุกรมได้หรือเปล่านั้น เจ้าของบล็อกไม่แน่ใจเท่าไหร่ เพราะรูปแบบของพจนานุกรมทั่วๆ ไปคือการรวบรวมคำและความหมายโดยไล่จัดเรียงคำตามลำดับตัวอักษรจาก ก-ฮ ในขณะที่ คลังคำ จะจัดแบ่งคำตามหมวดหมู่และความหมายคำ การเปิดหาคำจะไม่สามารถไล่เปิดตามตัวอักษรได้เหมือนพจนานุกรมเล่มอื่นๆ แต่อาศัยเปิดจากดรรชนีท้ายเล่มเป็นหลัก ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและเร็วค่ะ แม้แรกๆ จะงงๆ กับการใช้บ้างเพราะเรายังไม่ชิน แต่พอใช้ไปนานเข้า ก็คล่องขึ้น เผลอๆ จะใช้มากกว่าพจนานุกรมเล่มอื่นไปเสียแล้วล่ะค่ะ และก็มีบ้างในบางกรณีที่จขบ. ต้องการหาคำตามความหมาย ตามกลุ่มคำไปเลย
อย่างที่บอกว่าคลังคำจัดเป็นหมวดหมู่ ซึ่งก็แบ่งออกเป็นหมวดหมู่ใหญ่ๆ ทั้งหมด 5 หมวด แต่ละหมวดก็แยกย่อยออกไปอีก อย่างหมวดแรก คือ หมวด มนุษย์ ก็จะแบ่งย่อยออกเป็น กายและส่วนของร่างกาย, จิตใจ สติ ปัญญา ความคิด ความรู้สึก, การเจ็บปวด การรักษา ฯลฯ
ซึ่งไอ้หมวดย่อยๆ นี่แหละ ที่ตอนแรกเลยทำเอาคนใช้หนังสืองงค่ะ เพราะรู้สึกแปลกๆ พอสมควรกับการจัดหมวดหมู่ หากแต่อย่างที่บอก ใช้ไปก็รู้สึกชิน และก็ชอบที่จะใช้เสียด้วย การจัดหมวดหมู่ดังกล่าวเหมือนกับเป็นการโยงความคิดของคนที่ต้องการหาคำพอสมควรทีเดียวค่ะ แล้วยิ่งจับมาใช้กับการแต่งประโยคในการเขียนหนังสือ ยอมรับทีเดียวว่าคลังคำเป็นพี่เลี้ยงข้างตัวที่ช่วยการทำงานให้ง่ายขึ้นมากๆ
ยกตัวอย่างจะเขียนบรรยายเกี่ยวกับตัวบ้านของนางเอก ส่วนที่มันยื่นออกไปนอกตัวบ้านเหมือนระเบียง มันจะเรียกระเบียงไปเลยดีหรือเรียกชาน นอกชาน ?? เราก็เปิดหาคำจากดรรชนีโดยเลือกไปที่คำว่า ระเบียง รู้ว่าอยู่หน้าไหนหมวดไหน ก็อ่านจากความหมายที่หนังสือบอก รวมทั้งลองไล่คำอื่นๆ ที่มีความหมายใกล้เคียงกัน เปรียบเทียบดูว่าคำไหนมีความหมายตรงกับคำที่เราต้องการสื่อออกมามากที่สุด เราก็เลือกใช้คำนั้นในประโยคค่ะ แถมทำให้เรารู้จักคำมากขึ้น คำที่เราไม่รู้ว่ามีความหมายเดียวกัน ใช้แทนกันได้ ผุดออกมาเยอะ สมกับเป็น "คลังคำ" มากๆ ทีเดียวค่ะ
หมวดที่เจ้าของบล็อกชอบอีกอย่างคือหมวดที่เกี่ยวกับโลกตามจินตนาการค่ะ อันนี้จะทำให้ได้ชื่อสัตว์ สิ่งของแปลกๆ ภพภูมิของโลกเหนือจริง คำที่เราไม่คุ้น รวมถึงคำที่เคยได้ยินได้เห็นจากนิยายแนวแฟนตาซีแต่ไม่ค่อยแน่ใจในความหมายโผล่มาเยอะมาก อ่านสนุกพอๆ กับอ่านคำในหนังสือนิยายเลยจริงๆ นะ
บอกได้ว่า สำหรับเจ้าของบล็อก หนังสือคลังคำเป็นคู่มือช่วยให้ตัวเองใช้คำได้ฉลาดขึ้น แถมพักหลังชักจะเกิดๆ อาการบก.เข้าสิงค่ะ (ใครแพร่เชื้อ สารภาพมาซะดีๆ ) เห็นคำแปลกๆ ในนิยาย สงสัยขึ้นมาว่ามันใช้ได้ด้วยหรือ จะหันไปคว้าเอาคลังคำขึ้นมาอ้างอิงซะงั้น เอิ๊ก..
แต่ยังไงซะภาษาไทยเป็นภาษาที่ยังไม่ได้ตายค่ะ เพราะฉะนั้นจึงไม่ตายตัวและก็มีดิ้นได้ตลอดเวลา การยึดติดกับหลักการมากเกินไปบางทีก็อาจไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องนัก ไม่ถูกต้องในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าไม่ให้ถือหลักการใช้ภาษาที่ถูกต้องนะคะ แต่หมายถึงเราอย่ายึดมากเกินไปจนลืมความต้องการในการแสดงออกของงานเขียนตัวเอง ดีแต่หาคำสวยๆ หาคำหรูๆ มาประโคมใส่ บางทีก็ไม่ได้ทำให้งานดูสวย ดูดีขึ้นตามคำที่ใช้ เผลอๆ อาจกลายเป็นว่าใช้คำไม่เหมาะสมกับรูปประโยคไปซะด้วยซ้ำ อย่างบางทีอ่านนิยายเจอนักเขียนคำฟุ่มเฟือย แถมพ่วงด้วยคำวกวนทำให้บรรยายยาวสักเจ็ดแปดบรรทัด แต่พออ่านจับความ เราสรุปได้สองประโยคจบ แทนที่คนอ่านจะซาบซึ้งกับสำนวนคำบรรยาย ก็กลับกลายเป็นว่าอ่านน่าเบื่อ บรรยายยืดยาวแต่เรื่องกลับย้ำอยู่กับที่ ไม่ดำเนินไปข้างหน้า อืดจนไม่อยากอ่านต่อก็มี บางทีใช้ประโยคใช้คำธรรมดาๆ นี่แหละ จะส่งสารที่เราต้องการสื่อให้คนอ่านได้รับรู้ง่ายกว่าคำที่ปั้นแต่ง เผลอๆ อาจจะน่าอ่านกว่าด้วยซ้ำ เพราะไม่ต้องมานั่งแปลไทยเป็นไทยนั่นแหละค่ะ
เอ.. หลังๆ ชักเหมือนบ่นบ่าแฮะเรา แต่บางทีก็อดไม่ได้เวลาเห็นการใช้คำ ใช้ความหมายแปลกๆ แถมเจอการยึดมั่นถือมั่นกับความคิดว่าตัวเองใช้ถูกแล้วใครไปโต้ไปแย้งอะไร ก็บอกว่าฉันจะใช้อย่างนี้ มันเป็นสำนวนของฉัน ฉันต้องการให้มันเป็นไปอย่างนี้นี่
ถ้ามีการถกกันเรื่องการใช้คำ เห็นท่าจะยาว ปิดบล็อกเพียงเท่านี้ดีกว่าค่ะ ที่สำคัญ หนูง่วงแย้ววววววว
ไปนอนดีกว่า
หวังว่า "คลังคำ" จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ที่ต้องการสร้างสรรค์คำนะคะ
(ไม่ได้ค่าโฆษณาใดๆ ทั้งสิ้น แต่เป็นความปลาบปลื้มส่วนตัว ห้ามลอกเลียนแบบ )
Create Date : 21 เมษายน 2550 |
|
25 comments |
Last Update : 21 เมษายน 2550 23:18:07 น. |
Counter : 3596 Pageviews. |
|
|
|
น่าจะเก็บไว้ใช้ประโยชน์ได้ด้วยอ้ะ