Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2555
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
14 พฤษภาคม 2555
 
All Blogs
 
มหัศจรรย์แห่งพัฒนาการสร้างได้ใน 1,365 วัน

เขียนโดย มนต์ชยา

นับถอยหลัง 1,365 วัน ปั้นลูกน้อยสู่มหัศจรรย์แห่งพัฒนาการ

สมองมนุษย์พัฒนาถึง 80% ในช่วงตั้งครรภ์ถึง 3 ขวบปีแรก คุณพ่อคุณแม่จึงมีเวลา 1,365 วัน เท่านั้น
กับโอกาสทองของมหัศจรรย์แห่งพัฒนาการลูกน้อย เรามานับถอยหลังกันดูว่า ในช่วงวัยของลูกน้อยตั้งแต่
อยู่ในครรภ์จนถึงวัย 3-6 ขวบ คุณพ่อคุณแม่มีโอกาสปั้นลูกน้อยสู่พัฒนาการที่สมบูรณ์แบบได้อย่างไร และไม่ว่า
ขณะนี้ลูกน้อยของคุณจะอยู่ในวัยใดก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ยังมีโอกาสที่จะลงมือสร้างสิ่งมหัศจรรย์์แห่งพัฒนาการ
ให้เกิดขึ้นได้เสมอค่ะ

ช่วงตั้งครรภ์ (วันที่ 0-270)
อวัยวะแรกที่ถูกสร้างขึ้น คือ “หัวใจ” สัญญาณบ่งบอกถึงการอุบัติขึ้นของอีกชีวิตหนึ่ง สมองก็จะมีการแบ่งตัว และสร้างเซลล์ประสาทนับล้านๆ เซลล์ อวัยวะอื่นๆ จะถูกสร้างตามมาจนสมบูรณ์ในเดือนที่ 9

อัลตร้าซาวนด์ดีไหม?
อัลตร้าซาวนด์ คือ คลื่นความถี่สูงที่นำมาใช้ทางการแพทย์ เพื่อตรวจหาความผิดปกติของลูกในครรภ์ โดยเฉพาะ
โครงสร้างหลัก เช่น กะโหลกศีรษะ สมอง หัวใจ แขนขาและอวัยวะภายในอื่นๆ ทำให้คุณแม่ได้เห็นรูปร่างหน้าตา
ลูกขณะเคลื่อนไหวในครรภ์ด้วย เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับการดูแลครรภ์ในช่วงใกล้คลอดป้องกันความเสี่ยง
ต่างๆได้  คุณแม่สามารถตรวจได้ตลอดการตั้งครรภ์ โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งค่ะ

             พัฒนาการ

                                 รายละเอียดของพัฒนาการ

หัวใจเริ่มเต้น

ในสัปดาห์ที่ 3 หัวใจเริ่มเต้น ลูกน้อยอยู่ในช่วงเริ่มสร้างอวัยวะสำคัญทั้งหมด

แขน-ขาเริ่มขยับ

ในสัปดาห์ที่ 10 อวัยวะสำคัญถูกสร้างจนครบ มีซี่โครงและกระดูก
แคลเซียมเริ่มสะสมตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดเป็นกระดูกแข็ง อวัยวะเพศแยกได้ชัดเจน

ตาเริ่มตอบสนองต่อแสง

ในสัปดาห์ที่ 14 เริ่มรับรู้ถึงแสงสว่างจากภายนอก จำนวนของเซลล์ประสาทจะพัฒนาและเพิ่มขึ้นเท่ากับของผู้ใหญ่  มีการเชื่อมต่อระหว่างประสาทและกล้ามเนื้อ

เริ่มได้ยินเสียง

สัปดาห์ที่ 18 เริ่มได้ยินเสียงของแม่ และหัวใจของแม่  เสียงที่ได้ยินคล้ายเสียงในน้ำ คือเสียงจะค่อนข้างอื้อๆ ก้องๆ 

เริ่มเรียนรู้ และจดจำ

สัปดาห์ที่ 28 เซลล์สมองที่ทำหน้าที่จดจำเริ่มทำงานได้ ลูกจึงเริ่มเรียนรู้ และจำเสียงที่พูดกับเขาบ่อย ๆ ได้ทั้งพ่อและแม่

ระบบประสาท และสมอง พัฒนาเต็มที่

สัปดาห์ที่ 36 เซลล์สมองและเส้นใยประสาทของทารกขยายใหญ่ ร่องสมองกำลังหยักตัวเป็นร่อง เพื่อเป็นแหล่งเก็บสะสมข้อมูล ยิ่งเซลล์สมองมีขนาดใหญ่ มีเส้นใยมาก มีการเชื่อมโยงประสานของเส้นใย  จะทำให้การเรียนรู้และรับรู้ข้อมูลต่างๆ เป็นไปด้วยดี

เคล็ดลับส่งเสริมมหัศจรรย์แห่งพัฒนาการของลูกน้อยในท้อง
โภชนาการ  นอกจากอาหารครบ  5 หมู่ แล้ว คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องได้รับสารอาหารอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อลูกในครรภ์เพิ่มเติม เช่น DHA โคลีน แคลเซียม โฟเลต ธาตุเหล็ก เป็นต้น
สิ่งแวดล้อม เปิดเพลงเบาๆ ทำนองนุ่มๆ ให้ลูกฟัง สัมผัสหน้าท้องพร้อมพูดคุยกับลูกบ่อยๆ  อ่านหนังสือให้ลูกฟัง
ขณะอยู่ในท้องอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการที่ดีได้

วัย 0-3 เดือน (วันที่ 271-361)
ลูกน้อยจะเริ่มเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัว และมีพัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกด้าน แสดงออกทางอารมณ์
ให้รับรู้ได้มากขึ้น โดยจะเริ่มแสดงสีหน้าที่มีความสุข  จะเริ่มเห็นรอยยิ้มอย่างมีความหมายของลูกได้ (Social Smile) 

ในช่วงวัยนี้ ยังต้องดูแลเรื่องอาหารให้เหมาะสมด้วย ที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย คือ น้ำนมแม่ เพราะอุดมด้วยสารอาหาร
สำคัญครบถ้วน เช่น DHA โคลีน และไซอะลิคแอซิค ซึ่งสารอาหารเหล่านี้มีประโยชน์ที่แตกต่างกัน สำหรับเสริมสร้าง
พัฒนาการสมองและระบบต่างๆ ของลูกน้อยให้ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ 

             พัฒนาการ

                                 รายละเอียดของพัฒนาการ

ควบคุมการเคลื่อนไหวได้ดี

ลูกจะเริ่มชันคอ โดยยกศีรษะและอกได้ ถ้าจับนอนหงายจะพลิกตัวตะแคงได้  พยุงศรีษะตัวเองได้เล็กน้อย 

มองเห็นชัดเจนขึ้น

มองเห็นสีและสิ่งของที่อยู่ใกล้ได้ชัดขึ้น  เด็กจะชอบมองสิ่งของที่ตัดกัน เช่น ตารางสีขาว-ดำ รวมทั้งใบหน้าของคนได้  

หันหาที่มาของเสียง

ระบบประสาทเกี่ยวกับการได้ยิน และการมองเห็นเริ่มมีการทำงานสอดคล้องกัน (coordination) ลูกจะหยุดฟังเสียงที่คุ้นเคย

ใช้ภาษาท่าทางสื่อสาร
ตามความต้องการได้

เด็กจะใช้ภาษาท่าทางสื่อสารได้   เช่น ร้องไห้ หรือยิ้มให้คนที่คุ้นเคย  เลียนเสียงที่ได้ยิน โดยการส่งเสียงอือ อาในลำคอ

ชอบให้คนมาเล่นหรือพูดคุยด้วย  

เริ่มจะจำหน้าคนที่คุ้นเคย ฟังและจำเสียงของแม่ได้แล้ว  และตอบสนองต่อเสียงที่คุ้นเคยได้อย่างดี

เคล็ดลับส่งเสริมมหัศจรรย์แห่งพัฒนาการของลูกน้อยวัย 0-3 เดือน
โภชนาการ อาหารที่ดีที่สุดของลูกวัยนี้ คือ “นมแม่”   ซึ่งมีสารอาหารที่ช่วยพัฒนาสมองของลูก ได้แก่ DHA และ ARA โคลีน ไซอะลิคแอซิด ปริมาณ DHA และ ARA ที่มีผลวิจัยพิสูจน์ว่าช่วยส่งเสริมระดับสติปัญญาของทารก คือ DHA 17 มก และ ARA 34 มก/100 กิโลแคลอรี 
สิ่งแวดล้อม การชวนลูกเล่น ด้วยการมองโมบายที่เคลื่อนไหวไปมา  เพื่อฝึกการมอง  ร้องเพลงกล่อมลูก  สัมผัสเนื้อตัวลูก พร้อมพูดคุยไปด้วย  เปิดดนตรีให้ลูกฟังล้วนมีส่วนช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทั้งสิ้น

วัย 3-6 เดือน (วันที่ 362-452)
เผลอแป๊บเดียวก็ผ่านมาหนึ่งไตรมาสแล้ว เดือนนี้คุณแม่กับลูกน้อยคงคุ้นเคยกันดี เด็กวัยนี้จะมีการเรียนรู้ภาษา
ท่าทางมากขึ้น จะพยายามแสดงท่าทางสื่อสารความต้องการให้คุณแม่รู้ และพอจะเดาออกแล้วว่า เวลาที่ลูกร้องไห้
หรือแสดงท่าทางแบบนี้ หมายถึงอะไร ลูกจะมีความสุขกับทุกกิจกรรมที่ทำให้ได้ยืดเส้นยืดสาย  หากคุณแม่ช่วย
สนับสนุนให้ลูกได้ออกกำลังกายขา ช่วยให้กล้ามเนื้อขาของลูกแข็งแรงและมีพัฒนาการที่ดีขึ้นแล้ว ยังเป็นการช่วย
เตรียมความพร้อมสำหรับพัฒนาการขั้นต่อไป ก็คือ การคลานด้วย

             พัฒนาการ

                                 รายละเอียดของพัฒนาการ

ควบคุมกล้ามเนื้อได้ดีขึ้น 

กล้ามเนื้อลำตัวและหลังแข็งแรงขึ้น  เวลาอุ้มในท่ายืนจะเอาเท้ายันพื้น และกระโดดไปมา สามารถพลิกคว่ำพลิกหงาย และคืบได้

มือและตาทำงานประสานกันได้ดี

ลูกจะเริ่มใช้มือร่วมกับสายตาที่มองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น จะคว้าจับสิ่งของที่อยู่ใกล้ได้แม่นยำขึ้น  และเริ่มถ่ายของจากมือหนึ่งไปยังอีกมือหนึ่งได้

รับอาหารเสริมได้

ระบบการย่อยอาหารของลูก พัฒนาจนสามารถย่อยอาหารอื่นที่นอกเหนือจากนมได้ 

มีปฏิกิริยาตอบรับเสียงพูดและผู้คน

ลูกจะแสดงท่าทางดีใจเมื่อเห็นผู้คน  และอยากเล่นกับผู้คนมากขึ้น แสดงความดีใจเมื่อเห็นคนที่ชอบและคุ้นเคย ชอบที่จะทำเสียงเลียนเสียงคนอื่น 

ออกเสียงง่ายๆ ได้

เริ่มออกเสียงคำง่ายๆ ได้ เช่น มา ปา สามารถแยกแยะชนิดของเสียงได้ เช่น เสียงคุณแม่  เสียงดนตรี

เคล็ดลับส่งเสริมมหัศจรรย์แห่งพัฒนาการของลูกน้อยวัย 3-6 เดือน
โภชนาการ ลูกวัยนี้รับอาหารเสริมที่นอกเหนือจากน้ำนมได้แล้ว คุณพ่อคุณแม่จึงต้องให้ความสำคัญกับการให้ลูกได้ทานอาหารที่อุดมด้วยสารอาหารที่ดีต่อสมอง ได้แก่ DHA และ ARA โคลีน ไซอะลิคแอซิด ปริมาณ DHA และ ARA ที่มีผลวิจัยพิสูจน์ว่าช่วยส่งเสริมระดับสติปัญญาของทารก คือ DHA 17 มก และ ARA 34 มก/100 กิโลแคลอรี 
สิ่งแวดล้อม คุณพ่อคุณแม่ควรจัดสภาพแวดล้อมที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ ของลูก  เช่น ชวนลูกนั่งเล่นบ่อยๆ เพื่อให้ลูกได้พัฒนากล้ามเนื้อส่วนหลัง  การร้องเพลงกล่อมลูก การอ่านหนังสือให้ลูกฟัง การเปิดเพลงทำนองสนุกๆ เล่นกับลูก 

วัย 6-9 เดือน (วันที่ 453-543)
เจ้าตัวเล็กจะมีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ  ลูกจะเริ่มคลาน เกาะยืนและ
เมื่อกล้ามเนื้อแขนขาแข็งแรงขึ้น ก็จะเริ่มพาตัวเองไปยังที่ที่ต้องการไปโดยเร็ว จึงอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย คุณพ่อคุณแม่และคนในครอบครัวคงต้องดูแลอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ พัฒนาการทางภาษาก็ดีขึ้นตามลำดับ เริ่มออกเสียงและเรียนรู้ความหมายจากสิ่งที่ได้ยิน

             พัฒนาการ

                                 รายละเอียดของพัฒนาการ

นิ้วมือและตาทำงานร่วมกันได้ดี

การมองเห็น  การใช้มือ และนิ้วเล็กๆ จะเริ่มดีขึ้น เมื่อมองเห็นของชิ้นเล็กๆ บนพื้นสามารถใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้หยิบของนั้นขึ้นมาได้

เริ่มเข้าใจการ “มีอยู่” และ “หายไป”

เมื่อของหล่นจะมองหาที่พื้น ไม่ใช่มองในจุดที่ของเคยอยู่เหมือนเดือนก่อนๆ เข้าใจแล้วว่าสิ่งของที่หายไปจากสายตายังคงมีอยู่ แม้เขาไม่เห็นมัน

ทำเสียงพยางค์ซ้ำๆ ได้

จะเริ่มมีการออกเสียงที่พอฟังได้ ถ้าเราจะเข้าใจเขา เช่น การเรียก “มะ,t” อาจหมายถึง “หม่ำ”  แต่สิ่งสำคัญคือ ลูกจะเข้าใจ  “ความหมาย” ในสิ่งที่คุณพูดกับเขาได้มากขึ้น

ชอบเล่นกับเงาในกระจก

ลูกแยกแยะตัวเองและเงาที่เห็นในกระจกได้แล้ว จึงตี ยิ้ม หรือจูบภาพเงาในกระจก

รู้จักชื่อตัวเอง

หากพ่อแม่เรียกชื่อเขาบ่อยๆ  เด็กวัยนี้จะรู้จักชื่อตัวเองแล้ว

เคล็ดลับส่งเสริมมหัศจรรย์แห่งพัฒนาการของลูกน้อยวัย  6-9 เดือน
โภชนาการ คุณพ่อคุณแม่จึงต้องให้ความสำคัญกับการให้ลูกได้ทานอาหาร หรือนมที่อุดมด้วยสารอาหารที่ช่วยพัฒนาสมองของลูก ได้แก่ DHA และ ARA โคลีน ไซอะลิคแอซิด ปริมาณ DHA และ ARA ที่มีผลวิจัยพสูจน์ว่าช่วยส่งเสริมระดับสติปัญญาของทารก คือ DHA 17 มก และ ARA 34 มก/100 กิโลแคลอรี 
สิ่งแวดล้อม การจัดสภาพแวดล้อม และการดูแลลูกที่เหมาะสมจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ ของลูกเป็นอย่างดี  เช่น  ชวนลูกเล่นเพื่อกระตุ้นให้ลูกคลาน อุ้มลูกดูกระจกด้วยกัน แล้วชี้อวัยวะส่วนต่างๆ ให้ลูกรู้จัก   หรือซ่อนของเล่นเพื่อให้ลูกหาของที่ซ่อน  หรือร้องเพลงและปรบมือเข้ากับจังหวะ ให้ลูกได้เคลื่อนไหว และฟังเสียงไปพร้อมๆ กัน

วัย 9-12 เดือน (วันที่ 544-635)
ช่วงวัยใกล้ขวบ 2-3 เดือนสุดท้ายนี้ จะมีเรื่องราวและกิจกรรมน่าตื่นเต้นมากมาย เพราะลูกกำลังหัดเดิน แม้ว่าจะยัง
เดินได้ไม่คล่องแคล่วนัก การยืนและลุกขึ้นก้าวเดินจะกลายเป็นเรื่องน่าสนุกสุดท้าทายของทั้งคุณแม่และหนูน้อย

กระบวนการเรียนรู้ของลูกในวัยนี้ จะเริ่มจากการเลียนแบบและจดจำ เพราะในสมองจะมีเซลล์สมองที่เรียกว่า MIRROR NEURON ซึ่งเป็นระบบของสมองที่ดูพฤติกรรมของผู้อื่นและเลียนแบบโดยอัตโนมัติ เช่น เห็นแม่แลบลิ้น
ก็จะทำท่าแลบลิ้นตามด้วยความอยากรู้อยากเห็น ซึ่งเป็นสัญชาตญาณทั่วไปของมนุษย์ ช่วงเวลานี้ จึงเป็นโอกาสที่ดี
ที่คุณพ่อคุณแม่จะหมั่นพูดคุยและสอนบอกให้ลูกเข้าใจถึงความหมายและเริ่มสอนเรื่องราวต่างๆ ที่ใกล้ตัวลูกค่ะ

             พัฒนาการ

                                 รายละเอียดของพัฒนาการ

กล้ามเนื้อมือพัฒนามากขึ้น

มือข้างหนึ่งถือของ ขณะอีกข้างทำอย่างอื่นได้ หรือจับของในมือทั้งสองกระทบกันได้

รู้จักความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ

รู้จักความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่อง เช่น  เห็นนกก็ร้องจิ๊บจิ๊บ เวลาเห็นดอกไม้ก็จับมาดม  เล่นตะกร้าเก็บของ  เอาของชิ้นเล็กใส่ถ้วย ฯลฯ  

เริ่มเรียนรู้ และสำรวจสิ่งรอบตัวด้วยมือ

ลูกชอบใช้มือสำรวจสิ่งรอบตัว และชอบใช้นิ้วแหย่ตามร่อง รู ที่เห็นตามพื้น  กำแพง หรือปลั๊กไฟ   

รู้จักชื่อเรียกอวัยวะ

วัยนี้ หากผู้ใหญ่สอนเขาบ่อยๆ เด็กจะรู้จักชื่อเรียกอวัยวะต่างๆ ของร่างกายประมาณ 5 แห่ง

ชอบเลียนแบบ

ลูกวัยนี้ชอบเลียนแบบท่าทางของผู้ใหญ่  เวลาที่คุณแม่ตักอาหารป้อนเขา เขาก็จะหยิบหรือตักมาป้อนให้คุณบ้าง หากเรายอมกินตามที่เขาป้อน เขาจะดีใจ

เคล็ดลับส่งเสริมมหัศจรรย์แห่งพัฒนาการของลูกน้อยวัย  9-12 เดือน
โภชนาการ เด็กวัยนี้ทานอาหารได้หลากหลายขึ้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรให้ความสำคัญกับการเลือกอาหาร หรือนมที่อุดมด้วยสารอาหารที่ช่วยพัฒนาสมองของลูก ได้แก่  DHA และ ARA โคลีน ไซอะลิคแอซิด ปริมาณ DHA และ ARA ที่มีผลวิจัยพสูจน์ว่าช่วยส่งเสริมระดับสติปัญญาของทารก คือ DHA 17 มก และ ARA 34 มก/100 กิโลแคลอรี 
สิ่งแวดล้อม สภาพแวดล้อมที่ดีและการดูแลลูกที่เหมาะสมจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ ของลูกได้อย่าง
เต็มศักยภาพ เช่น ยื่นของเล่นให้ลูกเห็นแล้วกระตุ้นให้ลูกลุกขึ้นยืนและก้าวเดิน อ่านหนังสือ หรือดูรูปภาพในหนังสือ
กับลูก เรียกชื่อลูกบ่อยๆ เมื่อคุยกับเขา

วัย 1-2 ขวบ (วันที่ 636-1,000)
เมื่อลูกย่างเข้าขวบปีแล้ว คุณพ่อคุณแม่จะสัมผัสได้ว่า ลูกมีความสามารถมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น  การได้ยิน การเคลื่อนไหวแขนขาและส่วนต่างๆ ของร่างกายก็ดีขึ้น เริ่มมีความรู้สึกเป็นตัวของตัวเอง และรู้ว่าตนเองก็เป็นคนๆ หนึ่ง ที่แยกจากแม่ได้ (Sense of self) เขารู้สึกถึงการเป็นตัวตนของเขาการใช้ภาษาและการสื่อความหมายก็พัฒนา
ขึ้น จะมีวิธีที่จะบอกคุณพ่อคุณแม่ได้ว่า ชอบ ไม่ชอบ และต้องการอะไร ลูกสามารถพูดเป็นคำๆ ที่มีความหมายได้

             พัฒนาการ

                                 รายละเอียดของพัฒนาการ

เดินได้คล่อง

ร่างกายลูกพัฒนามากขึ้นจนสามารถเดินและวิ่งเล่นได้ดี เด็กจะเคลื่อนไหวแขนขาและส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดี  โดยเฉพาะการขึ้น-ลงบันได

ใช้มือได้ขึ้น   

เริ่มหยิบของเอามาหย่อนใส่ลงกล่องได้ บางคนอาจจะเริ่มลากเส้นดินสอสีในมือ แต่ไม่เป็นรูปร่างอะไรนัก 

เข้าใจคำสั่ง 2 ชั้น

ตอบสนองต่อคำสั่งชนิด 2 ชั้นได้ เช่น “มาหาแม่ และหันหลังซิคะ แม่จะทาโลชั่นให้”  จะเริ่มเข้าใจสิ่งที่มีลักษณะตรงข้ามกัน เช่น คนสูง-คนเตี้ย  หมาตัวใหญ่-หมาตัวเล็ก      

พูดคำที่มีความหมายได้

เริ่มพูดเป็นคำๆ ที่มีความหมายได้ เช่น มามา (แม่) หรือ ยายา ( ยาย หรือย่า)  และมีวิธีบอกให้รู้ว่าต้องการอะไร เช่น ดึงเสื้อเมื่อเขาต้องการให้คุณสนใจเขา

เข้าใจเสียงห้าม

เด็กสามารถเข้าใจเสียงห้ามของผู้ใหญ่ อย่างคำว่า “หยุด  “ไม่” ได้

เคล็ดลับส่งเสริมมหัศจรรย์แห่งพัฒนาการของลูกน้อยวัย  1-2 ขวบ
โภชนาการ เด็กวัยนี้ทานอาหารได้คล้ายอาหารผู้ใหญ่แล้ว  คุณพ่อคุณแม่จึงควรให้ความสำคัญกับการเลือกอาหาร
หรือนมที่อุดมด้วยสารอาหารที่ช่วยพัฒนาสมองของลูก ได้แก่ DHA และ ARA โคลีน ไซอะลิคแอซิด เป็นต้น
สิ่งแวดล้อม คุณพ่อคุณแม่ควรจัดสภาพแวดล้อมที่ดีให้ลูก จัดกิจกรรมที่จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ ของลูก
ได้  ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือให้ลูกฟัง พูดคุยถึงเรื่องใกล้ตัวกับลูก เล่นไล่จับ โยนรับลูกบอลกับลูก  ร้องเพลงและ
โยกตัวตามจังหวะดนตรีไปด้วยกัน ฯลฯ

วัย 2-3 ขวบ (วันที่ 1,001-1,365)
เด็กในวัย 2 ขวบกว่าไปจนใกล้ 3 ขวบนั้นจะได้รับฉายาจากนักวิชาการฝรั่งว่า Terrible Twos หรือวายร้ายน้อย 2 ขวบ ทั้งนี้เพราะความ “ป่วน” จากวีรกรรมต่างๆ ของลูก เด็กๆ มักจะมีคำถามฮิตติดปากเสมอ ๆ เช่น ทำไม อะไร ที่ไหน เด็กส่วนใหญ่จะจดจำคำศัพท์ต่างๆ และนำออกมาใช้ได้ค่อนข้างดี คุณพ่อคุณแม่จึงควรพูดคุยกับลูกให้มากๆ และหมั่นสอนลูก พร้อมเข้าใจถึงพัฒนาการทางอารมณ์ของเด็กวัยนี้ที่มักจะเปลี่ยนแปลงได้ง่ายด้วย

             พัฒนาการ

                                 รายละเอียดของพัฒนาการ

สำรวจโลกรอบตัว

เด็กวัยนี้จะอยู่ไม่นิ่ง  เพราะเดินได้แล้วจึงชอบเดินหรือวิ่งไปสำรวจสิ่งต่างๆ รอบตัว

ชอบตั้งคำถาม “ทำไม”

ลูกจะมีพัฒนาการด้านต่างๆ  มากขึ้น วัยนี้จะเป็นวัยที่อยากรู้อยากเห็นมาก และจะคอยถามคุณตลอดเวลาว่า “ทำไม, ทำไม…”          

พูดได้มากขึ้น

พูดประโยคสั้นๆ ที่ประกอบด้วยคำ 2-3 คำได้ เช่น แต่งตัวสวย ไปทะเล  หากมีคนพูดด้วยบ่อยๆ พัฒนาการทางภาษาจะรุดหน้ามากขึ้น

รู้จักเพศชาย-หญิง

เด็กจะสามารถเรียกเพศหญิงว่า “ผู้หญิง” เรียกเพศชายว่า “ผู้ชาย” เด็กชายรู้ว่าตัวเองเป็นเด็กผู้ชายและต่างจากแม่  เด็กหญิงรู้ว่าตัวเองเป็นเด็กผู้ญิงและต่างจากพ่อ

เคล็ดลับส่งเสริมมหัศจรรย์แห่งพัฒนาการของลูกน้อยวัย  2-3  ขวบ
โภชนาการ เด็กวัยนี้ต้องใช้พลังงานไปกับการเรียนรู้โลกกว้าง  สารอาหารที่ช่วยพัฒนาสมองและการเรียนรู้ของลูก
จึงเป็นสิ่งจำเป็น คุณพ่อคุณแม่จึงควรให้ความสำคัญกับการเลือกอาหารหรือนมที่อุดมด้วยสารอาหารที่ช่วยพัฒนาสมอง
ของลูก ได้แก่ DHA และ ARA โคลีน ไซอะลิคแอซิด เป็นต้น
สิ่งแวดล้อม คุณพ่อคุณแม่ควรจัดกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ ของลูกได้  ไม่ว่าจะเป็น
การอ่านหนังสือกับลูก ตอบคำถามต่างๆ ของเขา หรือตั้งคำถามเขากลับไปบ้าง  ออกไปเล่นกลางแจ้งด้วยกัน เปิดเพลง
ที่ลูกชอบแล้วโยกตัวตามจังหวะดนตรีไปด้วยกัน  จัดบ้านให้มีบรรยากาศของเสียงดนตรีและการอ่าน  ฯลฯ

วัย 3-6 ขวบ (ครบ 1,365 วัน)
เด็กวัยนี้เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นทั้งร่างกายและจิตใจ มีพละกำลังในการสำรวจสิ่งต่างๆ รอบตัวมากขึ้น ยิ่งเข้าเรียนด้วยแล้ว เขาจะมีเพื่อน ที่เล่นสนุกด้วยกันได้ ชอบเล่นปีนป่าย  ชอบเล่นสมมติ  เขากำลังเรียนรู้ว่าอะไรเป็นโลกจินตนาการ (Fantasy) หรือโลกแห่งความจริง  ชอบทำงานที่ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ร่างกายจะเติบใหญ่กว่าช่วงขวบปีที่ผ่านมาเคลื่อนไหวร่างกาย
ได้ดี อวัยวะต่างๆ ทำงานประสานกันได้ดีขึ้น สายตาของเด็กวัยนี้จะพัฒนาขึ้นจนเทียบเท่าผู้ใหญ่ โดยสามารถเปรียบเทียบ
ความเหมือนความต่างของวัตถุได้แล้ว

             พัฒนาการ

                                 รายละเอียดของพัฒนาการ

 ใช้มือได้ดี 

แม้ว่าเด็กวัยนี้กำลังเจริญเติบโตและเคลื่อนไหวร่างกายได้ดีขึ้น แต่ก็สามารถนั่งเล่นกับที่ได้ เพราะตาและมือทำงานประสานกันมากขึ้น ลูกจึงชอบการเล่นที่ต้องใช้มือและนิ้วมือมาก

ใช้สายตาได้ดี  

ความสามารถทางสายตาของลูกวัยนี้พัฒนาขึ้นมาเทียบเท่าผู้ใหญ่ เขาสามารถเปรียบเทียบสิ่งต่าง ๆ ในด้านรูปทรง ขนาด สีสัน ความเหมือนต่าง ระยะใกล้ - ไกล บน - ล่าง ได้

รู้จักเวลา

 เวลาในที่นี้ไม่ได้หมายถึงชั่วโมงหรือนาที แต่หมายถึงแค่ลำดับก่อน - หลัง เดี๋ยวนี้ เช่น “อาบน้ำก่อนกินข้าว” ซึ่งเขาสามารถเข้าใจและทำตามขั้นตอนได้

พูดประโยคยาวๆ ได้มากขึ้น

พูดประโยคยาว ๆ ได้มากขึ้น เป็นประโยคที่ใช้คำ 4-5 คำ รู้จักเรียงประโยคได้ถูกต้อง มักจะใช้คำ “สมมติว่า…”

ช่างจินตนาการ

วัยนี้เป็นวัยช่างฝัน ช่างจินตนาการ จึงชอบเล่นบทบาทสมมุติ และเริ่มรู้จักเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่คิดขึ้นมาเอง และต้องการเล่าให้พ่อแม่หรือคนอื่น ๆ ฟัง  

เคล็ดลับส่งเสริมมหัศจรรย์แห่งพัฒนาการของลูกน้อยวัย  3-6 ขวบ
โภชนาการ เด็กวัยนี้ไปโรงเรียนแล้ว  เขายิ่งสนุกกับการเรียนรู้เรื่องราวรอบตัว สารอาหารที่ช่วยพัฒนาสมองและการเรียนรู้
ของลูกจึงเป็นสิ่งจำเป็น  ควรให้ความสำคัญกับอาหารหรือนมที่อุดมด้วยสารอาหารที่ช่วยพัฒนาสมองของลูก ได้แก่ DHA
และ ARA โคลีน ไซอะลิคแอซิด เป็นต้น
สิ่งแวดล้อม กิจกรรมที่หลากหลายจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ ของลูกได้  ไม่ว่าจะเป็นการชวนลูกเล่นวาดภาพ ระบายสี ปั้นดินน้ำมัน อ่านหนังสือด้วยกัน เล่มเกมแข่งกันเล่นนิทาน  ก่อนลูกเข้านอนก็เปิดเพลงบรรเลงให้ลูกฟัง หากลูกมีแนวโน้ม
ชอบเล่นดนตรีชนิดไหน ก็ส่งเสริมลูกให้ได้เรียนกับผู้เชี่ยวชาญ  เป็นต้น

มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกของคุณ มหัศจรรย์แห่งพัฒนาการสร้างได้ วันนี้
นอกจากการทำความรู้จักกับการนับถอยหลังมหัศจรรย์แห่งพัฒนาการของลูกน้อย และเคล็ดลับในการส่งเสริม
และกระตุ้นพัฒนาการของลูกน้อยจนครบทุกช่วงวัยแล้ว คุณพ่อคุณแม่ยังสามารถนำแนวคิดพัฒนาศักยภาพสมอง
เต็มระบบ รหัสอัจฉริยะ Enfa Smart System (Link) มาปฏิบัติอย่างเป็นองค์รวมไปพร้อมๆ กันได้อีกด้วย เพื่อศักยภาพ
สมบูรณ์แบบของลูกรักที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนปรารถนา ลงมือเสียตั้งแต่วันนี้ เพราะโอกาสทอง 1,365 วันนั้น
ผ่านไปอย่างรวดเร็ว และไม่อาจเริ่มต้นใหม่ได้นะคะ





Create Date : 14 พฤษภาคม 2555
Last Update : 14 พฤษภาคม 2555 22:26:57 น. 0 comments
Counter : 1383 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ลูกน้ำกว๊าน
Location :
พะเยา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ยินดีต้อนรับทุกท่าน นะคะ




อยากมีและอยากรู้จัก เพื่อนที่มีที่มาต่างกัน และอยากร่วมแชร์ ประสบการณ์ให้คนอื่น ได้รับรู้บ้าง เพื่อนๆชาว บลอคแกงค์เป็นอะไรที่ ใช่เลย ที่คอยอยู่ด้วยกัน ตลอดเวลา พอเรา เปิดดูครั้งใดก็จะมีคน นั่งเขียนบลอก นั่งอยู่ที่ หน้าจอ คอยเป็นเพื่อน กันเสมอ รัก ทุกคนใน บลอกแกงค์ ค่ะ
: Users Online
Friends' blogs
[Add ลูกน้ำกว๊าน's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.