|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
"ลิลลี่แพดซิตี้" แนวคิดเมืองลอยน้ำ
เมื่อมองภาพสเกตช์เมืองลอยน้ำ "ลิลลี่แพดซิตี้" ครั้งแรก จะเห็นว่ามันเหมือนกับสวนลอยน้ำ
นายวินเซนต์ คัลลีบัต สถาปนิกชาวเบลเยียม เป็นผู้ออกแบบเมืองนี้เพื่อแก้ปัญหาระดับน้ำทะเลสูงจนท่วมเมืองตามชายฝั่งในอนาคต โดยเมืองใหญ่ๆ ที่มีโอกาสน้ำท่วมจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นทุกๆ ปี ได้แก่ นิวยอร์ก โตเกียว และลอนดอน
นายคัลลีบัต จึงออกแบบเมืองลอยน้ำ ถ้าเผื่อว่าเมืองใหญ่เหล่านี้จมอยู่ใต้น้ำจริง เมืองลอยน้ำ "ลิลลี่แพดซิตี้" 1 แห่ง มีประชากรอยู่อาศัยได้ 50,000 คน แต่ละเมืองผลิตพลังงานใช้ได้เอง มีทะเลสาบอยู่ตรงกลางเพื่อเก็บน้ำฝนสะอาด มีภาพเทือกเขาปลอมๆ ไว้ให้ประชาชนดูแก้เบื่อตาจากวิวทะเล ไทเท เนียมไดออกไซด์ ซึ่งเป็นส่วนประกอบในการสร้างเมืองยังดูดคาร์บอนไดออก ไซด์ในบรรยากาศด้วย
สำหรับพลังงานที่แต่ละเมืองนำมาใช้นั้น เป็นพลังงานสีเขียวที่นำกลับมาใช้ได้ใหม่ เช่น พลังงานจากเซลล์แสงอาทิตย์ พลังงานจากคลื่น พลังงานลม พลังงานเธอร์มัล พลังงานไฮดรอลิก การสร้างพลังงานนั้นมีจำนวนมากกว่าพลังงานที่แต่ละเมืองใช้ พลังงานจึงเหลือเฟือ และยังเป็นเมืองที่แพร่ก๊าซเรือนกระจกเท่ากับศูนย์ ส่วนขยะจะถูกนำมารีไซเคิล
แรงบันดาลใจที่คัลลีบัตนำมาออกแบบ "ลิลลี่แพดซิตี้" ได้มาจากรูปร่างของบัววิกตอเรีย เขากล่าวว่า "หลายประเทศหาทางแก้ปัญหาระดับน้ำทะเลสูงขึ้นด้วยการสร้างชายหาด การสร้างเขื่อนกั้นที่นับวันต้องสร้างให้แข็งแรงขึ้น แน่นหนาขึ้น แต่การแก้ปัญหานี้เป็นทางแก้ที่ไม่ยั่งยืน ขณะที่โครงการลิลลี่แพดเป็นโครงการที่แก้ปัญหาได้ในระยะยาว"
"ลิลลี่แพดซิตี้" เป็นเมืองที่ไม่มีถนน ไม่มีรถยนต์ ทั้งเมืองจะมีแต่บ้านและสวน เป้าหมายคือ ต้องการผสมผสานมนุษย์ให้เข้ากับธรรมชาติ และอีกสิ่งหนึ่งที่คัลลีบัตต้องการคือ การพยายามที่จะทำให้ผู้คนนับล้านที่ไร้ที่อยู่อาศัยเพราะน้ำทะเลท่วม มีความเป็นอยู่อย่างสุขสบายเหมือนกับอยู่บนพื้นดิน
จากรายงานของคณะกรรมาธิการระหว่างประเทศเรื่องภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง หรือ IPCC พบว่า ภายในค.ศ. 2100 ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้น 9-88 เซนติเมตร แต่ตัวเลขโดยเฉลี่ยน่าจะอยู่ที่ 50 เซนติเมตร เราจะได้เห็นภาพชายหาดถูกน้ำท่วมจนมิด อย่างประเทศที่เป็นเกาะในทะเลแปซิ ฟิก เช่น ทูวาลู คิริบาติ มัลดีฟส์ จะถูกน้ำท่วมจนเกือบทั้งเกาะ พื้นที่สูงสุดของเกาะจะอยู่เหนือระดับน้ำทะเลแค่ 2-3 เซนติเมตร และถ้าน้ำทะเลสูงขึ้น 50 เซนติเมตร อาคารต่างๆ จะถูกกระแสน้ำพัดจนพังไปทั้งเกาะ ทั้งยังเกิดดินทรุดตัว
แม้ว่าหลายเกาะอาจรอดพ้นจากน้ำท่วมไปได้ แต่ปัญหาที่ต้องพบเจอแน่นอนคือ ขาดแหล่งน้ำจืดเพื่อการดื่มการใช้ เพราะน้ำทะเลจะเข้าไปในแหล่งน้ำจืดใต้ดิน นอกจากนี้ ประชาชนที่อยู่ตามชายฝั่งที่มีพื้นที่ต่ำ โดยเฉพาะในแถบเอเชียใต้ เช่น ปากีสถาน อินเดีย ศรีลังกา บังกลาเทศ และพม่า ยังอาจจมน้ำด้วย
ข้อมูลจาก :
ข่าวสด
Create Date : 21 สิงหาคม 2552 |
Last Update : 21 สิงหาคม 2552 14:15:39 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1128 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|