space
space
space
 
ธันวาคม 2559
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
space
space
27 ธันวาคม 2559
space
space
space

ซลาตัน อิบราฮิโมวิช







 ซลาตัน อิบราฮิโมวิช

     ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ดาวยิงเวิลด์คลาสของปารีส แซงต์ แชร์กแมง สยบข่าวลือย้ายทีมจนหมดสิ้น หลังยืนยันว่าเขายังคงมีความสุขดีกับสโมสร

     ก่อนหน้านี้อนาคตของกัปตันทีมชาติสวีเดนยังอยู่ในความคลุมเครือ เมื่อเจ้าตัวไม่ยอมการันตีอนาคตโดยบอกแต่เพียงว่าเอเย่นต์เป็นคนจัดการเรื่องนี้

     อย่างไรก็ดี ล่าสุดหอกวัย 33 กะรัต ย้ำชัด เขายังเหลือสัญญากับปาริเซียงอีก 1 ปี และมีความสุขมากกับการเป็นผู้เล่นของสโมสร

     "ผมยังเหลือสัญญาอีก 1 ปี ดังนั้นผมยังเป็นผู้เล่นของเปแอสเช และ ผมเองก็มีความสุขกับสโมสรมาก" อิบรา กล่าวกับ ESPN

     "ผมทำสิ่งที่ยอดเยี่ยมมากมายระหว่าง 3 ปีที่นี่ ไม่มีใครสามารถพรากสิ่งที่ผมทำไปได้ ทีมของผมยอดเยี่ยม ผมได้ลงเล่นกับยอดนักเตะมากมาย ผมอาศัยอยู่ในเมืองที่ดีที่สุดในยุโรป ผมชอบมันมากๆ"

     "มีการพูดถึงผมมากมายและผมก็มีความสุขนะที่คนให้ความสนใจ แต่ผมเป็นผู้เล่นของเปแอสเช"

ประวัติของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช

ชื่อ : ซลาตัน อิบราฮิโมวิช      

เชื้อชาติ : สวีเดน

วันเกิด : 3 ตุลาคม 1981

อายุ : 32 ปี

สถานที่เกิด : เมืองมัลโม่ ประเทศสวีเดน

ส่วนสูง : 195 ซม.

ต้นสังกัด : ปารีส แซงต์ แชร์กแมง

ตำแหน่ง : กองหน้า

     ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เกิดเมื่อวันที่  3 ตุลาคม 1981 และเติบโตในย่านใกล้กับเมือง มัลโม่ นั่นคือ โรเซนการ์ด ซึ่งส่วนใหญ่จะที่อยู่อาศัยของผู้อพยพ เนื่องจากพ่อแม่ของเขาเป็นชาวบอสเนียที่อพยพมาอยู่ในประเทศสวีเดน เขาเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุได้ 10 ขวบ สมัยเป็นเยาวชนเคยเล่นอยู่กับ เอฟบีเค บัลคาน ก่อนจะมาเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพกับสโมสรดังของบ้านเกิด มัลโม่ เอฟเอฟ ในฤดูกาล 1999-2000 โดยในช่วงนั้น อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือชาวฝรั่งเศส ประทับใจฝีเท้า ถึงขนาดชักชวนมาอยู่กับ อาร์เซนอล แต่ทว่าต้นสังกัดก็ไม่ยอมปล่อยตัวออกมา

     นอกจาก เวนเกอร์ ก็ยังมี ลีโอ บีนฮักเกอร์ กุนซือมือดี ก็แสดงความสนใจในตัวเขาอยู่เหมือนกัน หลังจากได้เห็นฝีเท้าระหว่างลงฝึกซ้อมที่สเปน แต่ก็สายเกินไป เพราะต้นสังกัดตกลงขายเขาไปให้กับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม สโมสรในดังในพรีเมียร์ดัตช์ ด้วยราคา 7.8 ล้านยูโร (ราว 320 ล้านบาท) ในช่วงเดือน ก.ค. ปี 2001 เรียบร้อยแล้ว

     โดยภายใต้การดูแลของ โค อาเดรียนเซ่ กองหน้าชาวสวีดิช ดูเหมือนจะไม่ได้ลับฝีเท้าเท่าที่ควร จนกระทั่งได้ลืมตาอ้าปาก หลังจากที่ โรนัน คูมันน์ เข้ามาเก้าอี้นายใหญ่คนใหม่ และก็สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงได้สำเร็จเสียด้วย เรียกว่าเป็นกองหน้าเบอร์ 1 ที่กุนซือขาดไม่ได้  

     แต่ชีวิตของเขาก็ต้องพลิกผันอีกครั้งในวันที่ 31 ส.ค. 2004 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของกำหนดเส้นตายการซื้อขายนักเตะในช่วงซัมเมอร์ ซลาตัน ย้ายมาอยู่ในถิ่น เดลเล่ อัลปิ ของ ยูเวนตุส ด้วยค่าตัว 16 ล้านยูโร (ราว 640 ล้านบาท) แม้ว่าเพิ่งจะย้ายได้เพียงครึ่งฤดูกาลหลัง แต่เขาก็โชว์ฟอร์มถล่มประตูได้เป็นกอบเป็นกำถึง 16 ลูก พร้อมกับเบียด อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ กองหน้าจอมเก๋า ตกขอบกลายเป็นตัวสำรองไปโดยปริยาย

     จากฟอร์มที่สุดยอด ทำให้มีข่าวออกมาว่า "ม้าลาย" ได้ปฏิเสธข้อเสนอจาก "ราชันชุดขาว" รีล มาดริด แม้ว่าจะสูงลิบลิ่วถึง 70 ล้านยูโร (ราว 2,800 ล้านบาท) ก็ตาม ทำให้เขายังคงค้าแข้งอยู่ในลีกอิตาลีต่อไป จากนั้นก็ได้รับการโหวตให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล 2004/05 จากแฟนบอล ยูเวนตุส อีกด้วย พร้อมกับได้อันดับ 8 ของรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำปี 2005 ของฟีฟ่าด้วย เท่านั้นไม่พอ รางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสวีเดน (กัลด์โบเลน) ยังตกเป็นของเขาด้วย

     แต่แล้ว ในปี 2006 เกิดจุดพลิกผัน เมื่อ ยูเวนตุส  ถูกปรับตกชั้นข้อหาล้มบอล!!! หล่นร่วงไปเล่นในเซเรีย บี ทำให้ผู้เล่นย้ายทีมกันเป็นแถบ ซึ่งแน่นอน กองหน้าตัวฉกาจอย่างเขา ย่อมต้องมีทีมยื้อแย่งตัวกันใหญ่ และก็เป็นทีม งูใหญ่ อินเตอร์ มิลาน ไปได้ตัวเขาไป สามฤดูกาลที่ ซลาตัน อยู่กับอินเตอร์ เขาลงเล่นทั้งหมด 117 นัด ทำได้ 66 ประตู โดยเฉพาะฤดูกาล 2008/09 ทำได้ในเซเรีย อา 25 ลูก คว้าตำแหน่งดาวซัลโวไปครอง

     และในช่วงก่อนเปิดฤดูกาล 2009/10 บาร์เซโลน่า ซึ่งต้องการปล่อยตัว ซามูเอล เอโต้ ออกไปอยู่แล้ว ได้บรรลุข้อตกลง ในการยื่นตัวเอโต้บวกเงิน แลกตัวซลาตัน มายังถิ่นคัมป์ นู แทนแล้ว โดยเปิดตัวกับทีมใหม่เมื่อวันที่ 28 กรกฏาคม 2009 ซลาตัน จบฤดูกาลนี้ ด้วยการยิงให้กับ "เจ้าบุญทุ่ม" ไปทั้งหมด 16 ประตู ช่วยให้ต้นสังกัด คว้าแชมป์ลา ลีก้า แต่ชีวิตของเขาก็ไม่ได้สวยหรูนัก เมื่อเขาออกมาแถลงข่าวถึงความสัมพันธ์ที่เลวร้ายระหว่างตัวเขาและ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือของทีม

     ต่อมา ในวันที่ 28 สิงหาคม 2010 เอซี มิลาน ได้ประกาศผ่านเวบไซต์ของสโมสรว่า ได้บรรลุข้อตกลงยืมตัว ซลาตัน มาใช้งานในฤดูกาล 2010-11 เป็นเวลา 1 ฤดูกาล พร้อมกับออพชั่นซื้อขาดในราคา 24 ล้านยูโร (ราว 960 ล้านบาท) ในตอนจบฤดูกาล เขาลงเล่นให้กับทีมเป็นครั้งแรกในนัดที่แพ้ เชเซน่า 0-2 เมื่อวันที่ 11 กันยายน ซึ่งเขาเป็นคนยิงจุดโทษพลาดอีกต่างหาก ต่อมาฟอร์มของเขาก็ดีขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็สามารถพา "ปีศาจแดง-ดำ" คว้าแชมป์สคูเด็ตโต้ได้สำเร็จ และ เอซี มิลาน ก็จัดการคว้าตัวเขามาครอบครองอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 18 มิถุนายน 2011

     ในฤดูกาล 2011-12 ซลาตัน โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมให้กับ "ปีศาจแดง-ดำ" โดยเขายิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ เฉพาะในเซเรีย อา ซัดไปถึง 25 ประตู ทำให้จบฤดูกาลด้วยสถิติลงเล่น 32 นัด ยิง 28 ประตู เลยทีเดียว

     และก็เกิดความเปลี่ยนแปลงในชีวิตการค้าแข้งของ ซลาตัน อีกครั้ง เมื่อเขาตัดสินใจย้ายทีมมาอยู่กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยักษ์ใหญ่ของ ลีก เอิง ฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2012 ด้วยสัญญา 3 ปี และรับค่าเหนื่อยจำนวนมหาศาลถึง 14 ล้านยูโร (ราว 560 ล้านบาท) เป็นรองแค่เพียง ซามูเอล เอโต้ เท่านั้น ที่ได้ค่าเหนื่อยมากกว่าเขาในโลกใบนี้

     และเขาก็ไม่ทำให้สโมสรผิดหวังโดยยิงประตูใน ลีก เอิง ไปทั้งสิ้น 30 ประตู ทำให้จบฤดูกาล 2012-13 ด้วยรางวัลดาวซัลโวของลีก ซึ่งเขาก็เป็นนักเตะคนแรกที่ทำประตูได้เท่ากับที่ ฌอง ปิแอร์ ปาแปง ตำนานดาวยิงของฝรั่งเศส เคยทำได้ในฤดูกาล 1989-90

     ในฤดูกาล 2013-14 นี้ ซลาตัน ลงสนามให้กับทีมไปแล้วทั้งหมด 6 นัด ยิงได้ 2 ประตู และผ่านบอลให้เพื่อนทำประตูอีก 3 ครั้ง พา เปเเอสเช รั้งตำแหน่งรองจ่าฝูง อยู่ในเวลานี้

     สำหรับในทีมชาติ ซลาตัน สามารถเลือกเล่นให้กับทีมชาติ บอสเนียฯ หรือ โครเอเชีย ก็ได้ แต่เขากลับเลือกที่จะรับใช้ทีมชาติสวีเดน ซึ่งเป็นแผ่นดินเกิดของเขา โดย ซลาตัน เคยติดทีมชาติสวีเดน ชุดอายุไม่เกิน 21 ในปี 2001 เป็นจำนวน 7 นัด ซัดไป 6 ประตู และเขาก็ได้ลงเล่นในทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกในปีเดียวกัน นัดที่อุ่นเครื่องกับ หมู่เกาะฟาโร ซึ่งเสมอกันไป 0-0 เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2001 ต่อมา เขาก็ได้เป็นกำลังหลักให้กับทีมชาติเรื่อยมากว่า 13 ปีแล้ว ลงสนามไปทั้งสิ้น 92 นัด ยิงประตูได้ 45 ประตู

     ถึงตอนนี้คงไม่มีใครสงสัยในความสามารถของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช อีกแล้ว เพราะผลงานที่ผ่านมาคือ เครื่องพิสูจน์เป็นอย่างดีถึงคุณภาพของเขา ต่อไปก็คงต้องรอดูกันว่า ซลาตัน จะมีทีเด็ดอะไรมาโชว์ให้กับสาวกลูกหนังทั่วโลกได้ชมกันอีกบ้าง และเขาจะสามารถพา เปแอสเช ประสบความสำเร็จได้มากน้อยแค่ไหน เวลาเท่านั้นคือคำตอบ

9 เรื่องชวนอึ้ง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่คุณอาจไม่เคยรู้

หากจะกล่าวถึงกองหน้าที่ดีที่สุดในโลก 1-10 นั้นต้องมี ซลาตัน อิบราฮิโมวิช อยู่ในลิสต์รายชื่อแน่นอน เพราะทักษะการทำประตูที่หาเลียนแบบไม่ได้แล้ว ซลาตัน กองหน้าชาวสวีเดนรายนี้ยังมีอัตลักษณ์ที่แตกต่างจากนักฟุตบอลอาชีพคนอื่นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งบุคลิก พฤติกรรมการแสดงออก การพูดจา แต่เหนือสิ่งอื่นใดยังมีเรื่องราวเด็ดๆชวนอึ้งอีก 9 เรื่องของกองหน้าคนนี้

tumblr_inline_my4e6isYrM1ryfaxjเรื่องที่ 1. ซลาตัน มองเห็นอนาคต : เมื่อตอนเขาอายุ 16 ปี อาจารย์ที่โรงเรียนมอบหมายงานให้เขียนเรียงความว่า “5 ปี หลังจากนี้คุณจะเป็นอะไร” ยังไม่ทันเริ่มเขียน ซลาตัน ก็ตอบอาจารย์ไปว่า “ผมจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพที่อิตาลีและจะสร้างรายได้มหาศาล” แต่ความจริงแล้ว ซลาตัน ใช้เวลา 6 ปีถึงได้เซ็นสัญญาค้าแข้งกับ ยูเวนตุส และแน่นอนเขาประสบความสำเร็จทำรายได้มหาศาลที่ตามที่เขาบอกกับอาจารย์เอาไว้ตอนนั้น

เรื่องที่ 2. ซลาตัน คือขี้ขโมยตัวพ่อ : เมื่อสมัยเด็กๆ ซลาตัน ชอบสะสมจักรยานเป็นชีวิตจิตใจ แต่จักรยานส่วนมาจากการขโมย! ครั้งหนึ่งสมัยที่ยังเป็นนักฟุตบอลเยาวชนกับ มัลโม่ ซลาตัน ขี่จักรที่ขโมยมาก่อนจะถูกขโมยไป ซลาตัน แก้ปัญหาด้วยการขโมยจักรยานแถวนั้นคืนก่อนจะขี่กลับบ้านแบบไม่รู้สึกอะไร หลังจากนั้นราวๆ หนึ่งสัปดาห์ก็มีการแจ้งว่าจักรยานของผู้ช่วยผู้จัดการทีม มัลโม่ หายไปจนกลายเป็นเรื่องราวยกใหญ่

all-of-zlatan-ibrahimovics-26-league-goals-for-psg-this-season-videoเรื่องที่ 3. ซลาตัน เกือบเป็นนักเตะ เซาธ์แฮมป์ตัน : หลังจากย้ายมาเป็นนักเตะกับ อาแจ็กซ์ ได้หนึ่งปี ซลาตัน ไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจ และพยายามจะหาความท้าทายใหม่กับ เซาธ์แฮมป์ตัน แต่สุดท้ายโชคดีที่ ยูเวนตุส ยังเห็นแววในตัวเขาคว้าตัวไปเสียก่อน

เรื่องที่ 4. ความหมายของคำว่า “ซลาตัน” : ชื่อนี้มีที่มาจากทางใต้ของ ซลาวิค หรือละแวกประเทศโคเอเชีย เซอร์เบียและสโลเวเนีย ที่คำว่า “ซลาตัน” นั้นแปลว่า “ทองคำ”

เรื่อง 5. ซลาตัน กับธุรกิจ : ซลาตัน เป็นนักกีฬาฟุตบอลคนแรกที่นำชื่อของตนเองไปทำเป็นเครื่องหมายการค้าไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผม ยานยนต์ เบียร์ ของใช้อุปโภคบริโภค และสุดท้ายเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม

the-young-zlatan-zlatan-ibrahimovic-231126_486_363เรื่องที่ 6. ซลาตัน ในพจนานุกรม : พจนานุกรมในสวีเดนบัญญัติคำว่า ซลาตาเนร่า ลงในพจนานุกรมของประเทศเพื่อยกย่อง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช พร้อมกับมีความหมายว่า “ขจัดให้สิ้นด้วยพลังที่แก่กล้า”

เรื่องที่ 7. สถิติที่ยอดเยี่ยมในแชมเปี่ยนส์ลีก : ซลาตัน เป็นเพียงคนเดียวที่สามารถทำประตูได้ในแชมเปี่ยนส์ลีกจากการลงเล่น 6 สโมสร อาแจ็กซ์ ยูเวนตุส อินเตอร์ มิลาน บาร์เซโลน่า เอซี มิลาน และ ปารีส แต่ถึงอย่างไรเขายังไม่เคยได้ชูถ้วยใบนี้เสียที

เรื่องที่ 8. ไอดอล ของ ซลาตัน : ซลาตัน เติบโตมากับการชื่นชม “โล้นทองคำ” โรนัลโด้ กองหน้าโคตรคงาสสิคคนหนึ่งที่โลกเคยมี ซลาตัน เคยบอกว่า “โรนัลโด้ คือ นักฟุตบอลที่เก่งที่สุดตลอดกาล”

to-benefit-or-not-to-benefit-02

เรื่องที่ 9. ซลาตัน กับสนามฟุตบอลแรกในชีวิต : ซลาตัน เริ่มเล่นฟุตบอลครั้งแรกตอน 6 ขวบแถวลานหินกรวดละแวกบ้าน ต่อมาในปี 2007 ซลาตัน จับมือกับ ไนกี้ ร่วมกันเนรมิตลานหินกรวดดังกล่าวให้เป็นสนามบอลขนามย่อมที่ทันสมัย นอกจากนี้ ซลาตัน ยังสลักข้อความไว้ที่สนามแห่งนี้ด้วยว่า “ที่แห่งนี้คือหัวใจ ที่แห่งนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราว ที่แห่งนี้คือที่ที่ผมโลดแล่น และมันสร้างอนาคต




 

Create Date : 27 ธันวาคม 2559
0 comments
Last Update : 10 มกราคม 2560 11:11:43 น.
Counter : 1060 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

space

สมาชิกหมายเลข 3606821
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 3606821's blog to your web]
space
space
space
space
space