....วันนั้นที่ผู้หญิงไม่ชอบเลย....

ผู้หญิงเราเมื่อโตเป็นสาวเต็มตัวจะมีสิ่งบ่งบอกถึงความเป็นสาวด้วยการมีรอบเดือนหรือประจำเดือนนั่นเองค่ะ รังไข่จะเริ่มสร้างไข่โดยการถูกกระตุ้นจากฮอร์โมนเอสโตรเจน หลังจากนั้นเยื่อบุโพรงมดลูกก็จะถูกกระตุ้นให้หนาตัวขึ้นเพื่อพร้อมรับตัวอ่อนในกรณีที่มีการปฏิสนธิระหว่างอสุจิและไข่เกิดขึ้น แต่ถ้าไข่ไม่ได้รับการปฏิสนธิเยื่อบุโพรงมดลูกก็จะลอกตัวออกมาเป็นวันนั้นของเดือนค่ะ



รอบเดือนของผู้หญิงเราโดยเฉลี่ยแล้วปกติจะมีประมาณ 28 วัน ซึ่งอาจจะมาเร็วหรือช้ากว่ากำหนดได้บวกลบ 7 วันค่ะ เวลาที่เราจะเริ่มนับรอบเดือนให้นับจากวันแรกของการมีประจำเดือนที่แล้วจนชนกับวันแรกของการมีรอบเดือนนี้ ลองนับดูนะคะว่ารอบเดือนเรามีกี่วัน บางครั้งรอบเดือนอาจจะมาสม่ำเสมอบ้าง ไม่สม่ำเสมอบ้างตามแต่สุขภาพของแต่ละคนค่ะ นอกจากนั้นปริมาณของเลือดประจำเดือนที่มีในแต่ละคนก็ไม่เท่ากันค่ะ...ขึ้นอยู่กับรูปร่าง น้ำหนัก และความสมบูรณ์ของร่างกายผู้หญิงแต่ละคนค่ะ

สีแดงสด สีแดงคล้ำ ของเลือดประจำเดือนไม่ได้บ่งบอกถึงเลือดเสียหรือไม่เสียนะคะ....ประจำเดือนเป็นเส้นเลือดฝอยและเยื่อบุโพรงมดลูกที่ถูกขับออกมามักมีสีแดงสด....แต่สำหรับบางคนที่เลือดประจำเดือนออกมาเป็นสีคล้ำและออกนานหลายวันนั้นไม่ต้องตกใจนะคะเพราะไม่ใช่เลือดเสียหรือของสกปรกค่ะ........สาเหตุที่เลือดประจำเดือนมีสีแดงคล้ำหมองหม่นเนื่องมาจากเลือดประจำเดือนของเราตกค้างอยู่ในช่องคลอดเป็นเวลานานค่ะ เลือดที่เป็นสีแดงเมื่อผสมกับออกซิเจนในอากาศจะเกิดปฏิกิริยาทำให้เลือดกลายเป็นสีคล้ำค่ะ ซึ่งประจำเดือนที่เป็นสีคล้ำนี้มักเกิดในผู้หญิงที่เวลามีประจำเดือนแล้วไม่ค่อยเคลื่อนไหวร่างกายทำให้เลือดตกค้างอยู่ในร่างกายนานกว่าปกติค่ะ

....PMS..อาการเตือนก่อนมีประจำเดือน....

PMS หรืออาการ Premenstrual Syndrome คืออาการเตือนก่อนมีประจำเดือนค่ะ....เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนค่ะ....ในช่วงก่อนมีประจำเดือนสาวๆหลายคนมักมีอาการหงุดหงิด งุ่นง่าน อารมณ์เสีย บางคนถึงขั้นสติแตกกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ร้องไห้ไม่มีสาเหตุ ขาดสมาธิ ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ปวดท้อง ปวดศรีษะ เจ็บคัดหน้าอก เหนื่อยล้า อยากอาหารบางอย่างเป็นพิเศษ



....นอกจากนี้ยังพบว่าสาวๆบางคนจะรู้สึกมีอารมณ์ทางเพศได้ง่ายกว่าปกติ ในช่วงก่อนหรือหลังการมีประจำเดือน ซึ่งเกิดจากใยช่วงนั้นระดับฮอ์โมน Testosterone(เทสโทสเตอโรน) สูงสุดนั่นเอง

......คุณผู้ชายทั้งหลายโปรดเข้าใจผู้หญิงเราหน่อยนะคะพราะมันเป็นเรื่องที่มีสาเหตุและยากจะควบคุมค่ะ

อาการ PMS นี้ไม่ใช่ว่าจะพบในผู้หญิงทุกคนนะคะ เพราะอาการนี้มี 2 องค์ประกอบด้วยกัน องค์ประกอบแรก คือ อาการทั่วไปเกิดจากวงจรของการมีประจำเดือน ส่วนองค์ประกอบที่สองคือ ความเปราะบางหรือความทนทานต่ออาการเหล่านั้นค่ะ ซึงองค์ประกอบหลังนี่เองที่ทำให้สาวๆมีการแสดงออกทางอารมณ์ไม่เท่ากันค่ะ....

10 วิธีรับมือกับอาการ PMS

1. ทานแคลเซียม ช่วยบรรเทาอาการปวดและลดความเครียดได้
2. ทานวิตามินอี ช่วยลดอาการเจ็บคัดหน้าอก
3. ทานแมกนีเซียม ช่วยลดความอยากอาหารประเภทน้ำตาลและช่วยลดอาการเจ็บคัดหน้าอกได้
4. ทานวิตามินบี ช่วยลดอาการ PMS ได้ แต่ระวังอย่าทานวิตามินบี 6 มากเกินไปเพราะอาจเกิดอาการชาตามส่วนต่างๆ
5. ลดปริมาณเกลือในอาหาร หรือเลี่ยงอาหารรสเค็มจัด
6. ทานอาหารไขมันต่ำ ลดเนื้อสัตว์แต่เพิ่มปริมาณผัก งดอาหารหวานๆแทนด้วยผักใบเขียว คาร์โบไฮเครตเชิงซ้อน เช่น ข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีต หรือธัญพืช
7. งดอาหารจำพวกคาเฟอีน และช็อคโกแล็ต อาหารพวกนี้คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่าช่วยลดอาการซึมเศร้าได้ซึ่งจริงๆแล้วมีผลเสียมากกว่าผลดีเพราะคาเฟอีนจะเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ รวมทั้งทำให้นอนไม่หลับเป็นผลให้เกิดความเครียดตามมา
8. ทานสมุนไพรบางชนิดช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนเอสโตรเจนได้ เช่น โสมตังกุย ชะเอมเทศ
9. หลีกเลี่ยงการทานยาแก้ปวดแอสไพรินเนื่องจากจะทำให้ระยะเวลาการมีประจำเดือนนานและมากกว่าปกติ ควรเลี่ยงไปใช้ยาแก้ปวดตัวอื่นแทน
10. ออกกำลังกายช่วยลดอาการ PMS ได้

อาการระหว่างมีประจำเดือน

ในช่วงที่มีรอบเดือนร่างกายเราจะมีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนน้อยกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการไม่สมดุลย์ของฮอร์โมนเพศในร่างกาย จึงอาจเกิดอาการวิงเวียน คลื่นไส้ ท้องอืด เบื่ออาหาร หงุดหงิด หนาวๆร้อนๆ บางคนอาจจมีอาการปวดท้องน้อยอย่างรุนแรง...พบว่า 10 % ของผู้หญิงมีอาการปวดมากถึงขั้นต้องหยุดเรียนหรือลางานเลยนะคะ



สาเหตุของอาการปวด....เกิดจากผนังมดลูกมีการสร้างสาร Prostaglandins (พรอสตาแกลนดิน)ออกมามากทำให้มีการหดตัวของกล้ามเนื้อมดลูก นอกจากนั้นสารProstaglandins (พรอสตาแกลนดิน)นี้ยังทำให้เส้นเลือดต่างๆของร่างกายหดตัวตามไปด้วย ส่งผลให้มีอาการปวดศรีษะ คลื่นไส้ ท้องเดิน ร่วมกับการมีประจำเดือน



........อาการเหล่านี้จะมีแค่ 3 วันแรกของรอบเดือนเท่านั้นค่ะ...ไม่ต้องกังวลใจมากมายนะคะ

วีธีลดอาการปวดประจำเดือน

1. ทานยาแก้ปวดที่มีคุณสมบัติขัดขวางการสร้างสารProstaglandins (พรอสตาแกลนดิน)ซึ่งเป็นต้นเหตุของอาการปวดประจำเดือน ยากลุ่มนี้คือ NSAIDS(non-steroid anti-inflammatory drug) เช่น Ibuprofen 400 mg./tab, Mefenamic acid 250-500 mg./tab

2. การทานยาคุมกำเนิดสามารถลดอาการปวดประจำเดือนได้ โดยเลือกทานชนิดที่ผสมระหว่างฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสติน ซึ่งมีข้อเสียคือต้องทานยาทุกวันและไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการมีบุตรค่ะ

3.การนวดท้องเบาๆ ประคบด้วยน้ำอุ่น ออกกำลังกาย ก็ช่วยบรรเทาอาการปวดท้องรุนแรงได้ค่ะ