ธรรมะจากสัตว์
สมัยเด็กๆ..คุณ.คงชอบฟังนิทานกันบ้างนะคะ
ผู้เฒ่าผู้แก่มักจะเป็นผุ้มาเล่านิทานให้พวกเราได้ฟัง
ทราบไหมว่า..นิทานเหล่านั้น..เป็นนิทานอิสป..นิทานชาดก
เป็นนิทานพื้นบ้านเล่าขานกันต่อๆมา
ซึ่งนิทานเหล่านี้..จะสอดแทรกธรรมะให้ซึมซับกับผู้คน
อย่างต่อเนื่อง..และตัวเอกของเรื่องคือพวกสัตว์ต่างๆ
ที่เอามาเป็นสื่อสอนธรรมะ..โดยให้เอาเยี่ยงสัตว์มาปรับตัว
เข้ากับการฝึกปฎิบัติตนในศาสนา
เช่น...มีเต่าตัวหนึ่งถุกสุนัขคุกคามเอาเท้าเขี่ยเต่าพลิกไป-
มาหวังจะกินเต่า..แต่เต่ากับหดหัวเข้าไปในกระดองนิ่งเงียบ
เฉยอยู่...มิใยสุนัขตัวนี้จะพยายามอย่างไรเต่าก็ไม่หลงกล
โผล่หัวออกมาจนกระทั่งสุนัขอ่อนใจเดินหนีไป
พระพุทธเจ้าทรงชี้ให้เห็นว่าเพราะเต่าระมัดระวังตัวหดหัวใน
กระดองมันจึงรอดพ้นอันตรายได้
คนเราหากรู้จักสำรวมอินทรีย์(การระมัดระวังประสาทสัมผัส
ตาหูจมูกลิ้นกายใจก็จะมีสติระมัดระวัง)ก็จะปลอดภัย
เหมือนเต่าหดหัวในกระดอง
แต่พังเพยไทยว่า "หดหัวในกระดอง"เป็นคำค่อนขอดคนขี้
ขลาดเป็นสิ่งไม่ดีแต่ทางพระพุทธศาสนาหกลับมีความ
หมายในแง่บวกคือการสำรวมการแสดงออกนั้นเอง
อีกเรื่องหนึ่งของสัตว์ธรรมะ
มีเด้กเลี้ยงโคกำลังต้อนโคข้ามน้ำซึ่งกระแสน้ำเชี่ยวกราก
โคทั้งฝุงต่างก็ว่ายข้ามมามีโคจ่าฝูงว่ายนำทางจนถึงฝั่งโน้น
โดยปลอดภัย
พระพุทธเจ้าทรงชี้ให้เห็นว่า
เมื่อฝูงโคข้ามฟากหากโคจ่าฝูงนำไปคดโคทั้งหลายก้
คดตามหากโคจ่าฝูงนำไปตรงโคทั้งหลายก็จะเดินตรงตาม
ฉันใดในมนุษย์ก็ฉันนั้น ใครได้รับแต่งตั้งให้เป็นใหญ่เป็นผุ้
นำถ้าคนนั้นไม่ประพฤติธรรม คนทั้งปวงจะทำตามรัฐก็เดือด
ร้อนถ้าผู้นำประพฤติธรรมคนทั้งปวงก็จะทำตามรัฐก็มีแต่
ความสมบูรณ์พูนสุข
ปราชญ์ยุคหลังๆเช่นขงจื้อก็มีความคิดเช่นเดียวกับพระ
พุทธองค์ว่าผู้ปกครองประเทศควรมีคุณธรรมความซื่อสัตย์
สุจริตแล้วประเทศก็จะสงบสุขไปเอง
คำสอนที่พระพุทธองค์ทรงใช้สัตว์ต่างๆมาเป็นสื่อธรรมะ
เป็นคำสอนที่พวกเราทุกคนสามารถนำคำสอนไปประยุกต์
ใช้ได้ถ้ารู้จักทำเพียงข้อเดียวคือ.".รู้จักเขี่ยไข่ขาง"
"การรู้จักเขี่ยไข่ขาง" คืออย่างไรคะ
ช่วยให้คำตอบหน่อยสิคะ
บ้านเมืองเราตอนนี้มีแต่คิดจะเอาชนะกันคะ
ประชาชนกับประเทศชาตินี่แหละจะตาย
ถ้าแต่ละฝ่ายรู้จักเขี่ยไข่ขาง ก็ดีเนอะ