|
|||
ย้อนอดีตในออสเตเลียด้วยตัวคนเดียว เืิริ่มจาก เหตุการใน ปี 2003 ก่อน ไป ออสเตเลียวันสองวัน รถกระบะไปตัดหน้ารถมอร์เตอร์ไซร์ แต่ประกัน รถเหลือก อีก 15 วันทำให้ ประกัน claim ให้ หมด เพราะ เป็น ประกันชั้น 1 ประกอบกับ คนขับรถมอร์เตอร์ไซร์บาดเจ็บแต่ไม่สาหัดโดยการวินิฉัยของแพทย์ ทำให้ ตำรวจไม่ดำเนินคดีอาญา แล้ว ก็รีบออกนอกประัเทศไปเลย...ไปถึงออสเตเลียช่วย เดือน กรกฏาคม 2003 ลงเรียน คอร์ส ภาษาอังกฤษ ที่ โรงเรียน ใน Sydney ในย่าย china town. ครั้งแรกที่ได้ไป ออสเตเลีย เริ่มจาก เอกสาร Offer จาก โรงเรียนภาษา ที่เป็น private college ซึ่งเป็นลักษณะ โรงเรียน ห้องแถว ที่มี แต่ คนเอเชีย เข้าไปเรียน ไม่ว่าจะ ไปเรียน เพื่อนรอเวลาเข้ามหาลัยหรือ ไปเพื่อนเอาวีซ่า ทำงานแล้วแค่้เข้าเรียนให้ครบ เท่านั้นเอง แต่ จริงๆๆ แล้วก็คือ จ่ายค่าเรียนถูก เท่านั้นเอง..แต่ได้วีซ่าอยู่้นานๆๆ. ผมเข้าไปเรียน โรงเรียนนี้ โดยที่ไม่คิดว่าจะได้เจออะไรบ้าง คือ ไปตายเอาดาบหน้านั้นและ ภาษาอังกฤษก็แสนจะห่วยแต่ แต่ คิดอย่างเดียวว่า ต้องหางานทำให้ได้ก่อน แล้วต้องเขาเรียนให้คบ ไม่ให้โรงเรียน ยกเลิกวีซ่าเรา ซึ่งฟังดูอาจจะ เป็นเรียน เหนือความฝันเพราะ บางคนในไทย แค่คิดจะไปต่างประเทศยังไม่มีทางได้ไปเลย แค่้ไปเทียวอย่่าว่าแต่จะไปเรียนเลย ซึ่งผมตระหนักถึงเรื่องนี้ดีและ ผมก็ไม่ได้มีตังที่ที่บ้านจะส่งให้เยอะๆ อะไรต้องหางาน ทำแล้วต้องจายค่ากิน ค่าอยู่ค่าที่พัก ค่ารถ ค่า อื่อๆ เทียวเล่น คบเพื่อน. ผมดันมีเพื่อนคนไทยที่ไปเรียน ที่ Sydney ก่อนแล้ว ผมจึงไปขอพักกับเพื่อน คนนี้ ชื่อกํ๊ก เป็นหนุ่มตัวเล็กแต่ใจไม่เล็ก เพื่อนผมมาเรียน Master degree ใน University ใจกลาง sydney. ถ้าผมไม่มีเขาผมก็คงจะต้อง ลำบากเสียกะตังค่าห้องพักเอง หรือท้อแท้ เหงา และ กลับบ้านที่ไทยเร็วกว่า ที่เป็นอยู่จริง ( ชีวิตที่ ไป นี้ลำบางจริงๆ เพราะ ผมต้องทำงาน เป็นโรบินฮูด ตามร้านอาหาร แต่ ไม่ได้เป็นผี ที่ อยู่แบบผิดกฏหมาย ซึ่ง มีคนทำกันเยอะที่ sydney แค่ หลบ Immigration ไม่ให้จับได้เท่านัน ทุกอย่าง ก็เหมือน ปรกติ ทุกอย่าง. ระหว่าง 6 เดือน คอร์ส ผม ได้เข้าไปเรียน และทำกิจกรรม ที่โรงเรียนที่เต็มไปด้วยคนไทย และ เกาหลี สองสามคน ญี่ปุ่น 3 คน 1. Beginning English Language course 2..Intermediate English Language course 2.Uper Intermediate English Language course เรียนผมไปเรียน ตามปรกติ คือ 8 โมงเช้าเลิกเรียน 3 โมงครึ่ง แล้ว ผมก็หางานทำได้ที่ร้านอาหารไทย อยู่หลายร้่าน แต่ที่ได้ทำจริงๆ จังๆ ก็ คือร้านตุ๊กตุ๊ก ที่มีคนไทยเป็นลูกจ้างแต่เจ้าของชื่อ Mike ร้านนี้ มีข่าวว่า Immigration เคยลง เพราะ เจ้าของเรียนเจ้าหน้าที่มาจับเอง เพราะลูกจ้างคนไทย โกงเงิน .. ผมทำงาน ไปด้วยแล้วเรียนไปด้วย แล้วก็ทำงาน ล้างจาน ตอน 5 โมงเย็น ถึง สี้ทุมพอกลับไปถึงห้อง ก็ไม่มีแรง ผมต้องกินยาแก้แพ้และ ยาแก้ไอแก้ไข้กันไว้ เพื่อนที่ร่างกายผมจะได้แข็งแรง เพราะ ผมเป็นภูมิแพ้อากาศมีแต่น้ำมูก. ผมทำอย่างนี้อยู่้จนจบคอร์สเรียน 6 เดือน ผมมีิเิงินต่อลงคอร์สต่อ แต่ ผมต้องกลับเมืองไทยก่อน เพื่อนที่จะตัดสนใจว่าจะต่อหรือไม่ต่อ แต่ ถ้าต่อผมก็ัยังมีงานทำที่ร้าน ตุ๊กตุ๊กเหมือนเดิม แล้วผมก็กลับมาไทย 3 อาทิตย์ แล้วกลับไปลงเรียนคอร์ส college ที่ วิทยาลัยห้องแถวแห่งหนึ่ง ชื่อเสียงคือคนไทยเยอะ และ ค่าเรียนถูกและ วีซ่ายาว 2 ปีผมตัดสินใจเลือกเรียน ที่นี้ เพื่อน เก็บเงินทำงาน และอยู่ซิดนี้นานๆๆๆ เท่าที่เป็นไปได้ โดย ผมแค่หวังว่าผมจะเขามหาลัย ที่ต่างประเทศได้สักวันหนึ่ง กับเงินที่มีเก็๋บเพื่อจ่ายค่าเรียเอง.. เย้ย จิ้มไปจิ้มมา เจอกัน สะงั้น 5 5 +
โดย: เด็ก หนองมน IP: 118.174.91.206 วันที่: 28 มีนาคม 2555 เวลา:18:10:42 น.
|
Ketta2233
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?] Group Blog Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |