Girl










ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต

วัดป่าบ้านหนองผือ ตำบลนาใน อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร

พระอริยเจ้าผู้เป็นบิดาของพระกรรมฐาน

พระเดชพระคุณท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ท่านเป็นสุดยอดพระอรหันต์แห่งยุค เป็นบิดาของพระกรรมฐานตำนานชีวิตและปฏิปทาของท่านถูกกล่าวขานกันไม่รู้จบ ท่านสำเร็จปฏิสัมภิทานุศาสน์ ๔ อย่าง คือ
๑. ธัมมปฏิสัมภิทา คือแตกฉานในธรรม
๒. อัตถปฏิสัมภิทา คือ แตกฉานในอรรถ
๓. นิรุตติปฏิสัมภิทา คือ แตกฉานในภาษา
๔. ปฏิภาณปฏิสัมภิทา คือ แตกฉานในปฏิภาณ

ในปีพุทธศักราช ๒๔๗๘ ท่านบรรลุธรรมชั้นสูงสุดที่ ถ้ำดอกคำ ตำบลน้ำแพร่ อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นท่านได้เดินธุดงค์ไปดอยมะโน ท่านได้พูดกับลูกศิษย์คือหลวงปู่ขาวว่า “ผมหมดงานที่จะทำแล้ว ก็อยู่สานกระบุงตระกร้า พอช่วยเหลือพวกท่านและลูกศิษย์ลูกหาได้บ้างเท่านั้น”

ท่านเป็นอาจารย์ใหญ่ เป็นครู เป็นพ่อ และเป็นต้นแบบของพระกรรมฐานที่ยึดมั่นในหลักพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างเคร่งครัด ท่านถือธุดงค์และทรงผ้าบังสุกุลตลอดชีวิต ท่องเที่ยวธุดงค์ทางภาคอีสาน กลางเหนือ ในประเทศไทย ประเทศลาว ประเทศเขมร ประเทศพม่า ชอบอยู่ตามถ้ำและป่าลึก อาศัยบิณฑบาตกับชาวป่าชาวเขา เป็นผู้สมถะสันโดษ มักน้อยในลาภสักการะ มีชีวิตเป็นอยู่ด้วยพระธรรมวินัยทุกอิริยาบถ

ในประวัติศาสตร์ของชาติไทย ยังไม่มีพระมหาเถระรูปใดจะยิ่งใหญ่ด้วยวัตรปฏิบัติ ปฏิปทา ถึงพร้อมด้วยศีล มีอำนาจจิตยิ่งใหญ่ครอบโลกธาตุ เป็นที่เคารพบูชาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายได้ถึงเพียงนี้

พระอรหันต์ในประเทศไทยล้วนเป็นศิษย์ของท่านแทบทั้งนั้น เดิมท่านปราถนาพุทธภูมิ แต่ด้วยเห็นว่าจะเป็นการเนิ่นช้า จึงถอนความปราถนานั้น มุ่งเป็นพระอรหันต์ในปัจจุบันชาติ

ท่านเป็นคนร่างเล็ก ผิวขาวบาง แข็งแรงว่องไว สติปัญญาดีมาแต่กำเนิด ฉลาด เป็นผู้ว่าง่ายสอนง่ายในทางที่ถูก ไม่ยอมทำตามในทางที่ผิด

ท่านเกิดวันที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๑๓ ที่บ้านคำบง ตำบลโขงเจียม อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี เป็นบุตรของนายคำด้วง และนางจันทร์ แก่นแก้ว เมื่อท่านอายุ ๑๕ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรในสำนักวัดบ้านคำบง พออายุได้ ๑๗ ปี บิดาขอร้องให้ลาสิกขา จิตยังหวนคิดถึงร่มผ้ากาสาวพัสต์อยู่เสมอ เพราะติดใจในคำสั่งของยายว่า “เจ้าต้องบวชให้ยาย เพราะยายก็ได้เลี้ยงเจ้ายาก”

ครั้นอายุได้ ๒๒ ปี มีความอยากบวชเป็นกำลัง ได้เข้าศึกษาพระธรรมในสำนักหลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล วัดเลียบ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ได้อุปสมบท ณ วัดศรีอุบลรัตนาราม อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธสนี เมื่อวันที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๓๖ โดยมี พระอริยกวี (อ่อน) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูสีทา ชยเสโน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูประจักษ์อุบลคุณ (สุ่ย) เป็น พระอนุสาวนาจารย์

อุปสมบทแล้วได้กลับมา ศึกษากรรมฐานภาวนาในสำนักหลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล ณ วัดเลียบ จังหวัดอุบลราชธานี ใช้คำบริกรรมภาวนาว่า “พุทโธ”

อยู่มาวันหนึ่งท่านเกิดสุบินนิมิตว่า “ได้เดินออกจากหมู่บ้านๆหนึ่ง มีป่า เลยป่าออกไปก็ถึงทุ่งเวิ้งว้าง จึงเดินตามทุ่งไป ได้เห็นต้นชาติต้นหนึ่งที่บุคคลได้ตัดให้ล้มลงแล้ว ปราศจากใบ ตอของต้นชาติสูงประมาณ ๑ คืบ ใหญ่ประมาณ ๑ คนโอบ ท่านขึ้นสู่ขอนชาตินั้น พิจารณาดูอยู่ว่าผุพังไปบ้าง และจักไม่งอกขึ้นได้อีก ในขณะที่กำลังพิจารณาอยู่นั้น มีม้าตัวหนึ่งไม่ทราบว่ามาจากไหน มาเทียมขอนชาติ ท่านจึงขี่ม้าตัวนั้น ม้าพาวิ่งไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนืออย่างเต็มฝีเท้า ขณะที่ม้าพาวิ่งไปนั้นได้แลเห็นตู้ใบหนึ่ง เหมือนตู้พระไตรปิฎก ตั้งอยู่ข้างหน้า ตู้นั้นวิจิตรด้วยเงินสีขาววาววับเป็นประกายยิ่งนัก ม้าพาวิ่งเข้าไปสู่ตู้นั้น ครั้นถึงม้าก็หยุดและหายไป ท่านลงตรงมายังตู้พระไตรปิฎกแต่มิได้เปิดตู้ดู ไม่ทราบว่ามีอะไรอยู่ ในนั้น แลดูไปข้างหน้าเห็นเห็นเป็นป่าชัฏเต็มไปด้วยขวากหนามต่างๆ จะไปต่อไม่ได้” เลยรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา

เมื่อท่านพิจารณาสุบินนิมิตนั้นจึงได้ความว่า การที่ท่านออกบวชในพระพุทธศาสนาและปฏิบัติตามอริยมรรคนั้น ชื่อว่าออกจากบ้าน บ้านนั้นคือความผิดทั้งหลาย และป่านั้นคือกิเลส ซึ่งเป็นความผิดเหมือนกัน ขอนชาติ ได้แก่ ชาติความเกิด ม้า ได้แก่ ตัวปัญญาวิปัสสนา จักมาแก้ความผิด การขึ้นสู่ม้าแลัวม้าพาวิ่งไป สู่ตู้พระไตรปิฎกนั้น คือ เมื่อพิจารณาไปแล้วจักสำเร็จปฏิสัมภิทานุศาสน์ ฉลาด รู้อะไรๆ ในเทศนาวิธี ทรมานแนะสั่งสอนลูกศิษย์ทั้งหลายให้ได้รับความเย็นใจในข้อปฏิบัติทางจิต แต่จะไม่ได้ในจตุปฏิสัมภิทาญาณ เพราะไม่ได้เปิดดูตู้นั้น

สุบินนิมิตนี้เป็นบุพพนิมิตบอกความมั่นใจในการทำความเพียรของท่าน ท่านจึงตั้งหน้าทำความเพียรประโยคพยายามมิได้ท้อถอย มีการเดินจงกรมบ้าง นั่งสมาธิบ้าง ข้อวัตรปฏิบัติต่างๆ ก็มิได้ทอดทิ้ง คงดำเนินตามข้อปฏิบัติอันท่านโบราณบัณฑิตทั้งหลาย มีพระพุทธเจ้าเป็นต้น ทรงบำเพ็ญตามทางแห่งอริยมรรค

ท่านได้แสวงหาวิเวกบำเพ็ญสมณธรรมในที่ต่างๆ ตามราวป่า ป่าช้า ป่าชัฏ ที่แจ้ง หุบเขา ซอกเขา ห้วยธาร เงื้อมผา ท้องถ้ำ เรือนว่าง ทางฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงบ้าง แล้วลงไปศึกษากับเจ้าพระคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนโท) ๓ พรรษาแล้วออกแสวงหาวิเวกในถิ่นภาคกลางคือ ถ้ำสาริกา เขาใหญ่ นครนายก ถ้ำไผ่ขวางเขาพระงาม และถ้ำสิงห์โตจังหวัดลพบุรีขึ้นไปทางภาคเหนือจำพรรษาที่วัดเจดีย์หลวง ๑ พรรษาได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวงและเป็นพระอุปัชฌาย์ แต่ท่านไม่รับตำแหน่ง หนีเข้าป่าไปอาศัยอยู่ตามดอยมูเซอ ถ้ำเชียงดาว ฯลฯ แล้วออกไปพักตามที่วิเวกต่างๆ ในเขตภาคเหนือหลายแห่งเพื่อสงเคราะห์สาธุชนในที่นั้นๆ นานถึง ๑๑ ปี จนได้รับความรู้แจ่มแจ้งในพระธรรมวินัย สิ้นความสงสัยในสัตถุศาสน์ บรรลุพระอรหันตผลที่ถ้ำดอกคำ ต.น้ำแพร่ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ จึงกลับมาภาคอีสาน

วาระสุท้ายท่านจำพรรษาที่ วัดป่าบ้านหนองผือ ต.นาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ท่านละสังขารเข้าสู่อนุปาทิเสสนิพพาน ที่วัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร เมื่อวันที่ ๑๑ พฤษจิกายน พ.ศ.๒๔๙๒ เวลา ๐๒.๒๓ น. สิริอายุ ๘๐ ปี ๕๖ พรรษา







--------------





---------------------------


























































































----------------------------------








Is there anybody gone to listen to my story
all about the girl who came to stay?
She's the kind of girl you want so much
it makes you sorry;
Still, you don't regret a single day.
Ah girl! Girl!


She's the kind of girl who puts you down
when friends are there, you feel a fool.
Didididi..
When you say she's looking good
she acts as if it's understood.
She's cool, cool, cool, cool,
Girl! Girl! [Was she]


When I think of all the times I've tried to leave her
She will turn to me and start to cry;
And she promises the earth to me
and I believe her.
After all this times I don't know why.
Ah, girl! Girl!


She's the kind of girl who puts you down when friends are there,
You feel a fool.
When you say she's looking good, she acts as if it's understood.
She's cool, cool, cool, cool, Girl! Girl!


Was she tolod when she was young the fame
would lead to pleasure?
Did she understand it when they said
That a man must break his back to earn
his day of leisure?
Will she still believe it when he's dead?
Ah girl! Girl! Girl!






 

Create Date : 10 กรกฎาคม 2551
23 comments
Last Update : 18 เมษายน 2555 8:56:29 น.
Counter : 141 Pageviews.

 

ตอนนี้ยังไม่มีลูกค่ะ แต่ขอเก็บไอเดียไว้ใช้นะคะ คริคริ น่ารักดีคะ

 

โดย: mook (haiti ) 10 กรกฎาคม 2551 2:18:24 น.  

 

ไม่มีลูกให้จับใส่นะค่ะ น่ารักจัง
จับแฟนใส่ได้มั๊ยคะ อิอิ

 

โดย: Ann Arbor 10 กรกฎาคม 2551 2:22:37 น.  

 

^
ทำผมฮา อีกแล้ว ..55+

 

โดย: MM (ongchai_maewmong ) 10 กรกฎาคม 2551 2:24:08 น.  

 

รูปบนน่ารักนะค๊ะ แต่แอบน่ากลัวตรงลายเค้าอ่ะค่ะ

 

โดย: วิสกี้โซดา 10 กรกฎาคม 2551 2:30:34 น.  

 

เพิ่งเคยเห็นจรเข้เล่นเปียโน

จรเข้น่ากลัวแต่ก็มาทำน่ารักได้นิ เห็นแล้วน่ารักจัง

 

โดย: KOok_k 10 กรกฎาคม 2551 2:33:13 น.  

 

แหม แหม นึกว่าลูกองค์ชายนะคะนั่น

แต่เพลงนี้น่ารักจริงๆ ด้วย

 

โดย: ป้ามะลิกับลุงมะระ 10 กรกฎาคม 2551 2:44:06 น.  

 

จ๊าคส์ น่ารักค่ะ แต่ว่าสองสาวพี่เค้าไม่ชอบน่ะซิค่ะ
ขืนจับใส่คงได้วีนแตกแน่ๆ ถ้ามีลูกชายคงพอคุยกันรู้เรื่องหน่อย เอาชุดพริ้นเซสได้ปล่าวอ่ะ

 

โดย: พ ริ ก ขี้ ห นู @ UK 10 กรกฎาคม 2551 3:12:15 น.  

 

 

โดย: superss 10 กรกฎาคม 2551 3:18:27 น.  

 

if you want to have kid


first thing you should to do

find a nice wife ka

 

โดย: มาดามอุ้ย 10 กรกฎาคม 2551 3:30:58 น.  

 

^
555+ คุณอุ้ยก็

 

โดย: MM (ongchai_maewmong ) 10 กรกฎาคม 2551 3:35:08 น.  

 

ยึ๊ยยย เปิดหน้ามาตกใจก่อนเลย นึกว่าตัวไรเล่นงานเราซะแล้วอิอิ แต่พอเปิดไปมีฮาเลยค่ะ น่ารักมาก ๆ

 

โดย: nui_kiku 10 กรกฎาคม 2551 6:19:43 น.  

 

อยากมีเหมือนกัน แต่ยังไม่มี รักเด็กค่ะ

 

โดย: คุณนายก้อ 10 กรกฎาคม 2551 7:21:22 น.  

 

น่ารักจังค่ะ

 

โดย: Anitapa 10 กรกฎาคม 2551 10:11:33 น.  

 

ชุดน่ารัก เหมาะกับอากาศที่เมืองไทยบ้านเราจังเลย ป้ากำลังนึกภาพจระเข้เป็นโรคกลัวน้ำอยู่นะเนี่ย

 

โดย: Oops! a daisy 10 กรกฎาคม 2551 10:26:25 น.  

 

แหมได้ฟังเพลงแบบนี้ยามบ่ายก็หายง่วงเลนเน่อ

 

โดย: ap186 10 กรกฎาคม 2551 12:53:31 น.  

 

เด็ก ๆ จับใส่อะไรน่ารักไปหมดค่ะ
ตอนเล็ก ๆ มีชุดพวกสัตว์ต่าง ๆ ให้ลูกใส่เหมือนกัน
แต่เดี๋ยวนี้เป็นตายยังไง เธอไม่ยอมใส่เด็ดขาดเลยละ

 

โดย: edelweiss 10 กรกฎาคม 2551 13:21:34 น.  

 

หุๆๆๆๆๆ แหวมันออกแล้วน่ะ MM

Glückstag!

 

โดย: สาระ....จริง 10 กรกฎาคม 2551 15:27:34 น.  

 


เออ...หาชุดตะเข้มะด้าย...ค่ะ
เลยใส่ชุดนี้แทน กบเคโระ..
ว่าแต่น้า MM มีเพลง Rock for Kitty มั๊ยคะ รอเต้นอยู่ อิอิ...

 

โดย: Patarawan H 10 กรกฎาคม 2551 16:15:34 น.  

 

เย้ย...ไหนรูปไม่ขึ้นละเนี่ย...แง๊...โทดทีนะคะ

 

โดย: Patarawan H 10 กรกฎาคม 2551 16:46:42 น.  

 

ahhh I have 3 nieces and they don't like Crocodile costume, any princess outfit? ei ei ei

 

โดย: The Zephyr 10 กรกฎาคม 2551 22:16:36 น.  

 

ก๊อก ก๊อก ..

ไหนๆก็หาเจออยู่แล้ว วันนี้ไปซ่อนแล้วกัน

ลูกไม่มีอ่ะค่ะ .. มีแต่ลูกหมา
แถมเวลาจับใส่ชุดแฟนซีทีไร .. ไปนั่งงอนอยู่หน้าบ้านทุกที

เพลงน่ารักดีเนอะ ..

 

โดย: บ้านอุ่นรัก 10 กรกฎาคม 2551 22:38:28 น.  

 

Cool!

 

โดย: CrackyDong 10 กรกฎาคม 2551 22:39:42 น.  

 

ไอเดียเจ๋งนะคะ..เดี๋ยวจับหลานมาแกล้งดีกว่าาาาา

 

โดย: bongboeaw 11 กรกฎาคม 2551 22:50:03 น.  


MM Story
Location :
Singapore / Bangkok / Sapporo - Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




free counters
New Comments
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2551
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
10 กรกฏาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add MM Story's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.