กวนประสาท !!!
ช่วงนี้มีความสุข เลยออกไปดริ๊ง ฟังเพลงตามอารมณ์บ่อยขึ้น
ได้ยินเพลงหนึ่ง เป็นเพลงเก่าตามสไตร์Irish Pubที่ไปนั่ง
ช่วงท่อนกลาง เราชอบ คิดว่า น่ารักดี จึงอยากรู้ชื่อเพลง
ก็เลยขอปากกาเขามาจดเนื้อเพลงที่ได้ยินดังนี้
And so you cry a little bit (to be in love) Ah, I die a little bit (to be in love)
Day and night, night and day It hurts to be in love this way
แล้วลองมา serch ในภายหลังที่ gogle ดู
อืมม ชื่อเพลง it hurts to be in love นี้เอง
มานั่งยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เสียงโทรศัพท์จากอังกฤษก็ดังอีกแล้ว
กริ๊งๆ กริ๊งๆ
MM : " ฮาโหล ครับ "
นางฟ้าค๊อปเตอร์ใบไม้ : " อีตาโง่โง่ ทำอะไรอยู่?!!!! "
MM : " เรากำลังเอานิ้วเคาะโต๊ะอยู่นะ "
นางฟ้าค๊อปเตอร์ใบไม้ : " อ้ายยยโง่ นี้แกอยู่ที่ไหน? "
MM ( ในใจคิด เมื่อก่อนเริ่มรู้จัก ฉายาไม่ได้เป็นแบบนี้นิหน่า!! )
นางฟ้าค๊อปเตอร์ใบไม้ : " อีตาโง่ เดี๊ยวนี้เที่ยวบ่อยนะ กลับเดี๊ยวนี้ "
MM ( รู้ได้ไงหว่า ว่าออกมาดริ๊ง )
MM : " นิเธอ เราเพิ่งมานั่ง ยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเลยนะ "
นางฟ้าค๊อปเตอร์ใบไม้ : " กลับเดี๊ยวนี้ อยากตายหรือไง!!! "
MM : " เดี๊ยวให้เบียร์หมดขวดก่อนละกัน "
นางฟ้าค๊อปเตอร์ใบไม้ : " ไม่ได้!!! กลับเดี๊ยวนี้เลย แล้วไปเล่นเปียโนให้ฟังด้วย "
MM : " เราไม่เล่นให้ใครฟังทั้งนั้นละ วันนั้นเธอไม่ดุเรา เราเลยเล่นให้ฟังครั้งแรกและครั้งเดียว "
นางฟ้าค๊อปเตอร์ใบไม้ : " นี้อีตาโง่ อย่ามากวนประสาท รีบกลับเดี๊ยวนี้เลยนะ "
MM : " กลับก็ได้ แต่เธอต้องพูดเพราะๆหวานๆกับเราก่อน แบบนี้นะ "
" MM ที่รักค่ะ กลับไปเล่นเปียโนให้หวานใจฟังที่น๊า น๊าๆๆ "
นางฟ้าค๊อปเตอร์ใบไม้ : " อ้ายย อ้ายยย ไอ้กวนตรีน!!! "
MM : 555++
เมื่อได้ยินคำว่า "กวนตรีน" แล้ว อดนึกถึงเรื่องของตัวเองตอนบินถี่ๆไม่ได้แล้วซิ
มีเรื่องมาเล่าให้ฟังอีกแล้ว อิอิ!
ช่วงที่ผ่านมา เราบินบ่อยมาก
มีทริปหนึ่งบินจากนาริตะไปฮาวาย
ออกจากGateไปขึ้นเครื่อง เดินไปนั่งที่เก้าอี้ของตัวเองริมหน้าต่าง
เมื่อวางกระเป๋ากล้องไว้ใต้ที่นั่งข้างหน้าและเริ่มถอดรองเท้า
เหลือบไปเห็นช่องโหว่ของแผ่นระบายอากาศตรงข้างเท้าของผนังเครื่องบิน
ลองก้มมองลงไป เอ... มี1แผ่น มันหายไปไหนนะ หาไม่เจอ
นี้ถ้ารองเท้าเราหล่นลงไป คงยุ่งน่าดู ขนาดรูก็ไม่เล็กเลย
ขอขั้นเรื่องสักเล็กน้อย... การที่ใช้ชีวิตคนเดียวมาตั้งแต่เด็กๆและยิ่งเดินทางคนเดียวตลอด
ธรรมชาติคงสร้างให้มีพรสวรรค์พิเศษในการเอาตัวรอดสารพัดรูปแบบ
เริ่มชำเลืองตาไปมองคนที่นั่งข้างๆ
อ้อ! เป็นผู้ชายชาวอเมริกันเชื้อสายอินเดียแดง ตัวใหญ่เชียว
ไม่รู้ว่า นายนี้เขาจะเก็ทหรือเปล่า? แต่ก็ลองดู
เครื่องกำลังจะออก รถข้างล่างกำลังเตรียมไถล้อเครื่องบินออกจากงวงช้าง
ดูท่าทางหมอนี้ คงจะไม่โง่นะ
MM ก็ไปสกิดเขา : "ยูๆ ขอโทษทีนะ ยูเห็นรูใหญ่ๆตรงเท้าไอมั๊ย มันมีแผ่นหนึ่งหายไป "
ฝรั่ง : " อืมม เห็นแล้ว "
MM : " นิถ้ารองเท้าไอ มันหล่นลงไป ในระหว่างที่บินอยู่ ไฟมันจะช๊อตได้หรือเปล่า "
ฝรั่ง : ทำตาลุกวาว " โอย อันตรายๆ "
MM : " ใช่แล้ว บินตั้ง11ชั่วโมง เราหาที่นั่งใหม่กันดีกว่านะ "
ฝรั่ง : รีบปลดล๊อคเซฟตี้เบลล์ออก แล้วไปตามแอร์โฮสเตส
เมื่อแอร์โฮเตสมาถึง
นายฝรั่งคนนี้ก็ชี้ให้ดูแล้วอธิบายยาวเหยียดว่าต้องไปตาม Flight Engineer มาช่วยดูแล้วละ
แอร์โฮสเตสก็รีบไปโทรตาม Flight Engineer
สักพัก Flight Engineer มาถึง ก็ให้เราและนายฝรั่งคนนี้ลุกจากที่นั่ง ไปยืนรอตรงทางเดิน
แล้วเขาก็คลานเข้าไปดูว่าไอ้แผ่นปิดมันหายไปไหน ก็หาไม่เจอ
ผู้โดยสารทั้งลำ หันมามองเรา ว่าเกิดอะไรขึ้นเหรอ?
ทำไมเครื่องบินถึงยังออกไม่ได้สักที นั่งรอตั้งนานแล้ว
บ้างก็คิดไปไปต่างๆนานา
เราก็ทำหน้าทำตา สื่อกว่า " โอววววว อันตรายๆ เครื่องอาจจะตกได้ "
นายฝรั่งอินเดียแดงเห็นเรากำลังสื่อกับผู้โดยสาร
เขาก็ทำตาม...
ที่นี้ผู้โดยสารทุกคน หน้าถอดสี กลัวกันหมด
ในใจเรา .." กลั้นหัวเราะแทบไม่อยู่ ท้องแข็งไปหมด "
แล้วนายฝรั่งคนนี้ก็พูดกับแอร์โฮสเตส "ตกลงจะให้นั่งที่เดิมเหรอ อันตรายมากเลยนะ"
Flight Engineer ได้ยิน ก็บอกว่า ให้ผู้โดยสารสองคนนี้ไปนั่งที่อื่น
ทางหัวหน้าลูกเรือเดินเข้ามาคุยกับFlight Engineer
เขาจึงตัดสินใจให้เราทั้งสองอัพไปนั่ง Business Class ที่ยังว่างอยู่
แอร์โฮสเตส เขาก็นำเราทั้งสองให้เดินตามไป
เมื่อไปถึงที่นั่ง โอววว มันหรูและสบายกว่าเดิมมากเลยนะ
นั่งเสร็จ นายฝรั่งคนนี้ เขาก็ยกมือมาให้เราตบ แล้วบอกว่า "ยูนี้แน่มาก"
พร้อมหัวเราะลั่นเครื่องบิน แอร์โฮสเตสเดินมาเห็น เขาก็หัวเราะด้วย 555++
Create Date : 28 ตุลาคม 2553 |
|
0 comments |
Last Update : 28 ตุลาคม 2553 23:31:18 น. |
Counter : 145 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|