ทำงานจนจะง่อยแล้ว
เราไม่ใช่คนบ้างานหรือทำงานมากจนไม่ดูแลตัวเอง พอเราเบื่อเราก็หยุด ไม่ได้โหมงานจนป่วย แต่นี่ขนาดไม่ได้เป็นคนอย่างนั้นนะ แต่ที่สุดแล้วเราก็เป็นออฟฟิศซินโดรม โรคฮิตติดดาวขึ้นมาซะงั้น
เรารักษามาร่วมเดือนแล้วก็ยังไม่หาย เบื่อที่จะไปนวดเหมือนกัน แม้ว่าจะใช้ประกันสุขภาพและประกันสังคมได้ก็ตาม แต่ก็ไม่สนุกนักที่ต้องไปทนให้หมอกดๆ บีบๆ เคล้นๆ แรงๆ จนแดงเถือกทุกที
วันนี้เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ พอหมอกดบ่าและสะบักของเรา เราชิงพูดก่อนเลย "ตึงมากอีกแล้วใช่มั้ย" หมอว่า "ใช่ครับตึงมากเลย" เราถามว่า "เมื่อไหร่จะหาย" หมอตอบทันควัน "ไม่มีทางหายหรอกครับ ถ้ายังทำงานอยู่" อ่าว...
เราถามหมอว่า "ทำไมคนที่ทำงานมานานกว่าเรา ถึงไม่เห็นเป็นบ้างเลย" หมอตอบว่า "เขาอาจจะเป็นแต่ไม่รู้ตัว แค่คิดว่าเดี๋ยวก็หายเอง"
นวดไปหนึ่งชม.หมอบอกว่า "เสร็จแล้ว เจอกันเมื่อมีโอกาส" เราบอกว่า "ถ้าพี่ไม่มา แสดงว่าพี่หายแล้ว เพราะเลิกทำงานแล้ว"
จริงๆ ร่างกายเรามันคงฟ้องหรือเรียกร้องอะไรสักอย่างแล้วล่ะ แต่มันยังเลิกไม่ได้ตอนนี้ เรายังต้องใช้เงิน ทั้งที่มันไม่ใช่ความต้องการเราเลยกับการทำงานออฟฟิศทุกวันแบบนี้ แต่ไม่มีทางเลือก หากินทางอื่นไม่ได้แล้ว จะให้ทำไง เล่าให้ครอบครัวฟัง ก็ดูเหมือนว่านี่คือโรคธรรมดา ที่ไม่ใช่มะเร็ง
แต่หลังจากเปิดเทอมใหม่ เราว่าเราโอเคกว่าเทอมที่แล้วนะ แบบว่าวิชาที่สอนก็เบาลง บางวิชาสอนคนละครึ่งเทอม บางวิชาติดต่อผู้ช่วยไว้แล้วด้วย ทำให้มีเวลาเยอะขึ้น กลับไปช่วยงานแม่ได้สะดวกขึ้น
แต่ก็ใช่ว่าเราจะทำงานน้อยลง เพราะเรายังมีวิจัยอีกตัว ทำมันทุกปีว่ะ ไม่รู้เป็นบ้าอะไรเหมือนกัน อยู่ว่างไม่ได้ ต้องทำอะไรสักอย่าง ทั้งที่อ่านหนังสือวิชาการก็ไม่รู้เรื่อง แต่ดันทำงานวิชาการ บ้าป่าวเนี่ย นี่ก็เอากลับมาทำที่บ้านด้วย ไม่ใช่ขยัน แต่กลัวว่าง ไม่รู้จะทำไรแล้วรู้สึกผิด มันติดอยู่ในใจถ้าไม่ได้ทำ
อยากได้เงิน(ทุนวิจัย)เขาก็ต้องทำให้เสร็จไวๆ ไหนๆ เขาก็ไม่ขึ้นเงินเดือนให้แล้ว ก็ต้องทนๆ ทำไปว่ะ ถ้าเป็นอะไรหนักกว่านี้แล้วคงมีคนเข้าใจเรา
สมเพชตัวเอง...
Create Date : 06 มกราคม 2560 |
|
0 comments |
Last Update : 6 มกราคม 2560 21:05:57 น. |
Counter : 1261 Pageviews. |
|
|