ความเครียดและความแปรปรวนในสมอง (และจิตใจ) ทำให้ฉันใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันได้ยากขึ้น บ่อยครั้งที่ร้องไห้คนเดียว หลายครั้งที่ฉันจำเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไปเมื่อสองสามชั่วโมงก่อนไม่ได้ และปีที่แล้วที่ตาของฉันเริ่มมีอาการที่หมอเรียกว่า ตาบอดชั่วคราว เนื่องมาจากความเครียดและโรคไมเกรนที่กำลังเพิ่มดีกรีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ฉันไม่สามารถทนใช้สายตา และตั้งสมาธิจดจ่อกับสิ่งใดได้นานๆ การจะอ่านหนังสือให้จบแค่สักย่อหน้าหนึ่งโดยไม่ต้องคอยย้อนกลับไปอ่านที่บรรทัดแรก มันทำได้ยากจริงๆ
ในขณะที่ฉันป่วย ฉันก็ได้รู้ด้วยว่า โดยกรรมพันธุ์และอาการป่วยในปัจจุบันของฉัน มันมีแนวโน้มว่าในอนาคต ฉันมีโอกาสเสียความทรงจำได้มากกว่าคนปกติทั่วไป
ฉันเริ่มเก็บบันทึกความทรงจำ "ที่ดี" ด้วยภาพถ่ายในโทรศัพท์มือถือ และบันทึกเสียงที่บอกเล่าเรื่องราวในชีวิตประจำวันไว้ในโทรศัพท์ของฉันด้วย