ตัด! คือหนทางสุดท้าย ไม่ว่าแชมพูอะไรก็ตาม จะแพงแค่ไหนก็ตาม จะใช้พรีเซนเตอร์น่าเชื่อถือแค่ไหนก็ตาม แต่เราไม่เชื่ออีกแล้วว่าผลิตภัณฑ์บำรุงผมประเภทแชมพูหรือครีมนวดผมหรือทรีทเม้นท์ใดๆ จะช่วยให้ผมเสียมากมาย (อย่างผมเรา)จะดีขึ้นมาได้ ก่อนหน้านี้ผมเราแย่ถึงแย่มาก เพราะทั้งดัดทั้งย้อม จนช่างทำผมเห็นแล้วต้องแนะนำด้วยให้อบเซรั่มล้างสารเคมี เราก็โอเค ลองดู หนึ่งปีผ่านไป เราอบเกือบทุกเดือน สภาพผมจากที่ช่างบอกว่าเอานิ้วแยงเข้าไปไม่ได้ แยงเข้าไปได้แล้ว ผมที่งอกใหม่เป็นมันเงา ลื่นดี แต่ปลายผมที่เป็นผมเก่า มีความหยาบและแข็งอยู่ เราก็ไม่ได้ตัดออก ปล่อยให้ยาวไปเรื่อยๆ จนปลายปีที่แล้ว แอบเล็มเองไปประมาณหนึ่งเซ็น ก็ดีขึ้นเล็กน้อย เมื่อผมยาวและเริ่มตรง เรารู้สึกว่าผมมันลีบเกินไป เราก็เลยดัดอีกครั้ง ลอนใหญ่ขึ้น แต่คราวนี้เศร้าเลยค่ะ เพราะมันไม่เป็นทรง ไม่ขึ้นลอนใดๆ แถมปลายผมเสียหนักกว่าเก่า เหมือนไฟช๊อตหงิกแข็งชี้ไม่เป็นเรื่องเป็นราว อุบาทว์สุดๆ เรานั่งเล็มปลายผมเกือบทุกวัน แต่มันไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นมาเลย สุดท้ายก็เลยตัดสินใจตัดผม บอกว่าเอาออกสักคืบ ช่างบอกว่าสั้นไปมั้ย เลยเหลือครึ่งคืบพอ พร้อมกับอบเซรั่มล้างสารเคมี ช่างบรรจงเล็มให้แบบใจเย็น พอตัดเสร็จ ไดร์เซ็ทเสร็จเรียบร้อย เราจับผม น้ำตาแทบไหล ไอ้ผมหงิกมันหายไปหมดแล้ว มันไม่บาดมือเราอีกต่อไปแล้ว แม้มันจะไม่ได้สวยเหมือนแบบที่ให้ไป (เพราะหนังหน้ามันต่างกันราวฟ้ากับเหว) แต่เราก็เหมือนได้ขึ้นสวรรค์ในหนึ่งวัน สรุปว่า ผมเสีย ต้องตัดส่วนที่เสียออกค่ะ แชมพูวิเศษแค่ไหนก็ไม่ได้ช่วยทำให้ผมแห้งกรอบ หรือแตกปลายดีขึ้นมาได้ ต้องบำรุงด้วยการอบเซรั่ม (แต่ช่างต้องทำเป็นด้วยนะ) ร่วมด้วย แล้วผมก็จะน้ำหนักขึ้นมาได้ แม้ไม่ดีที่สุด แต่แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าชาตินี้ขนบนหัวจะเป็นผมคนขึ้นมาได้ Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2555 Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2555 21:32:33 น. 0 comments Counter : 1528 Pageviews.   Share Tweet ชื่อ : Comment :   *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก