Long Love Letter (เรื่องรักที่ไม่เลี่ยน) งานชิ้นนี้เขียนขึ้นเมื่อ 6 ตุลาคม 2546 เรากำลังพูดถึงซีรี่ส์ญี่ปุ่นเรื่องหนึ่งที่มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Long Love Letter แต่ชื่อภาษาไทยกลับกลายเป็น มหัศจรรย์ (รัก) ทะลุมิติ ซึ่งเป็นชื่อที่ฟังดูเข้าที และสอดคล้องกับเนื้อหาของเรื่องอยู่พอสมควร ซีรี่ส์เรื่องนี้เป็นเรื่องของความบังเอิญ เหลือเชื่อ และลี้ลับชวนหาคำตอบมากมาย รวมทั้งสะท้อนบางสิ่งบางอย่างได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะปรัชญาการดำรงชีวิตของมนุษย์ ครูและนักเรียนกลุ่มหนึ่งถูกปรากฏการณ์ที่ยากจะอธิบาย ทำให้ทั้ง 20 กว่าคนตกไปอยู่ในโลกอนาคต แต่โลกอนาคตที่ว่านี้ ไม่ใช่โลกของวิทยาการที่ทันสมัยอย่าง Terminator หรือ The Matrix อย่างที่ฝรั่งมักจะสร้าง มันกลับเป็นโลกร้าง และพินาศด้วยการกระทำของมนุษย์ต่างหาก ในเรื่องมีคำพูดของคนในโลกอนาคตพูดถึงโลกในอดีตของเขา (หรือโลกปัจจุบันของเรานั่งเอง) ว่า โลกในอดีตนั้นเป็นโลกที่มีความสวยงาม มีผู้คนอาศัยอยู่มากมาย มีความเจริญที่น่าอิจฉา แต่วันหนึ่งทุกๆอย่างก็ถูกทำลาย เพราะสงครามระหว่างมนุษย์ด้วยกันเอง ถือคติที่ว่าผู้ที่อยู่รอดเท่านั้นคือผู้ชนะ ด้วยเหตุนี้โลกอนาคตจึงกลายเป็นโลกที่ว่างเปล่า ภาวะที่เกิดขึ้นกับกลุ่มมนุษย์ที่ผลัดหลงไปในมิติของอนาคตได้สร้างคุณค่าของการอยู่ร่วมกันไม่น้อย นอกจากการช่วยเหลือและพึ่งพาซึ่งกันและกันแล้ว ยังมีอีกหลายอย่างที่ได้มาจากการตกอยู่ในสภาพเดียวกันนั่นคือ ความพยายามที่จะต่อสู้อุปสรรคเพื่อจะเอาตัวรอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแสวงหาน้ำและอาหารมาประทังชีวิต นักเรียนชายคนหนึ่งพยายามเพาะเมล็ดพืชของเขาด้วยความหวังว่าวันหนึ่งมันจะเติบโตขึ้นเป็นแหล่งอาหารให้แก่พวกเขาได้ เขาปกป้องพืชที่กำลังงอกให้พ้นจากภัยของพายุไซโคลนด้วยชีวิต ในที่สุดตัวเองก็ไม่รอด!! ขณะเดียวกันยังมีเรื่องราวของความรัก มิตรภาพ และมนุษยธรรมเกิดขึ้นพร้อมๆกันด้วย ในเหตุการณ์ที่อาจารย์หนุ่มช่วยเหลือลูกศิษย์ตั้งแต่วินาทีแรกที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น กระทั่งตัวเองเกือบตาย แต่ด้วยกำลังใจจากนักเรียนของเขา และความอดทนที่จะอยู่เพื่อรักที่เขามีต่อหญิงสาว (รักแรกพบของเขา) ที่อยู่เคียงข้างเขาตลอดเวลาทำให้รอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนคงไม่ต้องพูดถึง เพราะเจตนาที่ต้องการสื่อถึงมิตรภาพนั้นชัดเจนอยู่แล้ว ขณะที่การนำคนเห็นแก่ตัวเข้าปะปนอยู่ในกลุ่มด้วย ก็เพื่อต้องการเน้นถึงความสามัคคีในการเอาชนะความชั่วนั่นเอง เรื่องนี้ย้ำถึงความรักความผูกพันเป็นสำคัญ ไม่ว่าระหว่างเพื่อน คนรัก พ่อลูก ครูกับศิษย์ โดยเชื่อว่าความรักความผูกพันนั้นจะช่วยแก้ปัญหาและสร้างพลังใจในการต่อสู้อุปสรรคได้ และแม้แต่โลกปัจจุบันกับโลกอนาคตก็ยังใช้สิ่งนี้สื่อถึงกันได้คล้ายกับเป็นสัมผัสที่ 6 หากจะบอกว่าซีรี่ส์นี้เป็นเรื่องรักซะทีเดียวก็คงไม่ใช่ (แม้ชื่อเรื่องจะเข้าข่ายก็ตาม) ยกให้เป็นเรื่องปรัชญาการใช้ชีวิตน่าจะดีกว่า ดูแล้วได้คิด ได้ตรอง ได้ทบทวนการใช้ประโยชน์จากโลกใบนี้แทนที่จะเสียน้ำตาให้กับความรันทดหรือผิดหวังเพียงอย่างเดียว ประโยคหนึ่งที่น่าขบคิดและน่าจะเป็น Theme ของเรื่องนี้ได้ชัดเจนที่สุดเห็นจะเป็นประโยคที่นางเอกพูดเอาไว้ว่า หากรักหรืออยากแสดงความรู้สึกดีๆ กับใครก็ควรจะบอกเขาเสียตั้งแต่วันนี้ เพราะเราไม่มีวันรู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับโลกของเรา ทำให้นึกถึงเพลง “If tomorrow never come” ---- น่าจะนำไปใช้ได้ดีกับทุกสถานการณ์ Create Date : 25 กันยายน 2556 Last Update : 25 กันยายน 2556 22:31:25 น. 0 comments Counter : 1779 Pageviews.   Share Tweet ชื่อ : Comment :   *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก