การรักษาความปลอดภัยภายใต้ WINDOWS NT
ในการเข้าใช้งาน Windows NT นั้น ผู้ใช้จะต้องป้อนรหัสผ่านเพื่อแสดงการขอเข้าใช้ มิฉะนั้น Windows NT จะไม่อนุญาตให้เข้าใช้เซิร์ฟเวอร์ได้ โดยใน Windows NT จะมีโปรแกรม User Manager ที่ใช้ในการจัดการเกี่ยวกับบัญชีผู้ใช้ โดยสามารถแบ่งระดับความสามารถในการเข้าถึงระบบเครือข่ายของผู้ใช้ต่างๆออกเป็นหลายๆระดับได้ด้วย นอกเหนือจากนี้ยังสามารถสร้างกลุ่มผู้ใช้และกำหนดสิทธิให้กลุ่มได้ กล่าวคือผู้ใช้ที่อยู่ในกลุ่มผู้ใช้เดียวกันก็จะมีสิทธิในการใช้ระบบเครือข่ายเท่าเทียมกัน อีกคุณลักษณ์เด่นหนึ่งของ Windows NT คือโปรแกรม Event Viewer ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ผู้บริหารระบบเครือข่ายใช้ในการตรวจดูสิ่งผิดปกติทั้งหมดที่เกิดขึ้นในระบบเครือข่าย รวมทั้งการฝ่าฝืนต่างๆ ซึ่งจะมีข้อมูลแสดงวันที่ เวลา และรูปแบบการฝ่าฝืน รวมทั้งสถานที่ที่ผู้ฝ่าฝืนดำเนินการและชื่อของผู้ฝ่าฝืน ทุกครั้งที่จะเริ่มใช้งาน Windows NT ผู้ใช้จะต้องป้อนรหัสผ่านก่อนทุกครั้งด้วยการกดแป้น Ctrl-Alt-Del เหมือนการบูตเครื่องใหม่ เพื่อทำการป้อนชื่อและรหัสผ่านของตนการรักษาความปลอดภัยภายใน Windows NT เป็นไปตามมาตรฐานการรักษาระดับ C2 ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา นอกเหนือจากนี้ทาง Microsoft ยังได้แจ้งด้วยว่าจะเพิ่มระดับการรักษาความปลอดภัยใน Windows NT ให้สูงกว่านี้ขึ้นไปอีกในอนาคต
การเชื่อมต่อ WINDOWS NT เข้ากับโลกภายนอก
Windows NT มีส่วนบริการการทำเซิร์ฟเวอร์การเข้าใช้ในระยะไกลที่เรียกว่า Remote Access Server มาให้ด้วย ซึ่งเซิร์ฟเวอร์ดังกล่าวจะมีความสามารถในการให้ไคลเอ็นต์ระยะไกลที่ใช้อยู่บน DOS , Windows หรือ Windows NT สามารถหมุนโทรศัพท์เข้าติดต่อกับระบบเครือข่าย Windows NT และทำการลงบันทึกเข้า ( log in) ใช้งานระบบเครือข่ายได้ประหนึ่งเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายโดยตรง จะต่างอยู่บ้างก็ตรงความเร็วซึ่งค่อนข้างช้ามาก โดยเซิร์ฟเวอร์ดังกล่าวนี้สามารถรองรับการเชื่อมต่อได้มากถึง 64 การเชื่อมต่อ และมีการรักษาความปลอดภัยตามพื้นฐานการรักษาความปลอดภัยของ Windows NT เอง ซึ่งรวมถึงการใส่รหัสผ่านที่มีการเข้ารหัสข้อมูลตามมาตรฐาน DES (data encryption standard) และความสามารถในการเรียกกลับ (call back) เพื่อป้องกันบุคคลไม่พึงประสงค์แอบแฝงเข้า โดยในการติดต่อสื่อสารระยะไกลนี้ Windows NT รองรับทั้งการใช้โปรโตคอล X.25 และ ISDN (integrated service digital network)
ข้อดี และ ข้อเสียของ WINDOWS NT
ข้อดี
1. มีความเชื่อถือได้สูง (Reliability) คือมีการป้องกันแก่นของระบบปฎิบัติการจากแอพพลิเคชั่นต่างๆที่จะเข้ามารบกวนการทำงานของ Windows NT
2. มีความปลอดภัยสูง (Security) NT Server นั้นมีระดับความปลอดภัยถึง ระดับ C2 คือให้รับรู้เฉพาะที่จำเป็น
3. ความยืดหยุ่นสำหรับการขยายตัว (Scalability) เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบตามจำนวนโพรเซสเซอร์ที่เพิ่มขึ้นโดยรองรับสถาปัตยกรรม SMP
4. ความสามาถในการขยายตัว (Extensibility) เป็นแนวคิดของ Client/Server ที่มาจากระบบ UNIX เมื่อจะต้องนำมาประยุกต์ใช้กับงานเครื่อข่าย
และ แอพลิเคชั่นที่ใช้งานกับระบบฐานข้อมูล
5. ความเข้ากันได้ (Compatibility) สามารถทำงานได้ทั้งแอพลิเคชั่นชนิด 16 bit และ 32 bit
ข้อเสีย
1. ขาดความเข้ากันได้กับ อุปกรณ์ต่างๆ ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้กับอุปกร์ณ์ที่นอกเหนือจากที่ NT Server
2. ถ้าระบบขณะที่ทำงานเกิดเสียขึ้นมาการแก้ไขทำได้ยาก
แหล่งข้อมูล
://beerkung.wordpress.com/ประเภทของระบบปฏิบัติกา-2/ระบบปฏิบัติการ-windows-nt/